บท
ตั้งค่า

ประกาศครั้งที่เจ็ด เคียงข้าง [2/3]

ประกาศครั้งที่เจ็ด

เคียงข้าง [2/3]

“มึงมาดิ มึงเข้ามาดิไอ้ติณณ์! ทำไมวะ มึงหวงหรือไง ฮึ...กูรู้นะว่ามึงชอบมุกอะ แต่โทษทีว่ะมุกเขาไม่เลือกมึง!”

“ไอ้เหี้ยเนย์!” ติณณ์สะบัดออกจากการเกาะกุมและตรงเข้าไปหาเนย์อีกครั้ง เขารัวหมัดสาดความโกรธไม่ยั้งแรง จนเพื่อนในโดมคนอื่นที่เพิ่งตั้งสติได้ก็รีบวิ่งเข้ามาจับตัวติณณ์เอาไว้และแยกทั้งสองคนให้ออกจากกัน

“พอแล้วติณณ์! ติณณ์พอเถอะ กลับกันเถอะ” ม่านมุกที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ข้างนอกรีบวิ่งเข้ามาจับต้นแขนของติณณ์เอาไว้ เธอกำลังร้องสะอื้นน้ำตาไหล แต่ก็รวบรวมแรงทั้งหมดเพื่อรั้งติณณ์ไม่ให้พลั้งทำอะไรไปมากกว่านี้อีก

“มุก...” ไม่ใช่เสียงติณณ์แต่เป็นของเนย์ที่เอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ “มุกมาได้ไง!”

ก่อนหน้านั้นเขาได้รับข้อความจากแฟนสาว เธอบอกว่าวันนี้ต้องรีบกลับเลยไม่สามารถมานั่งเฝ้าเขาที่โดมได้

“ไอ้เหี้ยเนย์ ไอ้สัตว์นรก!”

“พอแล้วติณณ์ พอเถอะ”

“มุก ทำไมมุกถึง...”

“มุกได้ยินหมดแล้วค่ะพี่เนย์ ได้ยินทุกอย่าง” ม่านมุกสบสายตามองแฟนหนุ่มที่ยังคงอยู่ในอาการตกใจ เธอเอ่ยเสียงสั่นเครือเพราะแรงสะอื้น แต่คำพูดชัดถ้อยชัดคำจนคนที่ฟังได้ยินชัดเจนว่าเธอหมายถึงอะไร

“มุก พี่ไม่...”

“พี่แม่งโคตรเหี้ยเลยอะ!”

“มุก มันไม่ใช่แบบนั้น คือ...คือพี่แค่พูดเล่นกับเพื่อน พี่แค่...” เนย์เดินเข้าไปจับข้อมือของหญิงสาวเอาไว้และพยายามหาข้อแก้ตัวให้พ้นผิด แต่ทว่าสัมผัสนั้นกลับถูกสะบัดออกอย่างนึกรังเกียจตามมาด้วยเสียงตวาดกร้าวตอกหน้า

“แล้วคนเมื่อวานที่พี่ไปรับเขาล่ะคือใคร คนที่อยู่โรงเรียน A คนนั้นน่ะคือใคร!”

“มุก...”

“พี่แม่งโคตรเหี้ยเลย เพื่อนพี่แม่งก็เหี้ย เหี้ยแม่งทุกคน!”

“มุกฟังพี่ก่อน”

“อย่ามาจับ!” หญิงสาวกดเสียงย้ำเตือนส่งกลับไปอีกครั้ง มันเป็นการเตือนความอดทนของตัวเองที่เริ่มลดน้อยลงทุกที “ไปเถอะติณณ์ กลับกันเถอะ”

ทั้งที่ตอนแรกเธอตั้งใจจะมาถามเขาถึงเรื่องเมื่อวานที่เห็นเขาไปรับผู้หญิงคนอื่น แต่ไม่คิดเลยว่าจะมาได้ยินสิ่งที่เขาพูดคุยกับเพื่อนถึงเรื่องตัวเองอย่างสนุกปาก

เธอยืนร้องไห้เสียใจเพาะไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้ ส่วนติณณ์เองที่ตั้งใจจะมาเป็นเพื่อนเธอกลับยั้งความอดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ถึงได้ตรงปรี่เข้าไปทำร้ายเนย์เมื่อได้ยินคำพูดชั่ว ๆ ที่กำลังพูดถึงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง

ติณณ์ผลักตัวออกจากเพื่อนของเนย์และรีบวิ่งเดินตามม่านมุกออกไป แต่ก็ไม่วายหันกลับมาพร้อมกับยกนิ้วกลางและยักคิ้วยียวนส่งกลับไป

ตอนแรกเขาเดือดดาลจนแทบอยากทำร้ายอีกฝ่ายมากกว่านี้ แต่พอเห็นว่าพี่สาวเพื่อนเด็ดขาดและหนักแน่นกับความรู้สึกตัวเองเขากลับรู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูก

เขารู้ว่าเธอเจ็บแต่เธอก็รักตัวเองมากกว่า คนอย่างม่านมุกไม่มีทางจมอยู่กับความโง่เง่าเพื่อลดคุณค่าของตัวเองแน่นอน

“อะ...โอ๊ย! ติณณ์เจ็บนะมุก เบา ๆ หน่อยดิ!”

“โอ๊ย! มุกเบาหน่อย”

“ฉิบ! ติณณ์เจ็บอ่ามุก โอ๊ย!”

เสียงร้องโอดครวญดังระงมเมื่อมือเล็กกดย้ำหนัก ๆ ลงมาที่แผลช้ำบริเวณมุมปาก

คนถูกกระทำร้องบอกด้วยความน่าสงสารมากเพียงใด หากแต่มันกลับไม่ได้ทำให้เจ้าของข้อมือขาว ๆ นั้นหยุดลงได้เลย หนำซ้ำยังกดน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ตอนนี้ทั้งสองคนนั่งอยู่ที่สวนสาธารณะ หลังจากที่รีบออกมาจากโดมกีฬาเพราะกลัวมีคนมาเห็นว่าทะเลาะวิวาทกัน ม่านมุกก็แวะซื้อยาเพื่อทำแผลให้กับติณณ์ และสถานที่ที่เลือกก็คือที่แห่งนี้เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก

“โอ๊ย! พอแล้วมุก พอแล้ว ไม่ต้องทำแล้ว!” ติณณ์คว้าหมับจับที่ข้อมือเล็กให้ออกห่างจากใบหน้าของตัวเองทันที ส่วนมืออีกข้างที่ว่างก็จับประคบที่แผลเนื่องจากรู้สึกระบมเสียยิ่งกว่าการถูกหมัดหนักซัดเข้ามาซะอีก

“ทีงี้มาร้องนะ ทีตอนไปต่อยเขาไม่เห็นจะร้องแบบนี้เลย” ม่านมุกถอนหายใจยาวเหยียดและชักมือตัวเองกลับมาวางประสานที่หน้าขา เธอตั้งใจจะใส่ยาและทำแผลให้กับติณณ์ แต่พอเห็นร่องรอยแล้วก็อดที่จะรู้สึกหมั่นไส้ไม่ได้

จำได้ว่าตอนนั้นติณณ์ห้าวห่ามมากแค่ไหน ปากดีปากร้ายเกินใคร แถมยังเป็นฝ่ายเริ่มก่อนอีกด้วย โชคดีแค่ไหนที่ไม่มีครูเข้ามาเห็น ไม่อย่างนั้นติณณ์คงถูกเรียกขึ้นกิจการและถูกลงโทษเป็นแน่

“มุกมือหนักอ่า มือเล็ก ๆ แบบนี้แต่หนักอย่างกับเท้าช้างเลย โอ๊ย!” คำร้องในส่วนท้ายดังขึ้นเพราะม่านมุกหยิกเข้าที่แก้มของติณณ์อย่างไม่ออมมือ

ก็ดูเขาเปรียบเทียบสิ หาว่าเธอมือหนักอย่างกับเท้าช้างทั้งที่เธอหวังดีจะทำแผลให้แท้ ๆ

ทำคุณบูชาโทษชัด ๆ เลย!

“ก็ตอนนั้นมันโกรธนี่นา ติณณ์ไม่รู้สึกอะไรหรอก รู้แค่ว่าติณณ์ต้องได้ต่อยปากไอ้เนย์ให้ได้”

ดวงตาหวานสบประสานมองเพื่อนสนิทน้องชาย เธอมองเห็นความหนักแน่นและกล้าหาญของเขา ซึ่งมันก็ทำให้เธอนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อหนึ่งปีก่อนที่ตัวเองถูกลวนลามบนรถเมล์

ในขณะที่ผู้โดยสารมากมายเพิกเฉยแต่เป็นเขาที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอด้วยตัวคนเดียว

ตอนนั้นเขายังเป็นแค่นักเรียนชั้นมอสามที่มีส่วนสูงมากกว่าเธอไม่กี่เซน เขายังเด็กและควบคุมอารมณ์เองไม่ค่อยได้เพราะฮอร์โมนของวัยรุ่น จนมันยาวนานมาถึงตอนนี้ที่เขาอยู่ในชั้นมอสี่ที่ส่วนสูงพุ่งกระโดดไปไกลมากกว่าสิบเซน ระยะเวลาเพียงหนึ่งปีเขาเปลี่ยนไปมาก แต่ความหวังดีที่เธอได้รับจากเขายังคงเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง...

“มุกยิ้มไรอะ ติณณ์หลอนนะเฮ้ย” ติณณ์มองซ้ายมองขวาเพื่อหาต้นตอของรอยยิ้มจากพี่สาวเพื่อน เมื่อกี้เธอยังวีนเหวี่ยงหน้าตึงอยู่เลย แต่เพียงไม่กี่วินาทีใบหน้ากลับประดับด้วยรอยยิ้มเสียอย่างนั้น

“ขอบคุณนะติณณ์” ม่านมุกหัวเราะเมื่อเห็นหน้าของติณณ์ที่บ่งบอกถึงความกลัว

นอกจากไม้เรียวของแม่ก็มีผีนี่แหละที่ติณณ์กลัวมากที่สุด

“ขอบคุณไร มุกโอเคป้ะเนี่ย นี่เสียใจจนเพ้อไปแล้วเหรอ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel