ตอนที่ 16 ดูหนังเป็นเพื่อน
EP16
“หือ… แบบนี้ดีเลยค่ะ จะได้มีคนไปไหนมาไหนด้วย” มิวนิคพูดต่อด้วยความดีใจทั้งที่ความจริงแล้วเธอก็ไม่ค่อยชอบหรอกที่ฟีฟ่าเอาผู้หญิงขึ้นรถมาด้วยถึงจะเป็นรุ่นน้องก็เถอะ แต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะมิเกลมองดูแล้วไม่ใช่สเปกของฟีฟ่าเลยแถมยังดูจืดชืดไร้รสชาติ
"ใช่แล้ว หนูเลือกรอบหนังไว้เลยนะ อยากดูเรื่องอะไร รอบกี่โมง”
“ได้ค่ะ^^” เธอตอบออกมาด้วยความดีใจก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดเลือกรอบหนังด้วยความตั้งใจส่วนมิเกลที่นั่งเงียบฟังบทสนทนาของทั้งสองเธอได้แต่มองออกไปนอกกระจกรถโดยมีสายตาฟีฟ่าจ้องมองผ่านกระจกหน้าเป็นระยะ
“เป็นไงบ้างคะ มีเรื่องที่อยากดูมั้ย”
“อื้มมม มีหนังผีอีกสามสิบนาทีค่ะ แล้วก็หนังโรแมนติกรอบหนึ่งทุ่ม” มิวนิคตอบในขณะที่สายตาจ้องมองหน้าจออยู่
“งั้นเอารอบที่จะถึงไหม ดูเสร็จจะได้กินข้าวเย็นพอดีหลังจากนั้นเราค่อยช็อปปิ้งต่อ”
"เป็นความคิดที่ดีค่ะ” ทั้งสองหันหน้ามองกันด้วยรอยยิ้มหางตามิเกลเหลือบเห็น ก่อนที่มือหนาจะเลื่อนมาจับที่หน้าขามิวนิคทำเหมือนในรถมีแค่สองคน ถ้าจะมาเดทกันทำไมไม่มากันสองคนนะ จะเอาเธอมาด้วยทำไม?
มิเกลนั่งเงียบแล้วเกิดความสงสัยขึ้นมาภายในใจ ตอนคบกับเธอเขาก็ทำแบบนี้แหละพออะไรเริ่มเปลี่ยนจากหน้ามือก็กลายเป็นหลังมือ บทสนทนาบนรถเริ่มเงียบขึ้นมาจนกระทั่งมิวนิคเป็นคนพูด
“พี่ฟีฟ่าคะ จอดปั๊มข้างหน้าให้หนูหน่อยได้มั้ยคะ พอดีหนูอยากเข้าห้องน้ำ”
“ได้ครับ พี่รอบนรถนะ”
“โอเคค่ะ” ฟีฟ่าเลี้ยวรถเข้ามาจอดในปั๊มที่อยู่ไม่ไกลนักแล้วมิวนิคก็เปิดประตูลงจากรถไปทำให้บนรถเหลือเพียงฟีฟ่าและมิเกลสองต่อสอง พอร่างมิวนิคหายเข้าไปในห้องน้ำแล้วฟีฟ่าจึงเริ่มพูดขึ้นมา
“ทำไมถึงไม่รับฟอลไอจี”
“ไม่มีเหตุผลอะไรต้องรับ”
“รู้ไหมเธอเป็นคนแรกที่ปฏิเสธ” ตั้งแต่เขาเข้ามาเรียนที่นี้ฟีฟ่าก็ไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนปฏิเสธเขามาก่อน กระทั่งมาเจอกับมิเกลรู้สึกเสียหน้าอยู่ไม่น้อยจนอยากเอาคืนเธอให้เข็ด
“แต่ถ้าอยากให้รับมากจะถือว่าทำบุญ” เธอตอบหน้านิ่ง ไอจีของเธอไม่ได้ลงอะไรอยู่แล้วรับฟอลเขาไว้คงไม่เสียหาย อีกอย่างไม่อยากให้ฟีฟ่าต้องหาเรื่องอะไรมาพูดกับตนเองแบบนี้อีกแล้ว
“เธอด้านชากับฉันมากกว่าเดิมเยอะเลยนะ”
“คงเพราะไม่ได้รู้สึกเหมือนเดิม”
“แน่ใจ… ว่าไม่ได้รู้สึกเหมือนเดิม” ปากหยักถามสายตาก็ยังคงจ้องมองใบหน้ามิเกลผ่านกระจกหน้ารถในขณะที่เธอเองก็จ้องมองเขาเหมือนกัน
“อืม”
“มาพิสูจน์กันมั้ย ว่าเธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉันแล้ว”
“อยากทำอะไรก็ทำ…”
“เพราะงั้นตอนเจอฉันอย่าหลบหน้า ต่อไปนี้ต้องทำตามที่ฉันสั่งทุกอย่าง”
“…” มิเกลเงียบเธอเหนื่อยที่จะตอบโต้กับเขาเต็มทนแล้ว ได้แต่นั่งกอดอกแล้วถอนหายใจออกมา
“เข้าใจไหม”
“แบบนี้ไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยหรอ”
“ไม่หรอก ฉันไม่ได้ห้ามเธอทุกอย่างนิ หรือทำไมได้? กลัวโกหกตัวเองไม่ได้หรอ”
“เปล่า… เอาที่พี่ทำแล้วเลิกยุ่งกับฉันได้” มิเกลตอบตัดความรำคาญออกไป เขาอยากจะทำอะไรก็ทำอยากจะพิสูจน์อะไรก็พิสูจน์ถ้ามันทำแล้วเขาจะเลิกยุ่งและยุติความสัมพันธ์กับเธอสักที “ฉันขอแค่อย่างเดียว อย่าลํ้าเส้นที่เราตกลงกันไว้ก็พอ”
“ฉันไม่เคยลํ้าเส้นใครอยู่แล้ว”
“แบบนั้นก็ดี…” มิเกลตอบแล้วบทสนทนาระหว่างทั้งสองคนก็เงียบลงเพราะร่างของมิวนิคกำลังเดินมาที่รถ
ความสัมพันธ์เอฟดับบิวบี… ข้างนอกเป็นคนรู้จักกันปกติบนเตียงเป็นเพื่อนรู้ใจ ห้ามมีความรู้สึกรัก รู้สึกหวง และไม่มีสิทธิ์มาห้ามหรือเรียกร้องอะไรถ้าอีกฝ่ายจะไปหรือเริ่มความสัมพันธ์ใหม่กับใคร นั้นคือกฎของมัน ซึ่งฟีฟ่าไม่ได้ทำผิดกฎเขาแค่อยากพิสูจน์ว่าเธอยังรักเขาอยู่ไหมเพราะงั้นมิเกลจะปล่อยให้เขาพิสูจน์แค่ไม่ทำผิดกฎที่เป็นอยู่ก็พอ ส่วนเธอก็จะยอมให้เขาพิสูจน์หรืออยากทำอะไรก็ทำเพราะอยู่ในข้อตกลงระหว่างทั้งสองแล้ว
หากฟีฟ่าไม่ผิดกฎเธอก็จะไม่ผิดกฎเหมือนกัน แม้ต้องฝืนต่อสู้กับความรู้สึกตนเองก็ตาม…
“คุยอะไรกันหรอคะ สีหน้าเครียดเชียว” มิวนิคเปิดประตูเข้ามาแล้วหย่อนตัวนั่งลงที่เดิม สายตาของเธอกวาดมองคนทั้งสองด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไร พี่แค่ชวนเกลไปดูหนังด้วยกัน”
“แล้วเกลไปไหม”
“ไป” คำตอบนี้ไม่ใช่เจ้าของชื่อที่ถามแต่เป็นฟีฟ่าที่ตอบแทน ซึ่งมิเกลก็ไม่ได้พูดอะไรแทรกขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้คิดอะไรแล้วจึงต้องยอมไป ต่อจากนี้จะเห็นจะเจออะไรก็ต้องนิ่งเข้าไว้
“ดีเลย ดูหนังผีด้วยคงน่ากลัว มีเพื่อนอีกคนจะได้คลายความกลัวได้บ้าง”
“พี่ก็คิดแบบนั้นค่ะ” คนสองคนคุยกันแล้วฟีฟ่าก็เริ่มเคลื่อนรถออกมาจากปั๊มนํ้ามันเพื่อตรงดิ่งไปที่ห้างต่อ ขับต่อมาได้อีกไม่นานก็มาถึงห้างสรรพสินค้า
ฟีฟ่าเลี้ยวรถหาที่จอดนานพอสมควรก็ได้ที่จอดก่อนที่สองคนนั่งหน้าจะเปิดประตูลงมาจากรถเสียก่อน มิเกลจึงเปิดประตูรถลงตามแล้วเดินอยู่ข้างหลังคู่หนุ่มสาวที่ทำเหมือนเธอเป็นดั่งอากาศ
พอมาถึงที่หน้าโรงหนังก็เดินไปกดบัตรมาสามบัตรซึ่งตอนนี้ที่หน้าโรงไม่มีคนเลย มิเกลได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้แล้วกวาดสายตามองบริเวณรอบ
“ทำไมไม่มีคนเลยละคะ” ความสงสัยทำให้มิวนิคถามฟีฟ่าขึ้นมา มิเกลได้แต่ยืนนิ่งแล้วรอฟังคำตอบ
“พี่เหมาโรง จองรอบนี้เพื่อหนูเลย”
“จริงหรอคะ”
“จริงสิ”
“งั้นเราเข้าไปกันดีกว่าค่ะ~~” มิวนิคพูดด้วยนํ้าเสียงระรื้นก่อนจะควงแขนฟีฟ่าไปที่หน้าทางเข้า ก่อนจะเดินไปฟีฟ่าก็ไม่ลืมหันมามองกดดันเธอ ทำให้ท้าวเล็กที่จะก้าวหนีแล้วจำต้องเดินตามเข้าไป โดยโรงที่ฟีฟ่าเหมาเป็นโรงที่สามเป็นหยังสยองขวัญ ที่นั่งเป็นโซนกลางสูงขึ้นมาพอสมควร ซึ่งตอนนี้จอภาพยนต์กำลังขึ้นโฆษณะเพื่อเตรียมฉาย
มิวนิคเดินเข้าไปนั่งก่อนตามด้วยฟีฟ่าส่วนมิเกลก็เลือกที่จะนั่งตํ่าลงมาอีกโดยเว้นช่องว่างไว้หนึ่งแถวเพราะไม่อยากให้ตนเองเป็นก้างขวางคอเลยทำแบบนั้น…
“หนาวจังเลยค่ะ”
“เดี๋ยวพี่ห่มผ้าให้”
“ขอบคุณนะคะ” มิเกลได้ยินบทสนทนาของทั้งสองแล้วเธอก็นั่งนิ่งสายตาจ้องมองไปที่จอภาพยนต์ มือก็จิกลงที่กระโปรงแน่น มิเกลกลัวความมืดและเธอก็กลัวในที่ที่คนน้อยแบบนี้ด้วยเรื่องนี้ฟีฟ่ารู้ดีแต่เขาก็ยังจะพาเธอมาด้วย มิเกลเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เขาจงใจแกล้งหรือลืมไปแล้วกันแน่
ในตอนที่จอกำลังฉายโฆษณาอยู่นั้นสมองเธอก็เริ่มอื้ออึงจากเสียงดังของโรงหนัง ไม่กี่นาทีต่อมาหนังก็เริ่มฉาย มิเกลยกแขนขึ้นกอดตนเองไว้แล้วพยายามทน มองไปทางไหนก็ว่างเปล่าไปหมดเพราะสองคนนั้นนั่งอยู่ข้างบน
…ทำไมกันนะ ทำไมถึงต้องทำแบบนี้กับเธอ มิเกลได้แต่นั่งนิ่งเหงื่อเริ่มผุดตามกรอบหน้าทั้งที่อากาศเย็น
ตึ้ง!
“…น่ากลัวจัง” เสียงหนังกำลังฉายไปเรื่อยๆ พร้อมกับเสียงกรี๊ดของมิวนิค พอหนังฉายไปถึงช่วงที่สว่างก็ทำให้เห็นเงาของทั้งสองเงาที่กำลังจูบกัน…
“อื้อ!” เสียงครางอื้ออึงนั้นถึงแม้จะอยู่ในโรงแต่ก็เป็นช่วงที่หนังเงียบเลยทำให้ได้ยินเสียง ผ่านไปสักพักเงาก็หยุดลง
“อย่าพึ่งค่ะ ในโรงนะคะ อดทนอีกนิดนะ” เสียงมิวนิคพูดขึ้น ดึงความสนใจมิเกลได้เป็นอย่างดีเธอไม่ได้สนใจที่หนังแล้วแต่สนใจบทสนทนาของสองคนนั้นมากกว่า อยากจะลุกขึ้นเต็มทนแต่ก็กลัวลุกขึ้นแล้วจะเห็นภาพบาดตานั้น และคงถูกฟีฟ่าเย้ยหยันว่าทนไม่ได้ที่เห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่นจนต้องลุกหนี มิเกลไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนั้น…
“พี่อยากกลับแล้ว”
“เสียเงินเหมาโรงทั้งที ดูก่อนนะคะพี่ฟีฟ่า”
“งั้นก็ได้…” เงาของสองคนนั้นกำลังพลอดรักกันในโรงหนังอีกแล้วมิเกลปิดเปลือกตาลงเพื่อปิดภาพบาดตาพวกนั้น เธอนั่งหลับตาแน่นพยายามทำให้หูโฟกัสที่เสียงของภาพยนตร์ จนกระทั่งเวลาผ่านไปนานสองนานมิเกลรู้สึกตัวขึ้นมาอีกทีก็เห็นหนังกำลังฉายอยู่ เธอเผลอหลับไปพอตื่นมาก็กวาดสายตามองหาสองคนนั้นก็ปรากฎว่า ไม่อยู่แล้ว
“อึก…” พอรู้ว่าตนเองอยู่คนเดียวความหวาดกลัวมันก็โถมเข้ามาทันที จากที่มีคนอยู่ด้วยกลัวไม่ถึงครึ่งตอนนี้ความกลัวกลับเต็มร้อย ขาเล็กพยายามพาร่างกายลุกขึ้นแต่ด้วยความที่หนังเป็นหนังผีถ่ายในที่มืดเลยมีฉากมืดเยอะพอสมควร พอจะลุกขึ้นภายในโรงก็มืดภาพความทรงจำตอนถูกขังในห้องเก็บของในวัยเด็กฉายเข้ามาจนเกิดเป็นภาพหลอน…
มิเกลมองไปทางไหนก็เจอแต่ความมืดภาพสะท้อนจากโรงฉายเป็นเงาน่ากลัวจนร่างเล็กสั่นเทาขาแข็งทื่อ เธอเหมือนติดอยู่ในความมืดอันกว้างไกลไปไหนไม่ได้ จนหลับตาลงอีกครั้งแล้วทรุดตัวนั่งลงตามทางเดินแล้วซบหน้าลงที่ขา มันถูกชันขึ้นแล้วแขนกอดตนเองแน่น
มิเกลร้องไห้ออกมาด้วยความกลัวจนกระทั่งหนังที่ฉายจบลงแสงสว่างก็เปิดขึ้น ใบหน้าที่เปียกชุ่มด้วยคราบนํ้าตาเงยขึ้นแล้วกวาดมอง ตอนนี้มีพนักงานเดินเข้ามาเช็คความเรียบร้อยและสายตาของพนักงานก็มองมาที่เธอ
“คุณคะ…” ไม่เรียกเปล่าพนักงานก็เดินเข้ามาหามิเกล
“…”
“เป็นอะไรรึป่าวคะ” เมื่อเห็นสีหน้ามิเกลไม่โอเคเลยถามออกไปด้วยความกังวล
“ไม่เป็นไรแล้วค่ะ… “พอมีคนเข้ามาเธอก็รู้สึกดีมากขึ้นบวกกับแสงในโรงที่สว่างแล้ว
“เดี๋ยวฉันพาออกไปค่ะ” แล้วพนักงานก็พามิเกลเดินออกมานอกโรงหนัง แล้วพยุงร่างเธอนั่งลง
“สองคนที่มาด้วยกัน เขาออกมาตั้งแต่ตอนไหนคะ”
“ตั้งแต่สามสิบนาทีแรกแล้วค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ไม่เป็นไรแน่นะคะ”
“…ฉันไม่เป็นไร”
“งั้นดิฉันขอตัวก่อนนะคะ”
“ค่ะ” มิเกลตอบแค่นั้นร่างของพนักงานก็เดินกลับไปทำหน้าที่ของตนเองต่อ ส่วนเธอก็ได้แต่นั่งจิกเล็บลงกระโปรงพรางนึกโกรธคนสารเลวคนนั้นขึ้นมา รู้ทั้งรู้ทำไมถึงทำ เขาจะทำอะไรกับผู้หญิงคนนั้นก็ได้เธอพอทนแต่ทำแบบนี้มันถึงชีวิต มันไม่แรงไปหน่อยหรอ?
________________
แกเห็นน้องเป็นตัวอะไรไอ้เวรรรรรรรรร!!
อย่าให้ถึงคราวน้องเอาคืนนะ จะรอสมนํ้าหน้า ให้มันกระอักเลือดตายไปเลย???
อย่าลืมกดเลิฟและเพิ่มลงคลังนะค่าทุกคนนน
***ในโรงมีกล้องวงจรแต่อย่างที่บอกมันมืดแล้วอิพระเอกมันไม่ค่อยแคร์ด้วย ไม่ซีกันเนาะ4555566666
ส่วนพระเอกโทรจองตอนไหนภายในตอนไนท์ไม่ได้เขียนนางโทรจองตอนไหนสักตอนที่ขับรถอยู่แล้วกันเนาะ;-;
