บทที่ 31 เฟรยา แพนโดร่า 2
หญิงสาวคนหนึ่งเดินเอื่อย ๆ ริมถนน ในเวลาประมาณห้าทุ่มเศษนานมากแล้วที่เธอไม่ได้เจอกับชายผู้เป็นที่รักวันนี้เป็นโอกาสที่ดีที่เธอได้ออกมานอกสถานที่ที่แสนจะน่าเบื่อเมื่อไร้ซึ่งใบหน้าชายหนุ่มที่ทำให้หัวใจเธอกระชุ่มกระชวยทุกครั้ง ยามได้จดจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มซ่อนเร้นความดุเอาไว้ลึก ๆ
แค่เห็นหน้า...แค่นั้นก็เพียงพอ
เธอรู้ดีว่าเขาไม่ได้รักเธอ รู้...อย่างลึกซึ้ง และเขาก็รู้...อย่างลึกซึ้ง ว่าเธอรักเขา แต่เขากลับเมินเฉย เฉย...แบบที่ทำให้หัวใจเธอกระตุกวูบได้ทุกทีที่รับรู้
อีธานยืนตัวตรงมือกอดอกสีหน้าดุ มองตรงไปยังมนุษย์สาวผู้เป็นเจ้าของหัวใจเขาที่กำลังนั่งหน้างุดอยู่บนเตียงในห้อง เจ้าหล่อนยังคงเคืองขุ่นกับอาการปากหนักของเขาที่ไม่ยอมบอกความในใจตัวเองต่อเธอบ้าง
และเขาก็ไม่ยอมเอ่ยออกไปแน่ ๆ จนกว่าเขาจะแน่ใจว่าควรบอก หรืออาจจะไม่มีโอกาสได้บอกเลยก็ได้
"แล้วฉันต้องนอนที่นี่หรือไง" เสียงใสดังขึ้นมาทำลายสมาธิของอีธานที่กำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
"ผมขี้เกียจไปส่งคุณละ" อีธานพูดเนิบ ๆ สีหน้าไร้แววทีเล่นทีจริง ก่อนจะค่อย ๆ เอนกายตัวเองไปพิงฝาผนังข้าง ๆ
เชอแตมยู่ปาก คิ้วขมวดเข้าหากัน "คุณไม่ไปส่ง ฉันกลับเองก็ได้"
"ไม่ต้อง นอนที่นี่แหละ" เขารั้งด้วยคำสั่ง ภายในใจมีแผนการเจ้าเล่ห์ที่หากเจ้าหล่อนรู้คงสาดคำด่านานาชนิดใส่เขาไม่ยั้ง
หรือเธอจะชอบก็ไม่รู้...
"ได้ยังไง ฉันยังอยู่ในชุดนักศึกษาอยู่เลยนะ น้ำก็ไม่ได้อาบน้ำ แถมตะกี๊ยังเล่นบทสงครามมวยปล้ำกับคุณด้วย เหงื่อออก ตัวเหม็นหึ่งละเนี่ย" เจ้าหล่อนยังดมแขนตัวเองโชว์ให้เขาดูด้วย
อีธานส่งเสียงหึในลำคอ เธอคงลืมไปแล้วว่าเขาอ่านใจเธอได้ จนลืมปกปิดความรู้สึกที่ดีใจมากแค่ไหนที่จะได้นอนที่นี่ แต่ก็นั่นล่ะนะ เธอไม่ใช่แวมไพร์ที่จะสามารถสกัดใจจากแวมไพร์ด้วยกันได้ในยามที่ต้องการ ความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์มักลื่นไหลไปเองเหมือนสายน้ำ ซึ่งแม้กระทั่งเจ้าตัวเองก็ไม่อาจห้ามได้ มิเช่นนั้น คงไม่มีมนุษย์คนใดทำผิดศีลธรรมผิดลูกผิดเมีย หรือหลงรักแฟนชาวบ้านจนเกิดเรื่องราวรักสามเส้าหรือมือที่สามหรอก
"ทำอย่างกับห้องผมไม่มีห้องน้ำ" อีธานมองไปยังห้องน้ำที่ประตูเปิดอ้าซ่าเบื้องหน้าเจ้าหล่อน ได้ยินเสียงเชอแตมถอนหายใจฟู่ด้วยอารมณ์อะไรก็ไม่ทราบ แต่เมื่อเขาหันกลับมามอง เจ้าหล่อนกำลังจินตนาการความหื่นกามของเขาอยู่อย่างเตลิดเปิดเปิง อีธานกระตุกมุมปากเผยยิ้มเย้ย ๆ เพียงลำพัง เขาส่ายระอาเมื่อนึกในใจว่า เจ้าหล่อนจะกลัวอะไรในเมื่อเขาเฝ้าเธอตอนอาบน้ำที่ห้องเธอออกจะบ่อย
"ห้องน้ำน่ะมี แต่เสื้อผ้าล่ะคะ มีมั้ย"
เชอแตมจำได้ว่าในตู้ของเขามีเสื้อยืดกับเสื้อกันหนาวเพียงไม่กี่ตัว ซึ่งทุกตัวเป็นสีออกทึม ๆ ไร้ความสดใสทั้งนั้น กางเกงใส่นอนสบาย ๆ ก็ไม่มี มันล้วนเป็นกางเกงยีนส์สีดำสนิทแทบจะทุกตัว
อีธานเอียงหน้าหนีไปอมยิ้มนิด ๆ เมื่อเห็นความคิดหนึ่งของเจ้าหล่อน
"ก ก น ผู้หญิงก็ไม่มี"
เชอแตมสะดุ้งตัวขึ้นมากะทันหันเมื่อสำนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เธอลืมไปว่าเขาอ่านใจคนได้! เชอแตมรีบเงยหน้าขึ้นมองอีธานอย่างไวก่อนจะพบว่าเขากำลังอมยิ้มร้ายกาจกับตัวเองก่อนจะจ้องเธอด้วยแววตาเจ้าเล่ห์เมื่อเธอมองสบ เจ้าหล่อนแสดงสีหน้าเหยเกแดงก่ำขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
"ใส่เสื้อผม ส่วนกางเกง เดี๋ยวไปดูในห้องหลุยส์ให้ รายนั้นมีกางเกงใส่นอนเยอะ แต่ถ้าเป็นเรื่อง..." อีธานตั้งใจเงียบให้เชอแตมได้คิดตาม แล้วเจ้าหล่อนก็รู้สึกอายขึ้นมาจนปิดไม่มิด อีธานหัวเราะสนุกสนานเบา ๆ ก่อนจะพูดต่อว่า "เครื่องในของคุณ ผมว่า...ไม่ใส่ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนะ"
เชอแตมอ้าปากเหวอ "อีธาน!" เจ้าหล่อนตวาดกลับมาเสียงสูง อีธานไม่ได้สะทกสะท้าน เขากลับยิ้มมุมปากให้อย่างเท่ห์ก่อนจะเด้งตัวออกมาจากฝาผนังแล้วเดินเอื่อย ๆ ออกไปนอกห้อง คาดว่าคงจะไปห้องหลุยส์
เชอแตมนั่งกระฟัดกระเฟียด กำมือตบเบาะเบา ๆ ด้วยความเจ็บใจ
นี่เธอต้องโนบรา โนอันเดอร์แวร์จริง ๆ เหรอเนี่ย...
หลุยส์กลับมานั่งแหมะทิ้งตัวลงบนโซฟาได้สักครู่หนึ่งแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีธานก็อ่านทุกอย่างได้จากสายตาชายหนุ่ม แวมไพร์หนุ่มพูดแค่สองประโยคเท่านั้นก่อนออกไปจากห้องคือ
"ยืมกางเกงนอนตัวนึงนะ" เขาพูดในขณะที่ตัวเองเดินตรงไปยังตู้เสื้อผ้าของหลุยส์โดยไม่รอคำอนุญาติจากเจ้าของห้อง หลุยส์ก็ไม่ถามไถ่ถึงการยืมที่ไม่เข้ากับรูปลักษณ์แวมไพร์สุดเทพเท่ห์อย่างเขาเอาเสียเลย ชายหนุ่มคาดเดาได้เองว่าเวลากลางคืนแบบนี้เขาควรอยู่ที่ห้องของเชอแตม แต่หากเขายังอยู่ที่ห้องพักตัวเองแบบนี้แสดงว่าเขาคงพาเชอแตมมาด้วย
"อืม" หลุยส์รับคำในคอเบา ๆ ก่อนเอนศีรษะที่เพิ่งเงยขึ้นมาทิ้งลงไปบนพนักโซฟาต่อ
"นายมันดื้อว่ะ ฉันควรสมน้ำหน้านะ" อีธานพูดผ่านหลังของหลุยส์ไป โดยไม่หยุดพูดคุยด้วย หลุยส์ถอนหายใจให้กับประโยคนั้น ก่อนจะตอบกลับไปแค่ในลำคอเหมือนเดิมว่า
"อืม"
เชอแตมมองหน้าอีธานที่กำลังยืนเปิดอ่านหนังสือเล่มหนึ่งในมือด้วยท่าทางสนอกสนใจตรงชั้นหนังสือ เขาเอากางเกงหลุยส์มาทิ้งไว้บนเตียงแล้วก็ไม่ใส่ใจเจ้าหล่อนเลยว่าจะเดือดร้อนมากแค่ไหนที่ไม่มีชุดชั้นในใส่ ชุดชั้นในไม่เท่าไหร่ เพราะอย่างน้อยก็ยังสามารถใส่ตัวเดิมแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนได้ แต่จะให้ใส่กางเกงในตัวเดิมนี่มันก็ไม่ไหวนะ
เหมือนอีธานจะรู้สึกได้ถึงรัศมีคมปลาบจากดวงตาสีดำสนิทนั่น เขาเลยหันมามองเธอแค่เสี้ยวใบหน้าก่อนจะยิ้มมุมปากให้แบบน่าหมั่นไส้
"แกล้งซะให้เข็ด ดื้อดีนัก" เขาว่าในใจ
"ผมต้องกลับไปห้องของคุณ แล้วหยิบของส่วนตัวมาให้ใช่มั้ย" เขาเสนอความคิดเห็น เชอแตมอ้าปากเหวอส่ายหน้ารัว ๆ
"พาฉันกลับห้องไปเลยง่ายกว่านะ" เจ้าหล่อนส่งสายตาปริบ ๆ เป็นเชิงอ้อนวอนอย่างที่สุดไปให้เขาด้วย แต่อีธานหรือจะยอม
"รออยู่ที่นี่..." เขาพูดก่อนจะวางหนังสือไว้บนโต๊ะข้าง ๆ เอามือเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงก่อนจะออกไปนอกห้องอีกครั้ง ปล่อยให้เชอแตมพ่นลมหายใจเชิงอ่อนใจกับความเด็ดขาดของเขา
แล้วเขาจะกลับมาพร้อม ก ก น ของเธอใช่มั้ย
"โอ๊ย! จะบ้าตาย" เชอแตมเอามือขยี้ผมแรง ๆ ก่อนล้มตึงไปนอนแผ่หราบนเตียงด้วยอารมณ์ปลงตก
ในที่สุด อีธานก็กลับมาพร้อม ก ก น ของเธอจริง ๆ เธอไม่รู้ว่าเขาไปหยิบมาอีท่าไหน แต่มันเป็นเรื่องที่น่าอายมากแน่ ๆ เมื่อจินตนาการว่าเขากำลังเปิดลิ้นชักเก็บ ก ก น ของเธอแล้วเห็นทุกเฉดสีในนั้น!
เชอแตมเอามือปิดหน้าอับอายจนแทบไม่กล้ายืนแม้กระทั่งในห้องน้ำเพียงลำพังแบบนี้ได้แล้ว เขาใช้มือหยิบมาหรือใช้อะไรหยิบกันนะ เธอไม่รู้เพราะเขาใส่ถุงกระดาษใบหนึ่งยื่นให้เธอตอนมาถึง
"แวมไพร์บ้า! ทำขนาดนี้ได้ยังไงกันนะ ไม่รู้สึกกระดากอะไรบ้างเลยหรือไง!" เจ้าหล่อนบ่นอยู่เพียงลำพังมือยังคงปิดหน้าปิดตาในขณะที่สายน้ำไหลจากฝักบัวลงมาชำระตัว
เวลาอาบน้ำผ่านไปนานเกือบสามสิบนาที และเจ้าหล่อนยังคงอ้อยอิ่งอยู่กับการเช็ดตัวด้วยอารมณ์เอื่อย ๆ ไม่ใส่ใจว่าอีธานจะสนใจเฝ้ารอหรือเปล่า เจ้าหล่อนยังคงสวมผ้าขนหนูเพียงผืนเดียวที่อีธานยังอุตส่าห์มีไว้ติดห้อง
"แวมไพร์นี่ไม่อาบน้ำเลยหรือไง" เธอบ่นกระปอดกระแปด ขณะเอาผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดไปมาที่แขนให้แห้งสนิท
"ว้าย!!" เจ้าหล่อนใจตกวูบเกือบหล่นไปอยู่ตรงตาตุ่มจริง ๆ เมื่อเงยหน้ามองกระจกเห็นเงาอีธานยืนทำหน้าเข้มดุอยู่ในนั้น เชอแตมหมุนตัวมาเผชิญหน้ากับเขา มือไม้ปกปิดตัวเองพัลวัน
"อีธาน! เข้ามาทำไม คุณจะบ้าเหรอ จู่ ๆ ก็เข้ามาไม่บอกไม่กล่าว ไม่มีมารยาทเลย ถ้าฉันแก้ผ้าอยู่จะทำไง ห้ะ!" เชอแตมตวาดกลับไปไม่มีสีหน้าไม่ไยดีอีกต่อไปแล้ว เขาทั้งลงโทษ ทั้งแกล้งเธอสารพัดจนเธอชักจะทนไม่ไหวแล้ว
"ก็ดีน่ะสิ" เขาพูดนิ่ง ๆ สีหน้ายังสุขุมเคล้าเบิกบานใจ
"ห้ะ!..." เชอแตมคิดว่าตัวเองหูฝาดที่อีธานกล้าพูดได้แบบหน้าไม่อายด้วยรอยยิ้ม ๆ แบบนั้น "ออกไปเลยนะ!"
"นี่ทำอะไรอยู่ตั้งนาน ผมคิดว่าคุณล้มหัวฟาดพื้นไปแล้วนะ ดีแค่ไหนที่ผมไม่เข้ามาตั้งแต่สิบนาทีก่อน มนุษย์ผู้หญิงเขาอาบน้ำเป็นครึ่งชั่วโมงแบบคุณทุกคนเลยหรือเปล่า"
"มีพลังพิเศษไม่ใช่เหรอ จะแวบเข้าไปห้องใครก็ได้นี่ ลองแวบไปดูเองสิ ว่าผู้หญิงคนอื่นเขาอาบน้ำนานแบบนี้รึเปล่า" เชอแตมตีหน้าบึ้งกลับไป
"ผมมีมารยาทมากพอที่จะไม่ถือวิสาสะเข้าไปถ้ำมองคนอื่นโดยเจตนาหรอกนะ"
"แล้วที่ทำอยู่นี่มีมารยาทเหรอ" เชอแตมสวนกลับ
"ยกเว้นคุณ" เขาก็สวนกลับมาทันทีด้วยรอยยิ้มมุมปากเช่นกัน
เชอแตมชะงักงันไปอึดใจ 'ยกเว้นคุณ' มันสามารถฟังได้สองแง่ แง่หนึ่งคือเธอไม่สมควรได้รับมารยาทจากเขา อีกแง่คือเพราะเธอคือคนพิเศษที่เขาไม่อยากมีมารยาทใส่ แต่ขณะนี้เธอไม่สนใจ เรื่องแบบนี้เขาควรมีมารยาทกับทุกคนโดยเฉพาะเธอ
"เพราะคุณมันจอมหื่นมากกว่าเถอะ" เชอแตมพ่นคำพูดใส่หน้า เบ้ปากไม่พอใจใส่
จากที่ยืนนิ่ง ๆ มองเธอ อีธานเริ่มขยับตัวเข้าไปใกล้เธอมากขึ้น จนเจ้าหล่อนเผลอทำตาโตออกมา ในใจนึกก่นด่าตัวเองว่าไม่น่าด่าเขาแบบนั้นเลย
"เคยมีใครสอนมั้ย ว่าอย่าพูดคำว่าหื่นใส่หน้าผู้ชายในสถานการณ์แบบนี้"
เอาแล้วไง ไม่เคยมีใครเคยบอกเธอซะด้วยสิ
"ดะ...เดี๋ยว ๆ คุณหยุดเดินก่อนได้มะ จะเดินเข้ามาทำไมเนี่ย"
เขายิ่งเดินก็ยิ่งเข้าใกล้เธอและเธอก็ไม่สามารถถอยหลังได้อีกแล้วเพราะสะโพกเธอมันชนกันอ่างล้างหน้าจนเกือบจะจมลึกลงไปฝังในเนื้อซีเมนต์ได้อยู่แล้ว
อีธานหยุดกึกห่างจากเธอแค่สองเซนติเมตรเห็นจะได้ เจ้าหล่อนแสดงสีหน้าอึดอัดออกมาอย่างเห็นได้ชัด เธอยังสวมผ้าขนหนูผืนเดียวอยู่เลย อีธานไล่สายตามองผิวเนื้อที่ไม่ได้ถูกปกปิดตรงลำคอ หัวไหล่และค่อยไล่ลงมาหยุดที่เนินเนื้อเหนือหน้าอก ในใจแค่อยากแกล้งเฉย ๆ แต่พอเอาเข้าจริง เขากลับหลงใหลผิวเนียนนั้นเข้าอย่างจัง ถ้าเขาไม่ออกไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ เจ้าหล่อนจะยังปลอดภัยอยู่อีกไหมเขาก็ไม่แน่ใจ
"แต่งตัว...เร็ว ๆ ด้วย" เขาสั่งก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากห้องน้ำเสียดื้อ ๆ
เชอแตมปล่อยลมหายใจยาวเหยียดออกมาเชิงโล่งอก แววตาอีธานเมื่อสักครู่ มันน่ากลัวชะมัด...น่ากลัวว่าเธอจะเผลอใจจนยอมเขาไปเสียทุกอย่าง
เชอแตมออกมาด้วยเครื่องแต่งกายที่ดูแปลกตากว่าทุกคืน เสื้อยืดสีเทาอ่อนหลวมโคร่งของอีธานกับกางเกงกีฬาขาสั้นของหลุยส์ อีธานเผลอมองเธอนานโดยไม่รู้ตัว เขารู้สึกพอใจอย่างบอกไม่ถูกที่เห็นเธอใส่เสื้อของเขา เสื้อของเขาบนตัวเธอ เหมือนเขากำลังกอดเธอและตีตราจองเธอไว้เป็นของเขา
"ดึกมากแล้ว นอนได้ละ" เขาสั่งเสียงเข้มขณะนอนเหยียดยาวครึ่งตัวเอนพิงไปกับหัวเตียง เชอแตมมองหน้าแวมไพร์หนุ่มนัยน์ตาข้นจัด เจ้าหล่อนเลือกเดินไปยังโซฟาที่อยู่ถัดจากเตียง ตั้งใจจะเอนกายลงไปตรงนั้นตลอดทั้งคืน อีธานมองตามตลอดการก้าวเดินและรู้ว่าเจ้าหล่อนตั้งใจประชดประชันเขาไปนอนบนโซฟา
เชอแตมจัดวางหมอนให้เข้าที่แล้วล้มตัวลงขดตัวนอนทั้งที่ไม่สบายกายแบบนั้น อีธานยังคงกึ่งนั่งกึ่งนอนนิ่งมองเธอด้วยแววตาเจ้าแผนการ เชอแตมนอนเอามือกอดอกเมื่ออีธานไม่ทักท้วงอะไรกลับมาเธอก็ค่อย ๆ หลับตาลงปิดสนิท
"ว้าย!!!" เธอต้องส่งเสียงกรีดร้องตกใจออกมาอีกครั้งเมื่อร่างตัวเองลอยขึ้นมาเหนือโซฟาอยู่ในอ้อมแขนของเจ้าของห้อง เจ้าหล่อนอ้าปากเหวอมองหน้าเขาที่ส่งประกายตาดุมาให้ แทนที่เธอจะกลัวเธอกลับหลงใหลใบหน้าสุดคมเข้ม หล่อเท่ห์เหนือคำบรรยายนั้นได้ซะนี่
"ไม่ชอบใช่มั้ย ไม่ชอบนอนดี ๆ ใช่มั้ย" เขาถามเหมือนเป็นสัญญาณเตือนอะไรบางอย่าง เจ้าหล่อนหวังว่าสายตาแพรวพราวที่จ้องเธอในห้องน้ำเมื่อครู่ คงไม่ค้างคาจนถึงตอนนี้หรอกนะ
"ฉันนอนดี ๆ อยู่นี่ไง แล้วคุณอุ้มฉันขึ้นมาทำไมเนี่ย"
เชอแตมพยายามดีดดิ้นเผื่อจะผละออกมาได้ แต่ก็เปล่าเขารัดแน่นมาก
อีธานเดินเอื่อย ๆ พาเธอไปยังเตียงนอน เขาไม่ทุ่มเธอลงไปแรง ๆ แต่กลับวางเธอเบา ๆ พร้อมกับตัวเขาที่ทาบทับลงมาอีกที
"อีธาน!" เชอแตมตกใจมากเมื่อเขามีท่าทีจะเลยเถิดขึ้นมา "ปล่อยนะ! จะทำอะไรอ่ะ" มือไม้ของเธอไม่ได้อยู่เฉยเสียทีเดียว เธอพยายามที่จะปัดป่ายอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ทำไปแล้วมันไร้ประโยชน์แค่นั้นเอง
เชอแตมอ้าปากเหวอตกใจยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ เมื่อได้ยินอีธานตอบกลับมาด้วยสีหน้าขรึม ๆ แกมยิ้ม ๆ ว่า
"อยากทำอย่างอื่นก่อนนอนซะแล้วสิ..."
เชอแตมอ้าปากเหวอกว้างเมื่ออีธานพูดเชิงให้คิดลึกออกมา "อยากทำอะไรก่อนนอนซะแล้วสิ" ดังก้องกังวานในโสตประสาทของเธอไม่ยอมเลือนหายไปเสียที
"คุณจะทำอะไร!" เชอแตมใช้สองมือผลักอกเขาแรง ๆ ในขณะที่ดวงตาคอยจดจ้องมองใบหน้าเขาอย่างระแวดระวัง คืนนี้อีธานดูมีเล่ห์เหลี่ยมชอบกล สายตาที่ส่งมาให้เธอไม่เหมือนคืนอื่น ๆ ที่แทบจะไม่แสดงความหลงใหลได้ปลื้มอะไรในตัวเธอเลย เขาอ่านความคิดนั้นของเธอแล้วก็ยิ่งเพิ่มปริมาณให้นัยน์ตาตัวเองร้อนผะผ่าวจนแทบจะเผาไหม้เธอ
"คุณคิดอยู่ในใจแล้วนี่ ว่าผมจะทำอะไร" อีธานกระซิบเบาใกล้ริมฝีปากเธอ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยังคงเคลือบแฝงอยู่บนใบหน้า สายตาแพรวพราวส่งมาให้เจ้าหล่อนจนต้องตื่นกลัว เขาสัมผัสได้ถึงหัวใจเจ้าหล่อนที่เต้นโครมครามกระทบหน้าอกเขา
"บ้าเหรอ! ฉันคิดเพราะต้องระแวงคุณ ไม่ใช่คิดเพราะอยากให้คุณทำนะ!"
อีธานหัวเราะพรืดออกมาเบา ๆ ก่อนเอานิ้วเรียวสวยนั้นเกลี่ยผมเจ้าหล่อนให้พ้นหน้าผาก เชอแตมตวัดสายตามองตามนิ้วก่อนจะหายใจเข้าออกแรง ๆ ด้วยความหวาดหวั่น
"จริง ๆ แล้ว -- คุณอยาก" เขากระซิบเบา จนเจ้าหล่อนอ้าปากเหวอ เผลอใช้มือฟาดเผียะเข้าให้ตรงหัวไหล่เขา
"โอ๊ย!" แล้วก็เจ็บตัวเองเมื่อเนื้อตัวเขาแข็งแรงกำยำราวกับหินแกรนิต อีธานยิ้มมุมปากหัวเราะขบขัน
"ฉันไม่ได้อยากนะ...อย่ามาคิดเองเออเอง!" เชอแตมไม่กระซิบเบาอย่างอีธาน กระแสเสียงเท่าไหร่เธอก็ใส่ไม่ยั้ง แม้ว่าจะอยู่ใกล้เขาแค่จมูกชนกัน
อีธานยังหัวเราะรื่นเริงอยู่ในที "คุณไม่อยาก...แต่ผม...อยาก"
อีธานเอ่ยหน้าตายไร้ความอับอายหรือขวยเขิน และนั่นยิ่งทำให้เชอแตมหน้าแดงแป๊ดเป็นผลมะเขือเทศสด เขาไม่เคยแสดงท่าทีเจ้าชู้ก้อร่อก้อติกหรือแสดงออกถึงความหื่นกับเธอมาก่อน และมันแทบจะทำให้เชอแตมมั่นใจมาตลอดว่าเขาจะไม่แสดงท่าทีแบบนี้กับเธอแน่นอนแม้ว่าเขาจะชอบลงโทษเธอด้วยการจุมพิตเร่าร้อนหลายครั้งก็ตาม
แต่วันนี้เขากลับทำให้ความมั่นใจของเธอล้มครืนลงมาจนแทบจะหยิบมาต่อไม่ติด
"อีธาน!" เชอแตมเผลอตวาดด้วยเสียงสั่นเครือน้อย ๆ ใส่หน้าเขา "คุณไม่ทำหรอก...ใช่มั้ย"
ท้ายเสียงอ่อนลงจนเหมือนจะขอร้องอยู่กลาย ๆ และมันยิ่งทำให้อีธานได้ใจ นึกสนุกอยากแกล้งเธอต่อ
"มาเล่นเกมส์กันมั้ย..." เขาเสนอ เชอแตมกะพริบตาปริบ ๆ สีหน้ายับยุ่งเหมือนคนเพิ่งผ่านการตรวจสอบเอกสารมานับร้อย ๆ แผ่น
"เกมส์อะไร...คุณบอกว่า ดึกแล้ว ให้นอนได้แล้วไม่ใช่เหรอ"
"แต่ผมไม่อยากให้นอนแล้ว" เชอแตมขมวดคิ้วมุ่น แวมไพร์ตัวนี้คาดเดาใจได้ยากจริง ๆ
"แต่ฉันง่วงแล้วนะ!" เชอแตมต้องดึงดันแข็งข้อกลับไปบ้าง ไม่งั้นก็เป็นเธอนั่นแหละที่จะโอนอ่อนผ่อนตามเขา
"ถ้าคุณชนะเกมส์นี้ คุณก็จะได้นอนสมใจ..." อีธานยังคงกระซิบเบา ๆ แต่ฟังดูขนลุกชิดริมฝีปากเธอ เชอแตมมองตาเขาที่มองสบเธออย่างไม่ยอมผละไปไหน ด้วยแววรู้ดีว่าข้อเสนอเมื่อเธอแพ้นั้น มันน่าทำให้ใจตกวูบเพียงใด "และถ้าคุณแพ้..." เขาหยุดจังหวะการพูดให้เธอได้หวั่นกลัวเล่น ๆ และมันก็เป็นผลเมื่อเห็นเธอหน้าถอดสี
"จะทำอะไรก็ว่ามา" เชอแตมตัดบทเขา เพราะไม่อยากได้ยินข้อเสนออันน่ากลัวที่เธอพอจะเดาออกนั้น
อีธานหัวเราะใกล้ ๆ จมูกของเจ้าหล่อน ด้วยอารมณ์กระหยิ่มใจ
"หยุดผมให้ได้ แล้วผมจะปล่อยให้คุณนอน"
เชอแตมหน้าตื่นทันทีที่ได้ยิน 'หยุดผมให้ได้' มันคืออะไร เธอต้องหยุดเขาจากการ กระทำอันใดกัน การกระทำนั้นมันคงไม่ใช่การกระทำธรรมดา ๆ แน่นอน มันต้อง...น่ากลัวสำหรับเธอ...แน่นอน
"หยุด...หยุดอะไร คุณจะทำอะไร" เชอแตมมองเขาด้วยแววตาสับสน ระแวดระวัง
อีธานไม่ตอบ แต่เขาเปลี่ยนสีหน้าจากที่เล่นหูเล่นตาเมื่อครู่เป็นสีหน้านิ่งเรียบ ไร้ความรู้สึก หากแต่ดวงตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกหลากหลายราวกับมีไฟปรารถนาตรึงสายตาของเธอเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหน สามสิบวินาทีที่เขาไม่พูดอะไรเลยและปล่อยให้สายตาตัวเองทำงานอยู่แบบนั้นกับเธอ
เชอแตมรู้สึกว่าเวลามันเดินช้าลง บรรยากาศรอบ ๆ ตัวหายเข้ากลีบเมฆ เหมือนเธอกับเขาอยู่ด้วยกันสองคน ณ ที่ใดที่หนึ่งไร้ซึ่งสิ่งแวดล้อมรอบตัว บางทีเธอก็รู้สึกเหมือนตัวเองตัวลอยอยู่ มีเพียงอากาศน้ำหนักเบาหวิวรองรับร่างกายเอาไว้ บางทีเธอก็รู้สึกเหมือนกำลังลอยอยู่ในอวกาศท่ามกลางหมู่ดาวมากมายส่องแสงระยิบระยับนอกโลก บางทีก็รู้สึกเหมือนนอนจ้องตากับอีธานอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้สีสวย ความรู้สึกเหล่านี้ ได้รับอิทธิพลมาจากสายตาของอีธานทั้งสิ้น
เขาทำให้เธอรู้สึกเคลิบเคลิ้มจนลืมไปว่าตัวเองเป็นใคร ทำอะไร อยู่ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร โดยไม่ได้ใช้พลังพิเศษใด ๆ ของแวมไพร์ เลย
และความรู้สึกนี้มันอันตราย!
เมื่ออีธานค่อย ๆ โน้มใบหน้าตัวเองลงมอบจุมพิตอุ่น ๆ ให้กับเธอโดยที่เจ้าหล่อนแทบจะไม่รู้ตัวว่าต้อง 'หยุด' เขา
ไม่ใช่! มันไม่ใช่ทุ่งดอกไม้ ไม่ใช่อากาศ ไม่ใช่อวกาศ แต่เป็นสรวงสวรรค์ เขากำลังพาเธอล่องลอยไปหาหมู่นางฟ้าเทวดา พาท่องเที่ยวไปไกลแสนไกล ทำให้เธอมีความสุขยิ่งนัก
เชอแตมหลับตาสนิทเผยอรับจุมพิตของอีธานด้วยความเต็มใจ และปล่อยให้เขานำพาเธอไปแล้วแต่ใจเขาปรารถนา อีธานลอบยิ้มแม้จะกำลังครอบครองริมฝีปากเธออยู่ สองมือที่เกือบอ่อนแรงของเชอแตมยกขึ้นเกี่ยวกระหวัดต้นคอเขาเอาไว้ เธอมีปฏิกิริยาตอบสนองโดยการกดต้นคอเขาให้ใบหน้าใกล้ชิดเธอเข้าไปอีกแม้ว่ามันแทบจะชิดจนไร้อากาศเล็ดลอดเข้ามาได้อยู่แล้ว
"คุณหยุดผมไม่ได้..." เขาคิดในใจ เมื่อไม่สามารถพูดออกมาได้ เพราะเป็นเจ้าหล่อนเองที่ไม่ยอมให้เขาผละออกมา "และคุณก็กำลังควบคุมตัวเองไม่ได้"
อีธานลูบไล้ใบหน้าเจ้าหล่อนเบา ๆ ก่อนจะไล่ต่ำลงไปยังต้นคอ และต่ำลงไปอีกใกล้เนินเนื้อนุ่ม ๆ ที่กำลังดันหน้าอกเขาอยู่
หยุด...ในเมื่อเธอหยุดเขาไม่ได้ เขาก็ควรเป็นฝ่ายหยุดเธอเอง แต่มันยากจัง...
อีธานยังคงไล่นิ้วเรียวนั้นไปบนตัวเธอผ่านเนินเนื้อที่มีเสื้อผ้าปกปิดอยู่ ไล่ต่ำลงไปยังหน้าท้อง ก่อนเลิกเสื้อยืดสีเทาของเขาที่เธอใส่ขึ้นสอดมือเข้าไปข้างใน หมายจะลูบไล้เนินเนื้อซึ่งไร้การปกปิดของเสื้อผ้า
อีธานชะงักมือเมื่อเจอเข้ากับบราเซียร์ตัวนุ่มที่ขวางทางไว้ ขณะที่ปากก็ยังมอบจุมพิตให้เธอเร่าร้อนขึ้นเรื่อย ๆ
สติที่กระเจิดกระเจิงของเชอแตมวูบกลับเข้ามาเตือนอีกครั้งเมื่อรู้สึกได้ถึงสัมผัสเย็น ๆ บริเวณหน้าอกเธอ เปลือกตาที่เคยปิดอยู่เบิกโพลงขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนกเมื่อแน่ใจว่ามือของอีธานกำลังกอบกุมเนินเนื้อของเธออยู่!
อีธานเพิ่งรุกล้ำข้ามบราเซียร์ไปได้อึดใจก็ต้องผละออกมาเมื่อเชอแตมผลักเขาออกเต็มแรงจนเขาไม่ทันฝืนตัวเอาไว้ แต่เขาก็ยังไม่ได้ไปไหนไกลแค่ปล่อยให้เกิดช่องว่างพอให้อากาศเล็ดลอดได้ระหว่างตัวเธอกับเขาเท่านั้น
เชอแตมหายใจถี่แรงดวงตาถลึงมองอีธานด้วยอารามตกใจเกือบขีดสุดเมื่อรำลึกได้ว่าเธอปล่อยให้ตัวเองล่องลอยไปตามแรงปรารถนาทั้งของตัวเองและของเขาอยู่นาน จนเกือบเลยเถิด
โชคดีที่สติกลับมาทัน! นี่คงเป็นการกระทำที่เขาตั้งใจจะบอกให้เธอหยุดงั้นหรือ
อีธานยิ้มมุมปากให้เธอ พร้อมส่งรัศมีร้อนผะผ่าวแทบจะหลอมเหลวให้ร่างกายเธอได้ละลายลงไปได้เพียงแค่ใช้สายตา
"win-win" อีธานยังคงกระซิบเบา ๆ "เกมส์นี้ เราเสมอกัน"
น่าอายที่สุด เชอแตมเผลอนึกถึงตอนที่เขาสัมผัสเนินเนื้อของเธอทั้งที่กำลังจ้องตาเขาอยู่แบบนี้ เห็นหมด...อีธานเห็นความคิดของเธอหมด เธอไม่น่าโอนอ่อนตามเขาไปได้ถึงขนาดนั้นเลย ทำไมเธอถึงควบคุมตัวเองไม่อยู่ หรือเธอไม่อยากควบคุม ความรู้สึกที่เกือบจะเลยเถิดมันยังเคล้าเคลียอยู่ใกล้ ๆ ยังไม่ทันจางหายไปไหน
ถ้ามันเลยเถิด...มันจะเป็นยังไง
"ผมไม่ปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นหรอก..." เขากระซิบเบา "ผมก็แค่อยากแกล้งคุณ"
เชอแตมถลึงตาโตอีกครั้งเมื่อได้ยินคำสารภาพที่แสนจะกวนเท้าของเขา เขาสัมผัสตรงเนินเนื้อนั้นของเธอไป แล้วมาบอกเธอทีหลังว่าแกล้งงั้นหรือ มันไม่แฟร์เลย
"อีธาน! คุณนี่มัน..."
อีธานเอานิ้วชี้แตะปากเธอไว้ให้เธอหยุดพูด พร้อมกับส่งเสียงจุ๊ ๆ ใส่เธออย่างลอยหน้าลอยตา
"ตีตราจอง..." เขาก้มลงกระซิบข้างหูเธอเบา ๆ จนเชอแตมรู้สึกขนลุกตรงต้นคอ ทั้งคำพูดและการกระทำมันชวนให้ขนลุกจนเธอแทบอยากจะหนีจากความเขินอายนี้ไปให้ไกลโดยวิธีอะไรก็ได้
หลับหนีไปเลยดีมั้ย!
อีธานกลับมาจ้องตาเธอต่อพร้อมส่งยิ้มเบา ๆ ให้เธอด้วยความสำราญใจ ก่อนจะเห็นเจ้าหล่อนเบิกตาโตมองเลยศีรษะเขาไปด้านหลัง
เขาอ่านได้จากดวงตาเธอโดยไม่ต้องหันไปมอง
"เฟรยา..."
อีธานพูดเบา ๆ ด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมจัดทันที ก่อนจะค่อย ๆ ลุกผละจากเชอแตมช้า ๆ หันไปมองผู้มาใหม่ที่อยู่ตรงปลายเตียง
อีธานลุกขึ้นมายืนตัวตรงเผชิญหน้ากับหญิงสาวที่ยืนแสดงสีหน้าถมึงทึงมองเขาด้วยแววไม่พอใจถึงขีดสุด อีธานเห็นอาการน้อยใจ ตัดพ้อในดวงตาคู่นั้น ขณะที่ เชอแตมลุกขึ้นตามมายืนระวังภัยห่างจากพวกเขาทั้งคู่
"ไม่ทักทายคู่หมั้นหน่อยเหรอ...อีธาน"
อีธานไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมาทางสีหน้า แต่ผู้หญิงที่เพิ่งถูกเขาตีตราจองเมื่อสักครู่ได้แสดงทุกอย่างออกมาทันทีโดยอัตโนมัติ
เชอแตมกำลังถามตัวเองก่อนจะถามใคร ๆ ในห้องนี้ว่า
"คู่หมั้น...คืออะไร?"
