บท
ตั้งค่า

-6- เข้าบ้านใหม่(ไม่ยอมรับ!)

ฉันกำลังหาคำปฏิเสธิแต่แม่ของฉันดันโผล่มาจากอีกฝั่งแล้วทำท่าทางบอกเป็นกลาย ๆ ว่าห้ามฉันปฏิเสธิเด็ดขาด!

“หนูได้ยินไม่ผิดหรอกจ้ะ ฉันสองคนน่ะกำลังหารับเด็กมาเป็นลูกบุญธรรมอยู่ แต่ว่าหามากี่ที่ ๆ ก็ยังไม่เจอเด็กที่ถูกชะตา.. แต่พอได้เจอหนูฉันก็รู้สึกถูกชะตาขึ้นมาจนอยากจะได้เป็นลูกสาว..”

คุณน้าดูเกรงใจที่จะพูดออกมาแบบนั้น กลัวฉันจะลำบากใจล่ะมั้ง.. แต่ก็ลำบากใจจริง ๆ นั่นแหละ

“ใช่หนู พวกฉันนอนคิดกันมาทั้งคืนแล้วนะว่าอยากรับเลี้ยงหนูจริง ๆ” ฉันจะไปเป็นลูกบุญธรรมของพวกเขาได้ยังไง ฉันมีแม่ที่ต้องเลี้ยงดู

“ฉันได้ยินจากคนแถวนี้มาว่าหนูต้องทำงานด้วยการ..ไปนั่งขอทาน.. ฉันเห็นใจหนูมากนะจ๊ะ มาอยู่กับฉันเถอะนะ รับรองว่าหนูจะได้อยู่อย่างสุขสบายมีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ”

คุณน้าเข้ามาจับมือเชิงขอร้องอ้อนวอนฉัน สายตาของเธอที่มองมาดูจริงจังและจริงใจต่อฉันมาก..

ฉันไม่อยากทำร้ายความเมตตาของทั้งสองท่านเลย แต่ฉันไปอยู่กับพวกเขาไม่ได้จริง ๆ

“คะ..คือว่าหนูไม่..” ฉันกำลังจะปฏิเสธิแต่ก็ถูกคุณน้าแทรกขึ้นมาก่อนว่า

“หนูยังไม่ต้องตอบฉันตอนนี้ก็ได้นะจ๊ะ ฉันให้หนูกลับไปคิดทบทวนดี ๆ ก่อน แล้วถ้าหนูทบทวนจนแน่ใจกับคำตอบแล้ว ค่อยโทรมาหาฉันก็ได้จ้ะ”

รอยยิ้มของคุณน้าที่อยากจะได้ฉันเป็นลูกบุญธรรมนี่มันดูชั่งอบอุ่นเสียจริง ๆ...

“คิดดี ๆ นะหนู ฉันสองคนสัญญาว่าจะดูแลหนูในฐานะลูกสาวให้ดีเหมือนลูกแท้ ๆ เลย”

“หนูขอบคุณคุณน้ากับคุณลุงมากนะคะที่เมตตาหนู” ฉันไม่รู้จะตอบอะไรเลยพูดออกไปแค่นั้น

“งั้นพวกฉันกลับก่อนนะ แล้วฉันจะรอวันที่ได้หนูมาเป็นลูกสาวนะจ๊ะ” คุณน้ายื่นมือมาแตะไหล่ฉันเบา ๆ

ฉันยกมือไหว้ลาทั้งสองท่าน ยืนส่งจนกว่ารถจะถูกขับเคลื่อนออกไป แล้วจึงเดินไปหาแม่ที่ยืนอยู่ริมถนนอีกฝั่ง

“แม่คือ...”

“กลับมาคุยเรื่องนี้กับกูที่บ้าน” ยังไม่ทันทีฉันจะอธิบายอะไรแม่ก็สวนขึ้นมาก่อน จากนั้นเราก็เดินกลับบ้านไปพร้อมกัน

@ภายในสลัม..

พอกลับมาถึงบ้านแม่ก็นั่งจ้องหน้าฉันตาไม่กระพริบโดยที่ไม่พูดอะไรออกมาเลย ไหนแม่ว่าจะคุยเรื่องนั้นไง ทำไมถึงเงียบนะ..

“แม่มีอะไรจะคุยเหรอจ๊ะ” ฉันอึดอัดและกดดันจนต้องเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาก่อน

“สองคนนั้นใคร” น้ำเสียงของแม่ฟังดูแข็ง ๆ ห้วน ๆ ยังไงไม่รู้ สายตาที่แม่มองมาก็ดูเหมือนกำลังไม่พอใตด้วย

แม่คงหวงฉันที่เขาจะมาเอาฉันไปเป็นลูกบุญธรรมใช่มั้ย.. ดีใจจัง

“คนที่น้องดาบอกว่าขับรถชนน้องดาเมื่อวานไงจ๊ะ”

“เขาอยากได้มึงไปเป็นลูกบุญธรรมใช่มั้ย”

“ใช่จ้ะแม่ แต่แม่ไม่ต้องห่วงนะน้องดาไม่ทิ้งแม่ไปอยู่กับพวกเขาหรอกจ๊ะ น้องดาจะอยู่ดูแลแม่ที่นี่” ฉันเข้าไปกอดแม่อย่างแน่นด้วยความรัก

“โอ๊ย! อีโง่!” แม่ผลักฉันออกอย่างแรงจนหน้าฉันเกือบทิ่มกับพื้น

“ทะ..ทำไมล่ะจ๊ะแม่ น้องดาทำอะไรผิดอีก” อยู่ ๆ น้ำตามันก็รื้นขึ้นมาเอาซะดื้อ ๆ

“แทนที่มึงจะยอมไปอยู่กับเขาจะได้มีเงินเยอะ ๆ เอามาส่งให้กูใช้ ทั้งตัวมึงและตัวกูจะได้อยู่อย่างสุขสบาย แล้วมึงจะเอาอะไรมาดูแลกู จะเอาเงินจากการขอทานที่ได้บ้างไม่ได้บ้างมาดูแลกูอะเหรอ!! อีโง่!!”

ฉันได้แต่ก้มหน้ารับฟังคำก่นด่าจากแม่ ฉันผิดเหรอที่ฉันอยากอยู่กับแม่แม้มันจะลำบาก.. ต่อให้ต้องตกทุกข์ได้ยากกว่านี้แต่ขอแค่มีแม่ฉันก็ยอม..

“ถ้ามึงอยากเป็นลูกที่ดี ลูกที่กตัญญูก็ไปอยู่กับเขาซะ! แต่ถ้ามึงอยากเป็นลูกทรพีก็แล้วแต่มึง!” ถ้าฉันไม่ไปฉันคงจะเลวมากใช่มั้ย

“แม่อยากให้น้องดาไปจริง ๆ ใช่มั้ย...” ฉันอยากได้ความแน่ใจจากแม่อีกสักครั้ง ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าแม่จะยอมให้ฉันไปเป็นลูกของคนอื่น..

“เออ ไปซะ ถ้ามึงไม่คิดถึงตัวเองก็คิดถึงกูหน่อย กูอยากไปให้พ้น ๆ จากชีวิตแบบนี้สักที”

“ฮึก ก็ได้จ้ะ น้องดาจะยอมไปตามที่แม่ต้องการ..”

ฉันเสียใจกับคำตอบของแม่จนแทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว ถึงฉันจะไม่อยากไปยังไง..แต่สุดท้ายคงต้องยอม

สิ่งที่แม่พูดมาทั้งหมดมันก็จริงอยู่ ถ้าฉันไปอยู่ที่นั่นมันจะทำให้ชีวิตแม่สุขสบายขึ้นกว่านี้.. บางทีแม่อาจจะเลิกเครียดแล้วเลิกกินเหล้าด้วยก็ได้...

“ดีมากลูก เราสองคนจะได้กลับมาเชิดหน้าชูตากันได้อีกครั้ง ไม่ต้องมาทนฟังคำดูถูกจากคนอื่น ๆ อีก” แม่พูดกับฉันอย่างดีผิดกับในตอนแรก แถมยังดึงฉันเข้าไปกอดอีกต่างหาก

“ถ้าอย่างงั้นหนูขออะไรแม่อย่างนึงได้มั้ยจ๊ะ” ฉันดีดตัวออกจากอ้อมกอดของแม่ มองแม่ด้วยสีหน้าที่จริงจัง

“อะไร”

“แม่เลิกกินเหล้าได้มั้ยจ๊ะ ถ้าได้น้องดาจะยอม”

“เออ แม่จะเลิกเพราะฉะนั้นรีบโทรไปหาสองคนนั้นได้แล้ว ให้เขามารับแกไปวันนี้เลย”

“ไม่เร็วไปหน่อยเหรอจ๊ะแม่ น้องดายังไม่ได้เก็บเสื้อผ้าเลยนะจ๊ะ”

“โอ๊ย จะเก็บให้มันรู้ว่าแกมีบ้านทำไมเล่า” ฉันขมวดคิ้วให้กับคำพูดของแม่ แม่ต้องการจะสื่ออะไร...

“แม่หมายความว่ายังไงจ๊ะ..”

“ฟังนะ ให้พวกมันเข้าใจว่ามึงเป็นเด็กกำพร้าไร้บ้าน ห้ามให้มันรู้เด็ดขาดว่ามึงมีแม่” แม่ใช้มือจับไหล่ฉันทั้งสองข้างแล้วพูดด้วยท่าทางจริงจัง

“ทำไมล่ะจ๊ะแม่ ทำไมถึงต้องห้ามให้เขารู้”

“มึงนี่มันโง่ซ้ำโง่ซากจริง ๆ ถ้ามันรู้เดี๋ยวมันก็ไม่เอามึงหรอก ให้มันคิดว่ามึงกำพร้าน่ะดีแล้ว มันจะได้เมตตา ๆ มึงเยอะ ๆ”

ทำยังไงดีฉันไม่อยากไปโกหกพวกคุณน้าเลย แค่นี้เขาก็ดีกับฉันมากแล้ว ถ้าฉันโกหกฉันจะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวทันที

แต่ถ้าฉันไม่ทำแบบนั้นแล้วเขาไม่ยอมรับฉัน ฉันก็กลายเป็นลูกทรพีอีก ทำไม..ฉันเลือกอะไรไม่ได้เลย..

หลังจากคุยกับแม่เสร็จฉันก็ออกไปกดโทรศัพท์ตู้โทรคุณน้าคนนั้นเพื่อตอบตกลงยินยอมเป็นลูกสาวบุญธรรมของเธอ

รอไม่นานนักเธอก็ขับรถมารับฉันตามที่ที่ฉันนัดเอาไว้ ทั้งสองท่านดีใจมากที่ฉันตอบตกลง ยิ่งเห็นแบบนี้ฉันก็ยิ่งรู้สึกผิด แต่ฉันเลือกไม่ได้..เลือกไม่ได้จริง ๆ

ก่อนออกมาฉันเอาเงินหนึ่งพันบาทนั้นที่แอบเก็บไว้เอาให้แม่ แม่ดูดีใจใหญ่ เธอกอดและหอมฉันก่อนที่จะออกมา

แต่ตามที่รู้กันแม่ไม่สามารถมาส่งฉันที่นี่ได้ ฉันเลยออกมาแค่คนเดียวและตอนนี้ฉันก็กำลังนั่งรถไปกับพวกเขาแล้วด้วย

@บ้านตระกูลวรเวช

เมื่อมาถึงฉันก็เดินลงจากรถมาพร้อมกับคุณน้าและคุณลุง ไม่สิ ตอนที่นั่งรถมาทั้งสองท่านกำชับฉันนักกำชับฉันหนาว่าให้เรียกเขาว่าคุณพ่อกับคุณแม่

ใช่ ตอนนี้ทั้งสองคือคุณพ่อกับคุณแม่ของฉัน..

“เดี๋ยวแม่จะพาน้องดาไปเจอกับพี่แดนเทพนะจ๊ะ”

“พี่แดนเทพ..” ฉันพึมพำชื่อนี้ออกมาเบา ๆ มันคุ้น ๆ เหมือนเคยได้ยินที่ไหนนะ..

อ๋อ! พี่แดนเทพคนที่ทิ้งฉันไว้กลางทางตอนนั้นใช่ไหม ท่าทางเขาดูไม่ค่อยชอบหน้าฉันมากเลยนะ

ถ้าเขารู้ว่าฉันจะมาเป็นน้องสาวบุญธรรมของเขา เขาจะไม่ยิ่งไม่ชอบหน้าฉันเหรอ...

30นาทีผ่านไป...

“สรุปพ่อกับแม่จะเอาเด็กนี้มาเลี้ยงจริงๆใช่ไหม” พี่แดนเทพถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอีกครั้ง แววตาของเขาที่จ้องมองฉันแสดงออกถึงความรังเกียจอย่างชัดเจน

ฉันว่าแล้วเชียวว่าเรื่องมันจะต้องออกมาเป็นแบบนี้...

“ใช่ แม่จะรับน้องดาเป็นลูกบุญธรรม”

“พ่อก็ด้วย”

“ทั้งๆที่เพียงฟ้าเพิ่งตายได้แค่สองปี พ่อกับแม่ก็มีลูกใหม่ หึ ผมสงสารเพียงฟ้าจริงๆที่มีพ่อแม่แบบนี้”

พี่แดนเทพก้มหน้าลงต่ำ สองมือกำหมัดเข้าหากันแน่น น้ำเสียงสั่นเครือคล้ายคนกำลังร้องไห้..

ถึงอย่างนั้นฉันก็ว่าคำพูดของพี่แดนเทพมันรุนแรงมากเกินไป ทำไมเขาต้องโกรธแล้วพูดทำร้ายจิตใจคุณพ่อคุณแม่ขนาดนี้ด้วยนะ...

เพี๊ยะ!! ฝ่ามือหนาของคุณพ่อพฟาดลงบนแก้มสากของพี่แดนเทพอย่างแรงจนหน้าหัน

“ถ้าแกไม่รู้อะไรแกเงียบปากเลย!!!” คุณพ่อตวาดเสียงดังใช้นิ้วชี้หน้าพี่แดนเทพด้วยความโมโห

“หึ” พี่แดนเทพแค่นเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ มือหนายกขึ้นมาใช้นิ้วโป้งเช็ดเลือดที่ซิบอยู่ตรงมุมปาก พี่แดนเทพหันมามองขวางใส่ฉัน ก่อนเขาจะเดินออกจากห้องนี้ไป

เพราะฉันใช่ไหม ฉันมันเป็นตัวการที่ทำให้ครอบครัวของเขาเริ่มมีรอยร้าว ขอโทษนะคะพี่แดนเดพ...น้องดาไม่มีทางเลือกจริง ๆ

ขอคอมเมนต์หน่อยค้าบ เปย์ดาวนุ้งก็ได้น้า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel