3
ที่นั่งตอนหลังของรถยนต์เอสยูวีสีดำมันวาวมีเพียงเด็กสาวครอบครองแต่เพียงผู้เดียว เบาะหนังนุ่มกว้างขวางอากาศเย็นสบายแต่มีนากลับรู้สึกอึดอัดแทบไม่กล้าขยับตัว จึงได้แต่นั่งกอดกระเป๋าเป้ที่มีเสื้อผ้าเพียงสองสามชุดเอาไว้แน่นราวกับยึดเจ้านี่เป็นที่พึ่ง จุดหมายปลายทางยังไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญกับอะไร ทะเบียนสมรสที่นอนนิ่งในกระเป๋าไม่ได้ช่วยให้เธออุ่นใจขึ้นมาแม้แต่น้อย.....
มีนาถูกผลักไสจากญาติคนเดียวที่เหลืออยู่ให้มากับผู้ชายแปลกหน้าข้อหาใจง่ายทำให้ครอบครัวอับอายและเสื่อมเสียชื่อเสียงแถมยังบีบบังคับให้อีกฝ่ายรับผิดชอบแทนการแจ้งความอีกต่างหาก เธอเองก็เหมือนน้ำท่วมปากพูดไปก็ไม่มีใครฟังและยิ่งไปกว่านั้นคือไม่มีใครสักคนที่จะออกมาปกป้อง.....เธอถึงรู้ซึ้งถึงคำว่าหัวเดียวกระทีมลีบก็ในวันนี้เอง........
“มึงเป็นอะไรวะไอ้กันต์ไม่พูดไม่จา น้องเขาเกร็งไปหมดแล้วเนี่ย......” เจษฎาอดไม่ไหวไม่เข้าใจว่ากันต์ดนัยคิดอะไรอยู่ถึงได้ยอมให้ฝ่ายนั้นข่มขู่ถึงขนาดยอมรับผิดชอบเด็กสาวคนหนึ่งด้วยการจดทะเบียนสมรสด้วย ทั้งที่มันหวงความโสดยิ่งกว่าอะไรดี
“........” ชายหนุ่มไม่ตอบได้แต่ปรายตามองอย่างไม่พอใจ ทำนองว่ามึงเสือกอะไรด้วยก่อนจะหันไปสนใจถนนเบื้องหน้าเหมือนเดิม
“โอเคไม่ถามก็ได้วะ...เอ่อ.........น้องมีนล่ะครับ อยากจะแวะปั๊มสักหน่อยไหม” เจษฎาหันไปถามเด็กสาวอย่างมีน้ำใจเพราะเห็นท่าทางใสซื่อมองยังไงก็ไม่ใช่อย่างที่ไอ้กันต์ตั้งข้อสงสัย มันจะมองน้องเขาเลวร้ายเกินไปแล้วทั้งที่ตัวเอง ปู้ยี่ปู้ยำเขาซะขนาดนั้น…..เธอคือเหยื่อชัด ๆ ......
“เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะ....” เด็กสาวรับรู้ได้ถึงความเอื้อเฟื้อที่อีกฝ่ายเผื่อแผ่มาให้ ไม่เหมือนอีกคนที่เธอยังจำน้ำเสียงชวนขนลุกของเขาได้ตอนที่จรดปากกาเซ็นชื่อในทะเบียนสมรสก่อนจะเอียงหน้ามากระซิบกับเธอ….. ‘....อยากมีผัวจนตัวสั่น.....’
มีนาสัญญากับตัวเองว่าต่อไปนี้เธอจะไม่ตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกอีกแล้ว ท่าทางดูดีมีคุณธรรมแต่พออ้าปาก สำรากคำพูดร้าย ๆ ไม่สนใจว่ามันจะเชือดเฉือนหัวใจใคร...รู้หน้าไม่รู้ใจจริง ๆ ...........
มีนาเริ่มวิงเวียนทั้งที่ไม่เคยเมารถมาก่อน ไม่รู้ว่าพักผ่อนน้อยหรือเป็นเพราะฤทธิ์ยาคุมฉุกเฉินที่เขาให้เธอกินต่อหน้า...ไม่เห็นจะต้องเข้มงวดขนาดนั้น นักศึกษาปีสามอย่างเธอก็ไม่ได้อยากท้องเหมือนกัน.......
“น้องมีนพักแถวไหนหรือครับ” เจษฎาชวนคุยลดความอึดอัด บรรยากาศในรถราวกับตกหลุมดำส่วนไอ้คนที่ทำเรื่องก็เอาแต่เคร่งเครียดจะขับรถให้ก็ไม่ยอมได้แต่หวังว่าไอ้กันต์จะไม่โมโหจนกระทั่งขับรถพาไปหายมบาลหรอกนะ......
เด็กสาวบอกชื่อหอพักทำให้กันต์ดนัยรู้ว่าอยู่ไม่ไกลจากคอนโดของเขา
“อ๋อ......แถวนั้นอาหารอร่อยเมื่อก่อนพี่เคยแวะไปนั่งกินบ่อย ๆ ”
“เหรอคะ.....แต่มีนว่าของแพงนะคะ”
“ค่าเช่าที่มันแพงน่ะ”
“นั่นสิคะพี่เจษ บางทีมีนยังต้องรวบมื้อเอาเลยค่ะ” หญิงสาวพูดกลั้วหัวเราะเมื่อนึกถึงช่วงที่เธอต้องการเก็บเงินซื้อของที่อยากได้จะไปทำงานพิเศษอะไรก็ไม่กล้า ทำไม่เป็น
“เคล็ดลับหุ่นดีใช่ไหมเนี่ย.....”
“มึงไปนั่งข้างหลังดีไหม” คนขับถามอย่างหมั่นไส้ขัดใจกับคำพูดคำจาที่ดูเหมือนจะสนิทสนมกันรวดเร็วเกินเหตุ......ไวไฟจริงนะแม่คุณ......
“อะไรของมึง พวกเรากำลังคุยกันถูกคอ”
“รำคาญ!”
มีนาถึงกับสะดุ้งเพราะเขาไม่ได้เพียงแต่พูดจาตะคอกดุดันแต่ยังส่งสายตาอำมหิตมาทางกระจกมองหลังอีกต่างหาก.....ร้ายกาจชะมัด
