บทที่ 1
เมื่อได้ยินในสิ่งที่ลูกบอกสองขาของศรศิลป์ยืนแทบไม่ไหว ริมฝีปากหยักคล้ำตวาดออกมาเสียงดังลั่นให้บาสเตียนลูกน้องคนสนิทให้ไปรับดุจดวงดาวหรือภรรยาของเขาให้กลับมาที่บ้านด่วนที่สุด!
“มันทำอะไรอีก มันทำอะไรบ้าง!!” ศรศิลป์ปล่อยมือจากต้นแขนเรียวเล็กของลูกสาวและไปจับมือแทน ร่างสูงของพ่อโน้มหน้าลงมาและใช้มือข้างหนึ่งจับใบหน้ารูปไข่บังคับให้เงยหน้าสบตากัน
“ตอบมา!” เกิดมายี่สิบสี่ปีไม่มีครั้งไหนที่พ่อจะตวาดเธอแบบนี้เลย ฟ้าพราวพรรณยกสองมือขึ้นปิดหน้าและร้องไห้โฮ แต่คนเป็นพ่อก็ยังคงจับมือลูกสะบัดออกไป
“ฟ้าพราวพรรณ…จนป่านนี้เธอยังคิดจะปกป้องมันอีกเหรอ?!” หญิงสาวส่ายหน้าน้ำตาไหล
“ปะ เปล่าค่ะคุณพ่อ เขา ฮึกก เขาไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น คุณขา คุณพ่อต้องเชื่อลูก” ฝ่ามือเย็นเฉียบของคนเป็นลูกจับกุมมือหนาของผู้เป็นพ่อไว้
“แบบนั้นมันแบบไหน!! แบบไหนฟ้าพราวพรรณ!!” ศรศิลป์เดินไปเดินมาเหมือนหนูติดจั่น หัวใจเขาคล้ายจะแหลกละเอียดเป็นผุยผงเมื่อคิดถึงคำที่ลูกบอกว่าโดนลวนลาม
ในหัวเขาคิดไปต่าง ๆ นานาหลายสิ่งหลายอย่างและยิ่งแน่ชัดคือความโกรธเกลียดในตัว ‘กิติพงษ์’ เพื่อนสนิทของลูกที่เขาตักเตือนไปหลายครั้งว่าอย่าได้ไปยุ่งเกี่ยวกับมันแต่เพราะ…
“ลุง ผมกลับก่อน” เสียงเรียบนิ่งติดจะเฉยชาของชาร์ลมันเหมือนกับใบมีดเล็ก ๆ ที่สะกิดหัวใจสองพ่อลูก
ศรศิลป์หันขวับไปทันที เขากวาดสายตามองไปตามร่างกายของชาร์ล สองขาแกร่งเดินเข้ามาหาหลานชายคนสนิทและวางมือหนาตบบ่าลงไป ชายหนุ่มกระตุกเล็กน้อยก่อนจะทำหน้าเรียบใส่เขาเช่นเดิม
“นั่งอยู่นี่ นั่งอยู่ตรงนี้ก่อนเลย” ดวงตาสีเทาเข้มแหงนมองหน้าคนพูด ชายหนุ่มรุ่นลูกหันหน้าไปอีกทางและถอนหายใจ
ศรศิลป์มองใบหน้าคมคายของชาร์ลชัด ๆ มีรอยช้ำที่โหนกแก้มซ้ายแม้เพียงเล็กน้อยแต่ก็ถือว่าชายหนุ่มเจ็บตัวมา
ศรศิลป์ถอนหายใจคล้ายจะโล่งอก และมองไปยังลูกสาวสุดที่รักที่ร้องไห้จนไหล่สั่นสะท้าน
“ฟ้าจะไม่ดื้ออีกแล้วค่ะ ฮึกก คุณพ่อ ฟ้า…”
“เงียบ! เงียบไปซะฟ้าพราวพรรณ พ่อจะไม่ถามเราหรอกนะ ไอ้บาสไปลากคอไอ้พงษ์มาหรือถ้ามันมาไม่ได้ มึงก็หอบมันมาทั้งอย่างนั้น!” ปลายนิ้วชี้ของศรศิลป์ชี้มาตัวฟ้าพราวพรรณลูกสาว
“นายครับ…ใจเย็น ๆ ก่อนนะครับ”
“ลูกกูจะโดนมันข่มเหงมึงจะให้กูใจเย็นอีกหรือไง!!” หญิงสาวหลับตาลงกลั้นสะอื้น มือเท้าจิกเกร็งจนเจ็บไปหมด ฟ้าพราวพรรณก้มหน้าไม่กล้าที่จะหายใจออกมาด้วยซ้ำ
“นายครับ” เพราะบาสเตียนรู้ว่า ‘กิติพงษ์’ เพื่อนสนิทของคุณหนูเป็นลูกท่านหลานใคร และการที่จะไปลากคอมันออกมาจากบ้านพักข้าราชการมันไม่น่าจะสะดวกเท่าไหร่
“กูบอกว่าให้ไปลากคอมันมาไง! กูจะเอาเลือดหัวมันมาล้างตีนกู!!”