บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 อยากได้ต้องได้

EP06

“พูดบ้าอะไรของพี่”

“ฉันไม่ได้บ้า”

“ถ้าไม่ได้บ้าก็คงจะประสาท” พูดจบมิเกลก็พยายามใช้แรงผลักร่างหนาออกเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการของเขา ฟีฟ่าที่เห็นท่าทางของเธอเอาแต่พยายามจะหลบหนีก็นึกสนุก

“ฉันไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นฉันแค่จำเธอได้… มิเกล” พอได้ยินคำพูดนั้นพร้อมกับรอยยิ้มเอาชนะที่ผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อมิเกลก็แทบจะเข่าทรุดสิ่งที่เธอพยายามจะปิดบังมาตลอดเขามารู้ได้ง่ายดายแบบนี้เลยหรอ

“พี่คงจำผิดแล้ว” เธอพยายามที่จะโกหกต่อเพราะไม่อยากให้เขาจำได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามการที่มาเจอแฟนเก่าแสนเลวคนนี้มันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเธอเลย

“ทำไมฉันจะจำแฟนตัวเองไม่ได้” ฟีฟ่าเลิกคิ้วถามแล้วออกแรงกดเขียนเรียวให้ชิดกับผนังเขาไม่สนใจเลยว่าใครจะเดินผ่านและมองมาทางนี้สิ่งที่เขาสนใจคือผู้หญิงตรงหน้าที่พยายามปิดบังตัวตนอยู่

“ใครเป็นแฟนพี่” ดวงตาคู่สวยที่ถูกบดบังด้วยแว่นหนาถามกลับถึงแม้จะถูกปิดบังด้วยแว่นแต่ฟีฟ่าก็จำดวงตาคู่นี้ได้เพราะเขามองมันอยู่ตลอดระยะเวลาเจ็ดเดือน

“แฟนเก่าก็ได้”

“จะอะไรก็ช่างแต่ฉันไม่อยากเจอหน้าพี่” มิเกลบอกพร้อมกับออกแรงที่จะสะบัดแขนออกจากมือหนาอีกครั้งและสิ่งที่เธอพูดออกมามันยิ่งทำให้ฟีฟ่ารู้สึกท้าทายตัวเองขึ้นมา มีผู้หญิงหลายคนต้องการกลับมาคืนดีกับเขาแต่ผู้หญิงคนนี้แตกต่าง

“ทำไม… กลัวตกหลุมรักเหมือนเดิมหรอ”

“เพราะเกลียดต่างหาก” คำนี้ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาชาวาบเกิดมาเขาไม่เคยมีใครพูดคำนี้ใส่แต่แล้วยังไงเขาไม่ได้สนใจขนาดนั้นสิ่งที่ต้องการคือเซ็กส์จากเธอสักครั้งก็เท่านั้นเอง

“แบบนี้สินะถึงชอบหลบหน้า”

“ใช่… รู้แล้วก็ปล่อยสักที”

“โอเค ฉันไม่ชอบบังคับขืนใจใคร” พูดจบฟีฟ่าก็ยอมปล่อยมือออกจากเเขนเล็ก มิเกลมองหน้าเขาด้วยสายตาเกลียดชังก่อนจะรับหมุนตัวแล้วเดินหนีราวกับว่าการอยู่ใกล้เขามันเป็นสิ่งน่ารังเกียจ

ฟีฟ่ามองตามเรือนร่างเล็กที่รีบเร่งฝีเท้าหนีจนร่างของเธอลับสายตาเขาก็เดินกลับมาที่โต๊ะด้วยสีหน้าปกติไม่ได้รู้สึกผิดหวังอะไรที่เข้าหามิเกลขนาดนั้นแล้วเธอยังดื้อดึงที่จะปฏิเสธแถมยังพูดคำว่าเกลียดใส่อีกด้วย

“ไปไหนมา” มาทีนที่เห็นฟีฟ่าเดินกลับมาที่โต๊ะเอ่ยถามเขานั่งดื่มคนเดียวเกือบครึ่งชั่วโมงได้

“ทักทายคนรู้จัก” ฟีฟ่าตอบอย่างไม่ใส่ใจนักเป็นจังหวะเดียวกันกับที่มิเกลเดินผ่านผู้คนออกไปจากผับทำให้สายตามาทีนมองตาม

“คนเมื่อกี้หรอ”

“ใช่” ชายหนุ่มเอ่ยตอบแล้วหันมาสนใจเครื่องดื่มในมือตนเองต่อสายตาของเขาก็มองข้อความจากอินตราแกรมเด้งขึ้นมาไม่หยุดเป็นระยะแต่ฟีฟ่าก็ไม่คิดจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาตอบ

“ไม่ใช่สเปกนิ”

“ไม่เคยอยากเข้าหาใครเพราะเซ็กส์หรอ” ฟีฟ่าเอ่ยถามแล้วมองเพื่อนที่อายุเกิดก่อนตนเองแต่คำตอบที่ได้ก็ทำให้เขาแทบจะระเบิดหัวเราะออกมา

“ไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้น”

“พูดติดตลกไปได้” เขาส่ายหัวไปมาไม่เชื่อกับสิ่งที่มาทีนพูดทำไมเขาจะไม่รู้ว่านิสัยของมาทีนเป็นยังไงเขาแค่ยังไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเท่านั้น ขนาดน้องสาวของเขาที่ตามจีบตามตื๊อมาสองปีมาทีนยังไม่สนใจทั้งที่นีน่าเป็นผู้หญิงสวยน่ารักและเป็นที่หมายปองของผู้ชายหลายคน

“มันคือความจริง” มาทีนตอบแล้วกวาดสายตามองบริเวณทั่วผับต่อที่เขาไม่เข้าหาผู้หญิงคนไหนเพราะยังไม่เจอใครที่ถูกใจต่างหากและผู้หญิงที่เขาจะเข้าหาจะไม่ใช่เพราะต้องการแค่เซ็กส์แน่นอนต้องเป็นที่เขาสนใจจริงๆ เท่านั้น

เวลาล่วงเลยผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงทั้งสองก็ตัดสินใจกลับเพราะไม่อยากดื่มหนักวันนี้แค่มาดื่มผ่อนคลายหลังจากการบินกลับมาเฉยๆ ฟีฟ่าเดินกลับมาที่รถของตนเองแล้วสอดตัวเข้าไปนั่งข้างใน

ปลายนิ้วเคาะลงที่พวงมาลัยแล้วครุ่นคิดอะไรบางอย่างก่อนจะกดโทรศัพท์แล้วส่งรูปของมิเกลไปให้เอ็มเจพร้อมกับทิ้งข้อความ ไม่นานเอ็มเจก็ส่งข้อความกลับมาทำให้รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา

__________________

-มิเกล-

ฉันนั่งมองตนเองผ่านกระจกภายในห้องด้วยสีหน้าเรียบนิ่งพร้อมกับความคิดอะไรบางอย่างในสมอง ทำไมพี่ฟีฟ่าถึงกล้าพูดออกมาแบบนั้นเขาไม่สำนึกอะไรกับความเลวตนเองในอดีตเลยหรอแต่ถึงยังไงเขาจะเข้ามายุ่งหรืออะไรก็ตามสิ่งเดียวคือต้องห้ามตนเองกลับไปหวั่นไหวอีก

ฉันนั่งอยู่กับความคิดของตนเองสักพักก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะหยิบกระเป๋ามาคล้องบ่าแล้วเดินออกมาจากห้องเพื่อที่จะเตรียมตัวไปเรียน มาถึงป้ายรถเมล์ก็ขึ้นไปนั่งรอเวลาจนมาถึงมหาลัยและสิ่งแรกที่มาถึงมหาลัยคือฉันจะนั่งอยู่ในห้องเรียนเป็นคนแรกเสมอ

“มิเกล อาจารย์ที่ปรึกษาให้ตามไปพบ” ในขณะที่ฉันนั่งฟังเพลงเหมือนทุกวันอยู่มะตูมก็เดินเข้ามากับเพื่อนแล้วมายืนอยู่หน้าโต๊ะ

“อืม” ฉันตอบแค่นั้นก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องเพื่อที่จะไปพบอาจารย์ที่ปรึกษาที่อยู่ตึกอื่น ไม่ต้องถามอาจารย์ฉันก็พอจะรู้ว่าเป็นเรื่องอะไร

“เชิญนั่งก่อนสิ”

“…” อาจารย์บอกฉันเลยหย่อนตัวนั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้าอาจารย์ที่ปรึกษาโดยไม่ได้มองหน้าท่านเลย

“รู้ใช่ไหมว่าเธอค้างค่าเทอมกับทางคณะมากี่เทอมแล้ว”

“รู้ค่ะ”

“สองเทอมแล้วแต่เธอยังไม่จ่าย” และมันก็ถูกอย่างที่อาจารย์พูดฉันไม่ได้จ่ายค่าเทอมมาสามเทอมแล้วเพราะหาเงินไม่ทันอย่างที่เห็นชีวิตฉันมันลำบากกว่าที่คิดหาเงินได้บ้างไม่ได้บ้างขนาดข้าวบางวันก็ต้องอดแต่ที่ฉันสงสัยคือรุ่นพี่ปีอื่นที่เขาค้างชำระหลายเทอมกว่านี้ถึงไม่ถูกเรียกพบแค่ถูกเตือนของฉันมันพึ่งสองเทอม

“หนูทราบค่ะ”

“หามาคืนภายในอาทิตย์หน้าทันไหมเพราะอาทิตย์หน้าทางคณะจะเริ่มเช็คแล้ว”

“คงไม่ทันค่ะ ขอเวลาหน่อยได้ไหมคะ” เวลาแค่อาทิตย์กับเงินเก็บค่าเทอมอีกหลายบาทไม่มีทางที่จะหาทันได้ไม่รู้ว่าทางคณะกลั่นแกล้งอะไรฉันรึเปล่าจู่ๆ ถึงมาเร่งเอาแบบนี้ทั้งที่เทอมก่อนก็เช็คแต่ไม่ได้มีกำหนดที่ต้องเอาคืน

“ทางคณะเขาต้องการถ้าเธอให้ไม่ได้ก็ต้องลาออก”

“ต้องลาออกเลยหรอคะอาจารย์”

“อาจารย์ทำตามผู้ที่ก่อตั้งคณะนี้ อาจารย์ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ” อย่างที่รู้ว่ามหาลัยแห่งนี้ถูกก่อตั้งโดยตระกูลปรเวทซึ่งหลานชายของตระกูลนั้นก็คือเพื่อนพี่ฟีฟ่าคณะธุรกิจการบินที่เปิดสอนที่เดียวกันกับคณะอื่นมีแค่ที่นี้และทุนสร้างทั้งหมดและการก่อตั้งคณะก็คือรุ่นคุณปู่ของพี่ฟีฟ่าที่เสียชีวิตไปแล้วปัจจุบันอำนาจสูงสุดอยู่ที่พ่อของเขาเหมือนเป็นการร่วมกันของสองตระกูล

เพราะทุกคนที่จบจากคณะนี้จะได้รับการเข้าทำงานที่สายการบินไวน์โอเช่ียนทั้งหมดโดยจะมีการสอบวัดคะแนนอีกครั้ง คณะธุรกิจการบินจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับคำสั่งของมหาลัยเรียกง่ายๆ คือเป็นคณะที่แตกต่างจากคณะอื่น

“แล้วหนูต้องทำยังไงคะ หนูหาไม่ทันแน่ๆ”

“มีสองทางคือเธอต้องหาให้ทันไม่งั้นก็ลองติดต่อกับคุณไทเกอร์ดูคนที่จะตัดสินทุกอย่างได้ ไม่งั้นก็ลูกชายของเขา”

“ค่ะ” ฉันตอบออกไปแล้วออกแรงจิกกระโปรงแน่นไม่รู้ว่าการหาทางติดต่อกับคุณไทเกอร์หรือหาเงินมาใช้ค่าเทอมให้ทันทางไหนมันจะเป็นไปได้มากกว่ากันยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวจนต้องจิกเล็บลงที่ขาตนเองแรงๆ

____________________

ฟีฟ่านายจะเล่นตลกอะไรกับน้องห้ะะะะะ

ในเรื่องนี่จะมีทั่งตัวละครเดิมในเรื่องก่อนๆ และตัวละครใหม่เพิ่มมานะคะ

สำหรับใครที่เข้ามาอ่านใหม่เดี๋ยวไรท์จะแจ้งให้ทราบไปด้วยน๊าาา???

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel