บท
ตั้งค่า

12

หลายเดือนมานี้มีนาได้เจอน้ำรินและเริ่มพูดคุยทักทายจนสนิทสนมกันพอควรถึงขั้นชวนไปทำงานพิเศษที่ร้านเหล้าเป็นบางวันที่คนในครัวไม่พอ ส่วนใหญ่เธอก็ไปเป็นลูกมือในครัว ทั้งล้างผักหั่นหมูหั่นเนื้อกระทั่งปอกหอมปอกกระเทียมมีนาทำได้ถูกใจพ่อครัวยิ่งนัก...

หญิงสาวถูกเรียกตัวไปช่วยหลายครั้งเข้าพ่อครัวใจดีก็เริ่มถ่ายทอดวิชาให้สาวน้อยลงมือทำเองบ้างนับว่าฝีมือดีทีเดียวเธอไม่เคยเกี่ยงงอนว่าต้องทำเกินหน้าที่ ทุกอย่างที่ผ่านหูผ่านตานี้นับว่าเป็นวิชาติดตัว วันข้างหน้าไม่มีอะไรแน่นอนบางทีเธออาจจะรอดตายเพราะความรู้เหล่านี้ก็ได้......หญิงสาวคิดอย่างคนใฝ่รู้

“ข้างนอกไม่มีลูกค้าหรือจ๊ะมีนา......” น้ำรินสงสัยที่จู่ ๆ เด็กสาวก็เข้ามาหาทั้งที่ช่วงนี้น่าจะเป็นเวลาที่ในครัวกำลังยุ่ง

“พอดีพี่นิดกลับมาแล้วค่ะ เขาเลยไล่มีนมาเนี่ยแหละ” เธอแค่เล่าให้ฟังไม่ได้โกรธเคือง

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพี่ขอค่าเสียเวลาให้นะ เพราะผู้จัดการสั่งให้มาเองนี่นา” น้ำรินกลัวว่าเด็กสาวจะเสียเวลาเปล่า

“ไม่เป็นไรค่ะ....... ผู้จัดการให้หนูมาแล้ว” เด็กสาวตบกระเป๋าพลางยิ้มแฉ่ง วันนี้ไม่ต้องทำอะไรแถมยังได้เงินใช้ไม่ขาดไม่เกิน เธอจะอยู่ช่วยต่อทางนั้นเขาก็ไม่ยอมจึงต้องมาเสนอหน้าอยู่ตรงนี้นี่แหละ

“งั้นก็นั่งรอในนี้ก็แล้วกันรอกลับพร้อมพี่” น้ำรินเป็นห่วงน้องสาวแม้จะต่างสายเลือดแต่ก็เอ็นดูไม่น้อยจึงไม่อยากปล่อยให้กลับห้องคนเดียวกลางค่ำกลางคืนไม่น่าไว้ใจ

“เดี๋ยวมีนออกไปดูข้างนอกหน่อยค่ะ เผื่อช่วยอะไรได้” เธอบอกตามประสาคนมีน้ำใจหรือเพราะอยู่นิ่งไม่ได้ก็ไม่รู้ เสียดายที่ไม่ได้เอาแท็บเล็ตมาด้วย ไม่อย่างนั้นคงจะนั่งวาดรูปรอได้เรื่อย ๆ

“ระวังอย่าไปป้วนเปี้ยนใกล้คนเมานะมีนเดี๋ยวจะถูกเอาเปรียบ....” หญิงสาวกำชับเป็นมั่นเหมาะ เด็กสาววัยขบเผาะแบบนี้หากเดินเกะกะในดงเสือสิงห์กระทิงแรดเกรงจะหวานคอแร้ง ขี้คร้านจะจ้องกันตาเป็นมัน

“ค่ะพี่ริน” มีนาหันมาตอบขณะที่ร่างเล็กวิ่งปรู๊ดไปถึงประตูแล้ว

สาวน้อยออกมาเดินเยี่ยม ๆ มอง ๆ ดูความเป็นไปของผู้คนในร้านเหล้าแนวคันทรีที่ลูกค้าก็ดูดีไม่เห็นจะเมามายเป็นอันธพาลเลยสักคน สงสัยว่าคนส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวที่นี่น่าจะเป็นกลุ่มที่มีเงินพอสมควรเพราะดูจากราคาอาหารแต่ละจานสูงลิบลิ่วคงบวกค่าบรรยากาศกับดนตรีบรรเลงสดที่เพราะเสนาะหูจนฟังแล้วอดที่จะโยกตามไม่ได้.....

“ไง! ไอ้มีนยังไม่กลับอีกเหรอ มาแอบฟังเพลงเดี๋ยวคิดตังนะโว้ย......” เฮียกายผู้จัดการหุ่นหมีไว้หนวดเคราเฟิ้มแต่ใจดีสุด ๆ เอ่ยทักคนตัวเล็กอย่างเป็นกันเอง รู้สึกถูกชะตาตั้งแต่น้ำรินพาเธอเข้ามาทำงานในครัวเป็นเด็กดีมีน้ำใจที่โคตรงกไม่เหมือนใครจริง ๆ

“เขี้ยวอ่ะเฮีย....หนูแค่มาดูเผื่อจะช่วยอะไรได้บ้างว่างอีกตั้งสองสามชั่วโมง” มีนาจีบปากบ่นไม่จริงจังนักเพราะรู้ว่าเฮียแกพูดเล่นถึงคิดจริงก็ไม่จ่าย.....

เฮียกายเลิกคิ้วสงสัย เด็กนี่มันงกขนาดไม่ยอมว่างเลยหรือวะแต่ก่อนที่จะพูดอะไรออกไป อีกฝ่ายก็รีบพูดดักคอขึ้นมาเสียก่อน

“ฟรีเฮีย...วันนี้มีนแถม” เธอบอกอย่างใจป้ำเดี๋ยวจะหาว่าคนอย่างเธองกจนเกินเหตุ

“โอ้โห....หูเฮียฝาดหรือเปล่าวะเนี่ยไอ้มีนใจดีจะทำงานให้ฟรี.......แต่ไม่ต้องหรอกไปนั่งดี ๆ อย่าเกะกะก็พอ” เฮียกายจับหัวเด็กสาวเขย่าอย่างเอ็นดูก่อนจะเดินผ่านไป

มุมหนึ่งไม่ไกลจากตรงนั้นกันต์ดนัยมีนัดกับเจษฎาและพี่คนสนิท พอดีเขาออกมารับโทรศัพท์ลูกความจึงทันได้เห็นสองคนเข้าพอดี....เขาหลบหลังกระถางหมากแดงต้นใหญ่จึงได้ยินบทสนทนาที่แสดงความสนิทสนมของทั้งคู่อย่างชัดเจน ฟังแล้วเกิดอาการคันหัวใจยุบยิบก่อนจะก้าวออกมาแสดงตัวด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับ

“มีนา!!...” สุ้มเสียงดังราวฟ้าผ่าแข่งกับเสียงดนตรีสด

“พี่กันต์!!...” มีนาหน้าเหวอเหมือนหัวใจกระเด็นไปอยู่ที่ตาตุ่ม.......เจอได้ไงวะเนี่ย ซวยแล้วมีนาไม่น่าซ่าออกมาข้างนอกเลยพับผ่าสิ......

...............................

โอ้ย !! เรียกเบา ๆ ก็ได้ลูกฉ๊านนนหัวใจจะวาย.....

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel