ตอนที่ 7 เนื้อจ่อปากเสือ
EP07
ตึก ตึก ตึก…
เสียงฝีเท้าเล็กกระทบกับพื้นบันไดของชั้นสุดท้ายของดาดฟ้าบนตึกเรียนมิเกลเดินขึ้นมาอย่างเชื่องช้าพร้อมกับอยู่ในความคิดของตนเอง เธอยืนอยู่หน้าประตูก่อนจะเอื้อมมือไปบิดลูกประตูแต่ก็ปรากฏว่ามันไม่ได้ล็อกมิเกลจึงเปิดเข้าไปข้างใน สายตาของเธอเหลือบมองเห็นแผ่นหลังบางของใครบางคนที่นั่งหันหลังหย่อนขาอยู่ผู้หญิงคนนั้นยังไม่รู้ตัวว่ามิเกลเปิดประตูเข้า
ดวงตาไร้ความรู้สึกช่างใจแล้วมองอยู่สักพักว่าจะเดินเข้าไปดีมั้ยเพราะเธอเองอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ แต่มิเกลก็เลือกที่จะเดินเข้าไปแล้วปิดประตูลงเบาๆ เธอเดินเข้าไปหยุดอยู่ข้างหลังมุกดาแล้วเอ่ยถามขึ้นมา
“มานั่งอะไรตรงนี้” พอได้ยินเสียงเอ่ยทักสอดแทรกเสียงลมพัดแรงขึ้นมามุกดาก็หันกลับมามองมิเกลถอดหูฟังที่ชอบเสียบอยู่ตลอดเวลาออกแล้วเก็บไว้ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้คนที่อยู่ก่อน
“มิเกลล่ะ มาที่นี้ทำไมหรอ” มุกดาทนความสงสัยไม่ได้จึงถามออกไปเธอนึกว่าตนเองรู้จักที่ตรงนี้แค่คนเดียวแต่กลับไม่รู้เลยว่าสถานที่ตรงนี้เป็นสถานที่ประจำของมิเกลเธอชอบมาที่นี้เพียงลำพังอยู่ประจำ
“มันที่ประจำของฉัน” นํ้าเสียงเรียบนิ่งตอบแล้วหย่อนตัวนั่งลงห้อยขาข้างมุกดาแววตาที่เต็มไปด้วยความกลุ้มใจมองออกไปยังท้องฟ้ากว้างใหญ่ตรงหน้าปล่อยให้สายลมและความสงบบำบัดความรู้สึกฟุ้งซ่านของตนเองตอนนี้และท่าทางมิเกลก็ไม่ต่างอะไรจากคนข้างกายที่เหมือนจะมีปัญหาของตนเองเช่นกัน บรรยากาศระหว่างสองสาวเงียบสงบจนมุกดาชวนคุยทำลายความเงียบขึ้นมา
“มิเกลชอบมานั่งตรงนี้หรอ”
“อืม สบายใจดี” หญิงสาวขานรับในลำคอแล้วหางตาก็เหลือบมองเห็นมุกดาที่กำลังยกมือเช็ดคราบนํ้าตาบนแก้มใสออกมิเกลมองนิ่งไม่รู้จะปลอบใจยังไงเธอเองก็พึ่งสังเกตว่าคนข้างกายร้องไห้
“แต่นี้มันยังเช้าอยู่เลยนะ”
“ความเงียบมันเหมาะสมที่สุดแล้ว… สำหรับการที่เราต้องการฟังเสียงตัวเอง” และมันก็ใช่… ตอนนี้เธอต้องการหาทางออกเรื่องค่าเทอมและเรื่องผู้ชายคนนั้นเลยต้องพาตัวเองมาที่นี้และใช้สมองคิดแต่ดูเหมือนยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวมากกว่าเดิมจะหาทางติดต่อคนใหญ่โตแบบนั้นได้ยังไงหรือต้องลองหาเงินให้ครบทุกวิธีก่อน?
“ก็คงจะแบบนั้น พออยู่คนเดียวก็กล้าที่จะคิดเรื่องของตนเองมากขึ้น โฟกัสตัวเองมากขึ้น” เสียงของมุกดาสอดแทรกเข้ามาในห้วงความคิดของเธออีกครั้งมิเกลดึงสติตนเองกลับมาแล้วมองใบหน้าสวยหวานที่มีแผลตรงศีรษะและตอนนี้ข้อเท้าของเธอก็ได้แผลใหม่มาอีกแล้วจนอดที่จะสงสัยไม่ได้เลยถามออกไป
“แผลที่หัวยังไม่หายได้แผลใหม่มาเพิ่มแล้วหรอ”
“เผลอทำแก้วแตกแล้วเหยียบหน่ะ” มุกดาตอบทำให้มิเกลไม่ได้พูดอะไรกลับไปเธอปล่อยให้บรรยากาศตรงนี้กลับมาเงียบอีกครั้งก่อนจะหยิบหูฟังขึ้นมาเสียบใหม่แล้วกดเพลงโปรดของตนเองพร้อมกับปิดเปลือกตาลงแล้วกลับมาอยู่ในห้วงความคิดของตนเองอีกครั้ง มุกดาที่เห็นแบบนั้นเธอเลยเลือกที่จะลุกขึ้นแล้วเดินออกมาจากบริเวณบนดาดฟ้าทันที
มิเกลรับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวของคนตัวเล็กแต่ทว่าเธอกลับไม่ได้สนใจมันแล้วใช้สมองนึกถึงวิธีที่จะแก้ไขปัญหาของตนเองอยู่หากจ่ายค่าเทอมไม่ทันจะถูกไล่ออกแบบนั้นความฝันของเธอก็คงดับวูบการที่จะได้เป็นบุคลากรด้านการบินได้โลดแล่นอยู่บนท้องฟ้าและใช้ภาษาในการต้อนรับแขกมันจะดับลงแล้วจริงๆ หรอความฝันในวัยเด็ก หรือว่าเธอต้องสู้ไม่ว่าจะยอมแลกด้วยอะไรก็ตาม…
เวลาหลังเรียกเรียน…
หลังจากที่มิเกลเรียนคลาสสุดท้ายของวันนี้เสร็จเธอก็เตรียมเก็บของใส่กระเป๋าใบโปรดของตนเองพร้อมกับเหลือบมองเวลาบนหน้าจอมือถือเครื่องเก่าด้วยความเร่งรีบเพราะหญิงสาวต้องการจะไปที่ร้านคาเฟ่ที่ตนเองทำงานพาร์ทไทม์อยู่ที่นั้นโดยมีรุ่นพี่คนสนิทเป็นผู้จัดการร้านเลยตั้งใจว่าจะเข้าไปคุยเรื่องนี้ดูหลังจากที่คิดมาทั้งวัน
มิเกลใช้เวลาเดินทางมาที่ร้านคาเฟ่สำหรับกลุ่มพวกนักศึกษาและวัยมัธยมปลายไม่นาน สายตามองเข้าไปในร้านที่เป็นกระจกใสก็เห็นร่างของไหมมือเล็กจึงผลักประตูเข้าไปข้างไหนแล้วเดินตรงไปหาเธอทันที
“อ้าว… วันนี้ไม่ใช่เวรเธอไม่ใช่หรอ ทำไมถึงมาที่ร้านล่ะ” พอเห็นร่างน้องสาวคนสนิทเดินเข้ามาไหมที่กำลังวุ่นวายอยู่หน้าเตาอบขนมปังก็ถามขึ้นโดยที่สายตาไม่ได้เหลือบมองมิเกลเลยแม้แต่น้อย
“ฉันมีเรื่องอยากคุยกับพี่”
“สำคัญไหมพอดีพี่ยุ่งๆ”
“สำคัญ”
“งั้นไปรอพี่ที่สวนหลังร้านนะ เดี๋ยวห้านาทีจะตามออกไป” ไหมก็ยังคงตอบเธอโดยที่ยังไม่มองหน้าเหมือนเดิมก่อนที่มิเกลจะยอมเดินออกไปยังทางประตูหลังร้านเพื่อรอไหมซึ่งหลังร้านก็ถูกจัดเป็นสวนเล็กๆ สไตล์มินิมอลทั่วไป ร่างเล็กยืนกระชับสายกระเป๋าแน่นเพื่อรอไหมจนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปห้านาทีไหมก็รีบผลักประตูหลังร้านออกมาทันที
“พี่ขอโทษนะที่ให้รอนาน ช่วงนี้ลูกค้าเยอะหน่อย”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“แล้วเกลมีเรื่องอะไร”
“ฉันขอเบิดเงินเดือนล่วงหน้าเดือนนี้ได้ไหม ฉันต้องใช้เงินจริงๆ” มิเกลไม่รอช้าเธอรีบเข้าประเด็นในทันทีซึ่งคำพูดนั้นมันก็ทำให้ไหมแสดงสีหน้างุนงงออกมาเล็กน้อย
“เกลจะเอาไปทำอะไร”
“เรื่องค่าเทอมค่ะ”
“กี่บาท”
“เกือบหนึ่งแสนได้…” เธอตอบด้วยสีหน้าหมดหวังทำให้ไหมที่ได้ยินแบบนั้นก็อดที่จะสงสารรุ่นน้องคนสนิทไม่ได้
“แล้วเบิกแค่เดือนเดียวมันจะพอหรอ”
“ไม่… แต่เกลจะพยายาม” แน่นอนว่าเงินจากงานพาร์ทไทม์มันไม่กี่พันไม่มีทางพออยู่แล้วมิเกลแค่จะเอามารวมกับเงินเก็บตนเองที่เหลืออยู่เกือบสามหมื่นซึ่งแบบนั้นมันก็ไม่พออยู่ดี
“ให้พี่ช่วยไหม”
“ไม่เป็นไร ฉันรบกวนครอบครัวพี่เยอะแล้วแค่พี่ให้ฉันเบิกเงินเดือนเดือนนี้ก็พอ” มิเกลรีบปฏิเสธเพราะลำพังภาระของไหมก็มากพอแล้วค่าใช้จ่ายของเธอเองในแต่ละเดือนก็แทบจะไม่พอถึงแม้จะเป็นถึงผู้จัดการร้านก็เถอะไหมมีอีกห้าชีวิตที่ต้องดูแลเธอเป็นเสาหลักของครอบครัวไปแล้ว
“งั้นพี่จะเบิกแล้วโอนเข้าไปในบัญชีเราแล้วกัน” ไหมถอนหายใจออกมาแล้วยอมทำตามสิ่งที่มิเกลต้องการเธอเป็นคนที่พูดคำไหนคำนั้นถึงจะคะยั้นคะยอยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือยังไงก็ไม่รับอยู่ดี
“ขอบคุณนะคะ”
“ไม่เป็นไรคนกันเองมีอะไรให้พี่ช่วยได้ตลอด”
“ค่ะ”
“กลับไปได้แล้ว พี่ก็จะเข้าร้านต่อ” ไหมยื่นมือมาตบบ่าเล็กแล้วยิ้มให้ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในร้านมิเกลมองตามจนสุดสายตาก็เลือกที่จะเดินออกมาทางหลังร้านแทน ในขณะที่เธอเดินกลับก็เหม่อลอยถึงจำนวนเงินที่เหลือทำยังไงถึงจะพอและในจังหวะนั้นเอง…
ปี้ดดดด…!!
“!!” เสียงแตรรถแลมโบว์สีดำดันทั้งคันบีบดังลั่นถนนพร้อมกับเบรกขวางทางเดินมิเกลจนเธอถอยหลังหลบแทบไม่ทัน มิเกลมองไปที่รถคันนั้นด้วยความโมโหเพราะแบบนี้มันจงใจแกล้งกันชัดๆ คนตัวเล็กเลยเลือกที่จะเดินเข้าไปเคาะกระจกรถไม่นานเจ้าของรถก็เปิดประตูออกมาแล้วมองเธอ
“พี่?”
“ไง…”
“จงใจใช่มั้ย”
“ถ้าตอบว่าใช่”
“ทำไปเพื่ออะไร”
“อยากรู้ก็ขึ้นรถสิ” พูดจบฟีฟ่าก็โบ้ยหน้าไปที่รถคันหรูของตนเอง ชายหนุ่มยืนเอนกับกระโปรงรถพร้อมกับมือหนาที่ล้วงกระเป๋ากางเกงยูนิฟอร์มของคณะ
“ฉันไม่ขึ้น” มิเกลตอบเสียงแข็งและพยายามจะเดินหนีแต่คำพูดนั้นก็ทำให้เท้าเล็กหยุดชะงัก
“จะโดนไล่ออกอยู่แล้วยังอวดดี”
“พี่รู้เรื่องนี้ได้ยังไง” ใบหน้าไร้อารมณ์ที่เริ่มเกิดความฉุนเฉียวหันกลับไปจ้องมองใบหน้าหล่อที่กำลังยิ้มร้ายส่งมาให้เธอ
“ก็บอกแล้วว่าอยากรู้ให้ขึ้นรถ” พอได้ยินคำพูดนั้นอีกรอบและความอยากรู้ร่างเล็กก็ไม่รอช้า ขาเรียวก้าวฉับๆ ไปที่รถแล้วสอดตัวเข้าไปนั่งข้างในอย่างจำใจ ฟีฟ่ามองตามด้วยความพอใจก่อนจะเดินอ้อมไปยังฝั่งของคนขับแล้วนั่งลงประจำที่ตามมาด้วยเสียงปิดประตูรถ
“จะตอบฉันได้รึยัง เรื่องนี้มันเป็นฝีมือพี่ใช่ไหม?” ฟีฟ่าไม่ตอบเขาสตาร์ทรถและพูดคำคำนึงออกมา
“ไปคุยกันที่คอนโดฉัน…”
_____________
ยัยมิเกลพลาดอีกแล้ววววว หลงกลขึ้นรถไปกับฟีฟ่าจนได้
แล้วเนื้อจ่อปากเสือแบบนี้จะรอดไหม หุหุ
อย่าลืมกดถูกใจและเพิ่มลงคลังนะคั้บบบ???
กำลังใจเล็กน้อยของนักเขียนตัวน้อย???
