บท
ตั้งค่า

บทที่ 9 อีธานแผลงรัก

"ทีนี้ก็เป็นทีของผมบ้างละ"

อีธานเปลี่ยนจากจับข้อมือเธอไว้เป็นกอดเธอแน่นทั้งตัว เชอแตมตกใจไม่มีเวลาคิดเพ้อฝันเพ้อเจ้ออะไรทั้งนั้น ตอนนี้เธอสงสัยว่าเขากำลังจะทำอะไร เธอไม่ได้อยู่นิ่งเฉย มือไม้ของเธอพยายามผลักเขาออกอยู่ตลอดเวลา แค่มันไม่มีอะไรขยับเลยแค่นั้นเอง

แต่อีธานก็ยังคงสีหน้าดุเหมือนเดิม แววตาที่ดุยังไงก็ยังดุยังงั้น เธอไม่รู้ซะแล้วว่าเขากำลังโกรธเธอมาก มากถึงขนาดที่ถ้าคนถูกโกรธคือออสการ์ มันคงโดนเขาฉีกเนื้อเป็นชิ้น ๆ แล้วตัวเองโดนโดมลับจับไปจองจำแล้ว

"นี่! จะทำอะไรน่ะ" เชอแตมต้องใช้เสียงไว้ก่อน เผื่อมันอาจจะช่วยอะไรได้บ้าง

"ออกมาเดินเพ่นพ่านอีกแล้วนะ! " เขาเอ่ยออกมา น้ำเสียงทุ้มนุ่มก็จริง แต่มันดุมากเกินไปจนต้องสะดุ้ง

"มันเรื่องของฉัน! " แม้จะอยู่ใกล้กันแค่กอดจนเกือบจะเป็นคน ๆ เดียวกัน แต่ทั้งคู่กลับตะโกนใส่กันซะงั้น

"รู้ทั้งรู้ว่าออสการ์มันต้องการตัวอยู่ แต่ยังออกมาเดินเล่นอีก นี่จะยั่วโมโหผมใช่มั้ย" อีธานไม่ลดราความโกรธ

"ฉันไม่ได้ยั่วใคร ฉันอยากออกมาเดิน ฉันเดินเป็นปกติแบบนี้ทุกคืน คุณก็รู้ดีนี่! "

"คิดว่าผมไม่รู้เหรอ! ว่าคุณคิดจะทำอะไร" เขาพูด เพราะเขาอ่านใจเธอได้ และรู้ด้วยว่าเธอโกรธเขาเรื่องเมื่อคืน แต่เรื่องจะง้อเหรอ ฝันไปเถอะเชอแตม!

"อย่ามาทำเป็นรู้ดี คุณไม่มีอะไรน่ายั่วสักนิด ปล่อย! " เชอแตมออกแรงสะบัดเยอะขึ้น แต่มันทำให้เธอเสียพลังงานเปล่า ๆ

อีธานรัดเธอแน่นกว่าเดิมอีก ใช่ ต้องใช้คำว่ารัด

"โอ๊ย! " เธอแน่ใจว่าได้ยินเสียงกระดูกตัวเองดังกรอบแกรบ "ไอ้แวมไพร์บ้า! จะฆ่ากันหรือไง"

"เดี๋ยวก็รู้! "

จบประโยค อีธานพาเธอโผล่ไปที่ที่หนึ่งด้วยการวิ่งและกระโดดปานความเร็วแสง

เชอแตมอ้าปากค้างเติ่ง จากที่มือเธอพยายามผลักเขาออก เธอกลับต้องกอดเขาไว้แน่น เธอมองลงไปข้างล่าง ความสูงมันเกินกว่าเธอจะแผลงฤทธิ์ใส่เขาได้ และมันไม่ได้ยืนอยู่บนพื้นที่กว้าง มันเป็นพื้นที่แคบแค่สองคนยืนเท่านั้น

เธอกำลังอยู่บนยอดตึกที่สูงที่สุด และหากเขาปล่อยเธอทิ้งไว้ที่นี่ เธอไม่สามารถลงไปได้แน่ ๆ เธอแอบหวั่นว่าเขาจะปล่อยเธอทิ้งไว้ที่นี่ไหมนะ

"ทำไมไม่ดิ้นต่อล่ะ" อีธานถามในขณะที่มือตัวเองกอดเธอไว้แค่หลวม ๆ ไม่แน่นอย่างก่อนหน้านี้แล้ว เชอแตมกัดฟัน เขาช่างเจ้าเล่ห์นัก ทีตอนนี้ทำเป็นกอดเธอหลวม ๆ เพราะเธอต้องเป็นฝ่ายกอดเขาแน่นเองล่ะสิ เธออยากจะบ้าตาย เธอหลงชอบคนแบบนี้ได้ไง ไม่ใช่สิ เธอลืมทุกที เขาไม่ใช่คนเขาเป็นแวมไพร์ต่างหาก

"พาขึ้นมาบนนี้ทำไม คุณแกล้งฉันเหรอ"

อีธานยังหน้านิ่งดุเหมือนเดิม เขาปล่อยมือตัวเองแล้วเอามาซุกไว้ในกระเป๋ากางเกง เชอแตมผวารัดคอเขาแน่นขึ้นอีก

"ไอ้แวมไพร์ขี้เก๊ก! " เธอด่าเขาเพราะตกใจกลัว บนนี้มันยืนได้แค่สองคนจริง ๆ นะ คือเป็นยอดตึกที่ทำขึ้นเพื่อให้เป็นตึกสูง ไม่ได้ทำขึ้นมาเพื่อให้ใครมายืนชมวิวเล่น แต่แวมไพร์ตัวนี้กลับพาเธอมาบนนี้ซะนี่

อีธานยิ้มมุมปาก เขารู้สึกสะใจแบบบอกไม่ถูก เชอแตมได้แต่หายใจเข้าออกด้วยความโมโห เพราะเธอเห็นสีหน้าของเขาชัดเจนทุกอย่าง และรู้ด้วยว่าเขาสะใจ

"เมื่อคืนหายไปไหนมา" อีธานเอ่ยถามเสียงเรียบ สีหน้าไม่ได้เปลี่ยนไป

เชอแตมหน้าเหวอ เธอหูฝาดหรือเปล่านะ

"คุณว่าอะไรนะ" เชอแตมถามซ้ำเพราะไม่แน่ใจจริง ๆ

อีธานกรอกตา "หูตึงตั้งแต่เมื่อไหร่" เขาแขวะเธอ

เชอแตมเม้มปากหมั่นไส้เขา แม้ไม่ได้ฟังคำถามอีกครั้ง แต่เธอรู้แล้วว่าเมื่อกี๊ได้ยินเขาถามว่า เมื่อคืนไปไหนมาจริง ๆ

"ไปนอนบ้านผู้ชายมา" เชอแตมประชดประชันเขา ไม่รู้ซะแล้วว่าเขารู้ความจริงก่อนเธอจะตอบอีก อีธานหัวเราะหึ มุมปากกระตุก

"พูดแบบนี้ จะยั่วให้ผมหึงเหรอ"

"คนบ้าาาาา ถามตรงไปมั้ย ทุเรศมาก ๆ " เชอแตมหมั่นไส้จนแทบอยากจะปล่อยมือแล้วให้ตัวเองตกลงไปตายจริง ๆ

"ยั่วที่ไหนกันเล่า! ก็มันเป็นความจริงนี่" เชอแตมไม่ยอมให้ตัวเองหน้าแตกหรอก หารู้ไม่ มันแตกย่อยยับไปนานแล้วแม่คุณ

อีธานได้แต่ยิ้มมุมปากเสมองไปทางอื่น เขาเป็นต่อเธอมากนัก คนที่กอดก็คือเธอ คนที่กำลังงอนแต่กลับต้องประชดประชันให้อีกฝ่ายหึงหวงก็คือเธอ สรุปคือเท่ากับเธอคนเดียวที่ร้อนรุ่มอยู่ตอนนี้

มันก็คุ้มกันแล้วกับที่เธอทำให้เขาร้อนรุ่มตั้งแต่เมื่อคืน เขาไม่รู้จักบ้านป๊อบคอร์น เขาพลาดเองที่ไม่เคยสืบหาบ้านของเพื่อนรักเธอ เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรมา เขารู้จักเธอดีว่าเธอชอบสันโดษยามเที่ยงคืนแค่ไหน เขาไม่คิดว่าเธออยากไปนอนบ้านใคร และแน่ใจว่าไม่มีวันไปแน่ แต่เขากลับคิดผิด เมื่ออ่านใจของเธอวันนี้ เขาแทบคลั่งเมื่อคิดวุ่นวายว่าเขามาไม่ทันจนออสการ์จับตัวเธอไปแล้ว

"ผู้ชายยอมให้เข้าไปนอนด้วยหรือไง" เขาถามน้ำเสียงดูถูกเธอมาก

"คนบ้าาา! ผู้ชายเฮงซวย" เชอแตมได้แต่กรีดร้องในใจ ไม่รู้จะทำอย่างไรให้เขาอับอายขายขี้หน้าบ้าง

"แล้วคุณล่ะ ถามว่าฉันไปไหนมาเมื่อคืน แสดงว่ามาหาฉันแล้วไม่เจอล่ะสิ"

อีธานเอียงคอเลิกคิ้ว เขากำลังยั่วประสาทเธอ "ผมทำหน้าที่ของผม"

เชอแตมเข้าใจละ หน้าที่ที่ต้องดูแลเธอ มันก็แค่หน้าที่สินะ อีธานเห็นแววผิดหวังในแววตานั้น เขายิ้มมุมปาก

"คุณไม่ต้องทำมันแล้วก็ได้นะ ฉันคิดว่า ให้ออสการ์มาจับตัวฉันไปเลยดีกว่า จะได้รู้ไปเลยว่ามันต้องการอะไร อีกอย่างคุณจะได้ไม่ต้องมาฝืนใจทำหน้าที่อะไรบ้าบอของคุณอีก"

อีธานยิ้มมุมปาก เขาเปลี่ยนจากหน้าดุเป็นสีหน้าที่หยอกเย้า ยั่วเธอแบบน่าหมั่นไส้ที่สุด "ขี้น้อยใจตั้งแต่เจอผมหรือเปล่า หรือว่าเป็นมานานแล้ว"

เชอแตมอ้าปากค้าง ทำไมเขาถึงได้หน้าด้านหน้าทนแบบนี้

"อีธาน! " เธอเรียกเขาเสียงดุ

"ผมทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ผมคิดว่าสิ่งที่ออสการ์ต้องการจากคุณ มันเป็นเรื่องร้ายแรงมากต่อเผ่าพันธุ์ของผม ถ้ามันได้สิ่งที่มันต้องการจากคุณไป เผ่าพันธุ์ผม รวมทั้งตัวผมด้วยอาจจะสูญสิ้น"

เชอแตมมีสีหน้าอึ้งปนสงสัย "มันคืออะไรคะ ที่เขาต้องการจากฉัน มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ"

เชอแตมรู้สึกวูบไปเมื่อได้ยินเขาบอกว่าเผ่าพันธุ์เขารวมทั้งตัวเขาอาจจะสูญสิ้นไป เธอรู้สึกว่าเธอจะเสียเขาไปไม่ได้

อีธานยิ้มกริ่มกับความคิดนั้นของเธอ

"ผมไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร แต่คนอย่างออสการ์ถ้าต้องการตัวผู้หญิงธรรมดา ๆ อย่างคุณขนาดนี้ แสดงว่ามันต้องมีสิ่งไม่ธรรมดามากในตัวคุณ"

ยิ่งนานวัน เธอยิ่งอยากรู้มากว่ามีอะไรในตัวเธอที่มันต้องการ ตอนนี้เธอรู้สึกว่าเรื่องมันใหญ่มากเกินกว่าที่เธอจะอยู่เฉยไม่หาข้อมูลอะไรไม่ได้แล้ว

"แล้วคุณล่ะ ไม่ต้องการอะไรที่มันยิ่งใหญ่อย่างออสการ์บ้างเหรอ"

อีธานมองหน้าเธอ แววตาอ่อนลง "ผมไม่เคยต้องการอะไร"

"ยิ่งเจอคุณ ยิ่งรู้ว่าไม่ต้องการอะไรเลย นอกจาก..." อีธานคิด และหยุดความคิดตัวเองเพราะมันทำให้เขารู้สึกทรมานใจ กับสิ่งที่ตัวเองรู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้

เชอแตมมองตาเขานิ่งราวกับถูกเขาสะกดด้วยเวทมนตร์ เธอลืมไปซะสนิทว่าเมื่อกี๊เธองอน เธอโกรธเขาอยู่ แต่ตอนนี้ เธอรู้สึกว่ามันไม่มีประโยชน์ละ ไม่ว่าจะงอนซักแค่ไหน เขาก็ไม่เห็นจะง้อเธอเลย

"อีธาน" เชอแตมเรียกเขาเบา ๆ อีธานเลิกคิ้ว เขากำลังยิ้มมุมปากเพราะเขารู้คำถามในใจเธอก่อนเธอจะเอ่ยออกมาแล้ว

"หืม" เขาตอบรับในลำคอ

"เราจะลงไปได้หรือยัง ฉัน...เมื่อยแขนแล้ว" เชอแตมมองไปข้างล่างก็หวาดเสียว แขนตัวเองก็เริ่มชาแล้ว ก็เธอต้องกอดคอเขาอยู่อย่างนี้ตั้งแต่ขึ้นมาเพื่อกันตัวเองตกลงไป ซ้ำร้ายเขายังยืนเอามือล้วงกางเกงเฉย แบบที่ไม่สนใจว่าเธอจะตกลงไปหรือเปล่า

อีธานอมยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เธอ "อยากลงเหรอ"

"อื้อ เมื่อยแขนมากแล้วนะ ขาก็เมื่อย" เธอบ่น สีหน้ายุ่ง

อีธานหัวเราะหึ "อยากลงก็ลงไปเองสิ"

"ห๊ะ! คุณว่าอะไรนะ" เชอแตมมองหน้าเขาตาค้าง อ้าปากเหวอนิด ๆ "ลงไปเอง คุณจะให้ฉันลงไปเองเหรอ"

"อื้ม" เขาตอบรับในลำคอ เชอแตมพยักหน้าพร้อมเลิกคิ้วหนึ่งครั้งเป็นเชิงถามเขาว่า เขาแน่ใจแล้วเหรอที่พูดแบบนี้ อีธานก็พยักหน้าตอบให้เธอว่า ใช่

"จะบ้าเหรอคุณ สูงซะขนาดนี้ ลงไปเอง ฉันก็ตายน่ะสิ"

"โดดลงไป เดี๋ยวผมก็โดดลงไปอุ้มคุณ ทันก่อนตกถึงพื้นอยู่แล้ว"

"มันจะโหดร้ายเกินไปแล้วนะอีธาน" เชอแตมตัดพ้อ

"งั้นก็หาวิธีให้ได้สิ" อีธานยังไม่หยุดแกล้ง

"ก็วิธีไหนล่ะ ก็คุณนั่นแหละต้องพาฉันลงไป" เชอแตมโวยวายสีหน้าไม่สบายใจมาก

"หาวิธีทำให้ผมพาคุณลงไปให้ได้สิ" อีธานเอ่ยเสียงเรียบ แววตาเจ้าเล่ห์มาก ๆ

เชอแตมอ้าปากค้างเติ่ง "แล้วฉันต้องใช้วิธียังไง"

"มารยาหญิงเยอะไม่ใช่เหรอ ก็ลองใช้มันดูสิ เผื่อผมจะใจอ่อนพาคุณลงไป"

เชอแตมถอนหายใจ เขากำลังเล่นอะไรของเขา นี่เขาต้องการอะไร เขาแกล้งเธออยู่ใช่มั้ย

"คุณจะทำให้ฉันคลั่งคุณไปถึงไหน" เชอแตมตะโกนเสียงดังในใจ อีธานได้แต่ยิ้มมุมปากจ้องเธอแบบที่เธอไม่รู้เลยว่าเขากำลังคิดอะไร

"ผมร้ายขนาดนี้ ยังจะคลั่งผมอีกเหรอ"

มารยาหญิงงั้นเหรอ เชอแตมกำลังคิด มารยาหญิงแบบไหนที่พอจะทำให้เขายอมเธอได้บ้างนะ ผู้ชายหน้าตาหล่อราวกับเทพบุตรอย่างเขา แต่นิสัยกลับดุโหดซะนี่ ถ้าวัดกันตรงนี้เขาก็ไม่ต่างอะไรกับออสการ์ แต่ที่มันทำให้เขาต่างก็คือ ไม่ว่าเขาจะโหดกับเธอสักแค่ไหน เธอกลับอยากเข้าใกล้เขามากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งออสการ์ไม่สามารถทำได้แบบนี้

เธอยิ่งรู้สึกอบอุ่นมากขึ้น ๆ ราวกับว่าเขากำลังใช้มารยาชายยั่วยวนเธออยู่ มารยาชายแบบไหนกันที่มันดิบเถื่อนซะขนาดนี้ มีอย่างที่ไหน ทิ้งดิ่งเธอลงมาจากชั้นห้า แถมยังบอกให้เธอโดดลงจากตึกที่สูงเกือบร้อยชั้นแบบนี้อีก จะโหดไปไหน

เชอแตมลองใจเขาด้วยการนิ่งเงียบไม่ทำอะไรทั้งนั้น บางทีเขาอาจจะแค่พูดแกล้งเธอก็ได้ เรื่องที่จะไม่พาเธอกลับลงไปข้างล่าง แต่เปล่าเลยดูเหมือนเขาจะพูดจริง พอเธอเงียบเขาก็เงียบตาม แถมยังยืนชิว ๆ ไม่เหมือนเธอที่เหน็บเกือบเกาะกินทั้งมือทั้งเท้าไปหมดแล้ว โอ๊ย! ยิ่งเธอลองใจนานเท่าไร เธอก็ยิ่งเมื่อยมากขึ้นเท่านั้น

ที่สำคัญจะทำตัวเองให้ล้าจนตกตึกลงมามันก็เข้าทางเขาที่ว่า โดดลงไป เดี๋ยวผมก็ลงไปรับคุณไว้ทัน

อยากให้เธอหาวิธีใช่มั้ย ได้ เดี๋ยวเขาจะหนาว ถ้าโดนวิธีนี้ของเธอเข้าไป ผู้ชายโหด ๆ อย่างเขามีใครเคยทำแบบนี้กับเขาไหมนะ ถ้าไม่มีเขาก็น่าจะวาบไปเลยทีเดียวกับวิธีของเธอ คงคิดไม่ถึงว่าเธอจะกล้าทำแบบนี้กับเขา เขาอาจจะโกรธหรืออายจนหน้าแดงไปเลยก็ได้ แต่เอ๊ะ! ถ้าเขาโกรธจนไม่คิดจะพาเธอลงไปจริง ๆ ล่ะ ก็ช่างมัน เธอล้าจนตกตึก ยังไงเขาก็ต้องลงไปช่วยอยู่ดี

อีธานกำลังสนุกสนานอยู่กับความคิดของหญิงสาวที่กอดคอเขาอยู่ เขาแอบหัวเราะในใจ และรอรับมารยาหญิงจากเธอเต็มที่

เชอแตมมองตาเขาด้วยความเซ็กซี่เต็มที่ก่อนที่ตัวเองจะเขย่งปลายเท้าแล้วจุมพิตไปที่ปากของเขา เธอไม่ได้จูบแต่เป็นการเอาปากตัวเองไปแตะปากเขา ตอนแรกคิดว่าจะแค่แป๊บเดียวแล้วเธอจะถอนออก แต่มันกลับทำให้เธอนิ่งไปเสียเอง ความรู้สึกราวกับไฟฟ้าแล่นแปลบปลาบเข้ามาในร่าง มันทำให้เธอชาจนต้องหลับตานิ่ง

อีธานไม่ได้จูบตอบ เขากลับยิ้มมุมปากทั้งที่ปากเธอยังตรึงอยู่ที่ปากเขา เชอแตมรู้สึกตัวเมื่อสัมผัสได้ว่าอีธานกำลังขยับปากตัวเองทำอะไรสักอย่าง เธอจึงถอนริมฝีปากตัวเองออกมามองเขาตาค้างตกใจ เขากำลังยิ้ม เขากำลังสะใจใช่มั้ย"เราทำอะไรลงไป ทำไมเป็นเราที่อายเสียเอง" เธอคิดว่าเขาจะอายเสียอีก เขาไม่อยากมาหาเธอนี่ เขาไม่อยากเข้าใกล้เธอ เธอก็คิดว่าวิธีนี้จะทำให้เขาไม่พอใจ คิดว่าเขาจะโกรธ แต่เปล่าเลย เขากลับยิ้ม ยิ้มที่ทำให้เธออายแทบจะระเบิดตัวเองให้แตกตาย หายไปต่อหน้าเขา

เชอแตมอยากโรยตัวลงไปข้างล่างบัดเดี๋ยวนี้

"คุณนี่ได้เปรียบทุกอย่างเลยนะ" อีธานเอ่ยขึ้นมา "ตบผมไม่พอ ยังจูบผมเองอีก"

เชอแตมอ้าปากค้างเติ่ง หน้าเธอแดงแป๊ด อีธานได้แต่ยิ้มมุมปากอย่างเดียว แววตาจ้องมองพวงแก้มที่แดงอมชมพูนั้นด้วยความรู้สึกอิ่มใจ เขารู้สึกพอใจอย่างบอกไม่ถูก

เชอแตมอ้าปากจะพูดแต่เธอพูดไม่ออก ไม่ใช่สิ สมองไม่ทำงาน คำพูดไม่มี ไม่รู้จะพูดคำไหน ไม่รู้จะด่าว่าอะไร

"ผมแค่กำลังนับหนึ่งถึงร้อย ถ้าคุณไม่ทำอะไร ผมก็จะพาคุณลงไปอยู่แล้ว" เขาเอ่ยออกมาด้วยปากที่แย้มยิ้มแบบน่าถีบให้ตกตึก และทำให้เชอแตมยิ่งอึ้งไปอีก แล้วที่เธอแตะปากเขาด้วยปากเธอเมื่อกี๊ล่ะ

"คุณว่าอะไรนะ" เชอแตมถามเสียงเย็น

"ผมนับได้เก้าสิบเก้า แล้วโดนคุณจูบเสียก่อน" อีธานยิ้มกว้างแบบกวนประสาทเธอ

"อ๊าาายยยย!!!! ไอ้แวมไพร์ ไอ้แวมไพร์อะไรดี ใครก็ได้ ช่วยฉันคิดคำด่าที้" เชอแตมตะโกนก้องในใจ อยากจะเต้นเร่า ๆ ตรงนี้แทบขาดใจ แต่ติดตรงที่เธอคงตกตึกลงไปตายเสียก่อน

"คุณมัน..." เชอแตมกัดฟันกรอด

อีธานยิ้มเยาะให้เธอ เขาส่ายหน้าเบา ๆ จุ๊ปากนิด ๆ "คุณไม่อยากด่าผมหรอก" อีธานโน้มหน้าไปใกล้ ยิ้มยั่วให้เธออีก

"กลับกันเถอะ ไว้ไปจูบผมต่อในห้องคุณก็ได้นะ"

พลาดแล้ว เชอแตมพลาดแล้ว เขาจะเก็บเอาเหตุการณ์วันนี้ไปล้อเธอในวันต่อไปแน่ ๆ

แวมไพร์เจ้าเล่ห์!!

"คิดว่าฉันจะทำแบบนี้อีกหรือไง ไม่มีทางหรอก! " เธอประกาศลั่น มั่นใจว่าเธอพลาดแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว

"ให้มันแน่" เขาตอบแล้วแย้มยิ้มอย่างกับคนที่มีความสุขมากที่สุดในชีวิต "แต่อย่าลืมล่ะว่าคืนนี้ทำอะไรกับผมไว้" เขาโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้เธอ ตั้งใจให้ปากตัวเองใกล้ปากของเธอที่สุด เชอแตมก็ทำได้เพียงเอนคอไปด้านหลังแต่มันสุดได้แค่นิดเดียวมากกว่านี้เธอก็คอหักแล้ว "เพราะถึงเวลาที่ผมเอาคืนน่ะ มันน่ากลัวนะคุณ"

อีธานพูดจบก็แย้มยิ้มซะจนทำให้เชอแตมขนลุกขนพอง นึกถึงจุมพิตที่เธอมอบให้เขาไปเมื่อสักครู่ คำว่าเอาคืนของเขา มันจะเป็นแบบไหนกันนะ เธอชักจะหายใจไม่ทั่วท้อง

อีธานโอบกอดเธอไว้ก่อนที่จะพาเธอดิ่งพสุธาลงมาในแบบที่ทำให้เธอหวาดเสียวจนต้องกอดเขาแน่น ก่อนเขาจะผ่อนความแรงลงให้เบาหวิวคล้ายกำลังบินเหมือนนก

ทั้งคู่ลงมายังพื้นดินได้สำเร็จ เชอแตมจะพยายามไม่ทำให้เขาต้องโกรธแล้วพาเธอขึ้นยอดตึกไปอย่างวันนี้อีกเป็นอันขาด เธอรู้แล้วว่า เขาเป็นต่อมากมายขนาดไหนกับช่วงเวลาที่อยู่ในที่สูง ๆ จนเธอทำอะไรไม่ได้แบบนั้น เชอแตมมองหน้าเขาด้วยแววตาไม่ไม่พอใจมาก แต่ก็ลดอารมณ์ลงมาทันทีที่นึกถึงยอดตึกสูงนั่น

เชอแตมเดินกลับห้องพักในขณะที่อีธานเดินตามหลังมาติด ๆ รู้สึกตัวสั่นไปหมด สาเหตุเพราะความสูงของตึกบวกกับอาการทั้งหลายแหล่ที่เกิดจากแวมไพร์เจ้าเล่ห์ที่เดินตามหลังเธอมา

เธอขึ้นห้องมาเองด้วยการเดินเท้า เธอรู้สึกไม่พอใจอีธานจนไม่ได้หันไปมองเขาเลยว่าเดินตามเธอมาหรือเปล่า จนกระทั่งถึงห้องแล้วนั่นแหละถึงได้รู้ว่า เขานั่งอยู่บนเตียงเธอ ในท่าที่กำลังนั่งพิงหัวเตียงยืดขายาวผ่อนกายสบายอยู่ตรงที่ที่เธอนอนประจำ

เชอแตมยืนมองเขาด้วยแววตาสีหน้าบึ้งตึงครู่หนึ่งก่อนตัดใจปลง แล้วไปนั่งที่โต๊ะอ่านหนังสือ

"ไม่นอนล่ะ" อีธานเอ่ยถาม เชอแตมหันไปมองเขาแววตาหงุดหงิด

"ถามมาได้ ตัวเองนั่งอยู่ให้เรานอนได้ไงล่ะ"

เชอแตมไม่ตอบเขา เธอหันหน้ากลับไปที่โต๊ะ หยิบหนังสือประวติศาสตร์ชาติไทยออกมาเตรียมปั่นงานต่อ

"ดึกแล้วนะ นั่นจะทำอะไรอีก" อีธานถาม น้ำเสียงคล้ายจะดุ

"ทำรายงาน อีกวันเดียวก็จะส่งแล้ว ยังไม่เสร็จต้องรีบทำ"

เชอแตมอ้างไปแม้จะเป็นความจริงจากใจ แต่เหตุผลหลัก ๆ ก็คือ เขานอนอยู่บนเตียงเธอนี่ เธอไม่กล้านอนหรอก ไม่กล้าเข้าใกล้เตียงตอนนี้หรอก ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่ยอดตึกนั่น เธอก็รู้สึกว่าเขาเจ้าเล่ห์เกินกว่าจะไว้ใจได้แล้ว

อีธานไม่ถามต่อ เขาหันไปมองรอบ ๆ ห้องเธอ แล้วไปสะดุดที่ตู้เสื้อผ้า เขาลุกขึ้นเดินไปตรงนั้นโดยการเคลื่อนไหวแบบมนุษย์เขาทำกัน เขาเห็นเสื้อนักศึกษาผู้ชายแขวนอยู่

"ที่บอกว่าไปนอนห้องผู้ชายมา ได้ไอ้นี่ติดมาด้วยหรือ" อีธานถามออกไปทั้งที่ยังมองเสื้อนักศึกษานิ่ง

เชอแตมหันไปมองเขาเพราะคำถามเขามันแปลก ๆ เธอไม่ได้เอะใจสักนิดว่าเขาเห็นเสื้อนักศึกษา เธอลืมไปซะสนิทว่าแขวนมันเอาไว้

เชอแตมอ้าปากค้าง เธอรู้สึกว่าตัวเองซวยแล้ว เธอรีบวิ่งไปยืนข้างเขาแล้วรีบเก็บเสื้อนักศึกษาใส่ถุงให้เรียบร้อย

"ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดหรอกนะ เสื้อใหม่ ดูไม่ออกหรือไง ฉันเพิ่งซื้อมา"

อีธานหรี่ตา "ริอ่านเป็นทอม" เขาตั้งข้อสังเกต

"บ้าเหรอ เรื่องมันยาว ไว้ฉันค่อยเล่าให้ฟังละกัน"

"ผมรู้เรื่องหมดแล้ว" อีธานคิดในใจ แต่การแกล้งเธอมันสนุกมากกว่าสิ่งใด

"ผมต้องการรู้คำตอบตอนนี้" อีธานดื้อดึง

เชอแตมเงยหน้ามองเขาแววตาประหลาดใจ เขาไม่ค่อยสนใจอะไรรอบตัวเธอเท่าไหร่ เรื่องจุกจิกเล็ก ๆ น้อย ๆ เขาแทบไม่รับรู้ แล้วเรื่องเสื้อนักศึกษาผู้ชายตัวเดียวทำไมเขาเกิดใส่ใจมันขึ้นมา

"คุณอยากรู้ไปทำไม" เชอแตมถาม สีหน้าแสดงอาการคล้ายจะรู้ทัน

อีธานเอามือกอดอก เขายักไหล่แทนคำตอบ "แสดงว่าเจ้าของเสื้อนี้สำคัญกับคุณมากทีเดียว"

เชอแตมมองตาเขาด้วยแววตาที่หวาดหวั่น เธอไม่ได้ชอบใครนะ ไม่ได้พิศวาสใครนะ ถึงแม้ว่าผู้ชาย ว่าที่เจ้าของเสื้อนักศึกษาตัวนี้จะหน้าตาดีมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่ได้ทำให้จิตใจเธอปั่นป่วนได้อย่างแวมไพร์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอเลย

ร้ายแค่ไหน ก็ชนะใจเธอได้ทุกที กลายเป็นสโลแกนที่เธอมอบให้อีธานไปโดยปริยาย

อีธานก็แค่อยากเห็นว่าเธอจะนึกคิดอะไรในใจเกี่ยวกับเสื้อนักศึกษาตัวนี้ และสิ่งที่เขาเห็นทำให้เขาพอใจมากเลยทีเดียว เขาปล่อยมือจากอกแล้วไปสอดไว้ในกระเป๋ากางเกง จากนั้นก็เดินเฉื่อย ๆ ไปยังประตูระเบียง

"นั่นคุณจะไปไหน" เชอแตมเรียกเขาเอาไว้ เธอยังไม่ได้ตอบคำถามอะไรเขาเลย เขากำลังเข้าใจเธอผิดแน่ ๆ หารู้ไม่ อีธานกำลังยิ้มจนปากจะฉีกถึงหูอยู่แล้ว

อีธานหยุดกึก เขาตอบคำถามทั้งที่ยังหันหลังให้เธอว่า

"ไปที่ระเบียง" เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยออกมาอีกว่า "ไม่ต้องร้องไห้อีกล่ะ ผมยืนอยู่ที่ระเบียง ไม่ได้ไปไหนไกล" จบคำพูด อีธานก็ยิ้มมุมปากกับตัวเองแอบเหล่ตามาทางด้านหลัง แม้ไม่เห็นหน้าของเชอแตม แต่เขาเดาออกว่าเธอคงจะเม้มปากกัดฟันเพราะหมั่นไส้คำพูดของเขาอยู่แน่ ๆ

แน่นอนอีธานเดาถูก

เชอแตมมองเขาเดินไปที่ระเบียง แอบถอนหายใจที่เขายังอยู่ แต่แอบหมั่นไส้ที่เขาทำตัวเหมือนดารานักร้องที่รู้ซึ้งซะเหลือเกินว่ามีแฟนคลับคลั่งไคล้เขา เธอไม่ได้เป็นแบบนั้นซักหน่อย แต่ใจเธอก็ไม่ฟังสมองตัวเองเลย

เชอแตมนั่งทำรายงานต่อหลังจากที่อีธานออกไปยืนอยู่ที่ระเบียง เธอคอยชะเง้อมองอยู่เรื่อย ๆ ว่าเขายังอยู่หรือเปล่า เมื่อเห็นว่าเขายังอยู่ เธอก็แอบยิ้มเป็นระยะ ๆ และแอบสงสัยว่าเขายืนทำอะไรตรงนั้น เขาไม่เบื่อเลยหรือที่ยืนอยู่นิ่ง ๆ แบบนั้น ความสงสัยก็ไม่ได้คลี่คลายเพราะฟุบหลับไปหลังจากนั้น

อีธานเข้ามาในห้องหลังจากที่รับรู้ได้ว่าจิตของเธอหลับใหลเสียแล้ว เขามายืนมองเธอที่กำลังฟุบหลับ ส่ายหน้าเบา ๆ แล้วช้อนเธอขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขน เขายังอ้อยอิ่งมองสาวจอมดื้อในอ้อมกอดตัวเอง ยามที่เธอหลับจิตใจของเขาก็สงบเป็นที่สุด มันเงียบจนเขาสามารถทบทวนจิตใจตัวเองได้ และยิ่งนับวัน เขาก็รู้สึกว่าจิตเขากับเธอมันใกล้กันเข้าไปทุกที

อีธานวางเธอลงไปบนเตียงอย่างนุ่มนวล เขามักจะสุภาพอ่อนโยนกับเธอในยามเธอหลับใหลมากกว่าเวลาตื่น เขาเป็นพวกที่ไม่ยอมใคร ไม่ยอมให้ใครดื้อใส่ แม้ว่าคนคนนั้นจะเป็นคนที่เขาอยากจะยอมทุกอย่างก็ตาม แต่เขาก็อดที่จะดัดนิสัยเอาแต่ใจหรือดื้อด้านไม่ฟังใครของเชอแตมไม่ได้ เธอเลยเข้าใจผิดคิดว่าเขาร้ายกับเธอตลอดเวลา

อีธานถอนหายใจ นั่งมองเธออยู่ข้าง ๆ "ผมไม่อยากให้มันมากไปกว่านี้เลย ผมไม่อยากทรมาน"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel