บท
ตั้งค่า

บทที่ 27 ความลับของหลุยส์ 2

"ฮัดเช้ย!" เสียงจามเบาของหลุยส์ทำให้เจ้าตัวกำลังฉุกคิดว่าคงมีใครนินทาเขาอยู่ สถานการณ์แบบนี้คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเชอแตมกับอีธาน เขารู้ดีว่าเรื่องของเขาคงสร้างความสงสัยให้เชอแตมมากโขทีเดียว

หลุยส์กำลังนั่งทำความสะอาดกระบอกปืนพกสั้นลูกโม่สีเงินที่ไร้กระสุนในรังเพลิง บนโต๊ะเตี้ย ๆ ยังมีเหล็กปลายแหลมลักษณะเป็นลิ่ม อาวุธทั้งสองชนิดมีจุดประสงค์เพียงอย่างเดียวคือใช้ต่อสู้กับแวมไพร์

คืนนี้เขาไม่จำเป็นต้องออกไปติดตามดูแลป๊อบคอร์นอย่างวันก่อน ๆ เพราะเขาแน่ใจว่าเธอจะไม่เป็นเป้าหมายของเฮนรี่และออสการ์เพื่อล่อเชอแตมอีกต่อไป ทุกวิธีที่เฮนรี่และออสการ์เลือกใช้ต่างไม่ประสบผลสำเร็จในการจับตัวเชอแตม ดังนั้นวิธีที่มันจะใช้ต่อไป คงจะเป็นวิธีเดียวที่ทั้งอีธานและอาของเขาต่างนึกหวาดหวั่น

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในที่กบดานใต้ดินของเฮนรี่ ทำให้หลุยส์และอีธานตระหนักดีว่าเรื่องของเชอแตมเป็นเรื่องที่เฮนรี่และออสการ์ต้องวางแผนให้ละเอียดถี่ถ้วนในการได้ตัวเธอไปในครั้งหน้า

ป่านนี้อีธานคงจะเล่าเรื่องราวของชายหนุ่มให้เชอแตมฟังอยู่ การจามออกมาเมื่อสักครู่ทำให้ภาพในอดีตวิ่งเร็วเข้ามาในความทรงจำของหลุยส์ ยิ่งเห็นภาพนั้น ยิ่งทำให้ไฟพยาบาทในใจของมนุษย์หนุ่มโชติช่วงเป็นทวีคูณ

4 ปีก่อน...

หลุยส์ในวัยสิบหกปี เลิกเรียนในตอนเย็นแล้วก็ไม่คิดจะกลับบ้าน เขาไม่อยากกลับไปเห็นหน้าของผู้ให้กำเนิดที่ถูกขนามนามว่าเป็นคนคดโกงของสังคม เขารับไม่ได้ที่มีบิดาเป็นคนแบบนี้ เด็กหนุ่มจึงเลือกประชดบิดาด้วยการออกไปเตร็ดเตร่กับเพื่อน ๆ ในยามค่ำคืน และมาหยุดตั้งวงสนทนาที่บ้านของเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่ม มีแอลกอฮอล์เป็นเครื่องดื่มหลักในการสังสรรค์

ห้าทุ่มเศษ หลุยส์ในวัยรุ่นตอนปลายเดินทางกลับมาบ้านโดยมีเพื่อนขับรถจักรยานยนต์มาส่ง บ้านของเขาใหญ่โตโอ่อ่าราวกับคฤหาสน์ของมหาเศรษฐีโด่งดังระดับโลก นั่นก็มาจากเงินสกปรกที่บิดาของเขาโกงกินมา ความภาคภูมิใจในตัวบิดาที่เคยมีในวัยเด็กถูกหั่นสะบั้นลงเมื่อเขาโตขึ้นและได้รับรู้ความจริงจากความบังเอิญที่แอบได้ยินบิดาตัวเองคุยกับเลขาคนสนิทในบ้านถึงการทุจริตต่อเงินภาษีประชาชนด้วยวิธีการแยบยล ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนถูกหักหลังจนเจ็บแปลบแทบยืนไม่อยู่

เขาถามตัวเองซ้ำ ๆ ตลอดมาว่า ทำไมต้องเป็นพ่อของเขาคนนี้ที่ทุจริตคอรัปชั่นต่อบ้านเมือง

ระยะทางจากรั้วบ้านเข้ามาในบ้านยาวเกือบยี่สิบเมตร เขาต้องเดินเข้ามาเพราะเวลานั้นคงไม่มีใครมาเปิดประตูให้แล้ว ทั้งบ้านมืดสนิทไร้แสงสว่าง เขาเดาว่าทุกคนคงเข้าสู่นิทรากันหมด และเขาตั้งใจให้มันเป็นเช่นนี้

วินาทีแรกที่แง้มประตูไม้สักหรูหราหน้าบ้านเพื่อเดินเข้ามาสู่ตัวบ้าน เขาแทบไม่สังเกตว่าประตูไม่ได้ล็อก หลุยส์หัวใจเกือบหยุดเต้นเมื่อในความมืดที่มีแสงจันทร์ส่องเข้ามาสลัว ๆ ให้เห็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีเขี้ยวยาวขาวแหลมคมค่อย ๆ โน้มลงไปกัดคอบิดาของเขา ไร้เสียงอุทานใด ๆ ออกมาจากปากหลุยส์ เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจนเขาแทบไม่มีเวลาแม้จะร้อง แต่ยังโชคดีที่เขายืนอยู่ในมุมที่ชายนิรนามคนนั้นไม่ได้สังเกตเห็น

เสียงร้องขอชีวิตจากปากบิดาต่อชายนิรนามสั่นกระเส่าด้วยความหวาดกลัว ชายนิรนามไม่แม้แต่จะฟังคำขอนั้น เขาทำในสิ่งที่หลุยส์อธิบายไม่ถูกกับคอของบิดาตัวเอง จนกระทั่งเสียงบิดาของเขาค่อย ๆ เงียบไป ร่างกายกระตุกเกร็งก่อนจะทิ้งตัวคล้ายคนหมดลมปราณในบัดดล

เพราะมีความอคติต่อบิดามาก่อนหน้า ทำให้การรับรู้ของหลุยส์แปรปรวน เขาแน่ใจว่าตัวเองกำลังตกใจ เขาแน่ใจว่าตัวเองกำลังเสียใจ เขาแน่ใจว่าตัวเองโกรธชายนิรนามใจโหดคนนั้น เขาแน่ใจว่าถึงพ่อเขาจะเป็นคนเลวในสังคมแต่เขารักพ่อเขา เขาแน่ใจว่าเขาเจ็บปวดทุกข์ทรมานมากมายกับเหตุการณ์ตรงหน้า

แต่ทำไมเขายังยืนนิ่งเกร็ง ตัวแข็งเหมือนสบตากับเมดูซ่าจนกลายเป็นหิน แต่สิ่งที่ทำให้เขาต้องขยับกายทันทีก็คือ มารดาที่พรวดพราดลงมาจากห้องเพราะเสียงร้องของบิดา หลุยส์ตะลึงมองมารดากำลังจะทะลึ่งพรวดเข้าไปช่วยแต่เขากลับโดนใครบางคนคว้าตัวเอาไว้ทันก่อนพาไปหลบใต้ช่องหน้าต่างหลังพุ่มไม้ข้างบ้าน

หลุยส์ไม่รู้ว่าใครคว้าตัวเขามา แต่ใจเขาไม่ได้อยู่ที่คน ๆ นี้ ใจของเขาอยู่ที่แม่ ซึ่งท่านกำลังเป็นโรคหัวใจอยู่!

เด็กหนุ่มพยายามดิ้นแรงเพื่อไปช่วยแม่ให้รอดจากชายนิรนามใจโหดให้ได้ แต่คนที่จับตัวเขามากลับปิดปากเขาสนิทจนลมหายใจแทบจะเล็ดลอดออกมาไม่ได้ แม้จะดิ้นแรง แต่เขากลับทำได้เพียง ยืดตัวเองยืนขึ้นโผล่พ้นหน้าต่างได้เพียงดวงตาสองดวงเท่านั้น และภาพนั้นยังติดตาเขาจนทุกวันนี้

มารดาเขาล้มลงหมดสติแน่นิ่งไปบนพื้นโดยที่ชายหนุ่มนิรนามไม่ได้ทำอะไรท่านเลย

"ท่านตายหรือคะ" เชอแตมเอ่ยถามอีธานเสียงเบา

"ผมเพิ่งรู้ในเวลาต่อมาว่าท่านเป็นโรคหัวใจ จากปากของหลุยส์"

"ทำไมคุณไม่เข้าไปช่วยท่าน" เชอแตมถามเสียงเครียด

"ผมรู้ว่าเฮนรี่ไม่ทำอะไรแม่ของหลุยส์แน่นอน เพราะเขาจะเลือกดูดเลือดเฉพาะคนที่มีประวัติเลว ๆ ป้องกันการถูกจองจำเป็นเวลาหลายปีหรือตลอดชีวิต และแม่ของหลุยส์ไม่ได้มีประวัติการกระทำที่ไม่ดีมาก่อนเลย แต่ท่านโชคร้ายที่เป็นโรคหัวใจ และมันเป็นโชคร้ายของเฮนรี่ด้วยเหมือนกันเมื่อเขาถูกโดมลับตัดสินจองจำเป็นเวลาสองปีหลังจากนั้น เพราะปรากฏตัวให้มนุษย์ตกใจจนเสียชีวิต แต่เพราะพ่อของหลุยส์เป็นนักการเมืองที่มีประวัติคอรัปชั่นมานานมาก โดมลับจึงตัดสินให้เขาถูกจองจำเฉพาะกรณีที่แม่ของหลุยส์เสียชีวิตเท่านั้น"

เชอแตมเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยต่อว่า "แบบนี้ หลุยส์ไม่โกรธคุณเหรอคะ"

"พอเขารู้ความจริงทุกอย่างเรื่องแวมไพร์จากผม แน่นอนเขาโกรธผมมาก แต่เขาก็มีสติและมีเหตุผลดีพอที่จะหายโกรธผม --- ณ เวลานั้น ผมคิดอย่างอื่นไม่ออกนอกจากต้องช่วยหลุยส์ให้พ้นสายตาของเฮนรี่ไว้ก่อน ป้องกันการกลับมาทำร้ายของเฮนรี่ในอนาคต และผมเองก็ไม่สามารถเข้าไปช่วยทุกคนไว้ได้ทัน เพราะพลังของผมเมื่อเทียบกับเฮนรี่แล้วถือว่า พ่ายแพ้"

"แล้วหลังจากนั้น ยังไงต่อคะ หลุยส์มีชีวิตยังไงเมื่อเสียพ่อแม่ไป"

"ผมพาเขามาหลบที่คอนโดของผมพักหนึ่ง เพื่อให้เขาสงบสติอารมณ์ เขาแค้นเฮนรี่มากจนเอ่ยปากว่าจะแก้แค้นให้ได้..." ความจริงแล้ว อีธานอ่านใจของหลุยส์ได้ต่างหาก แต่เขาต้องเลี่ยงความจริงข้อนี้เพราะเชอแตมยังไม่รู้ "ผมจำเป็นต้องเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้เขาฟังรวมทั้งเรื่องที่ผมเป็นแวมไพร์ด้วย หลังจากนั้นเขาก็ตัดสินใจจะย้ายมาอยู่คอนโดกับผม เพื่อฝึกฝนตัวเองให้ต่อสู้กับแวมไพร์ได้ จนเป็นหลุยส์คนที่คุณเห็นในปัจจุบันนี้"

"หลุยส์อยู่คอนโดเดียวกับคุณเหรอคะ"

อีธานพยักหน้าเบา ๆ เชอแตมนึกถึงวันที่เธอถูกเขาพาร่างไร้สติของเธอไปวางไว้บนเตียงในห้องของเขา แสดงว่าหลุยส์ก็อยู่ที่นั่นด้วย

"แต่อยู่คนละห้องกันนะ" เขาขยายความ

"คุณนี่เจ้าเล่ห์ไม่เบาเลยนะ ไม่ยอมบอกอะไรฉันเลย"

"คุณไม่ได้ถาม จะให้ผมบอกยังไง"

"ฉันเล่าเรื่องหลุยส์ให้คุณฟังบ่อย ๆ แต่คุณก็ไม่บอกเลยว่าคุณรู้จัก"

"ผมจะรู้เหรอว่าคนไหน คุณแค่เล่าไม่ได้เอารูปมาให้ผมดูนี่ อีกอย่างทุกทีที่คุณเล่า คุณก็ไม่เคยเอ่ยชื่อเขา คุณมารู้ชื่อเขาตอนหลังแล้ว ซึ่งคนชื่อหลุยส์ก็มีถมเถไป"

แม้อีธานจะรู้ดีว่าหลุยส์ที่เชอแตมพูดถึงอยู่เสมอคือหลุยส์ที่เขาช่วยชีวิตไว้ จากการอ่านใจเชอแตมจนเห็นภาพใบหน้าของหลุยส์ในความทรงจำของเธอแล้วก็ตาม แต่เขาก็แถไปได้ลื่นไหลเพราะช่องโหว่มากมายจากเรื่องนี้

เชอแตมถอนหายใจใส่แวมไพร์หนุ่มที่นั่งใกล้ชิดเธอบนเตียง

"ดูคุณสองคนสนิทกันมากเลยนะคะ เหมือนเป็นเพื่อนรักกันมานานแล้วงั้นแหละ"

อีธานยิ้มมุมปากนิดหนึ่งก่อนเอ่ยขึ้นมาเข้าข้างตัวเองว่า

"ใครที่ได้สนิทกับผมเป็นต้องหลงรักผมทั้งนั้น"

เชอแตมตวัดสายตามองเขาด้วยแววไม่อยากเชื่อว่าเขาจะพูดเชิงหลงตัวเองได้ขนาดนี้ ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ

"ชิ!" เจ้าหล่อนส่งเสียงหมั่นไส้ไปให้

"หรือคุณจะปฏิเสธว่าคุณไม่ได้รักผม"

เหวอสิคะ อีธานเอ่ยออกมาแบบนี้ มันก็ทำให้เธอเหวอได้นะคะ แต่เจ้าหล่อนก็ไม่แม้จะเอ่ยปฏิเสธใด ๆ ออกมา อีธานจึงอมยิ้มนิด ๆ ให้ดวงหน้าที่หมั่นไส้เขาดวงนั้น

"คุณก็ชอบพูดอะไรเข้าข้างตัวเองอยู่เรื่อยเลย"

หญิงสาวบ่นกระปอดประแปดอยู่ข้าง ๆ เขา

"แต่ผมพูดเรื่องจริงทั้งนั้น" ยกเว้นเรื่องที่เขาอ่านได้จากใจของคนอื่น ซึ่งต้องปิดบังเธอ

"อืม เอาเถอะ ฉันไม่เถียงคุณหรอก..." เชอแตมพยายามตัดประเด็นนี้ทิ้ง หากพูดกันต่ออาจจะเข้าตัวเธอจนต้องเสียทีให้อีธานอีก "งั้น คุณกำลังจะบอกฉันว่า หลุยส์หลงรักคุณเหรอ"

"คิดอะไรให้มันไกลจากไม้ป่าเดียวกันหน่อยได้มะ"

เชอแตมอมยิ้ม "แล้วคุณคิดอะไร ฉันหมายความว่า หลุยส์น่ะรักคุณแบบเพื่อน --- ใช่มั้ยคะ"

อีธานขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน 'แม่นี่' คิดอะไรไม่ตรงกับใจ ปากเจ้าหล่อนแถไปเรื่อย ขณะที่ในใจคิดให้เขาเป็นเก้งกวางบ่างชะนี แต่เขาจำเป็นต้องอยู่นิ่ง ๆ เจ้าหล่อนยังไม่รู้ว่าเขาอ่านใจได้

"เราเป็นเพื่อนกันมาสี่ถึงห้าปีได้ละ ไม่แปลกหรอกที่จะสนิทกัน ผมมาอยู่บนโลกที่มีแต่มนุษย์ ก็มีหลุยส์นี่แหละเป็นคนคอยดูแลหลาย ๆ เรื่อง แนะนำหลาย ๆ อย่าง"

เชอแตมคิดถึงเรื่องสำคัญบางเรื่องขึ้นมาได้

"งั้น --- คุณก็ต้องพอรู้เรื่องป๊อบคอร์นบ้างสิคะ"

อีธานนึกอยู่แล้วว่าเจ้าหล่อนต้องวกกลับมาเรื่องนี้

"ผมรู้ --- เท่าที่คุณรู้นั่นแหละ"

เชอแตมทำปากยู่ "ฉันรู้ในมุมของป๊อบคอร์น แต่คุณน่ะ ต้องรู้ในมุมของหลุยส์สิ"

อีธานจะบอกเธอได้ยังไง ว่าเขาไม่เคยเอ่ยถามหลุยส์เรื่องนี้ แต่เขารู้จากการอ่านใจของหลุยส์ทั้งนั้น แม้จะรู้ดีว่ามนุษย์หนุ่มคิดยังไง แต่เขาไม่ใช่คนที่ชอบเอาความลับของใครมาเผยแพร่ ดังนั้นต่อให้เขารู้ว่าหลุยส์รู้สึกยังไงกับป๊อบคอร์น แต่เขาเลือกที่จะเก็บไว้ให้หลุยส์เป็นคนเปิดเผยมันเองดีกว่า

"เจ้านั่น ไม่เคยพูดถึงป๊อบคอร์นให้ผมฟัง" อันนี้แวมไพร์หนุ่มพูดตามความจริง ตลอดเวลาที่ผ่านมายกเว้นเมื่อสองสามอาทิตย์ก่อน หลุยส์ไม่แม้แต่จะเอ่ยถึงความรู้สึกที่มีต่อป๊อบคอร์นให้เขาฟังเลย

เชอแตมทำปากยู่อีกครั้ง "คุณตั้งใจปิดบังฉันหรือเปล่า"

"ผมพูดจริง" แม้จะเป็นคำยืนยันที่ไม่เน้นน้ำเสียงให้หนักแน่น แต่เชอแตมก็เชื่อว่านั่นคือคำยืนยันจริง ๆ ของเขา

เจ้าหล่อนถอนหายใจ "แต่ฉันคิดว่า ฉันรู้แล้วนะคะ ว่าทำไมหลุยส์ถึงได้ทิ้งดอกไม้ของป๊อบคอร์นลงถังขยะ"

อีธานไม่ถามกลับว่าทำไม แต่เขาหันไปมองเธอเป็นการถามกลาย ๆ

"เพราะหลุยส์มีศัตรูเป็นแวมไพร์ไงคะ เขาแค้นมาก จนชีวิตนี้ของเขา ไม่รู้จะจบลงยังไง การที่ป๊อบคอร์นมาชอบเขา ทำให้เขาต้องมีตัวถ่วงและป๊อบคอร์นอาจจะเป็นอันตราย เขาอาจจะอยากให้ป๊อบคอร์นตัดใจจากเขาไปเลยโดยไม่ทิ้งแม้แต่เยื่อใยไว้ให้ เพราะเขาอาจจะแน่ใจว่าอนาคตของเขาคงไม่ได้จบสวย"

"แต่งนิยายได้นะ" เขาหยอกล้อเธอ

เชอแตมทำปากยู่ พ่นลมหายใจหงุดหงิดใส่อีธาน "ก็มันจริงนี่ เรื่องของหลุยส์ทำให้ฉันคิดได้แบบนี้นี่คะ"

"ก็อาจจะถูกของคุณ"

"แต่ที่ฉันไม่แน่ใจคือ...ความรู้สึกที่หลุยส์มีต่อป๊อบคอร์นน่ะ ยังไงกันแน่"

เชอแตมนึกถึงจูบที่หลุยส์มอบให้เพื่อนรักแปดหลอดของเธอ สถานการณ์ตอนนั้นเขาทำเพราะโกรธป๊อบคอร์นหรือเพราะอะไรกันแน่

อีธานเหลือบมองเสี้ยวหน้าของเชอแตมครู่หนึ่งจนเห็นความคิดของเธอผ่านแววตาด้านข้าง เขารู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่ามนุษย์หนุ่มเพื่อนรักของเขาทำอะไรลงไป อีธานกระตุกมุมปากขึ้นอย่างรู้ใจเพื่อน

"คุณอยากให้สองคนนี้รักกันหรือ"

เชอแตมหันมามองเทพบุตรของเธอ

"ฉันยังเชื่อในความรู้สึกตัวเองนะ --- ฉันยังเชื่อว่าหลุยส์เป็นคนดี และเหมาะสมกับยายป๊อบมากที่สุดแล้ว อีกอย่างฉันก็แน่ใจว่าป๊อบคอร์นน่ะ...ยังรักหลุยส์อยู่"

"Anything that can go wrong, will go wrong"

อีธานเอ่ยกฎของเมอร์ฟี่ขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งคู่สบตากัน เชอแตมเชื่อแล้วว่าทฤษฎีของเมอร์ฟี่มันมีโอกาสเกิดขึ้นได้มากกว่าสิ่งที่ควรเกิดขึ้น

"จริง ๆ แล้ว --- ที่สองคนอาจจะกลับมารักกันได้ ไม่ใช่เพราะกฎของเมอร์ฟี่ก็ได้นะคะ แต่เป็นเพราะ...ความรักที่ยังคงอยู่ในใจทั้งคู่ ไม่ได้เลือนหายไปไหนต่างหาก"

อีธานยิ้มน้อย ๆ ให้เชอแตม ก่อนคิดในใจเพียงลำพังว่า ระหว่างหลุยส์กับป๊อบคอร์นมันอาจจะไม่ใช่เพราะกฎของเมอร์ฟี่ แต่สำหรับเรื่องเขาและเธอ มันเกิดขึ้นเพราะกฎของเมอร์ฟี่ชัด ๆ รักคนที่ไม่ควรรักและเป็นไปไม่ได้ มันคือเรื่องที่ผิดพลาดที่สุดสำหรับเขา แม้จะได้รับคำเตือนจากอามาแล้ว แม้จะรู้แก่ใจดี แต่เขากลับห้ามใจตัวเองไม่ได้ เขาแพ้ให้กับความคิดของเธอเวลาเขาได้สบตา ความคิดความรู้สึกที่เรียกร้องหาเขาอยู่ตลอดเวลา ความรู้สึกที่เธอส่งผ่านแววตามาหาเขาว่า...รักเขามากเพียงใด

และมีหรือที่เขาจะไม่ตอบสนองกลับ เพราะเขาก็มีสิ่งนั้นภายในใจให้เธออยู่แล้ว...ความรัก

หลุยส์นั่งนิ่งมองอาวุธปืนกับลิ่มเหล็กแหลมคมบนโต๊ะ อีธานรู้ดีว่าเขารู้สึกอย่างไรต่อป๊อบคอร์น แม้เขาไม่เคยเอ่ยออกมาให้แวมไพร์หนุ่มได้ยิน แต่ใจเขากลับก้องกังวานให้เทพบุตรหน้าเข้มของเชอแตมได้ยินชัดเจน แม้ใจเขาต้องการอีกอย่าง แต่เขาไม่ควรทำตามใจตัวเอง เขาจะให้ใครมาเดือดร้อนร่วมกับเขาไม่ได้ เขาต้องล้างแค้นคนที่มันทำให้บิดามารดาของเขาต้องตายให้ได้ แม้คน ๆ นั้นจะเป็นแวมไพร์ซึ่งสองมือสองเท้าของเขามิอาจเทียมทานพลังของมัน แต่เขามีความมุ่งมั่นและเชื่อในความสามารถของตนเอง

ไม่เขาก็เฮนรี่ที่จะต้องตายไปข้างนึง

แล้วแบบนี้จะให้เขาเอาป๊อบคอร์นมาเดือดร้อนไปกับเขาได้อย่างไร

แม้จะไม่อยากให้เจ้าหล่อนเข้ามาวุ่นวายในชีวิตเพราะเป็นห่วง แต่ตอนนี้เขากลับมายืนพิงรถออดี้รุ่นเอกหกสีดำสนิทของตัวเองซึ่งจอดอยู่หน้าบ้านของเธอเสียอย่างนั้น

มันช่างทรมานกับการต้องหักห้ามใจไม่ให้ทำในสิ่งที่ใจอยากทำยิ่งนัก...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel