บท
ตั้งค่า

คำขอ

“แด๊ดทำแบบนี้ได้ยังไง ปล่อยสิโว๊ย!!” คาลวินโวยวายจนหัวเสียตลอดทางก่อนจะโดนลากออกไปนอกห้อง ปีแอร์มองลูกชายเอือมระอาหันมาให้ความสนใจกับหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงแทน

“รีบแต่งตัวแล้วออกมาคุยกับลุงด้านนอกหน่อยนะ” ปีแอร์พูดเสียงเรียบๆ พลางหันหน้าไปอีกทางที่จะไม่มองร่างของหญิงสาวที่นอนเปลือยหน้าอกอยู่บนเตียงก่อนจะเดินไปนั่งรอที่โซฟาหน้าห้องอย่างใจเย็น ลินดารีบสวมเสื้อผ้าเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าพาร่างที่ไร้เรี่ยวแรงออกมา นาทีนี้เธอไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องเจอกับอะไรบ้างและเธอไม่มีทางเลือกที่จะต้องหลบหน้ากับบุคคลปริศนาตรงหน้า

เขาเป็นใครกัน!

“นั่งก่อนสิลิน ลุงขอโทษแทนลูกชายของลุงด้วยนะ”

“คุณลุงมีอะไรจะคุยกับลินหรอคะ” ลินดาเปิดประเด็นทันทีเพราะเธอเริ่มรู้สึกอึดอัดกับสิ่งรอบตัวจนอยากจะออกไปจากที่นี่แล้ว

“อันที่จริงลุงไปกินอาหารในร้านที่หนูทำงานบ่อยนะ แต่ยังหาโอกาสที่จะคุยกับหนูไม่ได้สักที ลุงว่าหนูน่าจะคุ้นหน้าลุงบ้าง” ปีแอร์พูดด้วยหน้าตาที่ใสซื่อทั้งๆ ที่อันที่จริงแล้วเขาไปร้านของเธอเพียงครั้งเดียวเท่านั้นแต่เขาแอบส่งคนไปตามสืบเรื่องของเธอมาได้สักพักก่อนที่เรื่องทุกอย่างจะเกิดขึ้นและเป็นเวลาเดียวกันกับที่คาลวินสงสัยในตัวของเขา

“ลินจำไม่ได้จริงๆ ค่ะ เพราะว่าลินอยู่หลายโซนมากๆ แล้วอีกอย่างลูกค้าก็มากันไม่ซ้ำด้วย” ลินดาทำหน้างุนงงพลางคิดตามสิ่งที่ปีแอร์กำลังพูด

“ประเด็นหลักมันไม่ได้อยู่ที่เรื่องนั้นหรอกนะ ลุงเข้าเรื่องเลยแล้วกัน เรื่องที่ลุงอยากจะขอลินคือลุงอยากให้ลินแต่งงานกับคาลวิน” ปีแอร์เริ่มพูดถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการ

“ไม่ค่ะ ลินไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาและลินคิดว่าเราไม่มีทางรักกันได้ด้วยซ้ำ” เธอตอบปฏิเสธทันทีจากสิ่งที่เธอได้สัมผัสเขาจากหลายต่อหลายครั้ง คาลวินนิสัยแย่เกินกว่าเธอจะรับไหวและเธออยากแต่งงานกับคนที่เธอรักเขาจากใจจริงๆ แต่คาลวินกลับพรากสิ่งที่มีค่าที่สุดของเธอไป!

เขาไม่สมควรที่จะได้รับมัน!

“ลุงเข้าใจว่าคาลวินเป็นยังไง ลุงถึงอยากให้ลินมาทำหน้าที่นี้แทนผู้หญิงคนอื่น ลุงอยากให้ลินเป็นแม่อุ้มบุญให้กับลุงเพราะถึงยังไงหากคาลวินยังเป็นแบบนี้ต่อไปลุงคงจะไม่มีทายาทสืบต่อของวงตระกูลแน่ๆ ไม่ว่าหลานจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ลุงก็ยินดีที่จะรับมาเลี้ยงต่อแล้วหลังจากนั้นหนี้สินที่พ่อของลินติดเอาไว้ลุงถือว่าเราโมฆะกันและหลังจากที่คลอดเด็กแล้ว ถ้าลินคิดว่าถึงตอนนั้นลินอยากได้อิสระ ลุงก็จะเข้าใจและไม่ห้ามอะไรลิน” ปีแอร์พยายามเกลี้ยกล่อมลินดาทุกวิถีทางเพื่อให้เธอตกลงกับคำขอ

“แล้วถ้าลิน…”

“ลุงว่าหนี้สินที่พ่อของลินติดเอาไว้มันคงจะมากพอที่จะแลกมากับชีวิตของเด็กคนนึงได้นะ”

“เอ่อ ลินขอเอากลับไปคิดก่อนได้มั้ยคะ” ลินดาอ้ำอึ้ง เธอไม่รู้จักชายตรงหน้าด้วยซ้ำแต่เขามาขอเธอด้วยตัวเองขนาดนี้ มันคงจะเป็นเรื่องที่เขาต้องการมันมากจริงๆ ลินดาอยากออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดและค่อยคิดวิธีหาทางหนีจากข้อเสนอนี้ทีหลัง เธอจึงบ่ายเบี่ยงที่จะตอบสิ่งคนตรงหน้ากำลังขอ

“โอเค ยิ่งลินบอกลุงเร็วเท่าไรยิ่งดี” แค่เธอพูดเช่นนั้นกลับทำให้ปีแอร์ใจชื้นว่าเขาอาจจะมีโอกาสที่จะเกลี้ยกล่อมสำเร็จ

“เดี๋ยวคืนนี้ลุงให้คนไปส่งลินแล้วกัน” คำสุดท้ายที่ลินดาได้ยิน เธอไม่ได้ตอบอะไรต่อนอกจากพยักหน้าให้กับเขาเท่านั้น

ตั้งแต่กลับมาลินดาเอาแต่เงียบเก็บตัวอยู่แต่ในห้องตลอดทั้งวัน เธอไม่พูดกับใครแม้แต่แม่ของเธอเองและวิลเลียมคงจะรู้ตัวดีว่าตัวเองได้ทำร้ายลูกสาวสุดที่รักไปแล้วจนไม่กล้าที่จะมองหน้ากับเธอได้ ลินดาเอาแต่คิดหาวิธีการหาทางออกที่ตัวเองจะไม่ต้องแต่งงานกับคาลวินตลอดการเก็บตัวอยู่ในห้องเพื่อรอเวลาที่จะเข้าไปทำงานช่วงเย็น

ลินดารีบเดินออกมารอที่จุดพักรถทันทีเมื่อใกล้ได้เวลาเริ่มงาน เธอไม่สนใจว่าพ่อหรือแม่จะทักทายเธอยังไง เธอรู้สึกแค่ว่าแค่ได้ออกมาจากบ้านและไม่ต้องเจอพวกท่านในตอนนี้เธอก็พอใจแล้ว ลินดามาก่อนเวลาเข้างานเกือบยี่สิบนาทีเพื่อมานั่งคุดคู้อยู่ในครัวตักข้าวเข้าปากที่เธอไม่มีอะไรตกถึงท้องตลอดทั้งวันพลางคิดหาวิธีที่จะเอาตัวรอดไปเรื่อยๆ

“ไม่น่าเชื่อว่าฉันเห็นแม่นางสายเสมอมาเข้างานก่อนเวลา” เสียงทักทายของเอ็มม่าทำให้ภาพทุกอย่างในหัวของลินดาตัดหายไปชั่วขณะ คล้ายกับเสียงดีดนิ้วที่ทำให้ตัวเธอสะดุ้งจนต้องกลับมาอยู่กับปัจจุบัน

“สายอะไรย๊ะ ฉันมาเข้างานตรงเวลาอยู่แล้ว” ลินดาบ่นอุบ

“จ้า ก็ถ้าเวลาไม่เป๊ะ ฉันคงไม่เห็นหัวแกมาก่อนเวลางานแบบนี้ยังไงล่ะ”

“ก็ฉันไม่ใช่พนักงานประจำแบบแกนี่ที่ต้องมาก่อนเวลา ฉันก็แค่ทำตามเวลาที่เขาจ้างฉันก็แค่นั้น จบงานรับเงิน กลับบ้าน แล้วอีกอย่างเหตุผลที่ทำให้ฉันอยากมาก่อนก็เพราะว่าอาหารฝีมือป้านิ่มอร่อยมาก” ลินดาหันไปคุยกับเพื่อนในขณะที่จิ้มไก่ทอดเข้าปากด้วยหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้

“แต่จะว่าไปทำงานแบบแกนี่ก็ดีเหมือนกันนะ เขาจ้างกี่ชั่วโมงก็ทำแค่นั้น อยากจะหยุดเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องเลิกงานช้าแบบฉันด้วยแถมยังต้องมาก่อนเวลาอีกหรือว่าฉันจะขอพี่เซญ่าเปลี่ยนมาทำแบบแกดีล่ะ” เอ็มม่าบ่นอุบปนน้อยใจ

“หยุดเลย มันดีกันคนละแบบนั่นแหละ งานแบบฉันมันยืดหยุ่นได้ก็จริงแต่มันไม่มั่นคงหรอกน่า สู้ทำประจำแบบแกก็ดีนะ ไม่ต้องมาคิดมากว่าสิ้นเดือนเงินจะพอกินมั้ย อีกอย่างแกก็พอจะคำนวณได้ด้วยว่าตัวเองจะเอาเงินไปใช้อะไรบ้าง แต่ฉันนี่สิต้องมาคิดว่าเดือนนี้จะพอรายจ่ายรึเปล่า แต่ยังโชคดีนะที่งานเราได้ทิปแยกอ่ะ ไม่อย่างนั้นฉันเศร้ากว่านี้แน่”

“เออนี่ แกออกไปเฝ้าหน้าร้านได้แล้ว เดี๋ยวไม่มีคนดูหน้าร้าน แม่มาบ่นหูชาแน่ๆ” ลินดาก้มมองนาฬิกาในมือที่ใกล้ถึงเวลาเริ่มงานของเธอจริงๆ แล้วก่อนจะตัดบทสนทนากับเอ็มม่าไปเสียดื้อๆ รีบหันมาจัดการไก่ทอดที่เหลือจนหมดแล้วตามเธอไป

เมื่อเริ่มงานไปได้สักพัก ลินดาเริ่มมองสิ่งรอบตัวช้าลง ภาพที่เธอเห็นเริ่มเป็นฉากๆ ชัดเจนมากขึ้น ผู้คนในร้านเริ่มเดินกันช้าลงก่อนจะรู้สึกตัวว่าโลกของเธอกำลังหมุน

“ลินมาช่วยเก็บโต๊ะหกหน่อยนะ เดี๋ยวฉันจะเอาข้าวไปเสิร์ฟชั้นสอง” เอ็มม่ารีบบอกลินดาก่อนจะรีบเดินขึ้นไปชั้นสอง ลินดาได้ยินสิ่งที่เอ็มม่าพูดชัดเจนพร้อมกับก้าวขาออกไปยังโต๊ะที่เธอจะต้องรับผิดชอบทว่า

ฟุบ

เพล้ง

“อ้าว ลิน เป็นอะไรรึเปล่า” เซญ่ารีบวิ่งมาประคองลินดาที่จู่ๆ เธอก็นั่งพับลงไปกับพื้นเสียดื้อๆ ด้วยอาการหน้ามืด

“ลินไหวค่ะ แค่หน้ามืดนิดหน่อย เดี๋ยวนั่งพักสักแป๊บก็ดีขึ้นค่ะ”

“ไหวแน่นะลิน ถ้าไม่ไหวรีบบอกพี่เลยนะ” เซญ่าย้ำกับลินดาอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง แต่ลินดาพยักหน้าเพียงเล็กแทนคำตอบเท่านั้น

“ลิน วันนี้คนไม่เยอะ ลินกลับไปพักก่อนดีกว่า เดี๋ยวตรงนี้พี่ให้คนอื่นมาดูแลแทน”

“ลินโอเคค่ะพี่ แค่ให้ลินนั่งพักสักหน่อย เดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้วค่ะ”

“เฮ้ย ลินเป็นไรอ่ะ” เอ็มม่าเห็นอาการของลินดาก็ตกใจรีบวิ่งมาดูเพื่อนทันทีด้วยความที่ลินดาเป็นเพื่อนสนิท เธอถือวิสาสะแตะหน้าผากวัดไข้ทันที

“วันนี้ไม่เป็นไรลิน กลับไปพักให้หายก่อนแล้วค่อยกลับมาทำงาน” เซญ่าอดเป็นห่วงลินดาไม่ได้ คะยั้นคะยอให้เธอพักผ่อนเพราะเธอเองก็แอบสังเกตลินดามาสักพักว่าเธอดูแปลกๆ ไป

“ตัวแกอุ่นๆ นะ ฉันว่าอาการแกไม่ไหวอ่ะ กลับเถอะ” เอ็มม่าช่วยพูดอีกแรงจนลินดาต้องใจอ่อนยอมทำตามที่ทั้งสองบอก ลินดารู้ตัวเองดีว่าหลายๆ วันมานี้มีแต่เรื่องให้เธอคิดจนแทบไม่ได้นอนแต่เธอไม่อยากปฏิเสธงานที่ต้องทำเช่นกัน ครั้นเรื่องของคาลวินที่ทำให้เธออยากลืมก็ต้องมาเจอกับเรื่องของพ่อที่ไปสร้างปัญหาชิ้นใหญ่ไว้ให้เธอต้องมาแบกรับมันเอาไว้ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของเธอเลย

ลินดานั่งพักจนอาการเริ่มดีขึ้นก่อนจะขอตัวลาทุกคนในร้านกลับบ้านอย่างอิดโรย ลินดาเดินมายืนรอรถประจำทางอย่างเช่นเคยในมือพลางกดโทรศัพท์เรียกหาแท็กซี่ไปด้วยระหว่างทางเพื่อไปส่งเธอที่บ้านแทน

หมับ!

หนึ่งเรื่องที่เธอพึ่งจะแก้ปัญหาผ่านไปเพียงชั่วครู่ ก็มีเรื่องใหม่ให้เธอเข้ามาทำให้ปวดหัวต่อ เมื่อแขนของเธอถูกใครบางคนรั้งไว้จนตัวเอน

“พ่อผมพูดอะไรกับคุณ!!!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel