ตอนที่ 5 มีเซ็กส์กับฉันมั้ย
EP05
“ช่วงนี้ยังเครียดๆ อยู่รึเปล่าคะ มีเรื่องอะไรมารบกวนจิตใจบ้างไหม” เสียงของคุณหมอฐิติมาคุณหมอที่ดูแลเรื่องโรคประจำตัวของเธอเอ่ยขึ้นในขณะที่มิเกลกำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของคุณหมอภายในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ
“มีนิดหน่อยค่ะ”
“พยายามอย่าคิดเรื่องอะไรที่มันกระทบจิตใจมากนะคะ แล้วก็ทานยาอย่างต่อเนื่องด้วย” คุณหมอฐิติมาเป็นคุณหมอด้านนี้โดยเฉพาะรักษาโรคซึมเศร้าโดยโรงพยาบาลที่มิเกลเรียกรักษาเป็นโรงพยาบาลเอกชนเพราะเธอไม่ชอบที่ที่ผู้คนพลุ่งพล่านและอยากได้รับการรักษาแบบเป็นส่วนตัวเลยเลือกโรงพยาบาลเอกชนมากกว่ารัฐบาล
“คุณหมอคะ”
“ว่าไงคะ”
“ถ้าเรามีเรื่องอะไรที่มันกระทบจิตใจควรหลีกเลี่ยงออกมาจากตรงนั้นใช่ไหมคะ” มิเกลเอ่ยถามด้วยสีหน้าเหม่อลอยเธอนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อวานที่ได้ทำให้เจอกับฟีฟ่ามากกว่าปกติและยิ่งได้เจอหน้าเขาเหตุการณ์เลวร้ายมันก็ย้อนเข้ามาในหัว
“ขึ้นอยู่กับว่าสิ่งนั้นเป็นตัวบุคคลหรือสถานที่สิ่งของค่ะ”
“บุคคลค่ะ”
“พยายามอย่านึกเรื่องเลวร้ายนั้นก็พอค่ะ ลืมมันไปแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น” แล้วเธอจะทำได้ยังไงกันล่ะในเมื่อจุดเปลี่ยนของชีวิตเธอมันมาจากผู้ชายคนนั้นผู้ชายที่เปลี่ยนชีวิตเธอตลอดไป
“ฟังแล้วอาจจะไม่เข้าใจนะคะแต่การเก็บมาคิดมันยิ่งกระตุ้นความเจ็บปวดให้มากขึ้น”
“หนูจะพยายามค่ะ” พอได้ฟังที่คุณหมออธิบายมิเกลก็ตอบออกไปแบบนั้นมันดูเหมือนยากแต่เธอจะลองพยายามดูถึงจะเจอหน้าเขาแต่ก็จะลองไม่นึกมัน
“ดีมากค่ะ งั้นเรามาทำแบบทดสอบกันเลยดีมั้ยคะ”
“ค่ะ” เธอพยักหน้าตอบแล้วคุณหมอฐิติมาก็เดินไปหยิบเอกสารแบบทดสอบผู้ป่วยโรคซึมเศร้ามาพร้อมกับปากกาวางไว้ที่หน้ามิเกลเพื่อให้เธอทำแบบทดสอบเพราะตอนแรกที่เธอได้เข้ารับการรักษาแบบทดสอบของเธอมันถึงขีดสีแดง
ชีวิตของเธอตั้งแต่เกิดมันไม่ได้สวยงามเหมือนกับเด็กคนอื่นเกิดมาก็ไม่เคยเจอหน้าพ่อแม่ใช้ชีวิตเหมือนเด็กเร่ร่อนขาดความอบอุ่นจนกระทั่งได้มาอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
พอโตพอที่จะรู้เรื่องลงก็พยายามศึกษาหาความรู้รับทำงานทุกอย่างเก็บเล็กเก็บน้อยเพื่อเรียนหนังสือแต่ดีที่เธอเป็นเด็กหัวไวเลยทำได้ให้เข้ามาเรียนในกรุงเทพ ชีวิตทุกอย่างในวัยเรียนมันแย่มากโดนกลั่นแกล้งสารพัด
จนมาเจอกับเขาด้วยความไม่ตั้งใจคิดว่าทุกอย่างมันคือความรักแต่สุดท้ายแล้วมันคือความพลาดพลั้งครั้งใหญ่หลวงในชีวิตของเธอและอาการของโรคซึมเศร้ามันก็เป็นมานานแล้วจนกระทั่งมิเกลยอมมาตรวจช่วงเรียนจบมัธยมปลาย
“เป็นยังไงบ้างคะ”
“เสร็จแล้วค่ะ”
“ถ้าเสร็จแล้วคุณหมอขอดูหน่อยนะ” มิเกลยื่นเอกสารแบบทดสอบให้คุณหมอฐิติมาแล้วเธอก็เริ่มเช็คดูก่อนจะพยักหน้าแล้วยิ้มออกมาด้วยท่าทางใจดี “อาการดีขึ้นนะ เก่งมากๆ แล้วค่ะ”
“ต่อไปนี้ก็กินยาอย่างต่อเนื่องนะหาอะไรทำให้จิตใจผ่อนคลาย ถ้ารู้สึกไม่ดีให้โทรมาหาคุณหมอได้”
“ขอบคุณค่ะ”
“ไว้เจอกันใหม่นะ” คุณหมอยิ้มให้ก่อนที่มิเกลจะยกมือไหว้ขอบคุณแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้เธอกระชับสายกระเป๋าที่คล้องบ่าแล้วเดินออกมาจากห้องตรวจก่อนจะตรงดิ่งกลับไปที่หอทันที
พอมาถึงห้องก็หย่อนตัวนั่งลงที่ประจำแล้วกวาดสายตาอ่านโพสต์อิสที่เขียนบอกค่าใช้จ่ายของเดือนนี้ ค่าเทอมที่ค้างไว้ ค่าห้อง ค่ากิน เหลือหลายอย่างจนต้องคิดคำนวณและเงินมันก็คงไม่พอแน่
คิดได้แบบนั้นมิเกลก็ไม่รอช้าเธอเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วเปลี่ยนชุดให้มิดชิด ร่างเล็กสวมอยู่ในชุดเสื้อผ้าขายาวและถักเปียเพื่อเก็บผมเธอเก็บใบปลิวเข้ากระเป๋าก่อนจะเดินออกจากห้องไปแล้วตรงดิ่งมายังสถานที่บันเทิงที่เรียกว่าร้านเหล้า
ซึ่งเวลาตอนนี้ก็เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้วเป็นช่วงที่คนกำลังมาเที่ยวทันทีซึ่งร้านเหล้าร้านนี้ก็เป็นร้านชื่อดังของเด็กมหาลัย มิเกลชอบมาแจกใบปลิวโปรโมทร้านอาหารกึ่งบาร์ที่นี้ถึงแม้จะได้เงินน้อยนิดแต่ก็ต้องทำ
“ขอโทษนะคะ รับใบปลิวหน่อยนะคะ”
“ไม่ๆ น่ารำคาญ”
“ขอโทษค่ะ” พอโดนปฏิเสธไปแบบนั้นเธอก็ก้มหน้าขอโทษแล้วเดินไปแจกที่โต๊ะอื่นซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่มิเกลโดนแบบนั้นแต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไรแจกในร้านเหล้าไม่ได้ก็ไปแจกที่อื่นให้หมดตามกำหนดก็พอแต่ละวันจะหมดก็กินเวลาไปไม่เท่ากัน
เวลาล่วงเลยผ่านไปนานพอสมควรใบปลิวถูกรับไปไม่ถึงครึ่งทุกคนมองเธอราวกับเป็นตัวประหลาดจนมิเกลต้องเดินออกมานั่งพักที่ทางเดินของห้องนํ้าแต่ในขณะที่เธอกำลังนั่งอยู่นั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา
“เห้ยน้อง”
“…” มิเกลเงยหน้าขึ้นแล้วมองสายตาของเธอบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าต้องการอยากรู้ว่าเรียกเธอรึเปล่า
“น้องนั่นแหละ”
“มีอะไรคะ”
“เห็นเดินแจกใบปลิวนานแล้วอยากได้เงินรึเปล่า” ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนเป็นรุ่นพี่ของเธอไม่กี่ปีและน่าจะเรียนคนละมหาลัยเพราะมิเกลไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน พอผู้ชายแปลกหน้าพูดแบบนั้นเธอก็เงียบและเหมือนจะลุกขึ้นแล้วเดินหนี
“พี่แค่มีวิธีดีๆ มาแนะนำที่จะช่วยให้น้องแจกใบปลิวหมด”
“จะรับใบปลิวแบบนั้นหรอ”
“ตามพี่มาสิ” พูดจบผู้ชายคนนั้นก็เดินนำมิเกลไปด้วยความที่เธอไม่ได้คิดไปถึงเรื่องพวกนั้นเพราะคงไม่มีผู้ชายที่ไหนอยากได้ตนเองเลยยอมตามไป ชายแปลกหน้าเดินนำมิเกลมาที่ชั้นสองแล้วเปิดประตูเข้าไปยังห้องวีไอพี สิ่งแรกที่มิเกลเห็นคือกลุ่มผู้ชายที่กำลังมีเซ็กหมู่อยู่ชายห้าหญิงหนึ่งและผู้หญิงคนที่สองคือเธอ
“ทำบ้าอะไร” มิเกลพยายามจะหมุนตัวกลับแต่ถูกดันตัวเข้าไปข้างในเธอเลยพยายามที่จะช่วยตัวเองและทิ้งใบปลิวในมือ
“เอาหน่า ไม่ให้ทำฟรีหรอกจ่ายเป็นเงินก็ได้ คนของเราไม่พอ”
“ไอ้เวรเอ้ย! ปล่อย!” มิเกลพยายามดิ้นสุดแรงแต่ก็สู้แรงผู้ชายไม่ได้ ร่างกายของเธอถูกผลักลงบนโซฟาที่ว่างอยู่
____________
“มองอะไร” อีกด้านของสถานบันเทิงที่เดียวกันมาทีนก็เอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นสายตาของฟีฟ่ามองไปยังทางเดินขึ้นชั้นสองอยู่ตลอดหลังจากที่เขาสังเกตมองมิเกลตั้งแต่เธอแจกใบปลิวอยู่แล้ว
“เดี๋ยวมา” ชายหนุ่มเอ่ยตอบเพียงเท่านั้นก็ลุกจากโต๊ะแล้วเดินขึ้นไปยังชั้นสองทันที ฟีฟ่ากวาดสายตามองไปทั่วบริเวณก่อนจะมายืนอยู่บริเวณหน้าห้องนั้นแล้วใช้เท้าผลักเข้าไป
“เห้ย!” หนึ่งคนในนั้นเห็นก็ร้องขึ้นมาเสียงดังทำให้ทุกคนหยุดการกระทำ “ทำไมไม่ล็อกประตูวะ”
ฟีฟ่าไม่ได้ตกใจกับภาพที่เห็นชายหนุ่มเข้ามากระชากร่างของผู้ชายที่ขึ้นคร่อมร่างมิเกลออกอย่างแรงแล้วต่อยเข้าไปที่หน้าพอร่างของผู้ชายคนนั้นเสียหลักมิเกลที่สภาพล่อแหลมก็ลุกขึ้นแล้ววิ่งออกจากห้อง
“เด็กคนนี้กูจอง” พูดจบแค่นั้นก็ปิดประตูเสียงดังแล้วเดินตามร่างมิเกลไปก่อนจะกระชากแขนนเล็กเอาไว้แล้วผลักเธอชิดกับผนังของโถงทางเดิน
“ปล่อย!” มิเกลพยายามจับเสื้อตนเองเอาไว้แล้วมองหน้าฟีฟ่าด้วยสายตาแข็ง
“ฉันมาช่วยควรจะขอบคุณ”
“ขอบคุณ”
“เปลี่ยนคำขอบคุณมาเป็นมีเซ็กส์กับฉันแทนดีมั้ย?"
________________________
แก้ข่าวคำว่าไม่เคยเข้าหาใครทันมั้ยฟีฟ่า
มิเกลเป็นโรคซึมเศร้าจากเหตุการณ์ในวัยเด็กตั้งแต่เกิดลากยาวมาถึงปัจจุบันเลยนะคะ
จะมีพาร์ทอดีตชีวิตของนางเอกอยู่ ส่วนฟีฟ่าก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้นางเอกเป็นแบบนี้แต่จะเพราะเรื่องอะไรนั้นมีมากกว่าการบอกเลิกแน่นอนคร่าาา???
รอติดตามได้ในเรื่องน๊าาาาา???
