บท
ตั้งค่า

9

“พี่ทำบัญชีที่ร้านเหล้าไม่ได้ขายเนื้อหนังหรอกจ้ะ” น้ำรินพอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรแต่เธอไม่โกรธเพราะคนส่วนใหญ่ก็มักจะแปลความหมายคล้าย ๆ กัน

“อ๋อ...ค่ะ......” มีนาพยักหน้าหงึกหงัก ยอมรับว่าทีแรกเธอก็คิดไปในทางไม่ดีเหมือนกัน ไม่แปลกที่ใคร ๆ จะคิดลบกับเธอเพียงแค่เห็นว่ามีผู้ชายมาหาชั่วครั้งชั่วคราวไม่เคยค้างคืนด้วยราวกับมีบ้านใหญ่อยู่แล้ว หรือถ้ามีจริง ๆ เธอก็สุดจะรู้แต่ที่แน่ ๆ ทะเบียนสมรสที่เธอถืออยู่เป็นของจริงแท้แน่นอน

“วันนี้พี่ไม่ค่อยสบาย นายจ้างเลยให้กลับมาก่อนน่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นพี่รินขึ้นไปพักผ่อนเถอะค่ะ ให้มีนพาไปส่งนะคะ”

“ขอบใจจ้ะ พี่นัดเพื่อนไว้ขอนั่งรอแถวนี้แหละ”

เด็กสาวผละออกมาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยิ้มได้ แม้ว่าจะเป็นยิ้มที่แลดูเศร้า ๆ ก็ทีแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่มีนาจะเข้าไปวุ่นวาย

คนตัวเล็กแต่งกายเรียบง่ายด้วยเสื้อยืดกางเกงขาสั้นที่ไม่ได้สั้นจนน่าเกลียดทำให้เธอเหมือนเด็กมัธยมมากกว่า เธอเดินช้า ๆ ไปตามฟุตบาทสอดส่ายสายตาสำรวจตลาดของกินถิ่นนี้ไม่ไกลจากห้องที่เคยพักจนกระทั่งเดินมาไกลถึงย่านร้านค้าที่มีของกินตั้งขายมากมายเนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาอาหารราคาย่อมเยาก็มีขายพอจะเลือกหาซื้อได้ถูกจริตนิสัยของคนที่ไม่ค่อยอยากใช้เงิน

กันต์ดนัยเพิ่งจะแวะไปที่คอนโดเมื่อสัปดาห์ก่อนแต่ตอนนี้รู้ตัวอีกทีเขาก็ขับรถมาจอดอยู่ใต้คอนโดแห่งนี้แล้ว เมื่อวานเขาบังเอิญเห็นสร้อยคอทองคำขาวพร้อมจี้เพชรเล็ก ๆ รูปหัวใจซ้อนกันแบบเก๋น่ารักเหมาะกับคอขาว ๆ ที่ซื้อมาไม่ได้มีความหมายอะไรตั้งใจจะให้เป็นรางวัลที่สามเดือนมานี้เธอทำตัวดีไม่มีปัญหากวนใจแต่ตั้งใจจะเก็บเอาไว้ให้เดือนหน้าดันผ่ามาโผล่ที่นี่ได้ไงวะ...... ครั้นเขาจะขึ้นไปหาก็ยังรู้สึกว่าศักดิ์ศรีมันค้ำคอไม่อยากให้อีกฝ่ายคิดไปไกลว่าเขาหลงใหลในตัวเธอ มันก็แค่เผลอไม่ได้ตั้งใจมาสักหน่อย

ขณะที่ทนายหนุ่มนั่งทะเลาะกับตัวเองหลังพวงมาลัยสายตาก็เหลือบไปเห็นบุคคลคุ้นตาเดินประคองหญิงสาวหน้าตาสะสวยกำลังพากันตรงไปที่ลิฟต์......คิดเป็นอื่นไม่ได้จริง ๆ

“พ่อ!.......” ชายหนุ่มอุทานออกมาไม่อยากเชื่อว่าเป็นความจริง

กันต์ดนัยแทบไม่เชื่อสายตา........บิดาของเขาเป็นสามีที่ดีอยู่ในโอวาทของภรรยามาตลอดติดจะเกรงใจมากด้วยซ้ำแต่สามารถทำเรื่องบัดซบลับหลังได้.......แม้ไม่ถึงกับสูญสิ้นศรัทธาแต่ก็ลดลงมาจนน่าใจหาย

ก๊อก ๆ ๆ ๆ ..........

ชายหนุ่มนั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเองเขาควรจะจัดการเรื่องนี้อย่างไรดี ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หรือจะพูดจากันให้รู้เรื่องอีกทั้งมารดาจะรับกับเรื่องนี้ได้หรือเปล่า........ นานเท่าไหร่ไม่รู้จนกระทั่งได้ยินเสียงเคาะกระจกจึงหันไปมองเห็นใบหน้าเล็กตะแคงฉีกยิ้มสดใสมือบางโบกไหว ๆ ไม่รู้ดีใจอะไรนักหนา......

“มีอะไร”

“พี่กันต์มาหามีนเหรอคะ พอดีหนูเดินไปหาของกินไกลไปหน่อย พี่กันต์จะเอาอะไรเพิ่มไหมคะ......” เด็กสาวชินกับน้ำเสียงห้วนสั้นของเขาแล้วจึงไม่ใส่ใจ ยกถุงอาหารในมือให้ดูพร้อมกับอธิบายเพราะคิดว่าทำให้เขาต้องรอจึงได้อารมณ์เสีย ลืมไปว่าคอนโดนี่เป็นห้องของเขามีหรือจะเข้าไปไม่ได้…..

“ขึ้นห้องเถอะ......” ชายหนุ่มยับยั้งคำพูดร้าย ๆ เมื่อเห็นดวงตากลมใสไม่มีพิษมีภัย เริ่มรู้แหละว่าตัวเองนิสัยเข้าใกล้อันธพาลเต็มที

สาวน้อยจัดอาหารใส่จาน ส่วนมากจะมีของกินเล่นกับผลไม้สองสามอย่างแต่ดูเหมือนพี่กันต์จะไม่สนใจอาหารของเธอ มาถึงก็เอาแต่จิบเบียร์ทำหน้ายุ่ง ๆ มีนาได้แต่เหลือบตามองเป็นระยะบางทีก็เห็นเขาถอนหายใจเหมือนมีเรื่องอะไรที่คิดไม่ตกพลอยให้เธอเป็นกังวลไปด้วยโดยไม่รู้ตัว…..

“พี่กันต์จะทานข้าวไหมคะ เดี๋ยวมีนโทรสั่งให้” เธอถามเขาอย่างมีน้ำใจ สำหรับเธอแค่ของตรงหน้าก็สวาปามเข้าไปไม่หมดอยู่แล้ว

“ไม่ล่ะ เธอรู้จัก.........”

“คะ.......รู้จักใครหรือคะ” มีนานั่งลงฝั่งตรงข้ามพร้อมกับตั้ง ตารอเมื่อเขาถามแต่ก็พูดไม่จบ หยุดไปดื้อ ๆ ซะอย่างนั้น

“ช่างเถอะ เธอจะไปรู้จักได้ยังไง”

“ใครล่ะคะ.....อยู่มาตั้งหลายเดือนแล้วมีนพอจะมีคนรู้จักอยู่นะคะ” เธอทำเป็นคุยโวทั้งที่รู้จักชื่อก็คนเดียวนั่นแหละ ส่วนคนอื่น ๆ ก็แค่คุ้นหน้าเดินผ่านไปมาก็ยิ้มให้กันอย่างกลุ่มคุณป้าขาเม้าท์นั่นยังไง

“เธอรู้จักคนที่นี่มากเลยงั้นสิ” พอถูกเซ้าซี้ถามก็ชักจะเริ่มหงุดหงิด

“เปล่าค่ะ ก็แค่เห็นหน้าทักทายกันบ้างไม่กี่คนเอง.....” มีนาตอบเสียงเบา เกรงว่าเสียงแหลม ๆ ของเธอจะไปกระตุ้นต่อมโมโหของเขาเข้าอยากจะรู้จริง ๆ ว่าถ้าผู้ชายคนนี้หัวเราะจะหล่อแค่ไหนกันนะ.........

ใบหน้าจิ้มลิ้มนั่นสลดเสียที่ไหน คล้ายจะมีรอยยิ้มเจืออยู่บาง ๆ ด้วยซ้ำทำให้กันต์ดนัยลดความเหวี่ยงลงอีกหลายระดับ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel