บท
ตั้งค่า

10

“ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าไปวุ่นวายกับใคร เข้าใจไหม” ชายหนุ่มถอนหายใจพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่เอาความหงุดหงิดส่วนตัวมาลงกับคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่

“ทำไมเหรอ บ้านใกล้เรือนเคียงคบหากันไว้ไม่ดีกว่าหรือไงเผื่อวันไหนมีนชักตาตั้งจะได้มีคนช่วยเรียกรถพยาบาลไง......” เด็กสาวพูดติดตลกหวังให้เขาผ่อนคลายดูแล้วสบายใจกว่าตอนทำหน้านิ่วคิ้วขมวดตั้งเยอะ

“ฉันบอกอะไรก็ทำตามเถอะน่า” เพราะไม่อยากอธิบายจึงเลือกที่จะตัดบทง่าย ๆ เท่านี้ก็เจ้าเล่ห์แสนกลพออยู่แล้วขืนไปคบค้ากับบรรดาตัวแม่เกรงว่าจะไปกันใหญ่.....กันต์ดนัยไม่เคยสนใจสิ่งแวดล้อมที่นี่มีไว้แค่ซุกหัวนอน แต่พอเห็นบิดามากับอีหนูที่ไม่รู้ว่าซุกซ่อนไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ชักไม่แน่ใจว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่เป็นประเภทไหนกันบ้างทางที่ดีมีระยะห่างบ้างน่าจะปลอดภัยกว่า

“ดีแต่บังคับ....” มีนาก้มหน้าพูดเบา ๆ กับตัวเอง

“ไม่พอใจ?”

“ก็พี่กันต์บังคับเกินไปนี่คะ คุยกันนิด ๆ หน่อยก็แก้เหงาได้จริง ๆ นะคะ”

“อ๋อเหงา........อยากให้ฉันมาอยู่เป็นเพื่อน” มุมปากยกยิ้มโดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าดีใจทำไมที่อีกฝ่ายไม่ทำเฉยเมยเหมือนอย่างเคยมีกระเง้ากระงอดบ้างก็น่ารักดี......

“เปล่าซะหน่อย มีนไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะ.......” เธอว่าเสียงสูง ก็สายตาของเขามันวิบวับแวววาว มันน่าไว้ใจเสียที่ไหน เหมือนมีคำว่าหื่นตัวโต ๆ ปรากฏหราอยู่กลางหน้าผากอย่างนั้นแหละ

“ยังจะปากแข็ง”

“นุ่มจะตาย” เธอทำปากจู๋ลอยหน้าท้าทายก่อนจะวิ่งหนี

“มีนา!....เธอตายแน่”

“อร๊ายยย!!.....”

หากเขาปล่อยเธอให้ลอยนวลอย่าเรียกว่ากันต์ดนัย ร่างสูงก้าวไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวยัยเด็กแสบที่ทำเป็นลิงหลอกเจ้า เดี๋ยวนี้ชักจะเอาใหญ่ไม่มีเกรงใจกันแล้ว

เรือนร่างบอบบางถูกรวบพาดบ่าได้อย่างสบายต่อให้ดิ้นเร่า ๆ ก็ไม่มีทางหลุดมือเขาไปได้ ปฏิบัติการสั่งสอนเริ่มต้นบนเตียงก่อนจะลากไปฟัดต่อที่โต๊ะเครื่องแป้งและจบลงด้วยความชุ่มฉ่ำในอ่างอาบน้ำสร้างความสำราญเบิกบานใจเต็มอิ่มแต่คนเนื้อตัวนุ่มนิ่มกลับซมซานออกมานั่งต้มบะหมี่กินมือไม้สั่น……...

“ไง......มองทำไม” ชายหนุ่มตามออกมานั่งมองอยู่ฝั่งตรงข้ามพลางเลิกคิ้วถามท่าทางกวนประสาทเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำตาวาว ๆ ริมฝีปากขมุบขมิบคงไม่ได้กำลังสรรเสริญเขาหรอก แต่ยังไงก็ชั่งตอนนี้คนมันอารมณ์ดีจะละเว้นโทษให้เธอก็แล้วกัน......

“เล่นอะไรก็ไม่รู้ มีนหิวเกือบตาย” เสียงบ่นอุบอิบแต่มันก็ดังพอที่จะให้คนนั่งตรงข้ามได้ยิน

“แล้วใครมันเริ่มก่อน”

“มีนก็แค่ล้อเล่นป่ะล่ะ......พี่กันต์ชอบหาเรื่อง...” ริมฝีปากแดงเพราะพริกในบะหมี่ยื่นยาวเพราะเจ้าตัวเถียงไม่ลดละ.....

“เพื่อนเล่นเหรอ?” เขาว่ายิ้ม ๆ ขำคนที่กินไปเถียงไปใบหน้างอง้ำจนน้ำซุปกระเด็นขึ้นไปติดแก้ม เดี๋ยวนี้ชักจะเก่งใหญ่แล้ว ไอ้เด็กหงิม ๆ คนนั้นคงหายไปแล้วมั้ง....

“ชิ! ชอบขู่....” มีนาเบนหน้าไปทำตาปะหลับปะเหลือก

กันต์ดนัยล้วงกล่องเล็ก ๆ ออกมาจากกระเป๋ากางเกงวางไว้ตรงหน้ามีนาโดยไม่พูดอะไร

เด็กสาวจ้องมองของในกล่องตาไม่กะพริบเพราะมือไม่ว่างกำลังคีบบะหมี่เข้าปากแต่ก็พยายามประเมินราคาว่าสร้อยเส้นนั้นจะมีมูลค่าสักเท่าไหร่

“ขายได้ป่ะเนี่ย” เธอหรี่ตามองเขาอย่างต้องการคำตอบ

ชายหนุ่มตวัดตามองคนขี้งกพร้อมกับเบ้ปากก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกลับคืนแต่ยัยเด็กแสบไวกว่ารีบคว้าข้อมือของเขาพร้อมกับแย่งกลับไป มือไวเหมือนลิง

“บังเอิญจับฉลากได้ ไม่เอาก็คืนมา” ชายหนุ่มเฉไฉไม่อยากให้ใครบางคนสำคัญตัวผิดเพราะเขาไม่ได้ตั้งใจเหมือนกัน แค่เห็นก็ซื้อไปงั้น ๆ

“ไม่.......ให้แล้วเอาคืนมะรืนนี้ตาย.....”

“เฮอะ! ทำไมงกนักวะ”

“ก็ของมันควรได้”

“เหรอ.......ฉันกลับล่ะ.....” กันต์ดนัยลุกขึ้นยืนขืนอยู่ต่ออีกหน่อยไม่แน่ว่าอาจจะอดใจไม่ไหว รังแกเด็กมันอีกจนได้

มีนาพยักหน้าหงึก ๆ ทำเป็นก้มหน้าก้มตาสนใจบะหมี่ตรงหน้าทั้งที่เหลือแต่น้ำ เพียงเพื่อซ่อนแววตาที่แสดงออกถึงความผิดหวัง เธอก็เหมือนเด็กสาวทั่วไปได้ใกล้ชิดถึงขั้นนี้มีหรือจะห้ามใจตัวเองได้ นอกจากความสัมพันธ์ทางกาย ใจเธอก็เผลอยกให้เขาไปหมดแล้วไม่ได้หวังว่าเขาจะรักตอบขอแค่ได้กอดคนที่รักนอนจนถึงเช้าคงจะดีกว่าตื่นมาพบกับความว่างเปล่าเหมือนที่ผ่านมาทั้งที่ไม่คาดหวังแต่มันก็อดโลภไม่ได้............

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel