บท
ตั้งค่า

บทที่ 21 กับดัก 1

ป๊อบคอร์นยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาหนัก ๆ หน้าเชิดขึ้นนิด ๆ แววตาที่เคยเศร้าหมองเปลี่ยนเป็นเข้มแข็งขึ้นทันใด

"หมดเวลาของน้ำตาแล้ว" เจ้าหล่อนเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้มกว้างให้เชอแตม เรื่องราวในอดีตมันแค่ทำให้เธอมีน้ำตาเวลานึกถึง แต่มันไม่ได้ทำลายปัจจุบันของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว

เชอแตมมองหน้าเพื่อนรักด้วยแววตาแสนทึ่ง เจ้าหล่อนทำได้ยังไงที่ไม่ยอมเปิดปากเอ่ยถึงเรื่องนี้กับเธอในช่วงเวลานั้นเลย ไม่แม้แต่จะให้เธอได้เห็นเศษเสี้ยวของความเศร้า

"แกทำได้ไง ป๊อบ" หญิงสาวจำต้องเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ

"แกอยู่มาได้ยังไงโดยที่ไม่แชร์ความเจ็บปวดให้ฉันรู้เลย" เชอแตมไม่ได้โกรธที่เพื่อนรักไม่เล่าให้ฟังก่อนหน้านี้ แต่รู้สึกเสียดายและไม่ชอบใจตัวเองที่อยู่โดยไม่รู้เลยว่าเพื่อนอกหัก

"ก็มันไม่สำคัญขนาดนั้นนี่ ตลอดเวลาที่ฉันชอบเขาน่ะ ฉันก็ยังเถียงตัวเองอยู่เสมอเหมือนกันนะ ว่าฉันไม่ได้ชอบเขาหรอก ยิ่งเถียงก็ยิ่งรู้ว่ารักมาก ฉันไม่ได้ไม่อยากเล่าให้แกฟัง แต่ฉันรู้สึกแค่ว่า ฉันไม่อยากเล่า แม้เพื่อนสนิทฉันจะไม่ใช่แก ฉันก็รู้สึกไม่อยากเล่า ยิ่งหลังจากที่เขา..." ป๊อบคอร์นหยุดเล่ากะทันหันเมื่อนึกถึงดอกกุหลาบแดงช่อนั้น

"เขาทิ้งดอกไม้ลงถังขยะแบบไม่ไยดี ฉันยิ่งไม่อยากพูดถึงเขาอีกเลย"

เชอแตมถอนหายใจแล้วจับมือเพื่อนรักไปกุมไว้

"แต่แกรู้มั้ย ความรู้สึกแกที่ฉันเห็นในวันนี้น่ะ มันทำให้ฉันรู้สึกได้ว่า แกรักเขามากเหลือเกิน มากถึงขนาดที่ตอนนี้ ฉันคิดว่าแกก็ยังรักเขาอยู่"

ป๊อบคอร์นตวัดสายตาคมกริบมองเพื่อนรัก

"แกมองผิดแล้ว อดีตน่ะใช่ ที่ฉันรักเขามาก แต่ปัจจุบัน มันไม่เหลือแล้วแก"

เชอแตมมองตาป๊อบคอร์นด้วยแววที่ไม่เชื่อคำพูดเจ้าหล่อน หากแต่เชื่อสายตาและความรู้สึกตัวเอง

"ทำไมหลุยส์ต้องทำแบบนั้น ทำไมเขาถึงทิ้งดอกไม้ของแกลงถังขยะ"

เชอแตมยังไม่ปักใจเสียทีเดียวว่าการกระทำนั้นของหลุยส์คือนิสัยใจคอที่แท้จริงของเขาที่ชอบทำร้ายจิตใจคนที่รักเขา เธอกลับสงสัยว่าเขาต้องมีเหตุผลที่ทำแบบนั้น จากการพบปะพูดคุยกับเขาแค่ไม่กี่ครั้ง เธอก็พอจะจับความรู้สึกได้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร หากเขาจะร้ายมันก็ไม่น่าถึงขนาดทำร้ายจิตใจป๊อบคอร์นขนาดนี้

"หึ ผู้ชายที่รักใครไม่เป็นอย่างเขา ไม่น่าสงสัยหรอกว่าทำไมถึงทำแบบนั้น ผู้หญิงรายล้อมเขาเยอะนี่ ตัวเลือกมากมาย เขาอาจจะอยากตัดความรำคาญ ถังขยะเลยง่ายและใกล้มือที่สุดแล้ว"

เชอแตมรู้ว่าป๊อบคอร์นพูดด้วยความเจ็บปวดใจ จนไม่คิดจะหาเหตุผลถึงการ กระทำนั้นของเขา เธอควรปล่อยให้ความแน่ใจของตัวเองเป็นเพียงความแน่ใจของตัวเอง เธอจะต้องหาโอกาสคุยกับหลุยส์ถึงสาเหตุของการทิ้งดอกไม้ของป๊อบคอร์นลงถังขยะให้ได้

"ทีนี้ก็ตาของแกละนะ" ป๊อบคอร์นหันมาทวงสัญญา เชอแตมทำหน้าไม่เข้าใจครู่หนึ่ง ก่อนสมองอันไวปร๋อจะนึกได้ว่าเคยเปล่งข้อต่อรองอะไรเอาไว้

หญิงสาวทำปากยู่พ่นลมเบา ๆ ออกมาก่อนจะหันไปยิ้มแหยให้เพื่อนรัก

"คือว่า..." เชอแตมพยายามเค้นสมองอย่างหนักให้กุเรื่องที่พอเชื่อถือได้เกี่ยวกับอีธานให้เจ้าหล่อนรับรู้ไปก่อน แต่วินาทีนี้ทำไมเธอถึงนึกอะไรไม่ออกเลย

"แกไปหาผู้ชายแบบนี้มาจากไหน ฉันอยู่มาจนอายุเท่านี้ ยังไม่เคยเจอใครหล่อจนเทวดาพากันตกลงมาตายบนโลกแบบนี้เลยนะ"

ป๊อบคอร์นจินตนาการถึงใบหน้าอันคมเข้มหล่อเหลาของอีธานแล้วก็รู้สึกเพ้อพกไปว่าเป็นตัวเองที่ได้เกลือกกลิ้งไปบนเตียงกับเขาแทนเชอแตม อีธานยืนกอดอกยิ้มมุมปากอยู่บนราวระเบียงห้องข้าง ๆ แอบนึกในใจว่าหากเชอแตมเห็นความคิดนี้ของเพื่อนรักคงตวัดมือตีเผียะลงไปบนเนื้อเนียน ๆ นั่นแล้ว

"ก็เจอ...ตอนที่..." เชอแตมตัดสินใจแล้วว่าให้มีเค้าความจริงสักนิดก็ยังดี หากเจ้าหล่อนรู้ความจริงในภายหลัง เธอจะได้ไม่ต้องเสียเวลาง้อและอธิบายให้ยืดยาว

"ออกไปเดินเล่นตอนเที่ยงคืนบ่อย ๆ น่ะ"

ป๊อบคอร์นเลิกคิ้ว สายตาเป็นคำถาม

"อย่าบอกนะว่าเขาก็ออกไปเดินเล่นตอนเที่ยงคืนเหมือนแก"

"ใช่" เชอแตมยืนยันคำคาดเดานั้น

"โห!" ป๊อบคอร์นยกสองมือขึ้นมากุมกันไว้แล้วชูขึ้นมาซุกไว้ใต้คางแววตาเป็นประกายปลื้มปริ่ม "พรหมลิขิตแท้ ๆ"

เชอแตมถอนหายใจวืดยิ้มแหยให้ความคิดโรแมนติกเพ้อฝันของเจ้าหล่อน

"แล้วเขาเป็นใครมาจากไหน ลูกครึ่งหรือเปล่า หน้าตาค่อนไปทางตะวันตกนะ"

"ฉันรู้แค่ว่าเขาชื่ออีธาน เรื่องอื่นยังไม่รู้"

เชอแตมตอบไปตามความจริงเพราะ นอกจากชื่ออีธานและเป็นแวมไพร์แล้วเธอก็ไม่รู้เรื่องครอบครัวเขาเลย

"อีธาน ชื่อก็เท่ห์ด้วยง่ะ" ป๊อบคอร์นแอบบิดตัวนิด ๆ ด้วยอาการเอียงอายแบบน่าหมั่นไส้จนเชอแตมต้องเอามือเคาะกะโหลกเจ้าหล่อนไปทีหนึ่ง และพร้อมกับที่อีธานก็หลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ กับตัวเอง

ป๊อบคอร์นเอามือกุมศีรษะป้อย ๆ เบะปากใส่เพื่อนรัก

"รู้แค่ชื่อแต่ไว้ใจถึงขนาดให้เข้ามากกกอดกันบนเตียงได้เนี่ยนะ ฉันว่ามันไม่ธรรมดาว่ะแตม"

ถึงเจ้าหล่อนจะเล่น ๆ ไปบ้างกับเรื่องความหล่อเหลาของอีธาน แต่ในใจจริง ๆ คือเป็นห่วงเพื่อนรักอยู่ทุกวินาที เชอแตมไม่ใช่ผู้หญิงที่จะหลงรักใครง่าย ๆ เจ้าหล่อนรู้ดี เพราะแต่ไหนแต่ไรมา เจ้าหล่อนพยายามยุแหย่ให้ชอบคนนั้นชอบคนนี้มากี่คน เชอแตมไม่เคยหวั่นไหวเลยสักครั้ง และมีครั้งหนึ่งที่ป๊อบคอร์นจำได้ว่าเชอแตมหลุดปากออกมาว่ารอใครบางคน ซึ่งเธอไม่ได้ใส่ใจคำพูดนั้น จนกระทั่งคืนนี้ที่เจ้าหล่อนเห็นเพื่อนรักกลิ้งขลุกขลักอยู่บนเตียงกับชายหนุ่มหน้าตาเทพบุตรคนนั้น

แม้จะไม่ไว้ใจอีธานอยู่ในที แต่เจ้าหล่อนกลับเชื่อใจเพื่อนรักว่าคนที่เพื่อนเลือกนั้นต้องเป็นคนดีแน่ ๆ

เป็นเชอแตมบ้างที่เงียบไปด้วยสีหน้าที่สื่อถึงอารมณ์หลากหลาย

"เอาเหอะ ฉันจะไม่ซักไซ้แกจนกว่าแกจะบอกฉันเองละกัน เพราะฉันเองก็เคยปิดบังเรื่องหลุยส์กับแก ถ้าฉันไม่เคยปิดเรื่องหลุยส์นะ บอกก่อนเลย คืนนี้แกไม่ได้นอนหรอก"

เชอแตมเม้มยิ้มกว้างให้เพื่อนรัก นี่คือเหตุผลที่เธอคบกับหญิงสาวเสียงแปดหลอดคนนี้อย่างไว้ใจและได้นานขนาดนี้

เชอแตมก้าวเดินอย่างสม่ำเสมอมุ่งหน้าไปยังสนามยิงปืนของมหาวิทยาลัย หลุยส์เคยบอกกับเธอว่าสามารถเจอเขาได้ที่นี่ ร่างบางหวังว่าวันนี้เธอจะโชคดีได้เจอเขาอย่างที่ตั้งใจไว้

และเธอก็โชคดีจริง ๆ และโชคดีในแบบที่ไม่ต้องเดินเข้าไปตามหาเขาถึงในสนาม เพราะเขาเองก็กำลังจะเดินเข้าไปในสนามพอดี

"หลุยส์"

ชายหนุ่มหันหน้ามาตามเสียงเรียกด้านหลัง สีหน้าเขาแปลกใจนิด ๆ ที่ได้ยินเชอแตมเรียกชื่อเขา ชายหนุ่มเดินตรงมาหาหญิงสาวทันทีที่เห็นหน้า

"คุณรู้จักชื่อผมแล้ว" วลีนั้นไม่เชิงจะถามเสียทีเดียว

"ฉันรู้ทุกอย่างจากป๊อบคอร์นแล้วนะ"

สีหน้าหลุยส์สลดลงนิดหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังคงมีดวงตาที่ไม่แยแสเหมือนเดิม

"ซึ่งมันคงเป็นเรื่องยากที่ผมจะได้ดูแลป๊อบคอร์นโดยง่าย"

เชอแตมจ้องหน้าชายหนุ่มด้วยแววตาราวกับตำรวจกำลังเค้นความจริงจากคนร้าย เธอยกมือขึ้นกอดอก

"ฉันว่าเรื่องนั้นควรจะเป็นประเด็นรอง เพราะฉันต้องรู้ประเด็นหลักก่อนที่จะสามารถตัดสินใจได้ว่า คุณควรดูแลป๊อบคอร์นหรือไม่"

หลุยส์มองตาเธอกลับไปด้วยแววรู้ทัน แต่ก็ไม่ปริปากคัดค้าน โต้แย้งใด ๆ ออกมา

"ทำไมคุณถึงต้องทิ้งดอกไม้ของป๊อบลงถังขยะ คุณจงใจจะทำร้ายจิตใจเธอเพื่อเหตุผลบางอย่างใช่มั้ย"

ชายหนุ่มเบือนสายตาไปทางอื่น แล้วหันมาตอบคำถามของเจ้าหล่อน

"เหตุผลเพียงอย่างเดียวคือ ผมไม่ได้คิดอะไรกับเธอ ถ้าผมเก็บดอกไม้เอาไว้ มันเท่ากับผมให้ความหวัง การตัดไฟแต่ต้นลมมันอาจจะทำให้เพื่อนคุณเสียใจมาก แต่มันดีกว่าเสียใจทีหลัง ซึ่งมันจะเสียใจมากกว่าถึงสองเท่า"

เชอแตมถอนหายใจ เธอนึกอยู่แล้วว่าต้องได้ยินชายหนุ่มพูดแบบนี้ และคิดว่าคงไม่มีประโยชน์หากเธอจะซักไซ้ต่อ

"แต่แววตาของคุณที่มองป๊อบ มันไม่ได้เป็นอย่างคำพูดคุณเลยนะ"

ชายหนุ่มถอนหายใจ "มันคงเป็นสันดานของผมแล้วล่ะ ที่มีสายตาให้ความหวังไปทั่ว"

เชอแตมรู้สึกขัดใจกับผู้ชายตรงหน้าขึ้นมาหวุดหวิด น้ำเสียงมันส่อให้รู้สึกได้เลยว่า ประชดประชันหรืออะไรก็แล้วแต่ที่พยายามให้เธอและป๊อบคอร์นมองเขาในแง่ไม่ดี

"เอาเถอะ จะอะไรก็ช่าง แต่ในเมื่อป๊อบเขารักคุณมาก วงเล็บว่าในอดีต ความเจ็บปวดของป๊อบทำให้ฉันรู้ว่าเพื่อนฉันรักคุณมาก จนฉันไม่รู้ว่าถ้าปล่อยให้คุณดูแลเพื่อนฉัน มันจะเป็นการทำร้ายจิตใจเพื่อนฉันซ้ำสองหรือเปล่า"

"เธอไม่ได้คิดอะไรกับผมแล้วนี่ คงไม่มีอะไรน่ากังวล"

"คุณคิดงั้นเหรอ" น้ำเสียงสูงประชดประชันในที จนหลุยส์ต้องมองตาเธอด้วยแววไม่มั่นใจ "ไม่มีใครลืมความรู้สึกรักครั้งแรก หรือรักครั้งไหนก็ตามที่มันเป็นความรักอย่างแท้จริงได้หรอกนะ ป๊อบคอร์นอาจจะดูเหมือนลืมคุณไปแล้วเพราะเธอไม่ได้เจอคุณอีกเลยนับแต่จากกันมาเมื่อตอนม.หก แต่การมาเจอกันอีกครั้ง มันชัดเจนไม่ใช่เหรอที่ทำให้ฉันเห็นว่า มันก็ไม่แน่ที่เธอยังรักคุณอยู่ หากคุณต้องดูแลเธอ มันแน่นอนว่าเธอต้องเห็นหน้าคุณอยู่บ่อย ๆ ถ้าเธอยังมีใจให้คุณ แต่คุณกลับบอกว่าคุณไม่ได้คิดอะไรกับเธอ แบบนี้มันไม่โหดร้ายกับเพื่อนฉันไปหน่อยเหรอ"

หลุยส์เงียบไป แต่สมองกำลังครุ่นคิด

"แต่สำหรับผม การรักษาชีวิตเพื่อนคุณเอาไว้ มันสำคัญกว่าการรักษาจิตใจของเพื่อนคุณ"

เชอแตมปล่อยมือลงมาเลียบลำตัวสีหน้าไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้เอาเสียเลย เขายอมทำร้ายจิตใจป๊อบคอร์นเพียงเพื่อให้ได้กำจัดแวมไพร์อย่างนั้นหรือ

"คุณอยากกำจัดแวม..." เชอแตมชะงักกึกเมื่อคิดจะเอ่ยคำว่าแวมไพร์ออกมา เพราะเธออยู่ในที่สาธารณะ อาจจะมีใครได้ยินก็ได้ เธอไม่ควรประมาท "ตัวประหลาดนั่นมากถึงขนาดไม่สนใจว่าเพื่อนฉันจะรู้สึกยังไงเลยงั้นเหรอ มันไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอคุณ"

หลุยส์ถอนหายใจฟู่

"ตัวประหลาดนั่น ไม่ใช่ คนธรรมดา คุณก็ตระหนักรู้ดีนะ" เขาตอกกลับเธอไปด้วยแววตาเย็นชาและมั่นคงกว่า เชอแตมเม้มปากแน่น ทำไมจิตใจเขาช่าง เหมือนอีธานนัก

"งั้นฉันคงปล่อยให้เพื่อนฉันถูกคุณทำร้ายจิตใจซ้ำสองไม่ได้หรอก"

"ถ้าคุณมั่นใจว่าเพื่อนคุณจะปลอดภัยจากสิ่งที่ตามเธออยู่ หรือคุณสามารถดูแลเธอได้ ผมก็ไม่ขัดศรัทธาคุณหรอก"

หลุยส์เอ่ยด้วยสีหน้าแววตาและน้ำเสียงที่จริงจังจนเชอแตมต้องคิดให้ดีก่อนตัดสินใจอะไรลงไป อีธานเคยบอกว่าจะหาแวมไพร์สักตนมาดูแลป๊อบคอร์น แต่เธอกลับไม่อยากให้แวมไพร์ตนไหนมาดูแลเพื่อนเธอเลย ไม่ใช่ไม่ไว้ใจ แต่เธอกลัวว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะตอนนี้หลุยส์รู้แล้วว่าป๊อบคอร์นมีแวมไพร์จ้องจะทำร้าย ดังนั้นเขาอาจจะจับตาดูป๊อบคอร์นเป็นพิเศษแม้ว่าจะไม่แสดงตัวให้เธอเห็นก็ตาม ยิ่งเขาเป็นศัตรูกับแวมไพร์ มันจะยิ่งกลายเป็นเรื่องใหญ่หากเขาได้เจอกับแวมไพร์ที่มาดูแลป๊อบคอร์น

และมันอาจจะบานปลายถึงขนาดที่เขาตามกลิ่นจนเจอกับอีธานก็ได้

ตอนแรกเธอคิดจะปรึกษาอีธานก่อน แต่ตอนนี้เธอต้องเลือกแล้ว

"ฉันอนุญาตให้คุณดูแลป๊อบ แต่มีข้อแม้"

หลุยส์กระตุกมุมปากนิด ๆ สีหน้าเหมือนรู้อยู่แล้วว่าข้อแม้คืออะไร

"ผมต้องคอยดูแลเธอห่าง ๆ โดยไม่เข้าไปวุ่นวายกับเธอให้เธอเห็นหน้าจนต้องเจ็บปวดใจ"

เชอแตมอ้าปากค้างนิด ๆ แม้จะประหลาดใจที่เขาเดาข้อแม้เธอได้ตรงเผง แต่มันก็ไม่น่าแปลกเพราะมันเดาไม่ยากอยู่แล้ว

"ตกลงตามนี้นะ" เธอเอ่ย ชายหนุ่มทำแค่เพียงพยักหน้าให้เจ้าหล่อนเบา ๆ ก่อนจะหันหลังเดินเข้าไปในสนามยิงปืน

ลมพัดเอื่อย ๆ จนผมยาวสยายของเชอแตมปลิวเบา ๆ ระใบหน้า ริมระเบียงในยามค่ำคืนมันก็ให้ความรู้สึกปลอดโปร่งไม่น้อย แม้ว่าจะกลัวอีธานดุที่มายืนรับลมเล่น ๆ แบบนี้ แต่เธอก็ไม่สามารถปล่อยให้ตัวเองนั่งแกร่วอยู่ในห้องที่มีขอบเขตจำกัดในเวลาตึงเครียดแบบนี้ได้

เพราะแน่ใจว่าอีธานต้องมา เธอเลยไม่กลัวว่าออสการ์จะมาจับเธอไปในตอนนี้

"ถ้าคุณไม่ได้มีเรื่องกังวลใจจนต้องออกมายืนเล่นแบบนี้ ผมรับรองได้ว่าคุณเดือดร้อนแน่ ๆ"

เสียงอีธานดังขึ้นข้าง ๆ เขาโผล่จากอากาศที่ว่างเปล่ามายืนเคียงเธอ ที่กำลังเอาศอกเท้าราวระเบียงเอาไว้ เชอแตมหันไปมองหน้าเขาที่กำลังยืนหันออกไปนอกระเบียง แต่ใบหน้ากลับหันมามองเธอ มือซุกอยู่ในกระเป๋ากางเกง

แม้คำพูดที่ดังขึ้นพร้อมกับตัวเขาที่เพิ่งโผล่มาจะฟังดูดุ ๆ จนน่าหวั่นเกรง แต่เธอกลับรู้สึกอบอุ่นเมื่อเห็นเขาเม้มยิ้มให้เธอแบบไม่ได้ดุจริง ๆ

"เรื่องมันเศร้ามากเลยหรือ ถึงทำหน้าลาโลกซะขนาดนั้น"

อีธานถาม

เชอแตมขมวดคิ้วมุ่นเมื่อได้ยินคำถามของอีธาน

"ฉันแสดงสีหน้าแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ"

อีธานกระตุกยิ้มมุมปาก มองตรงไปเบื้องหน้า เขาอ่านความคิดเธอได้ว่ากำลังกลุ้มใจเรื่องเพื่อนรักกับอดีตคนที่เธอแอบรักซึ่งชื่อว่าหลุยส์

"ไม่หรอก ผมพูดให้เวอร์ไปเอง" เขายักไหล่ไม่แยแส

เชอแตมถอนหายใจแล้วมองตรงไปเบื้องหน้าที่มีแต่ตึกสูงเสียดฟ้ากับอาคารบ้านช่องในตัวเมือง

"ฉันรู้แล้วนะว่าอดีตของป๊อบคอร์นกับศัตรูแวมไพร์คนนั้นคืออะไร"

อีธานยิ้มมุมปากเพียงลำพัง เขารู้แล้ว แต่ไม่สามารถบอกเธอได้ เพราะเขายังไม่เฉลยให้เธอรู้ว่าเขาอ่านใจคนอื่นได้

"ให้ผมเดา คงเป็นคนรักกันมาก่อน" การเดาให้ใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุดโดยที่ไม่ถูกเผงเสียทีเดียวจะเป็นหนทางหลบหลีกความน่าสงสัยในตัวเขาไปได้ และเชอแตมก็ไม่แม้แต่จะสงสัยเรื่องการอ่านใจของเขาเลย

"ไม่เชิงหรอกค่ะ เป็นป๊อบคอร์นฝ่ายเดียวมากกว่าที่แอบรักเขา เขาชื่อหลุยส์ แล้วความรู้สึกของหลุยส์ก็เป็นปริศนากับฉันมากเลยตอนนี้"

"ทำไมหรือ"

"ป๊อบคอร์นแอบรักหลุยส์มาสามปี และสารภาพรักในช่วงที่เรียนม.หกเทอมหนึ่ง เธอเอาดอกไม้ไปให้หลุยส์ขณะสารภาพรัก แต่หลุยส์กลับเอาดอกไม้ของเธอไปทิ้งถังขยะ ฉันเลยไม่เข้าใจว่าเขาทำแบบนั้นทำไม"

อีธานกระตุกมุมปากอีกครั้ง ยังคงนิ่งมองตรงไป

"มันก็คิดได้อย่างเดียวว่า เขาไม่ได้รักเพื่อนคุณ" เขาพูดเอื่อย ๆ ตามบทสนทนาที่คุยกัน

"ฉันกลับไม่คิดแบบนั้นน่ะสิคะ ฉันเจอหลุยส์สี่ห้าครั้ง แต่ละครั้งฉันก็สัมผัสได้ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายใจร้ายเลยสักนิด การทำร้ายจิตใจผู้หญิงที่มาสารภาพรักแบบนั้นมันรุนแรงเกินไปซึ่งเขาไม่น่าจะทำ ถ้าไม่รักไม่ชอบ ก็น่าจะปฏิเสธแบบรักษาน้ำใจกันสิ"

อีธานหัวเราะหึ ยังคงมองไปข้างหน้าเหมือนเดิม

"แล้วคุณคิดว่าเขาทำแบบนั้นทำไม"

เชอแตมส่งเสียงจิ๊จ๊ะเป็นเชิงปลงตก

"ฉันค่อนข้างมั่นใจนะคะ ว่าหลุยส์น่ะต้องแอบมีใจให้ป๊อบคอร์นบ้างแหละ ตอนนี้ที่ฉันพอจะสันนิษฐานการกระทำของหลุยส์ได้ก็คือ เพราะเขาเป็นศัตรูกับแวมไพร์หรือเปล่า เขาถึงต้องปฏิเสธป๊อบด้วยการทำร้ายจิตใจแบบนั้น"

อีธานหัวเราะอีกครั้งเหมือนคนมีลับลมคมใน

"แล้วมันกงการอะไรของคุณที่ต้องมาครุ่นคิด ทำตัวเป็นนักสืบคดีรักเรื่องนี้ให้วุ่นวาย"

"จะไม่ให้คิดได้ยังไงในเมื่อฉันอนุญาตให้หลุยส์ดูแลป๊อบคอร์นไปแล้ว"

อีธานหันมามองเธอ "ผมก็บอกคุณแล้วว่าจะให้อาหาแวมไพร์มาดูแลเพื่อนคุณ"

"ไม่ได้นะ!" เชอแตมหันหน้ามาหาเขาปฏิเสธทันควัน อีธานยิ้มมุมปากเมื่ออ่านความคิดที่เป็นห่วงเป็นใยเขาได้จากเธอ "คุณก็รู้ว่าหลุยส์เป็นศัตรูกับแวมไพร์ ตอนนี้เขารู้แล้วว่ามีแวมไพร์ตามป๊อบคอร์นอยู่ ถ้าให้แวมไพร์มาดูแลป๊อบ มันต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ ๆ"

อีธานยังคงยิ้มมีเลศนัยอยู่แบบนั้นด้วยท่าทางไม่ทุกข์ร้อน เชอแตมรู้สึกหงุดหงิดใจที่เห็นเขาทำราวกับว่าไม่แยแสกับเรื่องนี้เลยสักนิด

"อนุญาตไปแล้ว แล้วจะยังมายืนเครียดทำไม" เขาถาม มองตรงไปข้างหน้าราวกับไม่ได้สนใจเธอเลย

เชอแตมเม้มปากงอน ๆ "จะไม่ให้เครียดได้ไงล่ะ การให้เขาดูแลป๊อบ เท่ากับเปิดโอกาสให้เขาทำร้ายจิตใจป๊อบทางอ้อม แต่ถ้าไม่ให้เขาดูแลป๊อบ เท่ากับปล่อยให้ป๊อบเป็นอันตราย ฉันถึงต้องมายืนหาเหตุผลการกระทำของหลุยส์ว่าเขาคิดยังไงกับป๊อบคอร์นกันแน่"

"แล้วเพื่อนคุณล่ะ ยังรักหลุยส์อยู่หรือเปล่า"

คำพูดของอีธานทำให้เชอแตมต้องหันไปมองเสี้ยวใบหน้าของเขาอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะหันตอบกลับมามองเธอเหมือนกัน เชอแตมถอนหายใจใส่เขา แล้วเบือนหน้ามองไปยังตึกสูงเบื้องหน้าอีกครั้ง

"ยายนี่ อาจจะเจ็บแล้วจำฝังใจ เลยล่ะค่ะ เธอบอกฉันว่าความรักที่เคยมีให้หลุยส์ไม่มีเหลือแล้ว ถึงจะมีเศษเสี้ยวหนึ่งที่ยังรัก ฉันก็ไม่แน่ใจว่าเจ้าหล่อนจะให้อภัยหลุยส์กับเรื่องในวันนั้นหรือเปล่า แต่เท่าที่ดูจากอาการของป๊อบ ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าไม่มีทางที่ป๊อบจะให้อภัยแน่ ๆ และมันดูยากมากที่ทั้งคู่จะไปกันได้ดี"

อีธานกระตุกยิ้มมุมปากอีกครั้ง เขาแหงนหน้ามองฟ้าทำมุมประมาณสามสิบองศา

"Anything that can go wrong, will go wrong"

คำพูดของอีธานทำให้เชอแตมชะงักแล้วหันไปมองเขา เธอขมวดคิ้วมุ่นแววตาสงสัย ยังไม่ได้เอ่ยถามอะไร อีธานก็หันมาเม้มยิ้มให้เธอ เขาตอบเธอโดยที่เธอไม่ต้องถามเพราะอ่านได้จากสีหน้า

"อะไรก็ตามที่สามารถผิดพลาดได้ มันก็จะผิดพลาด กฎของเมอร์ฟี่[1] ไม่เคยได้ยินหรือ"

เชอแตมขมวดคิ้วมุ่น ส่ายหน้าช้า ๆ

"แล้วมันเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไง" ร่างบางถามแวมไพร์หนุ่ม

"ถ้าการยังมีใจให้กับคน ๆ หนึ่งที่เคยทำร้ายจิตใจเราในอดีตเป็นความผิดพลาดที่เราคิดว่าเราจะไม่ทำให้มันเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งสอง ตามกฎของเมอร์ฟี่มันก็อาจจะเกิดขึ้นอีกก็ได้"

เชอแตมค่อย ๆ ซึมซับความเข้าใจแล้วพยักหน้าเบา ๆ

"คุณหมายความว่า แม้ว่าหลุยส์อาจจะเคยทำร้ายจิตใจป๊อบคอร์น แต่ป๊อบคอร์นอาจจะยังรักหลุยส์อยู่ แล้วก็อาจจะให้อภัยหลุยส์และคืนดีกันสักวันงั้นเหรอ"

อีธานยักไหล่ "มันก็มีความเป็นไปได้ไม่ใช่หรือ"

เชอแตมพยักหน้าเบา ๆ เม้มปากครุ่นคิดเป็นเชิงเห็นด้วย

"กฎของเมอร์ฟี่ แม้จะเป็นกฎที่กล่าวเพราะประชดประชัน แต่จริง ๆ แล้วในชีวิตคนเรามักจะมีอะไรที่ผิดพลาดเกิดขึ้นมากกว่าสิ่งดี ๆ ที่ควรเกิดอยู่เสมอ" อีธานเอ่ยเนิบ ๆ คล้ายกับพูดเตือนตัวเองมากกว่า

เขาเงียบไปเมื่อกำลังเอ่ยข้อความหนึ่งในใจตัวเอง

"เหมือนความผิดพลาด ที่ผมต้องมารักคุณ"

เชอแตมแหงนหน้ามองฟ้าบ้าง เธอสูดเอาอากาศยามค่ำคืนเข้าปอดลึก ไม่รู้เลยว่าแวมไพร์หนุ่มคิดอะไรถึงเธอ

"แต่ฉันก็หวังว่า หลุยส์จะมีใจให้ป๊อบคอร์น และป๊อบคอร์นจะให้อภัยหลุยส์ แล้วทั้งคู่จะสมหวังกัน ไม่รู้สิ ฉันยังเชื่อในความรู้สึกตัวเองว่าหลุยส์ตั้งใจทำร้ายจิตใจป๊อบคอร์นเพราะต้องการปกป้องเธอมากกว่า"

อีธานหันมามองเสี้ยวใบหน้าของเชอแตมที่กำลังมองฟ้าซึ่งมีดวงดาวโผล่ให้เห็นระยิบระยับ ไม่มากมายแต่ให้ความรู้สึกอ่อนไหวได้ดี เรื่องของหลุยส์กับป๊อบคอร์นทำให้เขาคิดถึงความเป็นไปได้ระหว่างเขากับเธอ

"มันคงจะดี ถ้าได้เห็นคนที่เรารักสมหวังในความรัก" เชอแตมพึมพำขณะมองดาวดวงหนึ่ง

อีธานหันกลับไปแหงนมองดาวบ้าง เขาไม่พูดอะไร เพราะได้แต่คิดในใจ

"มันคงจะดี ถ้าผมกับคุณสมหวังเช่นกัน"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel