บทที่ 24 ศึกชิงนาง 2
ด้วยความดีใจและอยากเข้าไปอยู่ใกล้คนที่ทำให้ตัวเองรู้สึกปลอดภัย หญิงสาวผู้เป็นที่ต้องการตัวของแวมไพร์ตวัดขาลงจากเตียงหินมายืนเหยียบพื้นหินอ่อนสี แบล็คมาคิวน่าได้สำเร็จ แต่ออสการ์กลับไวกว่าเธอ มันเคลื่อนที่เร็วเป็นพายุ ตวัดมือขวาเกี่ยวรอบคอเธอเอาไว้ เชอแตมสะดุ้งเฮือกยกสองมือขึ้นเกาะแขนของมันเอาไว้อัตโนมัติ
ออสการ์ลากตัวเธอถอยหลังไปยืนเคียงข้างบิดาของตัวเอง พร้อมส่งรอยยิ้มสะใจไปให้อีธาน เชอแตมพยายามรั้งขาของตัวเองไม่ให้ถอยตามไป แต่เธอก็ทำไม่ได้ หญิงสาวมีสีหน้าเหยเก ยับยุ่งเพราะความตื่นตระหนกระคนหวาดกลัว
แวมไพร์หนุ่มแห่งตระกูลโอดินต้องอดกลั้นเก็บความรู้สึกอย่างหนัก แม้ข้างในจะร้อนรุ่มเหมือนไฟสุม แต่ข้างนอกกลับแสดงออกมาได้แค่ความสงบนิ่งจนหญิงสาวผู้ครองหัวใจเขามองด้วยแววตาที่รู้สึกน้อยใจ เพราะคิดว่าเขาไม่ห่วงเธอ
ออสการ์แสยะยิ้มมุมปากก่อนจะก้มลงไปที่คอขาวนวลเนียนของเชอแตม โน้มจมูกประทับแน่นตรงนั้น จังหวะนั้นเองที่อีธานกระตุกมุมปาก แสดงแววตาเหมือนเสือร้ายออกมา ถ้าไม่อยู่ต่อหน้าเฮนรี่ ออสการ์ได้แหลกคามือเขาแล้ว
"กลิ่นเธอ เกือบจะชัดเจนเลยนะอีธาน" ออสการ์แสยะยิ้มอีกครั้ง "นี่น่ะหรือ ที่แกบอกว่าเธอไม่มี 'สิ่งนั้น'"
อีธานกัดฟันกรอด เขาพุ่งตัวเข้าประชิดออสการ์ทันทีโดยไม่ให้แวมไพร์ตนอื่นได้เตรียมตัว แต่เขาก็ช้ากว่าเฮนรี่ ที่เคลื่อนตัวมาขวางหน้าบุตรชายไว้พร้อมยกมือขึ้นมาวางตั้งฉากกับพื้นดักตะปบต้นคอของอีธานเอาไว้แน่น
อีธานกัดฟันนิดหนึ่งเพราะความรู้สึกจุกที่คอจากการบีบของเฮนรี่ แม้จะโดนกระทำแต่เขากลับมีความสงบนิ่งลุ่มลึกได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
ออสการ์ปล่อยเชอแตมเป็นอิสระ ก่อนที่จะเคลื่อนไหวเป็นพายุเข้ามาต่อยหน้าท้องของอีธานไปหนึ่งหมัด จนร่างของเขาสะดุ้งตัวงอนิดหนึ่งก่อนจะเด้งกลับมายืนตรงดังเดิมในลักษณะที่โดนเฮนรี่บีบคอไว้
"อีธาน!" เสียงเชอแตมหวีดร้อง พยายามจะเข้ามาช่วยเขา แต่กลับโดนสมุนเกือบไร้น้ำยาของเฮนรี่เข้ามามัดมือและรั้งเอาไว้ หญิงสาวมองหน้าแวมไพร์สองตนที่ขนาบข้างเธอสลับไปมา พร้อมดีดดิ้นแบบไม่กลัวเกรง
ออสการ์กะจะซัดหมัดไปที่เดิมบนร่างเขาอีกครั้ง แต่กลับถูกผู้เป็นบิดายกมือข้างที่เหลือขึ้นมาแสดงสัญลักษณ์เป็นเชิงห้าม เพราะเขากำลังจดจ่อกับข้อความในใจที่อีธานกำลังส่งมาให้เขาอ่าน
"เอาสิ ให้ผมตาย หรือบาดเจ็บสาหัส แล้วคุณจะรู้ว่าภารกิจที่ยิ่งใหญ่ของคุณจะถูกทำลายลงด้วยฝีมือของโดมลับ ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้ผมตายคุณก็ไม่มีวันได้อะไรจากเธอ คุณเองก็รู้ดี ว่าตำนานมันเป็นยังไง"
เบรคของรถออดี้รุ่นเอหกสีดำสนิทถูกเหยียบกะทันหันให้จอดตรงหน้าสุสานใกล้ชานเมือง ซึ่งเป็นสุสานเดียวกับที่อีธานเข้ามาก่อนหน้านี้ ชายหนุ่มผู้เป็นศัตรูกับแวมไพร์หยิบเป้ขึ้นสะพายบ่าก่อนตวัดขาลงจากรถ ออกเดินก้าวฉับ ๆ เข้าไปข้างใน ความมืดทำให้เขามองทางไม่ค่อยชัดจนต้องหยิบไฟฉายออกมาเปิดส่องสว่างนำทาง เขารู้ดี มนุษย์ไม่สามารถมองชัดในความมืดเท่ากับแวมไพร์ แต่แวมไพร์ก็ไม่สามารถมองชัดในเวลากลางวันได้อย่างมนุษย์ ต่างคนต่างได้เปรียบเสียเปรียบ
จุดหมายปลายทางของหลุยส์ก็สิ้นสุดลงตรงหน้าหลุมศพที่มีป้ายหินแกรนิตสลักชื่อเจ้าของร่างที่เคยอยู่ในโลงเอาไว้ว่า
'ฌายิน ภูมิบวรวงศ์'
แม้จะไม่รู้สึกโหยหา แม้จะรู้สึกเกลียดชัง แม้จะรู้สึกขยะแขยง แต่เขาก็รัก
จะไม่ให้เขารู้จักร่างที่เคยถูกฝังอยู่ภายในโลงศพนี้ได้อย่างไร ในเมื่อ 'ฌายิน ภูมิบวรวงศ์' เป็นบิดาแท้ ๆ ของเขา
"คุณก็รู้ดีว่าสิ่งนี้มันเกิดขึ้นแล้วกับคุณจันทร์ฉาย"
อีธานยังคงร่ายคำพูดในใจให้แวมไพร์อาวุโสได้อ่าน ยังผลให้บิดาของออสการ์หยุดชะงักไปได้เช่นกัน เขากำลังย้อนคิดถึงเรื่องราวเมื่อสามร้อยปีก่อนในขณะที่ออสการ์ยังเป็นเด็ก
"สำหรับมนุษย์ผู้หญิงคนนี้ คุณยังไม่รู้จักเธอดีพอเท่าผม เธอบ้าดีเดือด เท่าที่ผมอ่านใจเธอได้--- ความถูกต้อง-- ความรัก-- ความยุติธรรมสำหรับเธอมันอยู่เหนือความตาย"
แม้จะเป็นเพียงข้อความในมโนความความคิดของอีธาน แต่มันก็เย็นยะเยือกได้อย่างน่าหวาดหวั่น เฮนรี่ยังคงคิดถึง 'จันทร์ฉาย' มนุษย์ผู้หญิงที่บ้าดีเดือดเช่นเดียวกับเชอแตม
แน่นอน แวมไพร์อาวุโสผู้อำมหิต จะไม่ปล่อยให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกเป็นอันขาด
"เจ้าบอกแม่หนูคนนี้ไปหรือยัง ว่าอะไรอยู่ในตัวเธอ" เฮนรี่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงทุ้มเข้มเย็นเยียบ ไม่ไพเราะสักนิดในโสตประสาทของเชอแตม
อีธานยิ้มมุมปากให้เขาด้วยแววตาที่แสนสะใจทั้งที่ตัวเองยังเป็นรองเพราะต้นคอยังอยู่ในกำมือเขา
"ผมจะบอกในอีกไม่นานนี้" นี่คือคำขู่ ที่ทำให้เฮนรี่นึกขยาดขึ้นมาบ้าง
ด้วยโทสะที่เกิดขึ้นมาชั่ววูบ ทำให้เฮนรี่ออกแรงใช้พลังแวมไพร์ที่แข็งแกร่ง โยนอีธานกระเด็นไปกระแทกกับกำแพงดินที่ฉาบด้วยหินอ่อนแบล็คมาคิวน่า จนหินอ่อนยุบเข้าไปในดินเป็นรอยตัวเขาครึ่งตัว
อีธานหล่นตุ้บลงมาคุกเข่าข้างเดียวบนพื้นด้วยอาการยอกจากการปะทะรุนแรง แต่เพราะเป็นแวมไพร์เขาจึงยังคงมีแรงอีกเหลือเฟือ แม้จะปวดระบมไปทั่วร่างกายก็ตาม
อย่างน้อยเฮนรี่ก็ติดกับแผนการของเขา เขาต้องการหลุดออกมาจากอุ้งมือมัน เพื่อจะได้เคลื่อนไหวได้สะดวก ตอนนี้เขาต้องทำอะไรด้วยความระมัดระวัง เฮนรี่อ่านใจทุกคนในที่นี้ได้ ในขณะที่เขาอ่านใจได้ทุกคนยกเว้นบิดาของออสการ์
อีธานก้มหน้ามองพื้นหินอ่อนเพื่อหลบตาเฮนรี่ ถ้าอยากเข้าชาร์จกับเฮนรี่เขาต้องคิดว่าจะเข้าชาร์จออสการ์เพื่อล่อให้เฮนรี่อ่านเจอแล้วหลงทาง
อีธานพุ่งตัวแรงแม้จะเพิ่งโดนเขวี้ยงมาอย่างหนักเข้าหาออสการ์ เป็นไปอย่างที่เขาซ้อนแผนไว้ เฮนรี่เบี่ยงตัวมาเพื่อทำร้ายเขาอีกครั้ง อีธานได้เปรียบเพราะรู้แกวแล้ว เขาเบี่ยงตัวก้มหลบจากอุ้งมือเฮนรี่แล้วยกเท้าข้างหนึ่งขึ้นมาทำท่าเถวรกวาดลานเข้าใส่ข้อเท้าของเฮนรี่ แต่แวมไพร์อาวุโสฉลาดเกินกว่าที่อีธานคิด เขาหายตัวไปทันทีที่อีธานหมุนตัวครบหนึ่งรอบจากท่าเถรกวาดลาน
เฮนรี่มาโผล่ข้างหลังอีธาน เขาใช้ฝ่ามือเดียวผลักแผ่นหลังแวมไพร์หนุ่มจนกระเด็นไปกระทบกับกำแพงดินที่ฉาบด้วยหินอ่อนอีกครั้งจนพื้นที่ตรงนั้นยุบเข้าไปฝังในดินอย่างเช่นก่อนหน้านี้
อีธานลุกขึ้นนั่งคุกเข่าข้างเดียวเมื่อหล่นลงมาจากกำแพงดิน เข่าอีกข้างอยู่ในท่าเตรียมพร้อมกระโจนเข้าใส่
"มีมนุษย์เข้ามา" เสียงออสการ์เอ่ยขึ้นก่อนมวยแวมไพร์จะตามมาอีกระลอก
เป็นที่รู้กันสำหรับพ่อลูกว่าออสการ์เป็นแวมไพร์เลือดครึ่งที่พิเศษตรงการรับกลิ่น แวมไพร์หนุ่มจะมีจมูกที่ไวราวกับหมาป่า เฮนรี่ส่งสัญญาณพยักพเยิดไปยังแวมไพร์สมุนสองตนที่คุมตัวเชอแตมอยู่ให้ไปดูตรงทางเข้าที่กบดานตามที่ออสการ์ได้กลิ่น ออสการ์จึงต้องคุมตัวเชอแตมไว้แทน
มันสองตนไม่รอช้าทำตามคำสั่งราวกับถูกป้อนกลไกคำสั่งอัตโนมัติเอาไว้ให้ทำงานทันทีแบบรวดเร็วทันใจ
ปัง ๆ !
ไม่ถึงสามสิบวินาที เจ้าของกลิ่นที่ออสการ์สัมผัสได้โผล่เข้ามาให้ทุกสายตาได้จับจ้อง ในมือถือปืนพกสั้นลูกโม่สีเงินสแตนเลสแวววาว ยกขึ้นมาตั้งฉากกับพื้นจ่อไปยังเฮนรี่ที ออสการ์ที
การปรากฏตัวของหลุยส์ทำให้เชอแตมตะลึงยิ่งนัก ความกังวล ความหวาดกลัว ความดีใจผสมปนเปจนไม่รู้จะรู้สึกแบบไหนก่อนดี
ถ้าเขามาช่วยเธอมันคือเรื่องดี แต่ถ้าต้องแลกด้วยการเอาชีวิตของอีธานไป เธอยอมตาย!
หลุยส์แสยะยิ้มมุมปาก ให้กับเฮนรี่
"สมุนไร้น้ำยา" เขาเอ่ยถึงสมุนสองตนที่เฮนรี่สั่งให้ไปดูเขา ชายหนุ่มเรียนยิงปืนมานานแสนนาน ความแม่นยำที่เขาต้องการคือยิงครั้งเดียวต้องทะลุหัวใจ วันนี้มันใช้ได้ผลกับสมุนของเฮนรี่ ปืนพกสั้นลูกโม่มันมีกระสุนจำกัด การจะเปลี่ยนกระสุนทีก็ไม่ได้ดั่งใจ วิธีที่จะใช้กระสุนให้คุ้มค่าและประหยัดคือต้องยิงให้ทะลุหัวใจแวมไพร์เท่านั้น
และนี่คือเหตุผลที่เขาเลือกปืนพกสั้นลูกโม่ แม้จะขัดใจตรงความเร็วเวลาเปลี่ยนกระสุน แต่มันช่วยเตือนสติให้เขาทุกวินาทีว่ายิงครั้งเดียวต้องทะลุหัวใจเท่านั้น ปืนพกสั้นลูกโม่จึงเป็นตัวช่วยเรียกความแม่นยำในตัวเขาออกมา
สมุนสองตนจึงสลายกลายเป็นผุยผงไปต่อหน้าต่อเขาในไม่กี่วินาที
เฮนรี่รู้สึกแปลกใจกับมนุษย์ผู้ชายตรงหน้า แวมไพร์อาวุโสพยายามจะอ่านใจเขา แต่กลับได้เพียงความว่างเปล่ากลับมา ถ้ามนุษย์คนนี้ไม่มีความคิดอะไรเลยจริง ๆ เขาก็คงจะรู้และเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีว่าแวมไพร์เลือดแท้อ่านใจคนอื่นได้ หลุยส์จึงพยายามทำให้สมองของตัวเองว่างเปล่าที่สุด
แต่ในทันใด เฮนรี่ก็ได้ข้อความบางอย่างมาจากความคิดของหลุยส์
"จองจำแค่สองปี มันน้อยไปนะสำหรับแวมไพร์ชั่ว ๆ อย่างแก"
เฮนรี่ถลึงตามองดุ หนุ่มคนนี้เป็นใครกันแน่! ทำไมถึงได้ล่วงรู้เรื่องเขาเคยถูกจองจำมาเป็นเวลาสองปี
"ส่งตัวผู้หญิงมา" หลุยส์เอ่ย ออสการ์ไม่มีท่าทีกวน ๆ อีกต่อไปแล้ว มันแสดงยิ้มเหี้ยมแบบไม่พอใจสุดขีดมาให้มนุษย์หนุ่ม
"ไม่รู้ตัวสินะ ว่าชะตาของแกมันกำลังจะขาดแล้ว" ออสการ์ตอกกลับหลุยส์ หลุยส์ได้แต่ยิ้มมุมปากให้มัน
"ถ้าฉันตายด้วยฝีมือแก คนที่เดือนร้อนไม่ใช่ฉันหรอก แกต่างหากไม่ใช่หรือ" ออสการ์หุบยิ้มทันที สายตามองหลุยส์อำมหิตขึ้นเป็นทวีคูณ "ฉันตาย ภารกิจของแกก็อาจจะไม่ลุล่วงเพราะต้องไปติดคุกจากการตัดสินของโดมลับ ตึกกฎหมายในอาณาจักรของแก"
คำพูดของหลุยส์ไม่เพียงสร้างความตระหนกให้กับแวมไพร์สองพ่อลูกเท่านั้น เชอแตมเองก็ตื่นตะลึง งุนงงในสิ่งที่เขารู้มากกว่าเธอเสียอีก ตกลงหลุยส์เป็นใครกันแน่!
ความเงียบเข้าปกคลุมทุกคนชั่วขณะ อีธานอาศัยจังหวะที่ตัวเองอยู่ข้างหลัง เฮนรี่และความเผอเรอของสองพ่อลูกในขณะนั้นเข้าประชิดตัวออสการ์เพื่อชิงตัวเชอแตม เขากระชากแขนออสการ์เหวี่ยงไปตกไกลจากตัวเขาสี่เมตร เชอแตมเซถลาเกือบล้มเพราะอีธานยังคว้าตัวไว้ทัน ออสการ์ไม่ยอม มันลุกขึ้นมาพร้อมเคลื่อนไหวอย่างเร็วปานทอร์นาโด มาขวางหน้าอีธาน แวมไพร์หนุ่มนัยน์ตาสีครามแห่งตระกูลโอดินจำต้องผลักเชอแตมไปให้พ้นทางแล้วเข้าปะทะเดือดกับออสการ์
เฮนรี่ยืนนิ่งเงียบสุขุมนุ่มลึก ดวงตายังจดจ้องมาที่หลุยส์ เขาต้องรู้ให้ได้ว่าพ่อหนุ่มคนนี้เป็นใคร แม้ไม่ใช่วันนี้ มันก็ต้องเป็นวันพรุ่งนี้
ออสการ์เบี่ยงตัวหลบจากหมัดซ้ายของอีธาน ก่อนจะใช้หมัดขวาตัวเองต่อยตุ้บไปยังชายโครงของเขา ยังผลให้อีธานเซไปด้านหลังเล็กน้อย แวมไพร์หนุ่มนัยน์ตาสีครามก้มหลบจากหมัดอีกข้างของออสการ์ ก่อนจะหายแวบไปยืนด้านหลังของมัน พร้อมกับเหนี่ยวต้นคอของมันเอาไว้แล้วทุ่มไปไกลให้กระแทกกำแพงเหมือนที่บิดาของมันทำกับเขา เขาไม่ปล่อยให้มันหล่นลงมาถึงพื้น เพราะเพียงไม่ถึงหนึ่งวินาที เขาก็กระโดดตัวลอยเข้าไปบีบคอประชิดตัวมันที่กำแพง กดให้แนบไปกับผนังหินอ่อนแบล็คมาคิวน่าจนต้องร้องอ๊ากออกมาด้วยความเจ็บปวด
หลุยส์ไม่ไวพอที่จะเคลื่อนไหวนิ้วมือลั่นไกได้ทันเฮนรี่ เพราะแวมไพร์อาวุโสหายตัวเข้าไปใช้ไม้ที่มีลิ่มแหลมแทงทะลุหัวไหล่ของอีธาน
"อ๊าก!" อีธานหลุดความเจ็บปวดออกมาผ่านเสียงร้อง ทำให้เขาต้องปล่อยมือจากออสการ์โดยอัตโนมัติ และรีบเคลื่อนไหวเร็วมายืนให้ห่างจากสองพ่อลูก มือซ้ายกุมไหล่ขวาที่ถูกแทงเอาไว้ ใครบอกว่าแวมไพร์จะไม่พกอาวุธที่ใช้ฆ่าตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างมันคือดาบสองคมทั้งนั้น
เชอแตมปรี่เข้ามาหาอีธานด้วยความตกใจระคนเป็นห่วง เลือดเขาออก แวมไพร์มีเลือดสีแดงฉานเหมือนมนุษย์ เธอเอามือกุมไหล่เขาเอาไว้ สีหน้าซีดเผือดแทบจะร้องไห้
"กลับไป" เสียงเฮนรี่เอ่ยเรียบนิ่ง เขาไม่คิดจะฆ่าใครทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือแวมไพร์ เขาไม่อยากเสี่ยงกับการจับตามองตลอดเวลาจากโดมลับจนไม่เป็นอันทำภารกิจสำคัญ ที่ร้ายไปกว่านั้น เขาจะถูกจองจำไม่ได้ หากยังไม่ได้ตัวเชอแตมมาไว้ในครอบครองและได้สิ่งนั้นในตัวเธอ
และเขามั่นใจว่าวันพระไม่ได้มีหนเดียว มนุษย์ผู้หญิงตรงหน้าเขาจะยังไม่ไปไหน และไม่มีอะไรมาเปลี่ยนเธอได้ พวกของอีธานทำได้เพียงดูแลเธอเท่านั้น ตราบเท่าที่เธอมีชีวิตเขาก็ยังสามารถจับตัวเธอได้ตลอดเวลา
อีธานรู้ดีว่าเฮนรี่คิดอะไรแม้ไม่ได้อ่านใจ วันนี้ยังไม่ใช่วันที่สมควรแก่การทำภารกิจยิ่งใหญ่ของมัน เพราะที่นี่เป็นแค่ที่กบดานชั่วคราว หากมันคิดจะเอาจริง เขาควรจะกลัวเมื่อมันพาเชอแตมไปยังอาณาจักรลับของมัน ซึ่งแม้แต่อาของเขาก็ไม่เคยล่วงรู้
ออสการ์มายืนกัดฟันกรอดเคียงข้างบิดา ส่งสายตามาดร้ายอาฆาตแค้นไปให้อีธาน สิ่งที่ไม่น่าภูมิใจที่สุดในชีวิตของเขาคือการเป็นแวมไพร์เลือดครึ่ง พลังของเขาจึงน้อยกว่าอีธาน
ทุกคนมองตากันอึดใจก่อนอีธานจะค่อย ๆ ก้าวถอยหลังใช้มือข้างที่หัวไหล่ถูกแทงจับมือเชอแตมไว้เพราะมืออีกข้างกุมไหล่ตัวเองอยู่ แล้วหันหลังเดินจากไปช้า ๆ อย่างไม่รีบเร่ง โดยมีหลุยส์เดินตามหลังไปติด ๆ
สองพ่อลูกได้แต่ยืนนิ่งมองแผ่นหลังของทั้งสามคนค่อย ๆ หายไปต่อหน้าต่อตา
"สงครามครั้งนี้ แม้แต่เริ่มต้น มันก็ยังไม่ได้เกิดขึ้นมาเลย อีธาน" เฮนรี่พึมพำเพียงลำพัง
แวมไพร์หนึ่งตนกับมนุษย์สองคนปีนออกมาจากโลงได้สำเร็จ อีธานพยายามใช้พลังปิดฝาโลงจนกระทั่งมันปิดสนิท แต่เพราะมีแผลที่ถูกแทงจากลิ่มแหลม เขาจึงเซนิดหนึ่งจากการใช้พลังมากไปผนวกกับการสูญเสียพลังจากความเจ็บปวดจนมือต้องค้ำยันไปที่โลงศพให้พยุงตัวอยู่ เชอแตมเข้าประคองไว้ใกล้ชิด
"อีธาน คุณเป็นไงบ้าง" เจ้าหล่อนสังเกตเห็นสีหน้าแวมไพร์เหยเกนิด ๆ เขาเจ็บเธอรู้ แต่เขาไม่คิดจะส่งเสียงโอดโอย
"ผมไหว" เขาเอ่ยเรียบ ๆ น้ำเสียงไม่เจือความเจ็บปวดแต่อย่างใด
เชอแตมหายใจเข้าออกทางปากด้วยความกังวล เธอกลัวเหลือเกินว่าอีธานจะเป็นอะไรไป หญิงสาวหันมามองหลุยส์ ที่กำลังยืนกอดอกมองทั้งคู่ด้วยแววตาอ่านยาก
เชอแตมยืดตัวตรงกางแขนทั้งสองบังอีธานเอาไว้
"เขาเป็นแวมไพร์ แวมไพร์ที่คุณเกลียด แต่คุณทำร้ายเขาไม่ได้นะ"
หลุยส์มองหน้าหญิงสาวที่ยับยุ่งจนเกือบจะร้องไห้ แววตาสีหน้าท่าทางปกป้องแวมไพร์หนุ่มเต็มที่ ลักษณะแบบนี้คงตายแทนได้ก็ไม่ปาน
ขณะนั้น อีธานพยายามยืดตัวยืนตรงมองตาหลุยส์มาจากข้างหลังของเชอแตม แวมไพร์หนุ่มยิ้มมุมปากนิด ๆ ด้วยความขบขันแม้ไหล่จะเจ็บอยู่ อีธานอ่านความคิดหลุยส์ได้ มนุษย์หนุ่มกับแวมไพร์หนุ่มยิ้มมุมปากขบขันส่งให้กัน
"อย่ามาอ่านใจฉัน" หลุยส์ส่งความคิดให้อีธานอ่าน
"บอกว่าอย่ามาไง" อีธานเปล่งคำพูดออกมา จนเชอแตมต้องหันไปมองเขา เขาพูดกับใคร
"ไม่มาแล้วนายจะรอดมั้ย รถจอดอยู่ข้างนอก หวังว่าคงเดินไปไหว" หลุยส์ตอบกลับ จนเชอแตมต้องหันมามองเขาอีก สีหน้าที่เหมือนเด็กจะร้องไห้เมื่อสักครู่ กลายเป็นสีหน้างุนงงเป็นไก่ตาแตก
"ลิ่มไม่ได้แทงทะลุหัวใจเสียหน่อย" อีธานบอกหลุยส์
"ปากแบบนี้ มันก็น่าแทงให้ทะลุหัวใจมากกว่านะ อีธาน" หลุยส์คิดประชดส่งให้อีธานอ่าน
"อย่ามานั่งร้องไห้ละกัน" อีธานตอบกลับหลุยส์ แต่เชอแตมกลับงุนงงว่าเขาหมายความว่าอะไร เจ้าหล่อนมองหน้าแวมไพร์หนุ่มที มนุษย์หนุ่มที
ทำไมทั้งคู่แสดงสีหน้าใส่กันเหมือนกับ---เป็นเพื่อนกันงั้นแหละ!
