ประกาศครั้งที่เจ็ด เคียงข้าง [3/3]
ประกาศครั้งที่เจ็ด
เคียงข้าง [3/3]
“ขอบคุณไร มุกโอเคป้ะเนี่ย นี่เสียใจจนเพ้อไปแล้วเหรอ” คราวนี้ติณณ์ถึงกับขนลุก เขายื่นมือไปอังหน้าผากของหญิงสาวทันที กลัวว่าเธอจะเสียใจจากการเลิกรากับแฟนจนสมองกลับ
“อะไรเนี่ย ขอบคุณเรานั่นแหละ ขอบคุณมากนะที่ช่วยพี่ไว้อีกแล้ว จำได้ไหมว่าวันที่เจอกันวันแรกเราก็ช่วยพี่ไว้บนรถเมล์”
“อ๋อ ก็นึกว่าอะไร ติณณ์เต็มใจน่า”
“แต่ยังไงก็อยากขอบคุณอยู่ดีนั่นแหละ แล้วยิ่งต้องมาเจ็บตัวเพราะพี่อีก พี่ยิ่งรู้สึกผิดเลยเนี่ย” ม่านมุกก้มหน้าลงเพราะรู้สึกอย่างที่พูดออกไปจริง ๆ
ถึงแม้จะโกรธที่ติณณ์อารมณ์ร้อนจนใช้กำลัง แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าการที่ติณณ์ออกหน้าและจัดการแฟนหนุ่มด้วยหมัดของเขา เธอเองก็รู้สึกสะใจมาก แถมยังรู้สึกอีกด้วยว่าถึงแม้ว่าเธอจะเจ็บปวดแตกสลายแต่เธอยังมีเขาที่อยู่เคียงข้างกัน
“อย่ารู้สึกผิดเลย เรื่องอะไรที่ทำให้มุกเสียใจ ติณณ์เองก็คงอยู่เฉยไม่ได้เหมือนกันนั่นแหละ” เสียงทุ้มเอ่ยบอกขณะที่ใบหน้าก็หันมองคนข้างกายที่กำลังช้อนสายตามอง
ม่านมุกแปลกใจกับคำพูดนั้น เธอสบสายตามองเขาเพื่อค้นคว้าหาคำตอบบางอย่าง แต่ก็เลือกที่จะเก็บไว้กับตัวเองเพราะเธอไม่มั่นใจ และติณณ์เองก็เหมือนจะล่วงรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรเขาเลยพูดอีกหนึ่งประโยคถัดมาที่ทำเอาหญิงสาวเบิกตากว้าง
“ติณณ์ดีใจมากนะที่มุกเลิกกับไอ้เนย์ เพราะติณณ์คิดว่าอย่างน้อยตอนนี้ติณณ์ก็มีโอกาสแล้ว”
นอกจากคำพูดของเขาก็คงเป็นสายตาคมขลับที่จดจ้องมองกัน ม่านมุกไม่รู้เลยว่าติณณ์พูดแบบนี้นั้นหมายถึงอะไร เพราะในใจของเธอตอนนี้มีคำตอบเดียวว่าเขากำลังข้ามเส้นของคำว่าพี่น้อง
“ติณณ์ชอบมุก” ติณณ์เอ่ยย้ำอีกครั้งเพื่อยืนยันในสิ่งที่เธอคิด
เขาไม่อยากอ้อมค้อมหรือเสียเวลาอีก ในเมื่อตอนนี้เธอหลุดพ้นจากคนเลว ๆ นั้นแล้วเขาเองก็คงมีโอกาสมากขึ้นที่จะได้เป็นคนสำคัญในชีวิตของเธอ
“ติณณ์...” เสียงเล็กสั่นเครือเบาบาง ม่านมุกพยายามตั้งสติและทวนคำพูดของเขาซ้ำ ๆ ว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นคือเรื่องจริงหรือความฝันกันแน่
นี่เธอกำลังถูกเพื่อนน้องชายบอกชอบอย่างนั้นหรือ?
“ติณณ์รู้ว่ามุกมองติณณ์เป็นแค่น้องชาย แต่ติณณ์ชอบมุกไง ติณณ์ไม่ได้อยากเป็นแค่นั้นอะ ขอโอกาสให้ติณณ์บ้างไม่ได้เหรอ”
ติณณ์รู้ดีว่าม่านมุกมองตัวเองในสถานะไหน เธอเห็นเขาเป็นแค่เพื่อนของน้องชายเท่านั้น ผิดกันกับตัวเขาที่รู้สึกดีกับเธอมาตั้งแต่แรกเจอเมื่อวันนั้นบนรถเมล์
ใช่...ติณณ์รู้สึกดี ๆ ของม่านมุกมาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันแล้ว
และใครเล่าจะคิดว่าเธอจะเป็นพี่สาวของเพื่อนสนิท ตอนนั้นเขาคิดว่าโชคชะตาเปิดทางให้ได้ใกล้ชิดกับพี่สาวมอปลายคนนี้มากขึ้น แต่ก็ดูเหมือนว่าจะคิดผิดไป เขาได้ใกล้ชิดและรู้จักเธอมากขึ้นก็จริง แต่มันก็ขีดเส้นกั้นแค่ในฐานะพี่น้องเท่านั้น
ติณณ์อาศัยโอกาสนั้นเข้าหาและใกล้ชิดเธอ หวังว่าสักวันเธออาจจะโอนอ่อนหวั่นไหวให้กันบ้าง แต่ทุกอย่างก็ดับสูญเมื่อเธอคบหากับรุ่นพี่มอหกที่ทั้งหล่อทั้งดี ติณณ์ยอมรับกับตัวเองอย่างไม่อายว่าเขาอิจฉาผู้ชายคนนั้น แต่ก็เหมือนว่าโชคชะตาจะเข้าข้างเขาอีกครั้งด้วยการเปิดเผยธาตุแท้ความเลวให้ม่านมุกเห็น
และในเมื่อวันนี้เธอได้เลิกราจบความสัมพันธ์กับคนคนนั้นแล้วเขาก็จะขอใช้โอกาสครั้งนี้เพื่อบอกให้เธอรู้ว่าเขารู้สึกยังไง
“ติณณ์ คือพี่...” หญิงสาวพูดอะไรไม่ออก เธอกำลังตกใจและสับสน แต่สิ่งที่มั่นใจก็คือความรู้สึกตัวเองว่าเธอมองเขาเป็นแค่น้องชายคนหนึ่ง
อาจจะมีบ้างที่เธอหวั่นไหวเมื่อได้ใกล้ชิด แต่ด้วยการขีดเส้นสถานะว่าเขาเป็นเพื่อนของน้องชายตัวเอง และรวมถึงความเจ้าชู้เจ้าเสน่ห์ของเขาเลยทำให้เธอไม่เคยคิดข้ามขั้นไปมากกว่าคำว่าพี่น้อง
ยอมรับว่าติณณ์เป็นคนที่ดีคนหนึ่ง หน้าตาดี นิสัยดี แถมอยู่ด้วยแล้วสบายใจ แต่เธอไม่ได้มองเขามากกว่าสถานะที่ขีดเส้นไว้
“อย่าเพิ่งปฏิเสธติณณ์สิมุก ให้โอกาสติณณ์หน่อยนะ ได้ไหมมุก ติณณ์ขอล่ะ” ติณณ์เอ่ยเสียงอ่อนลงพร้อมกับดวงตาออดอ้อนที่รู้ดีว่าใครต่อใครต่างก็พ่ายแพ้
เช่นเดียวกันกับม่านมุกที่เธอมักจะใจอ่อนให้กับเขาคนนี้ตลอด
“หรือว่ามุกไม่ชอบคนที่เด็กกว่าเหรอ แต่ติณณ์เด็กกว่ามุกแค่ปีเดียวเองนะ เอ๊ย! ปีครึ่ง นั่นแหละแค่ปีครึ่งเอง มุกเลยไม่ชอบติณณ์เหรอ”
“ไม่ใช่ ไม่เกี่ยวกันเลย แต่คือพี่มองติณณ์เป็นแค่น้องไง ก็พี่รู้จักติณณ์ในฐานะเพื่อนของน้องชายนี่นา พี่เลยไม่ได้มองไปมากกว่านั้น”
“งั้นแปลว่าเรื่องอายุก็ไม่เกี่ยงใช่ป้ะ โอเค งั้นแปลว่าข้อนี้ผ่าน”
“ดะ...เดี๋ยวสิ”
“แล้วมีอะไรอีก ติณณ์จะได้จำไว้จีบมุก”
“จะ...จีบเหรอ” ม่านมุกพูดไม่ได้ศัพท์แล้วเพราะสติหลุดลอยเตลิดไปไกลเกินกว่าสมองจะรับรู้ได้
“งั้นติณณ์ขอจีบมุกนะ มุกยังไม่ต้องชอบติณณ์ก็ได้ ติณณ์ไม่รีบหรอก แต่ติณณ์ขอจีบมุกตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปเลยนะ ติณณ์จะทำให้มุกเลิกมองติณณ์เป็นแค่น้องให้ได้เลยคอยดู!”
“เดี๋ยวสิ...”
“ให้โอกาสผมหน่อย รับรองว่าเปิดใจตอนนี้ รับประกันฟรีมีแฟนไทป์ลูกหมาไปเป็นหวานใจแน่นอน”
“ติณณ์ เดี๋ยวก่อน พี่ยังไม่...”
“ป้ะ กลับกันเดี๋ยวติณณ์ไปส่ง ติณณ์จะรีบกลับบ้านไปนอนเวลาจะได้ผ่านไปถึงพรุ่งนี้ไว ๆ” ร่างสูงหยัดตัวขึ้นพร้อมกับสะพายกระเป๋าพาดบ่า ท่าทางเขาขึงขังหนักแน่นมาก ในขณะที่ม่านมุกเหมือนคนสติหลุดจับใจความไม่ได้
ข้อมือเล็กถูกจับจูงและพาเดินมาที่รถมอเตอร์ไซค์ด้วยกัน ม่านมุกไม่รู้ตัวเลยว่าเธอขึ้นนั่งบนเบาะตอนไหน แล้วติณณ์ขับมาส่งถึงบ้านตอนไหน สติกลับคืนมาอีกทีก็ตอนที่ได้รับข้อความฝันดีจากเขา
เพิ่งเลิกกับแฟนมาหมาด ๆ แต่ดันมีไอ้เจ้าเด็กมอสี่มาบอกชอบและขอโอกาสจีบเฉยเลย!
