บท
ตั้งค่า

บทที่ 32 เมื่อความลับปรากฎ 1

เงียบกันไปอึดใจ ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเป็นเวลากว่าสิบวินาที เชอแตมมองหน้าอีธานกับหญิงสาวในชุดกางเกงเลกกิ้งหนังสีดำมันปลาบ รองเท้าส้นสูงทรงคอมแบทสวมเสื้อกล้ามสีขาวมีเบลเซอร์สีดำคลุมทับอีกทีสลับกันไปมา หญิงสาวที่อ้างว่าเป็นคู่หมั้นของอีธานยืนกอดอกในท่าทางมาดมั่น จมูกโด่งรับกับใบหน้าเรียวสวยรูปเพชร ริมฝีปากอิ่มเต็มได้รูปแต้มด้วยสีส้มจากลิปสติก เรือนผมสีชมพู่ม่าเหมี่ยวยาวลงมาเป็นทรงเซอร์ ๆ เชอแตมเผลอมองไปที่หน้าอกหน้าใจของหญิงสาวโดยบังเอิญแล้วก้มลงมองของตัวเองโดยอัตโนมัติ

ดูยังไงเชอแตมก็เทียบไม่ได้สักเสี้ยวของหล่อน เธอแค่เกือบคัพซี แต่เจ้าหล่อนคงจะเกินคัพดีล่ะมั้ง!

หญิงสาวแปลกหน้าละสายตาจากอีธานตวัดมามองเชอแตมที่ยืนเยื้องจากเธอ เจ้าหล่อนไล่สายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วตวัดขึ้นมาหยุดตรงดวงตาสีนิลคู่นั้น เจ้าหล่อนหัวเราะหึในลำคอเมื่อเห็นความคิดของเชอแตม

อีธานไม่ได้หันไปมอง 'แม่นี่' ของเขา แต่สามารถอ่านความคิดของเชอแตมได้จากดวงตาของหญิงสาวตรงหน้าเขาอีกที แม้จะอยู่ในสถานการณ์อึดอัดใจแต่เขากลับขบขันความคิดนั้นอย่างอดไม่ได้ เขาเพิ่งได้สัมผัสตรงนั้นของเธอไปเมื่อครู่ แล้วความรู้สึกตีตราจองก็เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ เขารู้สึกหวงแหนและไม่ยอมให้ใครมาสัมผัสเนินเนื้อนั้นได้นอกจากเขาเป็นอันขาด

โชคดีที่หญิงสาวตรงหน้าของอีธานกำลังจดจ่อกับการอ่านใจของเชอแตมจนไม่ได้มองเห็นความคิดในใจของเขา

"รอผมในห้องนี้ ผมจะกลับมาคุยด้วย" เขาบอกหญิงสาวผู้มาใหม่เบา ๆ ก่อนจะหมุนตัวไปหาเชอแตมฉวยข้อมือแล้วลากให้เธอเดินตามเขาออกจากห้อง

เชอแตมฝืนตัวเองนิดหน่อยเพราะไม่ต้องการออกไปจากห้องนี้ เธอต้องการรู้ว่าผู้หญิงแปลกหน้านั้นเป็นใคร เป็นคู่หมั้นอย่างที่เจ้าหล่อนเอ่ยออกมาจริงหรือเปล่า อีธานรู้สึกได้จากการสัมผัสข้อมือเธอว่าเจ้าหล่อนพยายามแข็งขืน

อีธานลากเชอแตมออกมาหยุดหน้าห้อง ๆ หนึ่ง ก่อนจะยกมือที่กำแน่นทำท่าจะเคาะลงไป แต่ต้องชะงักกึกเมื่อเชอแตมรั้งเอาไว้ เธอเดาว่านี่คงจะเป็นห้องของหลุยส์

"จะพาฉันมาฝากไว้กับหลุยส์ แล้วคุณก็กลับไปหาผู้หญิงคนนั้นใช่มั้ยคะ"

แม้คำพูดจะค่อนข้างประชดประชันเชิงตัดพ้อ แต่อีธานกลับเห็นความมีเหตุผลในความคิดเธอ เจ้าหล่อนต้องการรู้มาก ๆ ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคู่หมั้นเขาหรือเปล่า และเชอแตมก็มั่นใจว่าเขารู้ข้อความใจเธอดี

"ใช่" อีธานตอบเบา ๆ แต่หนักแน่น "ผมคงพาคุณกลับห้องคุณตอนนี้ไม่ได้ เพราะผมคงไม่ได้ไปเฝ้าคุณ และมันคงอันตรายมากหากปล่อยคุณอยู่คนเดียว"

"ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน" เชอแตมตัดสินใจถามออกมาตรง ๆ

อีธานเงียบไปยังไม่อยากตอบอะไรตอนนี้

"เธอเป็นคู่หมั้นคุณจริงเหรอคะ" ดวงตาที่เสมองไปทางอื่นตวัดกลับมาสบกับดวงตาของเชอแตม นัยน์ตาเจ้าหล่อนเตรียมพร้อมจะสั่นระริกได้ทุกเมื่อหากเขาตอบว่า จริง

"อาณาจักรของผมไม่มีระบบคู่หมั้นอะไรทั้งนั้น"

"แล้วทำไมผู้หญิงคนนั้นถึง..."

"ผมจะเล่าให้คุณฟังทีหลัง" อีธานตัดบท และมันทำให้เชอแตมรู้สึกไม่ยอม

"อีธาน ฉันอยากรู้เดี๋ยวนี้!..." เธอจ้องตาเขาไม่กะพริบ ความรู้สึกราวกับถูกหักหลังเกิดขึ้นมาโดยที่เธอไม่อยากจะรู้สึก ถ้าผู้หญิงท่าทางมั่น ๆ คนนั้นเป็นคู่หมั้นเขาจริง แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องเขาก่อนหน้านี้ล่ะ มันหมายความว่าไง เธอไม่ยอมให้เขามาล้อเล่นชั่วคราวกับความรู้สึกของเธอหรอกนะ

อีธานไม่สนใจเธอ เขากำมือยกขึ้นมาจะเคาะประตู แต่เชอแตมผลักมือนั้นลงแล้วเข้ามายืนขวางประตูเอาไว้ อีธานเอียงคอมองหน้าเธอด้วยแววตาไม่ล้อเล่น

ดวงตาสองคู่มองสบตาดุดันราวกับศัตรูที่กำลังจะดวลหมัดกัน

"อย่าดื้อได้มั้ย" อีธานตะคอกเบา ๆ

"คุณก็บอกมาสิ ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคู่หมั้นคุณจริงหรือเปล่า"

"ผมบอกไปแล้วไงว่าอาณาจักรผมไม่มีระบบคู่หมั้น"

"ถ้าไม่มีระบบคู่หมั้น แล้วผู้หญิงคนนั้นจะพูดขึ้นมาทำไม"

อีธานทำท่าราวกับถอนหายใจ เฟรยา แพนโดรา เจ้าหล่อนพูดออกมาแบบนั้นเพราะตั้งใจให้เชอแตมได้ยินโดยเฉพาะ ความต้องการของเธอก็คือให้เขากับเจ้าหล่อนทะเลาะกันแบบนี้ไง แต่เขาไม่ชอบหักหน้าคน ๆ หนึ่งต่อหน้าอีกคน ต่อให้เฟรยาพูดเรื่องไม่จริงสักกี่เรื่อง เขาก็ไม่ใช่ผู้ชายที่จะต้องต่อว่าทันทีในขณะที่มีบุคคลที่สามอยู่ด้วย

อีธานไม่ตอบอีก เขายกมือขึ้นจะเคาะประตูอีกครั้ง แต่เชอแตมก็ยังไม่ยอม เธอพยายามบังประตูไว้ทุกทิศทุกทาง

"ฉันไม่ยอมให้คุณมาล้อเล่นกับความรู้สึกฉันหรอกนะอีธาน!"

คำพูดเธอคงจะพอทำให้เขาหยุดความตั้งใจจะเคาะประตูลงสักที เป็นผลเขามองสบตาเธอด้วยแววไม่ยอมเช่นกัน

"ผมไม่เคยล้อเล่นกับความรู้สึกใคร!" อีธานสวนกลับด้วยแววตาขึงขัน น้ำเสียงจริงจังยิ่งกว่าตอนไหน ๆ

"นี่น่ะเหรอไม่ล้อเล่น มีคู่หมั้นอยู่แล้ว แต่กลับมาให้ความหวังกับฉันเนี่ยนะ คิดจะจับทั้งมนุษย์ทั้งแวมไพร์หรือไง"

ในความคิดของเชอแตมซุกซ่อนความมีเหตุผลเอาไว้เต็มเปี่ยม ลึก ๆ เธอรู้ดีว่าเขาคงไม่ใช่แวมไพร์โลเล หลอกล่อหรือเจ้าชู้ไก่แจ้ แต่เธอกลับแสดงออกมาด้วยคำพูดพาลพาโลซะนี่ อีธานเริ่มจะหงุดหงิดกับฮอร์โมนเพศหญิงของ 'แม่นี่' ซะแล้ว

"ผมบอกแล้วไงว่าไม่เคยล้อเล่นกับความรู้สึกใคร ถ้าผมจะเล่น ผมจะแสดงให้เห็นว่าผมเล่น ถ้าผมจะหลอกผมจะแสดงให้เห็นว่าหลอก ถ้าที่ผ่านมาผมแสดงให้คุณเห็นแบบนั้น มันก็ใช่!"

อีธานหวังว่าเขาพูดแค่นี้เธอคงเข้าใจ เพราะทุกความรู้สึกหรือการแสดงออกที่มีต่อเธอนั้นเขามั่นใจว่ามันไม่ได้เสแสร้งแกล้งหลอกแม้แต่น้อย

ดวงตาที่กำลังมองอีธานสั่นระริก เธอใจร้อน ใจร้อนมาก ๆ จนไม่อยากให้เขาเดินจากไปตอนนี้ แม้จะเดินจากไปห่างเพียงสองห้องที่เยื้องกัน แต่เธอกลัวทุกวินาทีว่าเขากับผู้หญิงคนนั้นจะทำอะไรที่เหมือนเขาเคยทำกับเธอ ตั้งแต่วันแรกที่เจอเขา เธอก็ไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้เขามาก่อน ความเคยชินและความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของทำให้เหตุผลที่มีในใจกลับไม่เอาออกมาใช้ แต่เลือกที่จะใช้อารมณ์มารั้งเขาแทน

หากจะพูดตามตรงคือ ถ้าเขาต้องพูดคุยกับผู้หญิงคนไหนเธอต้องอยู่ด้วย เธอยอมไม่ได้ที่จะให้เขากับผู้หญิงคนนั้นอยู่ด้วยกันตามลำพัง ทีเขายังหึงหวงเธอกับพี่กรุ๊ปได้ ไม่แปลกหรอกถ้าคราวนี้จะเป็นเธอบ้าง และเธอก็รู้แล้วว่าความเจ็บปวดจากเรื่องแบบนี้มันเป็นแบบนี้นี่เอง

อีธานอ่านความคิดเจ้าหล่อนแล้วส่ายหน้าเบา ๆ เชิงเอ็นดูปนระอา เขาไม่พูดอะไร ไม่ปลอบอะไร แต่กลับกำมือแน่นแล้วเคาะประตูเรียกหลุยส์ออกมา แม้จะพาเธอหายตัวเข้าไปก็ได้ แต่เขาเลือกที่จะให้เกียรติและมีมารยาทกับหลุยส์มากกว่าถือวิสาสะใช้พลังแวมไพร์

ก่อนหลุยส์จะออกมาอีธานก็พูดกับเธอหนึ่งประโยคก่อนไป

"ถ้าไม่ให้ผมไปคุยกับเฟรยา คุณก็จะเจ็บปวดแบบนี้ไปตลอด ไม่มีทางหายหรอก"

เชอแตมได้ยินและเข้าใจดี เธอรู้ เธอมีเหตุผล เธอเข้าใจทั้งนั้น แต่แค่ใจเธอเจ็บและไม่ยอมแค่นั้นเอง ยิ่งจินตนาการว่าเขากำลังพูดคุยกับผู้หญิงคนนั้น ใจเธอก็สั่นจนรั้งน้ำตาไว้ไม่อยู่แล้ว หากเป็นผู้หญิงคนอื่นเธอคงไม่เจ็บแบบนี้ หากไม่ใช่ผู้หญิงที่เพิ่งจะประกาศตัวเองว่าเป็นคู่หมั้นของอีธาน เธอคงปล่อยเขาไปง่าย ๆ

"ผู้หญิงของผมต้องเป็นคนที่มีเหตุผล และสามารถควบคุมอารมณ์ให้อยู่ต่ำกว่าเหตุผลให้ได้" อีธานเตือนเธอเบา ๆ

เชอแตมมองหน้าเขาด้วยแววตาอ่อนลง "แต่ความรักมันไม่เคยมีเหตุผลหรอกนะอีธาน"

อีธานเห็นความคิดนั้น

"เหตุผลถูกนำมาใช้เมื่อเกิดความรักแล้วต่างหาก ไม่อย่างนั้น คงไม่มีคู่รักคู่ไหน อยู่ด้วยกันตลอดไปได้"

หลุยส์เปิดประตูออกมาพอดีด้วยสีหน้าเซียว ๆ เหมือนคนนอนไม่พอ อีธานมองตาเขาก็รู้ว่าหมอนี่นอนหลับตาเฉย ๆ โดยที่สมองยังคิดวุ่นวายเรื่องป๊อบคอร์น กว่าเขาจะออกมาเปิดประตูให้อีธานได้ก็ต้องใช้ความพยายามลากตัวเองลงมาจากเตียงด้วยความยากลำบากแค่ไหน

"มีอะไร อีธาน" หลุยส์มองเชอแตมกับแวมไพร์หนุ่มสลับไปมาด้วยแววประหลาดใจ

"ฝากแม่นี่หน่อย ฉันมีธุระ ถ้านานเกินก็ปล่อยให้เธอนอนที่นี่ไปเลยละกัน ตอนเช้าก็ฝากไปส่งด้วย"

อารมณ์หึงหวงปนน้อยใจของเชอแตมจุดประกายขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อคิดว่าเขาจะปล่อยเธอไว้ที่ห้องหลุยส์จนเช้า นั่นเท่ากับว่าเขาจะต้องคุยกับผู้หญิงคนนั้นจนเช้า หรือไม่ก็นอนด้วยกันจนเช้า หรือไม่ก็พากันไปไหนจนกระทั่งเช้า ไม่! เธอไม่ยอม

"คิดอะไรได้เป็นตุเป็นตะ!" อีธานตะคอกเบา ๆ ใส่เธอ หลุยส์ย่นคิ้วสงสัยกับพฤติกรรมของทั้งคู่

"มีอะไรกันน่ะ" หลุยส์พาร่างตัวเองทั้งตัวออกมาพ้นประตู มือกอดอกมองหน้ามนุษย์ทีแวมไพร์ที

"ฝากด้วยละกัน" อีธานพูดทิ้งท้าย ก่อนจะเดินจากไปเขาก็เห็นความคิดของหลุยส์

"ไม่กลัวเหรอ ฝากปลาย่างไว้กับแมว ฉันเป็นผู้ชายนะอีธาน"

อีธานกัดฟันกรอด เขาเบื่อพรสวรรค์การอ่านใจคนอื่นได้ก็แบบนี้ ทำไมเขาไม่เกิดมาเป็นแค่แวมไพร์เลือดครึ่งซะให้รู้แล้วรู้รอด

"ถ้าอยากโดนฉันย่าง ก็ลองดู" อีธานทิ้งท้ายแล้วก็รีบสาวเท้าเดินจากไป ไม่ปล่อยให้ตัวเองได้อ่านความคิดใครได้อีก เขาเองก็ร้อนใจอยากที่จะเคลียร์กับ เฟรยา แพนโดรา จวนจะคลั่งอยู่แล้ว

เชอแตมมองตามอีธานจนเขาหายเข้าไปในห้อง ความรู้สึกวูบเกิดขึ้นในใจจนต้องเซไปพิงฝาผนัง น้ำตาไหลลงมาสองสามหยด

"เชอแตม คุณเป็นอะไร หมอนั่นทำอะไรคุณ" หลุยส์ถามด้วยแววตาประหลาดใจยิ่งนัก

"หลุยส์..." เจ้าหล่อนหันไปมองหน้าชายหนุ่มแล้วเรียกเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า

"เข้ามาในห้องก่อนเถอะ" หลุยส์ถือวิสาสะเข้าไปประคองหญิงสาวพาเข้ามานั่งบนโซฟาในห้องของเขา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel