บท
ตั้งค่า

บทที่ 38 ดอกไม้ที่ถูกเก็บจากถังขยะ 1

หลุยส์นั่งอยู่บนพนักโซฟาด้วยท่าทางที่กำลังเอามือกอดอก หันด้านข้างของตัวมาให้วงสนทนา สีหน้าไม่ค่อยรับแขก เขารู้สึกขุ่นเคืองใจเมื่อเรื่องราวมันบานปลายเพราะป๊อบคอร์นกำลังจะก้าวเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องแวมไพร์แบบเต็มตัว อีธานที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาอีกตัวตรงข้ามกัน แค่เห็นความคิดของมนุษย์หนุ่มเขาก็เข้าใจความรู้สึกดีว่าลำบากใจแค่ไหน แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเขาไม่สามารถควบคุมเรื่องราวเหล่านี้ได้เลย ป๊อบคอร์นก้าวเข้ามารู้เรื่องนี้ด้วยตัวเอง หากจะให้โกหกเจ้าหล่อนต่อไป เชอแตมก็ต้องโกหกไปเรื่อย ๆ จนท้ายที่สุด ความแตกหักระหว่างเพื่อนอาจจะเกิดขึ้น สู้ให้ป๊อบคอร์นรู้เรื่องให้จบ ๆ ไป แล้วค่อยคิดหาวิธีการที่มันดีที่สุดสำหรับทุกฝ่ายกันทีหลังดีกว่า

อีธานนั่งติดขอบโซฟาใช้แขนข้างหนึ่งวางไว้บนที่วางแขน ขาข้างหนึ่งยกขึ้นไขว่ห้างอีกข้าง สายตาเหลือบไปที่โซฟาอีกตัวทางซ้ายมือตัวเอง สองสาวกำลังนั่งหันหน้าเข้าหากัน คนหนึ่งเหมือนผู้พิพากษาที่กำลังไต่สวนจำเลยด้วยสีหน้ามีอารมณ์ตลอดเวลา ในขณะที่อีกคนเหมือนผู้ต้องหาที่ได้กระทำความผิดมาจนต้องตอบทุกคำถามต่อผู้พิพากษาแบบไม่มีหมกเม็ด

อีธานเห็นทุกความคิดผ่านดวงตาป๊อบคอร์น ความเข้าใจรวมทั้งไม่สบายใจเริ่มรุกล้ำเข้ามาในความรู้สึกเธอ เจ้าหล่อนแทบจะไม่อยากเชื่อว่าเพื่อนรักของตัวเองโดนแวมไพร์ตามล่าตัวเพราะต้องการอะไรบางอย่างที่อยู่ในตัวเธอ ซึ่งอะไรที่ว่านั้นเขาก็ไม่เคยเอ่ยปากบอกแก่เชอแตมไปเลยสักครั้ง เชอแตมคิดว่าเขาอาจจะไม่แน่ใจว่าสิ่งที่อยู่ในตัวเธอคืออะไร หรือเขารู้แต่ตั้งใจไม่บอก

ใช่...เขาตั้งใจไม่บอก เพราะการที่เธอรู้จักสิ่งนั้น มันเสี่ยงมากกว่าที่เธอไม่รู้

"ฉันเคยเตือนแกหลายครั้งแล้วนะเรื่องการออกไปเดินเล่นตอนเที่ยงคืน!..." ป๊อบคอร์นเอ่ยตำหนิออกมาเมื่อได้ฟังเรื่องราวทุกอย่างแบบหมดเปลือกจากเชอแตม "ถ้าแกไม่ออกไปเที่ยวเดินเล่นในเวลาแบบนั้น แกคงไม่เจอไอ้แวมไพร์อะไรนะ..." ป๊อบคอร์นพยายามเค้นชื่อของออสการ์ออกมาจากสมองที่เพิ่งได้รับรู้จากปากของเพื่อนรักไปเมื่อสักครู่ "ชื่อเหมือนรางวัลอะไรสักอย่าง?" เธอยังนึกไม่ออก "อ้อ! ออสการ์" เธอนึกออกแล้ว

เชอแตมก้มหน้าลงคล้ายสำนึกผิด มันก็จริงอย่างที่ป๊อบคอร์นว่า ถ้าเธอไม่รั้นทำตามใจตัวเองเกินไป เรื่องนี้คงไม่เกิด ออสการ์คงไม่ได้กลิ่นแปลก ๆ จากตัวเธอ แต่เธอห้ามใจตัวเองไม่ให้ไม่ออกไปเดินเล่น ไม่ได้จริง ๆ อะไรบางอย่างทำให้เธออยากออกไป ถ้าไม่ออกไปเธอจะรู้สึกหงุดหงิด นอนไม่หลับ แต่อาการเหล่านี้มันก็ลดลงตั้งแต่ที่มีอีธานมาเฝ้าเธอทุกคืนในห้อง ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรอาการอยากออกไปเดินเล่นถึงลดลงไปได้

"ฉันห้ามตัวเองไม่ได้จริง ๆ แก ถึงแกจะด่าจะว่าจะหาวิธีต่าง ๆ นานาให้ฉันอยู่ห้องให้ได้ แต่มันก็..."

"ไม่เคยห้ามแกได้เลย" ป๊อบคอร์นต่อท้ายคำพูดให้เชอแตมเอง เจ้าหล่อนถอนหายใจฟู่หนึ่ง ก่อนจะเอนหลังพิงพนักโซฟาดังตึกเบา ๆ อีธานเห็นความคิดปลงตกในดวงตาของเจ้าหล่อน

อีธานอยากบอกป๊อบคอร์นออกไปเหลือเกินว่า การที่เชอแตมชอบออกไปเดินเล่นตอนเที่ยงคืนนั้น ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอก แต่เขาไม่สามารถพูดอะไรได้ตอนนี้ มันยังไม่ควรเปิดเผยให้ทั้งคู่รู้

"แล้วนี่จะทำไงต่อไป แกจะอยู่แบบนี้ โดยที่..." ป๊อบคอร์นหันไปมองอีธาน แล้วก็ต้องลดระดับสายตาที่กระด้างลง เพราะใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มของเขารบกวนจิตใจ จนต้องชะงักกึก จากที่ระแวง ไม่ไว้ใจ ไม่เชื่อใจเขาก่อนหน้านี้ ทุกอย่างถูกคำอธิบายของเชอแตมทำลายหายไปหมดสิ้น ป๊อบคอร์นเปลี่ยนสำเนียงเสียงให้อ่อนหวานมากขึ้นกว่าเดิมจนหลุยส์สังเกตได้ "ให้อีธานดูแลแบบนี้ไปตลอดเหรอ" ท้ายเสียงเจ้าหล่อนแอบยิ้มให้เขาเชิงสำนึกผิดนิดหนึ่งประกอบกับอาการกระดี๊กระด๊าที่ไม่ออกนอกหน้ามากนักให้กับใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตรของเขา

อีธานยิ้มมุมปากนิด ๆ กับท่าทางนั้นที่เกิดขึ้นกะทันหันจนเขาแทบตั้งตัวไม่ทัน เขาหันไปทางหลุยส์เพื่อดูปฏิกิริยาว่าเป็นอย่างไร และเขาก็เห็นชายหนุ่มนั่งกัดฟันกรอดมองหน้าป๊อบคอร์น คิดอยากตะโกนออกมาดัง ๆ ให้เจ้าหล่อนได้ยินว่า

'ฝันไปเถอะ! อีธานมันไม่เอาคุณหรอก' แต่ก็ดังแค่ในใจ จนอีธานหลุดหัวเราะหึ ๆ แบบยังคงมาดเท่ห์ ๆ เอาไว้กับตัวเองเบา ๆ

คำถามของเพื่อนรักทำให้เชอแตมต้องหันไปมองอีธานด้วยสายตาเศร้า ๆ เธอก็คิดเรื่องนี้อยู่ตลอดนั่นแหละ แต่เพราะไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร มันเลยกลายเป็นว่าเธอต้องอยู่ในความดูแลของเขาตลอด อีกอย่างถ้าเรื่องนี้มันจบ อีธานก็อาจจะจากเธอไป กลับสู่มาตุภูมิของเขา นั่นเท่ากับว่าชีวิตเธอที่เคยหม่น ๆ ก็ต้องกลับมาเป็นแบบเดิมอีกครั้ง

บางทีการที่เฮนรี่และออสการ์ต้องการตัวเธออยู่และยังทำได้ไม่สำเร็จ มันเหมือนเป็นการต่อลมหายใจของเธอให้ได้อยู่ใกล้ ๆ อีธานไปนาน ๆ

แต่งานเลี้ยงมันต้องมีวันเลิกรา สงครามมันก็ต้องมีวันยุติ #ความรักของเธอกับอีธานก็เช่นกัน

และอีธานเห็นความคิดนี้ของเธอ

"มันคงเป็นแบบนั้นแหละมั้ง ฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้นี่" เชอแตมเอ่ยน้ำเสียงหม่น ๆ

"มันไม่มีวิธีเลยหรือคะ อีธาน" ป๊อบคอร์นหันมาถามแวมไพร์หนุ่มด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจัง ความรู้สึกกระดี๊กระด๊าเมื่อสักครู่หายไปชั่วคราว เพราะความรู้สึกสงสารเพื่อนรักมาแทนที่

อีธานสบตาหญิงสาวสองคนสลับกันไปมา "ผมได้รับคำสั่งจากอาของผมให้ดูแลเชอแตมเพียงอย่างเดียว เราไม่รู้ว่าฝ่ายเฮนรี่กำลังคิดจะทำอะไร จะจับตัวเชอแตมไปแบบไหน ผมมีหน้าที่เพียงตั้งรับ และพยายามเดาความคิดพวกมันเพื่อหาทางป้องกัน ผมไม่สามารถหยุดหรือแก้ปัญหานี้ได้ มีเพียงไม่กี่ทางที่มันจะจบลง คือเฮนรี่เปลี่ยนความคิดซะ หรือไม่ก็...ต้องเดินหน้าทำสงครามกับมัน..." ทุกคนในห้องหันมามองเขาและฟังอย่างตั้งใจ แววตาแฝงไปด้วยความกังวล อีธานเห็นความคิดที่ทุกคนต่างไม่รู้ตัวว่ากำลังคิดเหมือนกันและเขาก็ตอกย้ำยืนยันความคิดของทุกคนด้วยการเอ่ยออกมา "และดูท่าทางแล้ว ทางที่จะเป็นไปได้มากที่สุดคือ การทำสงครามมากกว่า"

มีเพียงป๊อบคอร์นที่ถอนหายใจเบาออกมา

"อะไรกันคะ ที่มันอยู่ในตัวของเชอแตม..." ป๊อบคอร์นเอ่ยถาม "มันสำคัญกับพวกออสการ์มากขนาดที่ต้องทำสงครามกันเลยเหรอ"

"ผมคงบอกอะไรพวกคุณไม่ได้ จนกว่าจะได้รับคำสั่งอนุญาตจากอาเค..." มีเพียงหลุยส์ที่รู้เรื่อง 'สิ่งนั้น' ในตัวเชอแตมด้วย "แต่ที่ผมสามารถบอกพวกคุณได้คือ มันสำคัญมาก ถึงขนาดที่ทำให้อาณาจักรแวมไพร์ที่พยายามอยู่โดยเป็นมิตรกับมนุษย์ต้องสูญสิ้นไปเลย และไม่เพียงแค่แวมไพร์ มนุษย์ทั้งโลกก็จะได้รับผลกระทบและเดือดร้อนยิ่งกว่า"

สองสาวมองตากันแวบหนึ่งก่อนจะต่างคนต่างเสมองไปทางอื่นเพื่อเข้าสู่ความคิดตัวเอง

"แล้วสิ่งนั้นน่ะ มันเข้าไปอยู่ในตัวเชอแตมได้ยังกัน" คำถามของป๊อบคอร์นจุดประกายความสงสัยให้เชอแตมขึ้นมาจนต้องหันไปมองหน้าอีธาน ทำไมเธอไม่เคยถามเรื่องนี้กับเขา ทำไมเธอเอาแต่สงสัยว่าสิ่งที่อยู่ในตัวเธอคืออะไร แต่ไม่เคยสงสัยว่าอะไรที่ว่า มันเข้ามาอยู่ในตัวเธอได้ยังไง

อีธานอ่านความคิดของเชอแตมแล้วเงียบไปครู่หนึ่ง

"ผมไม่รู้" เขาตอบด้วยความสัตย์จริง คงมีเพียงเรื่องนี้ที่อาเคไม่เคยบอกเขา และมันทำให้อาการผิดหวังเกิดขึ้นบนใบหน้าของสองสาวเสียมิได้

"เราคงต้องรอให้มันเกิดสงครามขึ้นมาจริง ๆ เหรอเนี่ย..." เสียงป๊อบคอร์นบ่นเศร้า ๆ ถอนหายใจเงียบ ๆ หันไปมองเพื่อนรักด้วยแววตาเป็นห่วง "ถ้าเกิดสงครามขึ้นมาจริง ๆ ชีวิตอิเชอจะเป็นยังไงกันคะ"

สองหนุ่มมองไปที่เชอแตม ไร้คำตอบจากใครคนใดคนหนึ่ง เพราะต่างคนต่างคิดเพียงลำพัง

อีธานรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเชอแตมและเขาไม่อยากพูด

"เราแก้ไขอะไรก่อนที่จะเกิดสงครามขึ้นไม่ได้เลยเหรอ..." ป๊อบคอร์นพยายามเค้นหาวิธีมานำเสนออีธานเผื่อเขาอาจจะมืดแปดด้านอยู่ "เช่น เอาสิ่งที่อยู่ในตัวเชอแตมออกมา...ใช่ -- ทำไมเราไม่เอาสิ่งที่อยู่ในตัวเชอแตมออกมาล่ะคะ" ทุกคนหันไปมองเธอเป็นตาเดียว

เชอแตมแสดงแววตาเป็นประกายเห็นด้วยกับเพื่อนรักส่งไปให้อีธาน แต่ทั้งสองสาวกลับเห็นแววนิ่งขรึมจากเขาส่งกลับมา

"สิ่งที่อยู่ในตัวคุณ เราไม่รู้วิธีที่จะเอาออกมา" เขาตอบ

ป๊อบคอร์นแสดงสีหน้าเหวอ "อ้าว!..คุณไม่รู้แล้วพวกออสการ์มันรู้วิธีเอาออกมาเหรอคะ"

"ไม่ยากหรอกสำหรับแวมไพร์ไร้คุณธรรมอย่างพวกมัน มันคงทำทุกวิธี...และพวกคุณคงนึกออกว่าการจะเอาอะไรสักอย่างออกมาจากร่างกายของคน ๆ หนึ่งสามารถทำยังไงได้บ้าง"

คำพูดของอีธานทำให้สองสาวจินตนาการถึงเคสผ่าตัดในโรงพยาบาล แต่สำหรับแวมไพร์เฮนรี่และออสการ์ คงไม่ใช้วิธีนุ่มนวลวางยาสลบเธอก่อนแล้วค่อย ๆ ผ่าตัดค้นหาสิ่งที่อยู่ในร่างกายเธอ แต่พวกมันคงจะเชือดคอเธอหรือดูดเลือดจนตายก่อนจะแหวกร่างออกมาควานหาสิ่งที่ต้องการ

นึกแล้วก็ขนลุก!

"โอ๊ยยยยย!...มันไม่สามารถทำอะไรได้เลยเหรอเนี่ย" ป๊อบคอร์นตะโกนออกมาเสียงดังระบายความอึดอัดใจ ไม่มีใครว่าอะไรเธอ เพราะทุกคนต่างก็คิดแบบเธอ หากแต่ไม่มีใครส่งเสียงตะโกนระบายอารมณ์อย่างเธอออกมา

"ไม่เป็นไรหรอกป๊อบ..." เชอแตมเอ่ย "เรายังมีเวลาที่จะค่อย ๆ ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้...แต่ถ้ามันไม่มีวิธีแล้วจริง ๆ..." อีธานเห็นเชอแตมกำลังคิดที่จะเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องคนหมู่มากเอาไว้ เขารู้สึกเจ็บแปลบเมื่อคิดว่าเธอตายจากไป

"คุณไม่เป็นอะไรหรอก..." อีธานตัดบท เชอแตมมองเขา แววตาเปล่งประกายซึ้งใจ เธอรู้นั่นก็เพราะเขาอ่านใจเธอ เขาถึงเอ่ยตัดบทแบบนั้น "เชื่อผมสิ ตอนนี้อาเคกำลังทำงานเรื่องนี้อยู่ เขาไม่ยอมให้เฮนรี่ได้สิ่งนั้นในตัวคุณไปได้หรอก"

"และผมก็ไม่ยอมให้คุณเป็นอะไรเด็ดขาด!" ประโยคนี้เขาให้คำมั่นกับตัวเองในใจ

อีธานสบตากับเชอแตมพยายามส่งสารในใจให้ราวกับเธอสามารถอ่านใจเขาได้ เชอแตมยิ้มน้อย ๆ เชิงขอบคุณส่งตอบกลับไปให้เขา แม้ไม่พูด ไม่สามารถอ่านใจเขาได้เธอคิดว่าเธอรู้ว่าเขาหวังดีกับเธอมากแค่ไหน

เชอแตมตวัดสายตาไปทางหลุยส์ รายนั้นเงียบไปตั้งแต่เธอบอกความจริงทุกอย่างให้ป๊อบคอร์นฟัง เรื่องของเขากับป๊อบคอร์นคงถึงเวลาได้เคลียร์กันเสียที

"ฉันว่า ฉันกลับก่อนดีกว่า นี่ก็เกือบสามทุ่มละ" เชอแตมเอ่ย สายตาเจ้าเล่ห์มองหลุยส์ อีธานรู้ดีว่าเจ้าหล่อนตั้งใจให้หลุยส์กับป๊อบคอร์นได้ปรับความเข้าใจกัน

"ป่ะ ฉันไปส่ง" แต่ดูเหมือนเพื่อนรักของเธอกลับไม่ทันแผนการของเธอซะนี่ หรือรู้แต่ทำเป็นไม่รู้ หลุยส์ตวัดสายตากลับมามองป๊อบคอร์น อีธานกระตุกมุมปาก เมื่อเห็นแววตาหงุดหงิดนั้น

"ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวผมไปส่งเอง ยังไงผมก็ต้องไปเฝ้าเพื่อนคุณที่ห้องอยู่แล้ว"

อีธานบอก ทำตัวเข้ากับแผนการของเชอแตมอีกคน หลุยส์ตวัดสายตามามองเขา อีธานมองตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ถึงอ่านใจอีธานไม่ได้ แต่เขาพอจะรู้ว่าแวมไพร์หนุ่มคิดอะไร เขาเลยส่งข้อความคาดเดาความคิดของอีธานผ่านความคิดเขาไปให้อีธานอ่าน

"มันไม่ง่ายหรอกอีธาน ฉันเอาเธอมาเสี่ยงกับเรื่องแบบนี้ด้วยไม่ได้"

อีธานยักไหล่ไม่แยแสส่งไปให้หลุยส์ เดี๋ยวมนุษย์หัวแข็งคนนี้ก็จะได้รู้ฤทธิ์หญิงสาวน้ำเสียงแปดหลอดเพื่อนรักของเชอแตมเอง

อีธานลุกขึ้นยืนตัวตรง ซุกสองมือไว้ในกระเป๋ากางเกง ป๊อบคอร์นมองตามท่วงท่าของเขาแล้วรู้สึกเนื้อตัวสั่นระริก ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้อีธาน ไม่ว่าเขาจะขยับตัวทำอะไรมันก็ดูเท่ห์ไปเสียหมด เจ้าหล่อนเข้าใจแล้วว่าทำไมเพื่อนรักของเธอถึงได้ตกหลุมรักแวมไพร์ตนนี้

เชอแตมลุกขึ้นตามอีธาน ป๊อบคอร์นจึงต้องลุกตามอัตโนมัติ

"ไปกันยังไงล่ะ ไปรถฉันมั้ยคะ" ป๊อบคอร์นถามอีธานเสียงหวาน ส่งสายตาก้อร่อก้อติกไปให้เล็กน้อย โชคดีที่เชอแตมรู้จักนิสัยเจ้าหล่อนดีว่าชอบเล่นหูเล่นตากับผู้ชายหล่อ ๆ ไปทั่ว หากแต่เอาเข้าจริง เจ้าหล่อนกลับเป็นผู้หญิงที่ละเอียดอ่อนกับเรื่องความรัก นี่ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นมาเล่นหูเล่นตาให้อีธานแบบนี้ เธอจะเล่นงานอีธานเพียงคนเดียว โทษฐานหล่อเท่ห์จนทำให้ผู้หญิงหลงใหล

"ไม่ต้องหรอกแก เพราะอีธานน่ะ เขาเดินทางไวกว่าแกเยอะ" เชอแตมบอก ป๊อบคอร์นย้อนนึกไปถึงวิธีการที่อีธานพาเธอเข้ามาในห้องหลุยส์แล้วพยักหน้าช้า ๆ เข้าใจ

"หลุยส์..." เชอแตมเรียกชื่อหลุยส์ข้ามไหล่เพื่อนรักไป ป๊อบคอร์นเบิกตากว้างมองดวงหน้าเพื่อนรักด้วยแววตาลุกวาว หลุยส์หันมามองหน้าเชอแตม เขาถอนหายใจเบา "ฝากป๊อบคอร์นด้วยนะ"

เชอแตมเอ่ยเป็นเลศนัยเริ่มยิ้มมุมปากแบบอีธานเป็นแล้ว หลุยส์แสดงสีหน้าระอาออกมาโจ่งแจ้ง เขารู้เชอแตมกับอีธานจงใจแกล้งเขาด้วยความหวังดี

"จะฝากเขาทำไม ถามเขาก่อนเถอะ..." ป๊อบคอร์นหันไปมองหยันหลุยส์ "ว่าดูแลตัวเองได้แล้วยัง" ใจจริงเธอยังเป็นห่วงเขาลึก ๆ กับอาการไข้เมื่อตอนกลางวันของเขา

"หน้าตาฆ่าคนได้แบบนี้ มันคงยิ่งกว่าหายป่วย" อีธานเอ่ยทุ้มนุ่มเพราะอ่านใจได้จึงรู้ว่าเขาป่วยและมีพยาบาลส่วนตัวมาดูแลถึงที่ แวมไพร์หนุ่มส่งสายตาเยาะเย้ยไปให้จนหลุยส์ต้องขบกรามเจ็บใจเล่น ๆ

"ฉันไปล่ะ" เชอแตมเอ่ยยิ้ม ๆ ให้ทั้งคู่ก่อนเดินลิ่วออกจากห้องโดยมีอีธานขยับฝีเท้าก้าวเท่ห์ ๆ ตามหลังไปติด ๆ

ทั้งห้องจึงเหลือเพียงป๊อบคอร์นกับหลุยส์

ความจริงเกือบทุกอย่างถูกเปิดเผยออกมาหมดแล้ว ตลอดเวลาที่ฟังเชอแตมเล่าเรื่องราว จะมีเรื่อง ๆ หนึ่งแทรกอยู่ในความอยากรู้ด้วยเสมอ นั่นคือ หลุยส์มาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไร เธอไม่กล้าเอ่ยถามเชอแตมต่อหน้าอีธาน หรือต่อหน้าหลุยส์ เธอจึงเลือกเก็บเรื่องนี้เอาไว้ ถามเจ้าตัวเองน่าจะดีที่สุด

บางที...เรื่องนี้อาจจะเกี่ยวโยงกับดอกไม้ที่ถูกทิ้งถังขยะของเธอด้วยก็ได้

หนุ่มสาวมองตากันนิ่งนาน ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะเอ่ยออกมาก่อน

"ถึงตาของคุณละนะ หลุยส์"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel