บท
ตั้งค่า

ประกาศครั้งที่สาม หมดความอดทน [2/3]

ประกาศครั้งที่สาม

หมดความอดทน [2/3]

คำว่า ‘คอยดูแล้วกัน’ ที่ม่านมุกบอกไว้เมื่อช่วงกลางวันนั้นเดินทางมาถึงไวกว่าที่คิด

พอหลังเลิกเรียนของเด็กมอต้นปุ๊บ ข้อความที่ได้รับจากพี่สาวอย่างม่านมุกก็ส่งตรงเข้ามาหาน้องชายทันทีว่าเธอทะเลาะกันเพื่อน

พิมพ์ถามจนรู้ความว่าม่านมุกถูกเรียกตัวไปห้องกิจการเพราะทะเลาะวิวาทกับเพื่อนร่วมห้อง ไม่ใช่แค่คนเดียว แต่มากถึงสี่คน!

ม่านเมฆหลังจากได้รับข้อความก็รีบตรงมาที่ห้องกิจการ พอเข้าไปข้างในก็รู้สึกถึงแรงลมจากเครื่องปรับอากาศที่ทำให้ขนลุกเกรียวไล่ลามจากขนนิ้วเท้าขึ้นมาถึงเส้นผมบนหัว

เพิ่งเข้าใจก็วันนี้ว่าใคร ๆ ทำไมถึงไม่อยากเข้ามาอยู่ในห้องนี้กันนัก

ห้องกิจการแอร์เย็นมาก!

“พี่มึงเอาเรื่องเหมือนกันนี่หว่าไอ้เมฆ หนึ่งต่อสี่เลยนะเว้ย เจ๋งสาดดดด” ติณณ์รีบวิ่งตามม่านเมฆมาติด ๆ และไม่วายยกยอออกปากชมพี่สาวเพื่อนที่ทำเรื่องให้สะใจได้รวดเร็วแบบนี้

“พี่มุกได้บอกไหมว่าทำอะไรบ้าง ทำร้ายร่างกายอะไรทำนองนี้” องศาที่เดินตามมาก็เอ่ยถามต่อ

องศาและติณณ์รู้เรื่องนี้จากม่านเมฆเพียงคร่าว ๆ เท่านั้น เพราะหลังจากที่ได้รับข้อความก็รีบก้าวอาด ๆ ตรงมาที่นี่ไม่รอใคร ทำเอาทั้งสองคนถึงกับหูผึ่งอยากใส่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น

“ยังไม่รู้ ส่งมาบอกแค่ว่าอยู่ห้องกิจการเพราะทะเลาะกับเพื่อนในห้อง แค่นั้นเลย” ม่านเมฆทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้ จากนั้นก็ผ่อนลมหายใจยาวเหยียดในขณะที่ใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยความไม่สบายใจที่ปรากฏชัดเจน

“มาแล้ว! เป็นไงบ้างมุก โดนเรื่องไร แล้วโดนทำร้ายมาป้ะเนี่ย ไหนดูหน่อยมีแผลเปล่า” ติณณ์ลุกขึ้นพรวดก่อนใครเมื่อเห็นว่าประตูห้องเล็กเปิดออก และคนที่เดินออกมาเป็นคนแรกนั้นก็คือม่านมุก

เขารีบเดินอ้อมหน้าอ้อมหลังไปสำรวจความเรียบร้อยของพี่สาวเพื่อนทันที พยายามเพ่งมองหาร่องรอยบาดเจ็บแต่ก็พบเพียงความปกติที่ไม่แม้แต่จะมีรอยขีดข่วน

“ไม่เป็นไร ปกติดี” ม่านมุกตอบด้วยท่าทีเรียบเฉย

“เป็นคนบ้านนอกไม่พอยังเอานิสัยอันธพาลจากบ้านนอกมาใช้อีก ต่ำ!” เสียงจากคนที่เพิ่งเดินพ้นประตูดังขึ้น มันเป็นการเหน็บแนมเจ็บแสบที่คนฟังรู้สึกไม่พอใจ หากแต่มันกลับไม่ได้เกิดขึ้นกับม่านมุกเลยสักนิด

“ครูได้ยินไหมคะว่าเขาด่าหนู เห็นไหมคะว่าเขาไม่ได้สำนึกเลย” หญิงสาวเคลื่อนสายตามองเข้าไปด้านในห้องที่มีคุณครูฝ่ายปกครองนั่งอยู่ บนใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มหยันสะใจ ไม่ได้มีความเสียใจหรือความอ่อนแอปรากฏให้เห็นเลยสักนิด

ซ้ำยังพึงพอใจที่ทำให้คู่กรณีเปิดปากด่าให้ครูเห็น แบบนี้มีแต่ได้กับได้ นอกจากเธอจะตกเป็นเหยื่อผู้น่าสงสารให้ครูเห็นใจแล้ว น้ำหนักคำพูดที่เธอฟ้องไปก็ยังเพิ่มมากขึ้นด้วย

หญิงสาวย้อนนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา ที่เธอได้ระบายความอัดอั้นให้กับครูรับรู้ว่าตลอดหลายเดือนเธอต้องพบเจอกับอะไรมาบ้าง

“เธอผลักเพื่อนทำไมนิดา” เสียงเข้มของคุณครูฝ่ายปกครองเอ่ยขึ้นพร้อมกับสายตาคาดคั้นเอาคำตอบ

“มันกล่าวหาว่าหนูเป็นขโมยค่ะครู แล้วมันก็บอกว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน หนูยอมไม่ได้หรอก!”

“แล้วเธอไปกล่าวหาเพื่อนแบบนั้นทำไมม่านมุก นิดาขโมยของอะไรงั้นรึ” พอได้คำตอบก็หันมาถามอีกฝ่ายซึ่งเป็นที่นั่งเงียบมาตั้งแต่ย่างกรายเข้ามาในห้อง

หลังจากที่ทานข้าวมื้อกลางวันเสร็จม่านมุกก็ตัดสินใจกับตัวเองว่าต่อไปนี้เธอจะไม่ทนปล่อยให้เพื่อนร่วมห้องรวมหัวกลั่นแกล้งเธออีก

เธอเค้นถามเอาคำตอบจากเพื่อนกลุ่มนั้นถึงเรื่องกระเป๋าสตางค์ที่หายไป แน่นอนว่าคำตอบที่ได้รับคือการปฏิเสธ หากแต่น้ำเสียงและท่าทางที่ส่งมานั้นล้วนเป็นการเย้ยหยันดูแคลนอย่างถึงที่สุด

ม่านมุกจึงเค้นถามต่อไปเรื่อย ๆ ทั้งยังใช้คำพูดรุนแรงอย่างคำว่า ‘หัวขโมย’ และ ‘พ่อแม่ไม่สั่งสอน’ ด่าตอกหน้าเพื่อนกลุ่มนั้นไป และคำพูดเหล่านั้นก็สามารถกระตุ้นแรงโทสะได้เป็นอย่างดี เพียงเท่านั้นคนอีกฝ่ายก็ตรงเข้ามาผลักเธอด้วยความโมโห และด้วยจำนวนคนที่มีมากกว่าจึงทำให้สถานการณ์เกิดความวุ่นวายขนาดย่อม และก็เป็นจังหวะที่คุณครูเดินผ่านมาเห็นจึงทำให้เรื่องส่งถึงห้องกิจการ

“เขาขโมยกระเป๋าเงินหนูไปจริง ๆ ค่ะครู หนูเปิดกระเป๋าของนิดาแล้วก็เห็นว่ากระเป๋าสตางค์หนูอยู่ในนั้นจริง ๆ”

“แล้วแกมาถือวิสาสะค้นกระเป๋าของฉันทำไมอีมุก”

“ฉันรู้ว่าฉันผิดที่ยุ่งกับของส่วนตัวของเธอ แต่ฉันก็เจอกระเป๋าสตางค์ฉันในกระเป๋าเธอไง เพราะถ้าฉันไม่ค้นฉันก็ไม่รู้เลยว่ามีเพื่อนเป็นหัวขโมย”

“อีมุก!”

“นี่เธอขโมยของเพื่อนเหรอนิดา แล้วยังกล้าทำร้ายเพื่อนอีก” ครูฝ่ายปกครองหันไปถามกับนิดาอีกครั้ง พอได้ยินคำอธิบายจากม่านมุกน้ำหนักความเชื่อก็ถ่ายเทไปได้ง่าย ๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel