ประกาศครั้งที่เจ็ด เคียงข้าง [1/3]
ประกาศครั้งที่เจ็ด
เคียงข้าง [1/3]
ช่วงเวลาหกโมงครึ่งผู้คนในโรงเรียนก็เริ่มลดน้อยลงมากกว่าเวลาปกติ แต่ในโดมกีฬากลับเต็มไปด้วยนักเรียนที่ใช้พื้นที่สำหรับการฝึกซ้อม และมันก็ลากยาวไปจนมืดค่ำเนื่องจากอยู่ในช่วงใกล้แข่งขันระดับจังหวัดเพื่อชิงถ้วยรางวัล
และหนึ่งในนั้นก็มีเนย์ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมอหกที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ เขาไม่ใช่นักกีฬาของโรงเรียน แต่ก็มักจะมาเล่นบาสที่นี่เป็นประจำเนื่องจากเพื่อนหลายคนจะต้องอยู่ซ้อม
“พอได้แล้วมั้งไอ้เนย์ มึงเล่นเยอะกว่าคนที่ต้องแข่งอย่างกูอีก เห็นแล้วอายตัวเองว่ะ” เสียงเข้มตะโกนเรียกเนย์ที่ยังคงอยู่ในสนามร่วมกับนักบาสประจำโรงเรียนคนอื่น ๆ
เนย์ที่ได้ยินแบบนั้นก็เลี้ยงลูกและโยนส่งให้กับคนในทีม จากนั้นก็วิ่งเหยาะ ๆ เดินออกมาก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงที่พื้นพลางหยิบขวดน้ำในถังมาเปิดดื่ม
“แล้วมึงมานั่งอู้ไรตรงนี้วะ ไม่ไปซ้อมล่ะ”
“ไอ้ห่า! กูซ้อมมาตั้งแต่สี่โมงแล้วไหม ให้กูพักบ้างเหอะ”
“แล้ววันนี้น้องมุกไม่มาเฝ้ามึงเหรอวะ”
เนย์ไหวไหล่ เขาหยิบมือถือของตัวเองออกมาและแชตหาใครบางคนสลับกับการยกขวดน้ำขึ้นดื่ม แต่พอได้รับเสียงแจ้งเตือนรอยยิ้มก็หยัดขึ้นที่มุมปาก ก่อนที่เขาจะรีบพิมพ์ข้อความส่งกลับไปหา พานทำให้เพื่อนอีกสองคนที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ อดที่จะชะเง้อหน้าไปมองไม่ได้
“คุยกับใครวะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่”
“เสือก” เนย์ตอบแต่ยังคงพิมพ์ข้อความกับคู่สนทนา
“น้องพิมนี่หว่า เชี่ย! มึงไปคุยกับน้องเขาได้ไง”
“น้องพิมไหน น้องพิมมอสี่อะนะ”
พอมีคนหนึ่งพูดขึ้น อีกคนก็พูดตาม และกลายเป็นว่าเพื่อนทั้งสองคนของเนย์ต่างก็กรูหน้าเข้ามาชะเง้อมองบนหน้าจอมือถือที่กำลังสนทนากันอยู่
“จะน้องพิมไหนล่ะ ก็น้องพิมมอสี่ที่กูเคยเล่าไง”
“แล้วน้องมุกล่ะ มึงเลิกกับน้องเขาแล้วเหรอ” ถามกลับทันทีเพราะมั่นใจว่าเพื่อนคนนี้กำลังคบหากับม่านมุกที่อยู่ชั้นมอห้าอยู่ เมื่อวันก่อนก็ยังเห็นมานั่งเฝ้าถึงขอบสนาม ผ่านไปแค่สองวันแล้วต้องเลิกกันก็มองว่ามันรวดเร็วเกินไปหน่อย
“ยังไม่เลิก กูยังไม่ได้เลย จะให้รีบเลิกไปไหนวะ” เนย์หัวเราะและส่งสายตามองเพื่อนที่รู้ทันทุกความเคลื่อนไหว และเพียงประโยคนั้นที่พูดออกไป เพื่อนทั้งสองคนก็ต่างยิ้มหยันพยักหน้าเออออพร้อมเพรียงทันที
“มึงมันร้ายไอ้เนย์ แต่กับน้องมุกนี่มึงปิดดีลช้าจังวะ ปกติระดับมือแล้วแค่หนึ่งอาทิตย์ก็น่าจะได้แล้วไหม”
“หรือว่าน้องเขาไม่ง่ายวะ”
“ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก มุกแม่งเล่นตัวไปงั้นแหละ คอยดูเหอะอาทิตย์นี้กูต้องเอามุกให้ได้เลย มึงคอยดูแล้วกัน”
“โห สุดว่ะเพื่อนกู! มาบอกด้วยนะเว้ยว่าเด็ดไหม น้องมุกเขาขวัญใจกูเลยนะเว้ย ตอนแรกกูตั้งใจว่าจะจีบน้องเขา แต่มึงแม่งตัดหน้ากูซะได้ เพื่อนเหี้ย”
“เออจริง น้องเขาไม่น่าคบกับมึงเลยว่ะ ถ้าคบกับกูนะน้องเขาคงได้เจอคนดี ๆ อย่างกูไปแล้ว ไม่น่าเจอคนเหี้ยอย่างมึงเลย”
“สัส กูเพื่อนมึงไหมล่ะ ด่ากูซะเสียเลย”
“ฮ่า ๆ มึงไม่มีอะไรให้เสียแล้วเพื่อน แต่อย่าลืมมาเล่าให้ฟังนะเว้ยว่าน้องเขาเด็ดไหม สวย ๆ แบบนั้นหวังว่าคงไม่หลวมนะ”
“เออว่ะ น้องเขาเคยมายัง บางทีอาจจะโชกโชนกว่ามึงก็ได้นะเว้ยไอ้เนย์ ฮ่า ๆ”
“เห็นมุกตัวเล็ก ๆ แบบนั้นอึ๋มใช้ได้เลยนะเว้ย กูแอบมองมาก็คิดว่าน่าจะทะลักมือว่ะ จะเคยมาหรือยังกูก็ไม่สนแล้ว”
“จังไรจริงนะมึง ฮ่า ๆ”
เสียงหัวเราะเฮฮาดังไปทั่วทั้งโดมกีฬา บทสนทนาล้วนกล่าวถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่ตกอยู่ในหัวข้อเรื่องหยาบคายของกลุ่มชายที่เห็นเป็นเรื่องตลก โดยไม่ทันรู้ตัวเลยว่ามีคนยืนฟังและได้ยินคำพูดเหล่านั้นมาตั้งแต่ต้นแล้ว
“ไอ้เหี้ยเนย์ มึงทำแบบนี้ได้ไงวะ!”
หมับ!
ผลั้วะ!
“อึก” เนย์ถูกกระชากก่อนที่หมัดหนัก ๆ จะสวนเข้าที่ใบหน้าอย่างแรงจนร่างกายทรุดลงกับพื้น
“เฮ้ย! เหี้ยไรวะ” หนึ่งในนั้นตวาดกร้าวพร้อมกับผลักอกเจ้าของหมัดนั้นออก หากแต่มันกลับไม่ได้ทำให้ลดแรงโทสะลงได้เลยสักนิด
“ไอ้ติณณ์!” เนย์ยกมือขึ้นจับที่มุมปาก รู้สึกถึงความเจ็บปวดและรสชาติขมปร่าของเลือดที่คละคลุ้ง ครั้นเชยใบหน้าขึ้นมาตัวต้นเหตุก็เอ่ยเรียกชื่อออกมาเบา ๆ เพราะไม่คิดว่าคนที่สวนหมัดหนักมานั้นจะเป็นคนใกล้ชิดของแฟนสาวตัวเอง
“เออ กูชื่อติณณ์ กลัวลืมชื่อกูหรือไงวะ!” ติณณ์ตรงปรี่เข้าไปหวังจะต่อยซ้ำที่ใบหน้าอีกครั้ง แต่เพื่อนของเนย์กลับมาล็อกตัวเอาไว้ ทำให้เนย์ที่หยัดตัวขึ้นจากพื้นใช้โอกาสนั้นเอาคืน
“ไอ้เด็กเวร!”
ผลั้วะ!
เนย์ซัดเข้าที่ใบหน้าของติณณ์เต็มแรงจนเลือดไหลที่มุมปาก ร่างกายของติณณ์ยังคงถูกล็อกเอาไว้จึงไม่สามารถสวนกลับได้
“ไอ้เหี้ย มึงพูดหมา ๆ แบบนี้ได้ไงวะ มุกเป็นแฟนมึงนะเว้ย” ติณณ์ไม่ได้รู้สึกเจ็บ แต่เขาโกรธกับสิ่งที่ได้ยินจนอดทนไม่ไหวเข้ามาทำร้ายเนย์ไม่ทันควบคุมตัวเองแบบนี้
“แล้วมึงเสือกเหี้ยไร!”
“ไอ้เหี้ยเอ๊ย!”
“มึงมาดิ มึงเข้ามาดิไอ้ติณณ์! ทำไมวะ มึงหวงหรือไง ฮึ...กูรู้นะว่ามึงชอบมุกอะ แต่โทษทีว่ะมุกเขาไม่เลือกมึง!”
“ไอ้เหี้ยเนย์!”
