บทที่ 8 เชอแตมแผลงฤทธิ์
อีธานยืนมองด้านหลังของออสการ์ซึ่งกำลังยืนอยู่ที่ทางเดินที่เขาเคยเจอเชอแตมบ่อย ๆ เขาจำเป็นต้องมาพบมัน เพราะ...
"แน่จริงไปเจอกันตัวต่อตัวมั้ย" ออสการ์บอกอีธานผ่านการคิดในใจขณะที่เผชิญหน้ากันเมื่อสักครู่ในห้องเชอแตม
เขาไม่ได้อยากจะมาเจอออสการ์เพราะคำท้าทายนั้น แต่เป็นเพราะเขาต้องคุยให้รู้เรื่อง ว่าออสการ์ต้องการอะไรจากเธอ และที่มากกว่านั้น เขากำลังโกรธที่หมอนี่กล้าบุกไปหาเชอแตมถึงห้อง
"มาแล้วเหรอ" ออสการ์หันมามองเขาทั้งตัว รอยยิ้มร้ายกาจแบบท้าทายเปื้อนหน้า
"นายกำลังทำผิดกฎแวมไพร์" อีธานพูดเสียงเรียบ แม้ใจจะอยากต่อยหน้ามากกว่าก็ตาม
ออสการ์หัวเราะลั่น น่าเสียดายที่จิตใจแวมไพร์แววตาเหี้ยมโหดคนนี้แตกต่างกับหน้าตาลิบลับ เกิดมาให้สาว ๆ อ่อนระทวยตายไปเพราะหน้าตาหล่อเหลาไม่พอ จิตใจยังเกิดมาเพื่อฆ่าหรือทำร้ายคนได้อย่างอำมหิต
ออสการ์หัวเราะลั่นราวกับมันเป็นเรื่องน่าตลกขบขัน
"เหมือนนายจะลืมไปนะ ว่าฉันเป็นใคร"
อีธานไม่แสดงอาการไม่พอใจให้ศัตรูได้เห็น เขารู้ดี แม้ว่าออสการ์จะมีพลังสู้เขาไม่ได้ แต่ออสการ์มีอิทธิพลมากจนอาจจะทำให้เขาพ่ายแพ้ได้
"นายก็น่าจะลืมเหมือนกัน ว่าอิทธิพลของนายไม่ได้เป็นที่ยอมรับของเผ่าพันธุ์"
"แล้วนายคิดว่าฉันสนเหรอ กฎหมายที่ตั้งขึ้นมา มันไม่ได้ทำให้เผ่าพันธุ์เรายั่งยืนเลยแม้แต่นิดเดียว มันกลับทำลายเผ่าพันธุ์เราอย่างเลือดเย็น"
อีธานไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องนี้อีกแล้ว เพราะไม่ว่าจะเอาเหตุผลอะไรมาอ้าง ฝ่ายเขากับฝ่ายออสการ์ไม่มีวันคิดตรงกันอยู่ดี
"แสดงว่านายยังยืนยันที่จะเอาตัวเธอให้ได้"
ออสการ์แสยะยิ้ม "แล้วนายจะขวางงั้นหรือ"
อีธานมองตากลับด้วยมาดที่น่ากริ่งเกรงยิ่งกว่า
"แล้วถ้ามันเป็นอย่างนั้น นายจะทำไง"
ออสการ์หัวเราะเสียงดัง ราวกับตัวเองกำลังดูตลกสามช่า
"ดูท่าทางนายสนใจมนุษย์ผู้หญิงคนนี้เกินกว่าการทำหน้าที่พลเมืองแวมไพร์ที่ดีแล้วนะ" ออสการ์แสยะยิ้มมุมปาก มองแววตาอีธานแบบเย้ยหยัน
"นายกำลังล้ำเส้น" อีธานตอกกลับไป
"เส้นอะไรไม่ทราบ นายก็รู้ จุดมุ่งหมายของพวกเรามันต่างกัน"
"ทำไมนายถึงต้องการตัวเธอ นายได้กลิ่นอะไรจากเธอใช่มั้ย" อีธานถามตรง ๆ
ออสการ์ยิ้มมุมปาก ดวงตามีความลับ "แล้วนายล่ะ จริง ๆ แล้วนายรู้จักเธอใช่มั้ย"
อีธานนิ่งไปด้วยความพยายามสะกดอารมณ์สุดขีด "ฉันไม่ได้รู้จักเธอ" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเข้มและจริงจัง
ออสการ์ยังยิ้มเยาะเขาอยู่ มันส่ายหน้าเบา ๆ "คิดว่าฉันดูไม่ออกงั้นหรือ นายไม่ใช่แวมไพร์ประเภทที่ชอบออกมาเดินเพ่นพ่านซักหน่อย ถึงฉันจะไม่มีความพิเศษด้านการอ่านใจใคร แต่เรื่องแค่นี้ มันดูไม่ยากหรอกเพื่อน"
อีธานไม่มีแม้อารมณ์จะยิ้มเยาะใด ๆ ทั้งสิ้น "ฉันต้องดูแลเธอ เพราะเธอกำลังถูกนายปองร้าย มันไม่มีอะไรมากกว่านั้น"
"งั้นนายก็คงต้องเหนื่อยหน่อยนะเพื่อน เพราะฉันคงไม่ล้มเลิกความตั้งใจง่าย ๆ "
"แต่ก่อนที่นายจะได้ตัวเธอไป โดมลับคงไม่ปล่อยให้นายกับพวกของนายทำอะไรนอกกฎหมายได้" อีธานข่มขู่ แต่ออสการร์ไม่ได้รู้สึกสะดุ้งสะเทือนเลยสักนิด
"โดมลับเหรอ" ออสการ์ทวนคำแล้วหัวเราะเยาะ "น้ำยามันหมดไปนานแล้ว"
"ไม่งั้นก็คงเป็นฉัน ที่จะจัดการนายเอง" อีธานข่มขู่ทั้งน้ำเสียงและแววตา ทั้งคู่มองตากันนิ่งไม่มีใครละสายตาจากใครไปก่อน
ออสการ์ยิ้มมุมปาก ใช้ความคิดตัวเองเป็นเครื่องมือแหย่ต่อมอารมณ์ของอีธาน
"หลังจากที่ฉันได้ในสิ่งที่ฉันต้องการจากตัวเธอ ฉันก็จะจุมพิตเร่าร้อนกับเธอ แล้วต่อจากนั้นก็..."
อีธานเคลื่อนย้ายตัวเองเร็วราวกับหายตัว ไปยืนประชิดกับใบหน้าของออสการ์ เขาแยกเขี้ยวใส่มัน แล้วตุ๊ยท้องมันไปหมัดหนึ่ง ออสการ์กระเด็นลอยขึ้นไปในอากาศก่อนจะตกลงบนพื้นไกลออกไปห้าเมตร มันลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วแล้วกระโดดจนตัวลอยมายืนด้านหลังของอีธานตั้งใจจะต่อยหน้าเมื่ออีธานหันหลังมา แต่เปล่าเลยอีธานกลับกระโดดไปซ้อนหลังของมันอีกที และมันก็ไม่ไวพอเมื่อหันหลังกลับไปกะจะต่อยหน้าอีธาน เพราะเขาใช้มือเดียวบีบคอมันเอาไว้
"เอาสิ พ่อแวมไพร์ผู้รักษากฎหมาย ถ้านายฆ่าฉันได้ นายจะดูดีมากในสายตาแวมไพร์ตัวอื่นที่อยู่ภายใต้กฎหมาย" จริง ๆ แล้วความคิดนี้ของออสการ์เป็นการประชดอีธานทางอ้อม หากเขาฆ่าออสการ์ เขาต้องมีเหตุผลเพียงพอในการอธิบายการกระทำในครั้งนี้ต่อแวมไพร์อาวุโส และเท่าที่เห็นตอนนี้ แม้ออสการ์จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับกฎหมายแต่ออสการ์ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนอกจากยั่วอารมณ์ของเขาเฉย ๆ
อีธานกัดฟันส่งแววตาเหี้ยมผ่านดวงตาออสการ์ไป เขาบีบคอมันแรงพอที่จะทำให้ร้องอ๊ากออกมาแล้วก็ปล่อยให้เป็นอิสระ แม้ว่าจะเจ็บปวดจากการถูกบีบคอ แต่ออสการ์ก็ทำแค่เพียงไอออกมาสองสามครั้งแล้วเปลี่ยนอารมณ์เป็นหัวเราะชอบใจต่อ เขายังยิ้มมุมปากได้น่าหมั่นไส้ที่สุด และมันช่างยั่วอารมณ์พลุ่งพล่านของอีธานได้ดีทีเดียว
"อย่ามายุ่งกับเธออีก! " อีธานคำราม
ออสการ์ส่ายหน้าเป็นเชิงระอา "นายมันอ่อนแอเกินไปอีธาน ถึงนายจะเป็นแวมไพร์เลือดแท้ แต่นายอาจจะแพ้ให้กับแวมไพร์เลือดครึ่งอย่างฉันเข้าสักวัน"
อีธานไม่ตอบอะไรกลับไปเลย เขาได้แต่มองแล้วมองอีก มองในแบบที่มนุษย์คนไหนมาเห็นต้องเผ่นแน่บไปเท่านั้น
"สักวัน เธอต้องเป็นของฉัน" ออสการ์ไม่ได้คิดจะอยากได้เชอแตมในเชิงชู้สาวจริง ๆ เขาเพียงแค่แหย่อารมณ์ของอีธานผ่านความคิด และเขาก็ทำสำเร็จเมื่ออีธานดวงตาวาวโรจน์ยิ่งกว่าเดิม
ออสการ์ยิ้มมุมปากอีกครั้งก่อนหายตัวไป
อีธานยืนนิ่งเงียบ เขากำลังคิดหนัก
เชอแตมกำลังหลับสนิทในท่าที่ยังนอนคว่ำเอียงหน้ามาฝั่งประตูระเบียง โดยที่ไม่รู้ว่าอีธานกำลังยืนมองเธออยู่ข้าง ๆ เตียง
"มันคงเป็นอย่างที่อาสงสัย คุณคงมีสิ่งนั้นจริง ๆ" อีธานคิดในใจขณะที่กำลังมองหน้าเธอ "ผมจะทำยังไงให้คุณปลอดภัยดี"
เขาจัดการพลิกตัวเธอมานอนหงายให้เรียบร้อย แล้วเอาผ้าห่มห่มให้เธอ เขาพิจ มองใบหน้าที่แต้มไปด้วยคราบน้ำตาของเธอ อีธานหัวเราะเบา ๆ
"เด็กขี้แย" เขาเหน็บเบา ๆ "ไม่รู้หรือไงว่าทำไมผมไม่อยากเข้ามาหาคุณ" เขานั่งพิงหัวเตียงเอามือลูบหัวเธอเบา ๆ
"ความคิดคุณมันรบกวนจิตใจผมตลอดเวลา ไม่รู้ตัวเลยใช่มั้ย" เขาคิดในใจ ไม่บ่นออกมาเป็นคำพูดเพราะไม่ไว้ใจว่าเธอจะหลับสนิทจริง ๆ หรือเปล่า แม้จริง ๆ แล้วเขาก็รู้ว่าเธอหลับสนิทและลึกมาก ๆ
เชอแตมลืมตาตื่นมาในตอนเช้า สมองยังเบลอ ๆ เธอเลยเรียกความสดชื่นเข้ามาด้วยการหยิบมือถือมาเปิดดูความเป็นไปในโลกโซเชียล และตาเธอก็สว่างขึ้นมาจริง ๆ หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นบิดขี้เกียจแล้วก็ถอนหายใจสีหน้าเป็นตูดอยู่เพียงลำพัง
พอลืมตาเท่านั้นเธอก็คิดถึงอีธานทันที และเธอก็ยังจำเรื่องเมื่อคืนได้แบบไม่ต้องใช้ความพยายามจะจำ เขาไม่สนใจเธอเลย เขาออกไปโดยที่ไม่สนใจว่าออสการ์จะกลับเข้ามาหาเธออีกครั้งหรือเปล่า เขายังบอกอีกว่าไม่อยากเข้ามาหาเธอ
เขาคงเบื่อที่จะต้องดูแลเธอ มันคงไม่ใช่กงการ หน้าที่อะไรของเขา เขาทำเพราะจิตสำนึกที่ต้องทำต่างหาก หลังจากวันนี้ไป เขาอาจจะไม่มาหาเธอแล้ว นึกแล้วน้ำตาก็จะไหลอีกรอบ เธอน้อยใจเขาได้ขนาดนี้เชียวหรือ
เชอแตมลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว และที่เธอทำเป็นพิเศษมากกว่าวันอื่น ๆ คือ เตรียมเสื้อผ้าสำหรับไปนอนค้างบ้านของป๊อบคอร์นคืนนี้
ป๊อบคอร์นนั่งอ้าปากเหวอ มองเชอแตมด้วยอาการแบบเข็มขัดสั้นชนิดที่คาดเอวมดก็ไม่ได้ เธอคาดไม่ถึงเลยทีเดียวว่าเชอแตมจะมีวันนี้ วันที่หอบเสื้อผ้าขอไปนอนค้างบ้านเธอด้วย
"ทำไมต้องทำท่าทางอย่างกับพบเจอมนุษย์ต่างดาวมาเยือนโลกแบบนั้นแหละ ฉันแค่ขอไปนอนบ้านแกคืนนี้เองนะ มันแปลกตรงไหน" เชอแตมแขวะเข้าให้ วันนี้เธออารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เธองอนอีธานมาจากหอพัก มาเจอเพื่อนรักทำหน้าตาแบบนี้ใส่ อารมณ์มันเลยไปกันใหญ่ จะหาว่าเธอพาลก็ได้ แต่มันหงุดหงิดจริง ๆ นะ
"อิเชอ นี่แกไม่รู้ตัวเลยใช่มั้ย ว่าตั้งแต่เราคบกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลายจนถึงตอนนี้เนี่ย แกไปนอนบ้านฉันแค่สองครั้งเอง และแต่ละครั้งฉันก็บังคับแกไปทั้งนั้น และส่วนใหญ่เป็นฉันมากกว่าที่ไปห้องแก และเป็นแกเสมอเลยนะ ที่ปฏิเสธเสียงแข็งขออยู่ห้องคนเดียว ขอไม่ไปนอนกับฉัน ขอละ ๆ ๆ แกเรียกร้องหาสันโดษยามค่ำคืนอยู่ตลอด แล้วแบบนี้แกจะไม่ให้ฉันทำตาโต ปากค้างได้ไงล่ะ แกนึกดี ๆ สิ แกมาขอฉันไปนอนบ้านฉันเองนะ"
"ก็ใช่ไง ฉันขอไปเอง มันแปลกตรงไหน" เชอแตมยังนั่งหน้าตาบอกบุญไม่รับ ป๊อบคอร์นสังเกตเห็นแววประหลาดบางอย่างบนใบหน้าเพื่อนรัก
"อิเชอ แกทำตัวประหลาดมากเลยนะเดี๋ยวนี้ รู้ตัวมะว่าแกทำเหมือนกับงอนแฟน แฟนไม่ง้องั้นแหละ"
ป๊อบคอร์นตั้งข้อสังเกตแบบที่ไม่ได้รู้เรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรเลย แต่คนที่มีเบื้องลึกเบื้องหลังกำลังเบิกตาโต ตกใจกับสิ่งที่เพื่อนรักมองเห็น
"บ้าเหรอ แกนี่พูดอะไร แกก็รู้ฉันยังไม่มีแฟนซักหน่อย"
"แล้วทำไมต้องทำเสียงสูงขนาดนั้นด้วย" ป๊อบคอร์นยังซัก เชอแตมมองหน้าเพื่อนแล้วเม้มปาก
"ฉันก็เสียงปกตินะ" เจ้าหล่อนพยายามแก้ตัวแบบที่ไม่ขึ้นเลยซักนิด
"แกนี่มีอะไรที่ผิดสังเกตจริง ๆ นะแตม หน้าแกมันงอนจริง ๆ นะ งอนใครวะ งอนฉันเหรอ แกโกรธที่ฉันตกใจเรื่องที่แกไปขอนอนบ้านฉันวันนี้เหรอ"
เชอแตมถอนหายใจ "เปล่าหรอก ฉันก็แค่เบื่อ ๆ น่ะ รายงานมันสุมหัวอ่ะ ว่าจะไปทำบ้านแก เผื่อแกช่วยอะไรได้บ้าง การบ้านก็เยอะ ฉันทำแทบไม่ทันแล้วอ่ะ"
เจ้าตัวรู้ดีว่าเรื่องเรียนไม่ใช่ปัญหาเลยแม้แต่นิดเดียว
ป๊อบคอร์นยังทำคิ้วชนกัน แต่เมื่อนึกไม่ออกว่าเพื่อนรักจะมีอะไรที่ซ่อนไว้ และคิดว่ามันไม่น่ามีอะไรที่ซ่อนไว้เลย เธอก็เลยตัดบทเรื่องนี้ซะ ดีแค่ไหนที่เชอแตมขอไปนอนบ้านเธอ นี่ถือเป็นฤกษ์งามยามดีสำหรับการเลิกไปเดินเล่นในเวลาเที่ยงคืนของเชอแตม
เชอแตมนั่งทำรายงานในห้องสมุดตามเคย เมื่อนั่งนาน ๆ ก็นึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ วันก่อนเธอเดินชนเข้ากับหนุ่มหล่อคนหนึ่งในห้องสมุด แล้วทำเสื้อเขาเปื้อนด้วยนี่นา เชอแตมยืดตัวตรง เธอลืมไปซะสนิทว่าจะต้องไปซื้อเสื้อตัวใหม่ชดใช้เขา แต่เธอจะคืนเขาได้อย่างไรล่ะ ในเมื่อไม่รู้ข้อมูลอะไรของเขาเลย แม้แต่ชื่อก็ยังไม่ได้ถาม จำได้ก็แต่หน้าตา
เอาล่ะ เธอตั้งใจจะซื้อเสื้อก็จะซื้อให้ บังเอิญเจอเขาเมื่อไหร่ก็ค่อยคืนตอนนั้น เธอเจอเขาที่ห้องสมุด ดังนั้นเธอต้องมาที่นี่บ่อย ๆ เผื่อเจอเขา เธอจะได้คืนเสื้อให้เขา
ระหว่างที่ออกจากห้องสมุดในตอนเย็นเตรียมจะไปหาป๊อบคอร์นที่กำลังขลุกอยู่กับเพื่อนที่ชมรมโรตาแลคท์ เธอต้องหยุดยืนนิ่งงัน สังเกตข้างหลังของผู้ชายที่กำลังเดินอยู่ข้างหน้าเธอ มันดูคุ้น ๆ และเธอนึกออกแล้ว! ผู้ชายที่เธอเดินชนจนทำปากกาเปื้อนใส่เสื้อคนนั้นไง
"คุณคะ! " เชอแตมเรียกและพยายามวิ่งตาม แต่ดูเหมือนเขากำลังรีบจนสาวเท้าไปไกลเธอมากกว่าเดิม เชอแตมพยายามวิ่งตาม แต่ก็ยังไม่ทันเขา ก็เธอยืนนึกอยู่นานจนเขาห่างออกไปไกลน่ะสิ
เชอแตมวิ่งจนเหนื่อยหอบ จนกระทั่งมาถึงหน้ามหาวิทยาลัย เธอจึงหยุดแค่ตรงนั้นไม่ตามไปแล้ว เธออาจจะเหนื่อยเปล่า ยังไงก็คงไม่ทันหรอก วันข้างหน้ายังมีอีก แล้วเธอก็หันหลังกลับไปหาป๊อบคอร์น
บ้านของป๊อบคอร์นมีสมาชิกที่กำลังอาศัยอยู่ด้วยกันสามคนไม่รวมแม่บ้านสามคนและคนขับรถอีกสองคน ป๊ากับม๊าของเธอเป็นเจ้าของกิจการผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ป๊อบคอร์นมีพี่สาวสวยอยู่หนึ่งคน แต่ตอนนี้ไปทำงานอยู่ต่างประเทศ เชอแตมเคยเจอเธอครั้งหนึ่งเมื่อสมัยมัธยมปลาย หลังจากนั้นก็ไม่เคยเจออีกเลย
"เพื่อนที่ชมรมถามหาแกด้วยนะ" ป๊อบคอร์นบอกเชอแตมขณะที่ทั้งคู่กำลังนั่งเคลียร์งาน เคลียร์การบ้านด้วยกันในห้องนอน ป๊อบคอร์นหมายถึงเพื่อนที่ชมรมโรตาแลคท์
"แกตอบไปว่าไงล่ะ" เชอแตมถามกลับ ตามองตัวหนังสือ แต่ใจกำลังคิดถึงอีธาน
"ก็เล่าให้เพื่อนฟังเรื่องที่แกต้องทำรายงานส่งเพียงคนเดียวทั้งห้อง" พูดจบป๊อบคอร์นก็หัวเราะใส่หน้าเชอแตม เชอแตมเงยหน้ามองเพื่อนรัก
"แกนี่นะ" เชอแตมว่า
"เพื่อน ๆ หัวเราะกันใหญ่เลยแก"
ปกติแล้วเชอแตมกับป๊อบคอร์นก็มักไปขลุกอยู่กับชมรมโรตาแลคท์ซึ่งเป็นชมรมที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นให้เยาวชนเป็นคนดี พูดง่าย ๆ ว่าทำหน้าที่เพื่อส่วนรวมเช่นการไปออกค่ายอาสาเพื่อพัฒนาชุมชนเป็นต้น แต่ช่วงหลังมานี้เชอแตมมักจะไปขลุกในห้องสมุดเพื่อทำรายงาน และเธอคิดว่าเธอคงจะขลุกในห้องสมุดอีกหลายวันเพื่อรอพบเจ้าของเสื้อเปื้อนปากกาของเธอ
"ถ้าเรื่องฉันมันทำให้เพื่อน ๆ หรือว่าแกหัวเราะได้ เอาเถอะ ฉันยอม" เชอแตมพูดจริงแต่แอบประชดประชัน ป๊อบคอร์นเบะปาก มองหน้าเพื่อนรักที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำงานตัวเอง
"แก" ป๊อบคอร์นเรียก แล้วเงียบไปครู่หนึ่ง เชอแตมสงสัยเลยเงยหน้าขึ้นมาดูก็พบว่าป๊อบคอร์นกำลังมองเธอด้วยแววตาหวานเยิ้มชวนขนลุก
"อะไรวะ มองฉันแบบนี้ทำไม ฉันไม่ใช่เบี้ยนนะ" เชอแตมทำหน้าตาตื่น ๆ
"ฉันดีใจน่ะ แกดูไม่อยากที่จะออกไปเดินเล่นตอนเที่ยงคืนอีกแล้ว" เชอแตมถอนหายใจทันทีที่ได้ยินเพื่อนรักพูดแบบนั้น
"มันเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มากเลยเหรอ แกถึงได้ทำตาหวานซะ"
"แกไม่รู้หรอก หัวอกคนเป็นเพื่อนน่ะ เป็นห่วงแค่ไหน หลัง ๆ มาเนี่ยฉันก็พยายามไม่ยุ่งกะแกนะ เพราะฉันก็รู้สึกว่าตัวเองทุกข์เกินไป ที่ต้องมาคอยเฝ้าแกตอนเที่ยงคืนตลอดเวลา ห่วงน่ะห่วง แต่ในเมื่อห้ามแกไม่ได้ ฉันก็ควรปล่อยแก แล้วเห็นมะ วันนี้แกมานอนบ้านฉัน มันเป็นสัญญาณที่ดีมากเลย แล้วก็โชคดีมากนะที่แกรอดกลับมาห้องได้ทุกครั้งโดยที่ไม่โดนใครฉุดไปข่มขืน"
เชอแตมยิ้มน้อย ๆ ให้เพื่อน "ถ้ามีโอกาสดี ๆ ฉันจะบอกความจริงกะแกทุกอย่าง"
"ขอบใจนะแก" เชอแตมเอ่ย ไม่อยากพูดอะไรที่ซึ้งกว่านี้ เพราะคู่ของเธอเป็นคู่เพื่อนรักสายโหด ที่คำซึ้งมันทำให้ความสัมพันธ์เลี่ยนจนขนลุก
"ทีนี้ แกควรจะหาแฟนเป็นตัวเป็นตนได้ละนะ" ป๊อบคอร์นเอ่ย เชอแตมถอนหายใจทันที
"เรื่องนี้ก็เหมือนกัน แกพูดกับฉันตั้งแต่ม.6 จนตอนนี้ยังไม่เลิกอีกเหรอ"
ป๊อบคอร์นมักจะคอยยุแหย่เชอแตมเรื่องหาแฟนอยู่บ่อย ๆ เหตุก็เพราะเชอแตมตัวคนเดียว ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเลย มีก็แต่ลุงคอนเนอร์ที่ดูแลกันผ่านจดหมายกับเงินทองที่ส่งมาให้เท่านั้น เธอเป็นห่วงเชอแตมเพราะเป็นผู้หญิง อยากให้มีผู้ชายมาดูแลมันจะดีกว่า ยิ่งเชอแตมมีนิสัยชอบเดินเล่นตอนเที่ยงคืนคนเดียวด้วยแล้ว ป๊อบคอร์นก็ยิ่งอยากให้เพื่อนรักมีแฟน แต่เชอแตมกลับปฏิเสธบ่อย ๆ แม้ว่าครั้งหนึ่งเคยมีผู้ชายหน้าตาดีนิสัยดีมาก ๆ เข้ามาจีบเธอแล้ว เธอกลับปฏิเสธและบอกป๊อบคอร์นเพียงว่า
'ไม่รู้สิ มันไม่ใช่อ่ะ'
และความไม่ใช่ของเชอแตมก็คือ เธอรู้สึกว่ามีใครบางคนรอเธออยู่แล้ว และเธอก็รอเขาด้วย ทั้งที่เธอไม่รู้ว่าเขาคือใคร จนตอนนี้ เธอคิดว่าเธอรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร ผู้ชายคนเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกว่า ใช่ ได้เต็มปากเต็มคำ
แต่เขากลับเย็นชากับเธอ และไม่อยากเข้าใกล้เธอซะนี่
ที่สำคัญเขาก็ไม่ใช่คนซะด้วย
เชอแตมถอนหายใจด้วยความรู้สึกไม่พอใจอีกครั้งเมื่อนึกถึงหน้าอีธาน
"แล้วฉันก็บอกเหตุผลที่อยากให้แกมีแฟนเป็นล้านรอบได้แล้วมั้ง" ป๊อบคอร์นเอ่ย สีหน้าหน่าย ๆ ให้กับเพื่อนที่ดื้อด้านของเธอ
"เอาเถอะ เดี๋ยวมันก็มีเองแหละ เรื่องแบบนี้น่ะ อย่าไปวิ่งตามไม่งั้นมันจะไม่เจอ"
ป๊อบคอร์นทำปากจู๋ เอามือเท้าคาง
"ว่าแต่แกเถอะ จนป่านนี้แล้วทำไมยังไม่มีแฟนสักที" เชอแตมได้ทีขี่แพะไล่เพื่อนบ้าง
ป๊อบคอร์นถอนหายใจ แล้วก้มหน้าก้มตาทำการบ้านตัวเอง
"เหมือนแกว่าล่ะมั้ง เรื่องแบบนี้อย่าวิ่งตาม ยิ่งวิ่งตามมันก็ยิ่งห่าง" ป๊อบคอร์นพูดพลางเขียนหนังสือพลาง แม้ดวงตามองตัวหนังสือ แต่ในใจกลับนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น วันที่ทำให้เธอเข็ดหลาบเรื่องความรัก และเป็นเรื่องเดียวในชีวิตที่เธอไม่เคยปริปากพูดกับเพื่อนรักอย่างเชอแตมมาก่อน
เที่ยงคืนแล้ว ทั้งคู่ยังนั่งปั่นงาน แต่อยู่ในสภาพที่เกือบจะไปไม่รอดแล้ว ป๊อบคอร์นฟุบแหมะลงไปบนโต๊ะและงีบไปพักใหญ่ ปล่อยให้เชอแตมนั่งเหม่อเพียงลำพัง
"คืนนี้คุณจะมาหาฉันที่ห้องมั้ยนะ" เชอแตมคิด นึกวุ่นวายเป็นห่วงอีธานขึ้นมา ในใจร้อนรุ่มกลัวเขาโกรธซะงั้นถ้ามาแล้วไม่เจอเธอ แต่คิดอีกทีเธอก็ต้องพ่นลมออกจากจมูกดังฟู่ เพราะเขาบอกเองนี่นาว่าไม่อยากเข้ามาในห้องเธอ เขาคงไม่มาหรอก เขาไม่สนใจเธอ เขาไม่ตามหาเธอหรอก เขาไม่งอน ไม่โกรธเธอ เหมือนที่เธอรู้สึกกับเขาหรอก
ถึงแม้ว่าตัวเองจะทำเป็นไม่สนใจเขาแค่ไหน แต่ในใจลึก ๆ มันกระวนกระวายจนนอนไม่หลับ "อีธาน คุณจะรู้มั้ยว่าฉันมาอยู่ที่นี่" นี่เป็นข้อความสุดท้ายที่เชอแตมคิดก่อนตัวเองจะหลับไป
ป๊อบคอร์นอ้อนวอนให้เชอแตมนอนค้างบ้านเธอต่อในวันต่อมา แต่เชอแตมมานอนเหตุผลหลักก็แค่ประชดอีธานเท่านั้น แค่มานอนคืนเดียวจิตใจเธอก็ร้อนรุ่มจนแทบจะนอนไม่หลับ ถ้าขืนเธอยังมาค้างบ้านป๊อบคอร์นต่อ มีหวังหัวใจเธอระเบิดออกมาเป็นเสี่ยง ๆ เพราะความวุ่นวายใจเป็นแน่
แต่เมื่อกลับมาอยู่ห้องตัวเองเธอก็รู้สึกวุ่นวายใจไปอีกแบบ วุ่นวายใจเพราะคิดถึงเขาทั้งที่รู้ว่าเขาไม่อยากมาหาเธอแล้ว เชอแตมรู้สึกว่าหัวใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มันเที่ยวออกไปโลดแล่นที่ไหนก็ไม่รู้ และนี่ก็เป็นสาเหตุให้เธอไม่อยากอยู่ห้องแคบ ๆ แบบนี้คนเดียวในคืนนี้ เธอต้องประสาทตายแน่ ถ้าไม่ออกไปเดินเล่นตอนเที่ยงคืนให้สมองปลอดโปร่ง
เชอแตมเอาเสื้อนักศึกษาของผู้ชายที่เธอเพิ่งซื้อมาวันนี้แขวนไว้ที่หน้าตู้เสื้อผ้า แล้วก็จัดการอาบน้ำแต่งตัว เธอไม่รอให้ถึงเที่ยงคืน เพราะทนความวุ่นวายใจของตัวเองไม่ไหว เธอไม่อยากนั่งรออีธาน เพราะรู้สึกเจ็บทุกทีที่คิดว่าเขาจะไม่มา
อารมณ์จะทำงานก็ไม่มี ดังนั้น เชอแตมจึงหยิบเสื้อกันหนาวและโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย อย่างน้อยเธอก็ยังเป็นห่วงความปลอดภัยของตัวเอง เธอยังจำได้ว่าออสการ์กำลังต้องการตัวเธออยู่
เชอแตมออกไปเดินเล่นในซอยหอพักตัวเองเหมือนทุกคืนในเวลาห้าทุ่มเศษยังมีผู้คนเดินกันอยู่ประปราย และเธอก็เดินเลยไปยังที่ที่เคยเจออีธานบ่อย ๆ ในเวลาเที่ยงคืน แม้ตัวเองจะปฏิเสธใจตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าไม่ได้อยากเจอเขา แต่จริง ๆ แล้วสิ่งที่พาเธอมา ณ ที่นี้ตอนนี้กลับไม่ใช่ขา แต่เป็นใจเธอต่างหาก
เธอไม่รู้ตัวว่าเธออยากเจอเขาจนไม่สามารถรออยู่ที่ห้องเพียงลำพังได้ เธออยากเจอเขาจนต้องมาเดินแบบนี้ให้พอได้มีความหวังว่าเขาอาจจะเดินเตร็ดเตร่อยู่ก็ได้
และเธอก็ต้องสะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียงเท้าเดินอยู่ข้างหลังเธออีกแล้ว!
เชอแตมหยุดกึก ใจเต้นตึกตัก เธอคิดเพียงอย่างเดียวเท่านั้นว่าต้องเป็นออสการ์ มันรอที่จะเอาตัวเธอไปอยู่ทุกวินาทีอยู่แล้ว มันบุกไปหาเธอถึงห้อง แล้วมันจะพลาดได้อย่างไรในเมื่อเธอเดินออกมาให้มันเชือดถึงที่อย่างง่ายดายแบบนี้แล้ว
เชอแตมหันหลังไปมองทันที เธอไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวอย่างวันแรก ๆ ที่ได้เจอแวมไพร์อีกแล้ว หากแต่ความตื่นเต้นตกใจมันก็ยังมีอยู่
และเธอก็ไม่พบอะไรอีกตามเคย!
เชอแตมถอนหายใจ เธอหันหลังกลับมาเพื่อจะเดินต่อ และก็สะดุ้งตัวจนต้องเอามือทาบอกแต่ไร้เสียงอุทาน เมื่อเธอเจออีธานยืนอยู่ตรงหน้าเธอ!
เชอแตมอ้าปากค้างน้อย ๆ ในส่วนลึกเธอดีใจมาก มากที่สุดในโลก การไม่เจอเขาแค่หนึ่งวัน มันทำให้เธอกระวนกระวายได้ขนาดนี้ ถ้าไม่เจอเขาสักเดือนเธออาจจะตายได้หรือเปล่า
ทั้งคู่มองหน้ากันนิ่ง สีหน้าอีธานเรียบเฉย แต่แววตาดุมาก เขาเก็บมือไว้ในถุงเสื้อกันหนาว วันนี้เขาไม่ได้สวมฮูดคลุมศีรษะ เชอแตมจึงเห็นใบหน้าเขาได้ชัดเจนแม้จะเป็นเวลามืดมิด
แม้จะดีใจแค่ไหน แต่เชอแตมก็ไม่แสดงมันออกมา เธอยังจำได้ว่าตัวเองงอนเขาอยู่ งอนมากเสียด้วย เธอจำได้ว่าเขาบอกไม่อยากเจอเธอ ทิฐิเชอแตมก็เลยคุกรุ่น เธอมองเขากลับไปด้วยแววตาดุเช่นกัน แต่มันไม่น่ากลัวเลยสำหรับอีธาน เขาเห็นมันเป็นแค่แววตาของเด็กที่เอาแต่ใจและดื้อด้านคนหนึ่ง
ไม่มีการพูดคุยใด ๆ ทั้งสิ้น ในทันทีทันใดที่นึกได้ว่าเธอไม่พอใจเขา เธอก็หันหลังจะเดินหนีเขา แต่พอหันไปแล้วเดินได้สองก้าว เขาก็แวบมายืนขวางหน้าเธอ เชอแตมแทบหยุดเท้าไม่ทัน เธอมองเขาด้วยแววตาไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม แล้วหันหลังเดินหนีอีก และอีกครั้งที่อีธานแวบมาขวางหน้าไว้อีก เชอแตมทำแบบนี้อยู่ทั้งหมดสิบสองรอบจนกระทั่งเธอเหนื่อยเอง และเริ่มไม่พอใจมาก ที่เขาแทบไม่ได้ใช้พลังอะไรเลย มีเธอเพียงคนเดียวที่เหนื่อยหอบ เธอรู้ว่าเขาแกล้งเธอให้เหนื่อย
"นี่คุณ! จะขวางหน้ากันอีกนานมั้ย" เชอแตมตวาดด้วยแววตาโกรธมาก อีธานไม่ได้รู้สึกรู้สากับแววตานั้น และเธอก็ไม่รู้เลยว่าเขามีอารมณ์คุกรุ่นยิ่งกว่าเธออีก
อีธานไม่พูดอะไรเลย เขามองหน้าเธอนิ่ง จนเชอแตมอ้าปากค้างถอนหายใจแบบรำคาญออกมา ทำไมเขาไม่พูดอะไรเลย
"ได้ คิดว่าฉันจะหนีคุณไม่พ้นก็ให้มันรู้ไป" เชอแตมไม่ทน เธอจะเดินหนี หันหลังหนี แม้ว่าเขาจะใช้วิชามารขวางเธอไว้ก็ตาม
เธอหันหลังหนีอีกสามรอบและอีธานก็ขวางหน้าเธอทุกรอบ เชอแตมทนไม่ไหวแล้ว ความอัดอั้นตันใจมันปะทุถึงขีดสุด เธอผลักเขาในรอบสุดท้ายหวังให้เขาล้มลงไปกองกับพื้น ให้รู้สึกเจ็บอย่างเธอบ้าง แต่เปล่าเลย คนที่ล้มคือเธอเองต่างหาก
เธอผลักเขาแต่เธอกลับล้มลงเอง เชอแตมโมโหจนเลือดขึ้นหน้า เธอลุกขึ้นยืน แล้วตบหน้าเขาอย่างแรง อีธานหันหน้าไปตามแรงมือของเธอ เชอแตมสะดุ้งเมื่อรู้สึกได้ว่าเธอทำเขาเจ็บ แต่เธอเองก็เจ็บมือเหมือนกันนะ ไม่รู้ว่ามันจะแดงหรือเปล่า แต่เมื่ออีธานหันหน้ากลับมา เธอก็ไม่สนใจว่าเขาจะเป็นอย่างไร เพราะแววตาเขายังดุมากเหมือนเดิม
"ต้องการอะไรห๊ะ! ไม่อยากมาเจอก็ไปให้พ้นสิ มาดักหน้าดักหลังแบบนี้ต้องการอะไรห๊ะ! " เชอแตมตะโกนเสียงดังตามอารมณ์โมโหที่มี น้ำตาแห่งความอัดอั้นแทบจะไหลลงมา
อีธานกระชากข้อมือเธอเข้าหาตัวเขาด้วยแววตาเหี้ยม เขากัดฟันกรอด
"ทีนี้ก็เป็นทีของผมบ้างละ" เขาเอ่ยออกมาเป็นประโยคแรก และมันทำให้เชอแตมเสียวสันหลังวาบ
