บท
ตั้งค่า

บทที่ 19 ความลับของป๊อบคอร์น 1

ท่ามกลางความวุ่นวายบนโลกมนุษย์ ลึกลงไปใต้ดินประมาณสิบเมตร ณ บริเวณหนึ่งในประเทศไทย มีกลุ่มแวมไพร์ที่ต่อต้านกฎหมายอันเอื้อแก่มนุษย์ พวกเขาสร้างสถานที่กบดานชั่วคราวขึ้นมาเพื่อจุดมุ่งหมายบางอย่างที่สำคัญยิ่งยวด สมาชิกหนึ่งในนั้นก็คือออสการ์

แวมไพร์หนุ่มโค้งคำนับต่อแวมไพร์อาวุโสกว่าตนหนึ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้เก่าในท่าทางที่กำลังหันหลังให้

"ผมค่อนข้างแน่ใจอย่างชัดเจนแล้วครับ ว่าเธอมีสิ่งที่เราต้องการ"

ออสการ์รายงานความคืบหน้าของงานที่ตัวเองกำลังทำอยู่ แวมไพร์ผู้อาวุโสกว่าพยักหน้าช้า ๆ ลักษณะกำลังคิด

"กลิ่นมันชัดเจนงั้นหรือ" เสียงแหบพร่าเปล่งออกมาจากแวมไพร์อาวุโส

"เรื่องกลิ่นยังไม่ชัดเจนสักเท่าไหร่หรอกครับ แต่ผมคิดว่าใช่ หากผมได้เข้าใกล้เธอมากกว่านี้ ผมมั่นใจว่าผมจะได้กลิ่นชัดเจน แต่ที่ทำให้ผมมั่นใจคือ ดูท่าทางอีธานจะดูแลมนุษย์คนนี้มากเป็นพิเศษ ผิดกับมนุษย์คนอื่นที่แค่ทำตามหน้าที่ของแวมไพร์ที่ต้องรักษากฎหมาย แต่กับมนุษย์ผู้หญิงคนนี้ ผมค่อนข้างมั่นใจว่ามันรู้จักเธอมานานแล้ว อีกอย่างผมต้องการตัวเธอขนาดนี้ แต่โดมลับกลับไม่รู้เรื่องนี้เลย ผมมั่นใจว่าอีธานเอง มันก็คงจะปิดเรื่องเธอเป็นความลับครับ"

ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากแวมไพร์อาวุโส ออสการ์รู้ดีว่าเขากำลังคิด

"อาจจะเป็นคำสั่งจากอาของมัน" แวมไพร์อาวุโสเอ่ยถึงอาของอีธานซึ่งเป็นเพื่อนรักเก่าของเขาที่กลายมาเป็นศัตรูคนสำคัญในปัจจุบัน

"เราจะทำยังไงต่อไปดีครับ มันไม่มีวิธีไหนที่จะสามารถจับตัวผู้หญิงคนนั้นมาได้เลยนอกจากเราจะใช้วิธีนั้น"

ออสการ์กำลังคิดจะใช้วิธีที่สามารถไปไหนมาไหนในเวลากลางวันได้ ซึ่งเป็นวิธีที่เสี่ยงกับความเป็นความตายเท่ากัน

"อย่าเพิ่งเลยออสการ์ มันเสี่ยงเกินไป" แวมไพร์อาวุโสยกมือขึ้นแสดงสัญลักษณ์เป็นเชิงห้าม "พยายามต่อไป ถ้ายังไม่สามารถเอาตัวมาได้ เราค่อยทดลองใช้วิธีนั้น"

"ครับ...พ่อ" ออสการ์รับคำด้วยแววตาดื้อดึง อยากทำงานให้สำเร็จ แต่อีกใจของตัวเองก็แอบหวั่นว่าวิธีที่กำลังพูดถึงกันอยู่นี่มันจะทำให้ร่างกายเขาแหลกสลายไปก่อนจะได้ตัวเชอแตมมา เขาจำเป็นต้องใช้วิธีแบบเดิม ๆ ต่อไป แม้ว่าจะต้องทำด้วยความละมุนละม่อม พยายามให้มันเงียบที่สุด เพื่อกันแวมไพร์จากโดมลับล่วงรู้ แต่ตอนนี้เขากำลังรอให้แผนการล่าสุดที่เพิ่งจัดการไปสำเร็จ หากคนนั้นไม่ทำอะไรผิดพลาด

แสงจากหน้าจอโทรศัพท์ของเชอแตมกะพริบถี่ ๆ สร้างความรำคาญใจให้แก่เจ้าหล่อน หลายวันมาแล้วที่เธอพยายามไม่รับโทรศัพท์ของกรรณวิทย์ และพยายามหลบยามที่เขามาหาถึงคณะ อย่างตอนนี้เขาก็ยังโทร.มาหาเธอโดยไม่ละความพยายามแม้ว่าเธอจะแสดงให้เขารู้โดยอ้อม ๆ แล้วว่าไม่ต้องการไปต่อกับเขา

เชอแตมมองหน้าจอแล้วถอนหายใจ เธอไม่มีอารมณ์จะอธิบายหรือแก้ตัวใด ๆ ทั้งนั้น นิ้วหัวแม่มือจึงกดปิดเครื่องเสีย แล้วเดินกลับหอด้วยอาการหงุดหงิดใจ

นึกถึงเมื่อคืนแล้วเธอก็อดรู้สึกขุ่นเคืองอีธานไม่ได้ ถ้าเขาไปดูป๊อบคอร์นที่บ้านอย่างที่เธอขอร้อง บางทีเจ้าหล่อนก็คงไม่ต้องโดนแวมไพร์ตามล่า นึกไม่ออกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากชายหนุ่มเสื้อเปื้อนปากกาไม่เจอเจ้าหล่อนโดยบังเอิญ

แต่เมื่อสมองสะดุดเข้ากับคำว่าบังเอิญ เชอแตมกลับรู้สึกว่าบางทีชายหนุ่มเสื้อเปื้อนปากกาอาจจะไม่ได้เจอป๊อบคอร์นโดยบังเอิญก็ได้ ถ้าหากชายหนุ่มจงใจตามเพื่อนรักของเธอไปล่ะ

ความคิดหยุดลงตรงนั้นเมื่อเข้ามาเจอเทพบุตรแวมไพร์ผู้มีท่าทางการเดินเทพเท่ห์นอนเหยียดยาวสองมือสอดประสานไว้ใต้ศีรษะบนเตียงของเธอในห้อง

เชอแตมปรี่เข้ามาหาเรื่องเขา และแน่นอนว่าเทพบุตรแวมไพร์กรอกตารำคาญใจทันทีที่อ่านความคิดเธอ

"คุณรู้ไหมว่า เมื่อคืนป๊อบคอร์นต้องเจออะไร"

เชอแตมเอ่ยถามสีหน้าขุ่น ๆ แวมไพร์หนุ่มลุกขึ้นนั่งมือค้ำเบาะเอนตัวมองเธอแววตาไม่ยี่หระ

"เจอออสการ์" เขาตอบเรียบ ๆ สีหน้านิ่ง ๆ แต่มันกลับไปกระแทกต่อมเดือดของเชอแตมอย่างจัง

"คุณรู้!"

สีหน้าอีธานบ่งบอกให้รู้ว่าเขารู้สึกหงุดหงิดใจเช่นกัน "จะมีเรื่องไหนที่ทำให้คุณต้องขุ่นเคืองผมได้ขนาดนี้อีกล่ะ"

"แล้วคุณก็ยังเฉยเนี่ยนะ" เชอแตมผายมือออกไปเพื่อกระตุ้นการใส่ใจกับอาการของเขาเอง

"แล้วคุณจะให้ผมแสดงท่าทางยังไงครับ" คำว่าครับของเขาให้ความรู้สึกประชดประชันมากกว่าสุภาพ

เชอแตมพ่นลมหายใจฟู่สองมือกอดอก มองเขาด้วยแววตาดูถูก

"ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้" อีธานเสมองไปทางอื่นด้วยหัวใจหนักอึ้ง การเก็บความลับหรือเรื่องราวทุกอย่างเอาไว้กับตัวมันทำให้เขาต้องขัดใจกับแม่หญิงหัวรั้นคนนี้อยู่เสมอเลย

"แบบไหนเหรอ ผมจำได้ว่าผมเป็นแบบนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอคุณ"

เขาเอ่ยออกมาโดยไม่มองหน้าเธอ เชอแตมทราบอารมณ์ของเขาได้จากสีหน้าและแววตาที่ไม่อ่อนลงให้เธอเลย

"ถึงคุณจะดูเย็นชา ไม่อ่อนโยน ป่าเถื่อน ดุโหดยังไง แต่ฉันเชื่อมาตลอดเลยว่าคุณมีน้ำใจ มีมนุษยธรรม แต่นี่คุณกลับละเลยมนุษย์คนหนึ่งที่กำลังถูกหมายหัว และที่สำคัญเขาเป็นเพื่อนรักของฉัน คุณจะใจร้ายเกินไปนะอีธาน"

"พอดีผมเป็นแวมไพร์ มนุษยธรรมที่ว่าเลยไม่มี" เขาตั้งใจประชดเธอเต็ม ๆ เธอไม่รู้หรอกว่าเขาทำอะไรบ้าง

"อย่ามาประชดฉันหน่อยเลย ถ้าป๊อบคอร์นโดนออสการ์จับตัวไปได้เมื่อคืน เราจะทำยังไง"

"แล้วเธอโดนจับไปมั้ย" อีธานเอ่ยออกมาด้วยความรำคาญ เชอแตมอ้าปากค้างรู้สึกผิดหวังในตัวเขา

"คุณ...ใจร้ายมากเลยอีธาน" เชอแตมตัดพ้อ

อีธานทำท่าคล้ายถอนหายใจปลงตก เขาตวัดสองขาลงมาแตะพื้นขณะที่ยังนั่งอยู่บนเตียง สองมือกอดอกมองนิ่งไปยังดวงตาใส ๆ คู่นั้นตรงหน้าเขา

"แล้วคุณจะเอายังไงครับ คุณต้องการอะไรจากเรื่องนี้ คุณต้องการให้ผมทำยังไง"

เมื่อสบตาเขา เธอถึงได้เห็นแววบางอย่างที่ทำให้เธอต้องฉุกคิดใหม่ เขาเป็นแวมไพร์ ถึงจะหายตัวได้และมีพลังมาหาศาล แต่เขาไม่สามารถแยกร่างได้ มันคงเหนื่อยน่าดูหากเขาต้องแวบไปแวบมาเพื่อดูแลคนสองคนที่อยู่ต่างสถานที่กัน แค่ดูแลเธอคนเดียว เธอคิดว่าเขาคงจะรับหน้าที่หนักพออยู่แล้ว ถ้าหากต้องมารับภาระเรื่อง ป๊อบคอร์นอีกคน เธอก็รู้สึกสงสารเขา

อีธานอ่านความคิดนั้นแล้วเสมองไปทางอื่น ในอารมณ์ไม่พอใจเธอก็ยังมีเสี้ยวหนึ่งที่เป็นห่วงเขา แล้วแบบนี้จะให้เขาโกรธเธอลงได้อย่างไร

เมื่อเป็นแบบนี้ เชอแตมก็รู้สึกมุ่งมั่นที่จะทำตามคำแนะนำของชายหนุ่มเสื้อเปื้อนปากกา ให้เขาดูแลเพื่อนรักของเธอ อีธานจะได้ไม่เหนื่อย

"ฉัน..." เชอแตมเอ่ยออกมาแผ่ว ๆ "ขอโทษ" หญิงสาวเอ่ยห้วน ๆ แล้วถอยหลังไปนั่งแหมะลงบนเก้าอี้ที่โต๊ะอ่านหนังสือตรงข้ามเขา

อีธานตวัดสายตามามองเธอ เขาไม่ได้โกรธเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มันเป็นแค่ความหงุดหงิดและรำคาญใจเท่านั้นเอง

"ผมจะบอกอาเรื่องเพื่อนคุณ อาจะได้ส่งแวมไพร์ที่ไว้ใจได้สักตนมาดูแล เพราะผมคนเดียวคงไม่ไหว"

เขาให้คำมั่นแม้ว่าจะรู้เรื่องคำแนะนำของหนุ่มเสื้อเปื้อนปากกาจากความคิดเธอแล้วก็ตาม

"ไม่ต้องหรอกค่ะ" เชอแตมเอ่ยออกมาทันทีที่เขาเอ่ยขึ้น อีธานเลิกคิ้วให้เธอเป็นคำถาม "พอดีว่า มีคนอาสาดูแลป๊อบแล้วน่ะค่ะ"

"ใคร" ถามพอเป็นพิธีให้เธอได้ทราบว่าเขาไม่รู้มาก่อน

"คนที่ฉันเคยบอกไงคะ ว่าเขาเป็นศัตรูกับแวมไพร์ เขาเป็นคนช่วยป๊อบคอร์นไว้เมือคืน เขาเลยอาสาช่วยดูแลป๊อบคอร์น"

"มีเหตุผลอะไรที่ต้องดูแลเพื่อนคุณ แค่เธอโดนแวมไพร์ตามล่า ถึงขนาดต้องมาดูแลเชียวหรือ"

"ฉันก็ไม่รู้เหตุผลแท้จริงของเขาหรอกค่ะ ฉันคิดว่าอาจจะเพราะเขาเป็นศัตรูกับแวมไพร์อยู่แล้ว พอเห็นป๊อบโดนแวมไพร์จ้องจะทำร้าย เขาเลยใช้เหตุผลนี้เป็นข้ออ้างในการกำจัดแวมไพร์ก็ได้"

"งั้นหรือ"

"แต่บางทีก็อาจจะเป็นเหตุผลอื่น" ประโยคนี้คล้ายกับเจ้าหล่อนกำลังก้มหน้าพึมพำกับตัวเองเสียมากกว่า หากแต่อีธานกลับได้ยินชัดเจน

"เหตุผลอะไร" เขาถาม เชอแตมเงยหน้าขึ้นมามองเขา

"ตอนที่ทั้งคู่ได้เจอกันครั้งแรกต่างก็มีท่าทีเหมือนคนรู้จักกันมาก่อน โดยเฉพาะ ป๊อบคอร์นที่แสดงแววตาไม่พอใจผู้ชายคนนี้เอามาก ๆ ฉันเลยคิดว่าทั้งคู่ต้องเคยรู้จักกันและเป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเลยด้วยค่ะ"

"งั้นคงเป็นเพราะเหตุผลอย่างหลัง"

เชอแตมมองหน้าเขาแล้วพยักหน้าให้เบา ๆ

"แล้วคุณล่ะไม่รู้จักผู้ชายคนนี้มาก่อนเลยหรือ คุณกับเพื่อนดูสนิทกันมากขนาดนี้ น่าแปลกที่คุณไม่รู้ว่าเขาสองคนรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า"

อีธานพูดมีเหตุผลจนเชอแตมต้องขบคิด เธอเป็นเพื่อนกับป๊อบคอร์นมาตั้งแต่อายุสิบหกปี ป๊อบคอร์นรู้จักใครเธอก็ย่อมรู้จักด้วย เธอรู้จักใครป๊อบคอร์นก็ต้องรู้จักเหมือนกัน ยกเว้นเรื่องอีธาน แต่ก็นั่นล่ะ อีธานยังเป็นข้อยกเว้นสำหรับป๊อบคอร์น แล้วทำไมชายหนุ่มเสื้อเปื้อนปากกาถึงจะเป็นเรื่องยกเว้นสำหรับเธอบ้างไม่ได้

"ฉันไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้มาก่อนเลยค่ะ ยอมรับว่าก็คุ้น ๆ หน้าบ้างนะ แต่นึกไม่ออกจริง ๆ ว่าเคยเจอที่ไหน และที่แน่ ๆ ไม่ได้รู้จักเพราะป๊อบคอร์นด้วย"

"แล้วเพื่อนคุณไม่คิดจะบอกอะไรเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ให้คุณรู้เลยหรือ"

เชอแตมส่ายหน้าช้า ๆ เป็นคำตอบให้เขา

"ถ้าคนเราไม่อยากเล่าเรื่องของคน ๆ หนึ่งให้เพื่อนสนิทของตัวเองฟังแบบนี้ มันอาจจะเป็นเพราะต้องการลืมคน ๆ นั้น โดยไม่อยากแม้แต่จะปริปากพูดถึงเลยก็ได้"

อีธานสันนิษฐานออกมาด้วยอาการไม่ยี่หระ แต่เชอแตมกลับรับความรู้สึกจากคำพูดเขาไปเต็ม ๆ หรือป๊อบคอร์นจะมีอดีตที่เจ็บปวดมาจากชายหนุ่มคนนั้นจนไม่แม้แต่จะเอ่ยปากพูดถึงเขากับเธอ

ถ้าเธอคิดจะหาความจริงเรื่องนี้ มันจะเป็นการทำร้ายเพื่อนรักของเธอหรือเปล่านะ

อีธานลุกขึ้นมานั่งมองหน้าจอโทรศัพท์ที่ส่องแสงสว่างวาบกะพริบถี่พร้อมเสียงเรียกเข้าที่ดังไพเราะ เชอแตมกำลังอาบน้ำอยู่ ส่วนเขาก็นอนอ่านหนังสือ แต่ต้องละสายตาเมื่อโทรศัพท์ร้องอยู่ใกล้ ๆ หูเขาบนเตียง

พี่กรุ๊ป ชื่อของชายหนุ่มที่มาส่งเชอแตมเมื่อวันก่อนซ้ำยังกล้าหาญอุ้มเธอขึ้นมาส่งถึงห้องโชว์หราอยู่บนหน้าจอ สมองของแวมไพร์หนุ่มตื่นตัวทันทีที่เห็น เขามองไปยังประตูห้องน้ำด้วยแววตาดุ นึกหงุดหงิดใจเจ้าของโทรศัพท์ที่กำลังอาบน้ำอยู่จนอยากจะเอาโทรศัพท์ไปส่งให้ถึงในนั้น แต่เขาไม่อยากจะสร้างสงครามน้ำลายกับเธอตอนนี้

อีธานหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา มองมันอึดใจก่อนจะกดรับสาย

"..." อีธานไม่ทักทายใด ๆ เขารอฟังว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรออกมาบ้าง

"แตม รับสายสักที ทำไมแตมไม่รับสายพี่เลย พี่พยายามติดต่อแตมตั้งหลายวันแล้วนะ" จากน้ำเสียงของชายหนุ่มในสายฟังเหมือนโล่งใจมากกว่าดีใจจนอีธานนึกตงิดใจ

"แตม ทำไมเงียบล่ะ" กรรณวิทย์กรอกเสียงกลับมาเจือความสงสัย

"เชอแตมอาบน้ำอยู่" อีธานตอบไปตามตรงด้วยสีหน้าไร้เดียงสาที่สุด ภายในใจรู้สึกขัดใจตัวเองและชายหนุ่มในสายอย่างไรพิกล

"คุณเป็นใคร" เสียงชายหนุ่มในสายตกใจอยู่ไม่น้อย อีธานจับน้ำเสียงนั้นได้ว่าเขาลนลานมากกว่าจะหึงหวง

"ผมเป็นคนที่คุณไม่คิดอยากจะยุ่งด้วยหรอก" อีธานข่มขู่ในที และมันทำให้กรรณวิทย์เกิดอาการกลัวจริง ๆ เพราะแวมไพร์หนุ่มได้ยินน้ำเสียงเขาตะกุกตะกัก

ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด ~ ~ ~

เสียงตัดสายไปแล้ว อีธานลดโทรศัพท์มือถือลงมาดูหน้าจออีกครั้งก่อนจะโยนเบา ๆ ลงไปบนเตียงข้างเขา

น้ำเสียงของกรรณวิทย์แปลกประหลาดมากในความรู้สึกของเขา หมอนี่ชอบเชอแตม เขาเห็นจากการแอบอ่านความคิดชายหนุ่มในวันนั้น แต่วันนี้ความรู้สึกกรรณวิทย์เหมือนจะเปลี่ยนไป คล้ายกับว่าไม่เหลือความหลงใหลในตัวเชอแตมอีกต่อไปแล้ว แต่ให้ความรู้สึกว่าชายหนุ่มกลัวเธอแทน

เชอแตมออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนกางเกงขายาวผ้าลื่นลายตารางหมากรุก เธอเดินตรงไปที่โต๊ะเครื่องแป้งโดยไม่ได้สนใจจะหันไปมองแวมไพร์หนุ่มที่นอนนิ่งบนเตียงสายตาจับจ้องอยู่ที่เธอทุกการย่างก้าว

เชอแตมได้สังเกตเห็นว่าเขามองเธออยู่ก็ตอนที่เพ่งไปในกระจกแล้วสะท้อนใบหน้าเขามองมาที่เธอพอดี หญิงสาวหันขวับมาจ้องเขาแววตาสงสัย

"มีอะไรคะ ทำไมมองฉันแบบนั้น" สายตาเขาจะว่าโกรธก็ไม่ใช่ จะว่าหื่นไม่ก็เชิง

อีธานยักไหล่นิดเดียวแล้วก้มลงมองหนังสือจิตวิทยาในมือตัวเองต่อ เขาเพียงแค่มองไม่ได้อ่าน เพราะสมองยังคิดเรื่องกรรณวิทย์อยู่

"แฟนคุณโทร.มา" อีธานตั้งใจประชดเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย เชอแตมขมวดคิ้วมุ่น ลุกขึ้นทันควันตรงมาหาโทรศัพท์ตัวเองที่วางอยู่ข้าง ๆ เขา

เชอแตมรีบสัมผัสหน้าจอดูเบอร์โทร.เข้ามา แล้วพบว่าเป็นกรรณวิทย์ ซึ่งเป็นสายที่เธอได้กดรับไปเรียบร้อยเพราะไม่ขึ้นสัญลักษณ์ว่าเป็นสายไม่ได้รับ เชอแตมมองหน้าอีธานที่มองเธออยู่ก่อนแล้วข้าง ๆ ด้วยแววตาตำหนิ

"ถือวิสาสะ มากดรับโทรศัพท์ฉันได้ยังไง"

"ก็มันดัง"

เชอแตมเลิกคิ้วให้กับเหตุผลแบบเด็ก ๆ ของเขา

"คุณ นี่โทรศัพท์ฉัน" เชอแตมชูมือถือขึ้นมาเขย่าตรงหน้าอีธานเพื่อย้ำว่าเขาควรมีมารยาท

"ก็เหมือนโทรศัพท์ผมนั่นแหละ" คำตอบของอีธานเรียบนิ่งเหมือนคลื่นทะเลที่ซัดเข้าฝั่งเบา ๆ แต่มันมีอำนาจทำให้ตัวเชอแตมเปียกปอนได้

แน่นอนว่าเธอตัวแข็งทื่อเพราะประโยคนั้นของเขา แล้วเธอจะเถียงอะไรเขาได้อีก

"ฉันไม่เคยเถียงชนะคุณเลยจริง ๆ"

"ก็เพราะคุณรักผมไง" เขาตอบหน้าตาย ทำเอาคนนั่งข้าง ๆ ไม่กล้านั่งอยู่บนเตียงอีกแล้ว

เชอแตมถอนหายใจวืด กำลังจะถอยลงจากเตียง แต่อีธานไวกว่า เขาคว้าหมับไปที่ข้อมือหญิงสาวแล้วดึงเร็วเข้าหาตัว จนหน้าผากเจ้าหล่อนกระทบดังตึกเข้ากับหน้าอกของเขา หญิงสาวเอามือลูบศีรษะป้อย ๆ

"ชอบทำให้หน้าผากฉันชนอกคุณอยู่เรื่อย เจ็บนะ รู้มั้ย" เชอแตมค้อนวงใหญ่ ปากเหยเกเพราะเจ็บจริง ๆ

อีธานกระชับกอดเธอเบา ๆ "นี่คุณไม่รับโทรศัพท์หมอนั่นเลยเหรอ"

"รู้ได้ไง" เชอแตมตะคอกถาม ไม่ดิ้นหนีออกจากอ้อมกอดเขาสักนิด

"หมอนั่นบอกผม"

เชอแตมจิ๊ปากนิด ๆ ก่อนจะเอ่ยว่า "มันเกี่ยวอะไรกับคุณล่ะคะ"

"ไม่เกี่ยวได้ยังไง ที่คุณไม่รับเพราะคุณแคร์ผม"

เชอแตมช้อนตาขึ้นมองเขา ไม่เหลือแววเขินอายเพราะมันกลายเป็นความหมั่นไส้เสียเต็มประดากับความหลงตัวเองของเขา

"จริง ๆ ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับพี่กรุ๊ปอยู่แล้ว ก็เลยขี้เกียจรับ ไม่อยากทำให้เขามีความหวัง"

"แล้วกับผมล่ะ ทำไมชอบทำให้ผมมีความหวังอยู่เรื่อย"

เชอแตมปากอ้าค้างเติ่ง เธอไปให้แสดงท่าทางให้ความหวังกับเขาด้วยหรือ ยังไง แบบไหน เธอไม่รู้ตัว แต่มันก็เป็นคำถามที่ทำให้เธอแก้มแดงระเรื่อทันที

"ฉันไปทำให้คุณมีความหวังตอนไหนกัน" เธอพูดไปแค่นั้น ส่วนที่เหลือคิดต่อในใจว่า "คุณต่างหากล่ะ ที่ให้ความหวังฉันอยู่เรื่อย"

อีธานกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อหญิงสาวคิดจบ เชอแตมขมวดคิ้วตงิดใจเมื่อเห็นยิ้มมุมปากนั้นของเขา

"ฉันถามคุณจริง ๆ นะอีธาน นี่คุณอ่านใจคนได้หรือเปล่า"

ความสงสัยมันสุมในอกนานมากแล้วจนต้องเอ่ยถามเสียที และมันทำให้แวมไพร์หนุ่มยิ้มมุมปากกว้างขึ้นไปอีกราวกับขบขันกับคำถามของเธอเสียเต็มประดา

"คุณเก่งกับการหาคำตอบด้วยตัวเองนี่ ลองหาคำตอบเองสิ"

เชอแตมกัดฟันข้างเดียวแววตาขบคิด

"ฉันว่า...คุณเป็นเกย์แน่เลยอีธาน"

เอากับเธอสิ อยากท้าทายเธอมาเอง เธอก็ท้าทายกลับไป เชอแตมมั่นใจว่าหากเขาอ่านใจคนได้ เขาต้องเห็นความคิดนี้ของเธอ และถ้าเขามีปฏิกิริยาตอบสนองกับความคิดนี้ไม่ว่าจะโกรธหรือทำอะไรที่เกี่ยวกับการปฏิเสธ มันก็เท่ากับว่าเขาอ่านใจเธอได้

เชอแตมยิ้มมุมปากให้เขาบ้างเมื่อเห็นว่าแวมไพร์หนุ่มมองเธอด้วยแววตานิ่งเงียบไป เธอเพิ่งรู้สึกได้ถึงชัยชนะครั้งแรกที่เธอได้รับจากเขา

อีธานเลิกคิ้วให้เธอพร้อมกับกระตุกมุมปากนิดหนึ่งก่อนปล่อยเธอให้เป็นอิสระ แล้วเขาก็เอนหลังลงแนบกับหมอนที่พิงไว้ในลักษณะอิง เชอแตมยิ้มกริ่ม ยังไม่ชัดเจนเสียทีเดียวว่าเขาอ่านใจเธอได้ แต่ปฏิกิริยาราวกับยอมแพ้แบบนี้มันก็บอกเป็นนัย ๆ ได้เหมือนกันว่าเขาอาจจะต้องการแกล้งทำเหมือนไม่รู้ความคิดเธอ

เชอแตมไม่ยอมแพ้เธอคลานเข้าไปเอาใบหน้าตัวเองจ่อใกล้ใบหน้าเขา ตั้งใจให้เขามองตาเธอ "ไหนอ่ะ ยอมรับง่าย ๆ ขนาดนี้เลยเหรอ ว่าตัวเองเป็นอีแอบ แหม ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลย ว่าจริง ๆ แล้วฉันจะมีเพื่อนสาว นี่ฉันแอบรักเก้งกวาง บ่างชะนีอยู่เหรอเนี่ย ปัดโธ่!"

อีธานมองตาเธอแล้วเกือบหลุดหัวเราะออกมา ถ้าเธออ่านใจได้เหมือนเขา เขาอยากให้เธอเห็นความคิดนี้ของเขาจริง ๆ "คุณกล้ามากที่เล่นแบบนี้กับผม"

ในขณะที่เชอแตมกำลังเม้มปากยิ้มหวาน เทพบุตรของเธอก็มองเธอด้วยแววตาหวานเยิ้มตอบกลับมา ไม่เพียงแค่นั้น เขายังโน้มใบหน้าตัวเองมาใกล้ ๆ เธออีกจนเธอต้องค่อย ๆ หุบยิ้มแล้วเอนตัวหลบมาข้างหลังเรื่อย ๆ จนทรงตัวด้วยเข่าทั้งสองไม่อยู่ เลยต้องเซก้นกระแทกลงไปนั่งบนเบาะดังตึก ก่อนจะพยายามกระเถิบถอยเรื่อย ๆ หนีแวมไพร์หนุ่มที่คืบคลานตามมาช้า ๆ โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

เชอแตมตัดสินใจโกยแนบออกจากเตียงแต่แวมไพร์หนุ่มคว้าเอวเธอไว้ได้ก่อนเท้าเธอจะแตะพื้น

"อีธาน!" เชอแตมเรียกเขาด้วยเสียงสูง ก่อนที่เหตุการณ์จะกลายเป็นมวยปล้ำคู่ผสมระหว่างเขาและเธอ

อีธานจี้เอวเธอให้จักจี๋เล่นจนหญิงสาวหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกับพยายามดิ้นให้หลุดจากมือเขา เจ้าหล่อนหลุดออกมาได้แปบเดียวก็โดนชายหนุ่มคว้าตัวไว้ได้อีกครั้งก่อนทุ่มเบา ๆ ให้นอนหงายบนเตียงแล้วตัวเองก็ทาบทับลงมา

อีธานกดปากตัวเองลงบนแก้มนิ่ม ๆ ของหญิงสาวก่อนผละออกมามองหน้าเจ้าหล่อนด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ เชอแตมหน้าเหวอเพราะเจ็บใจที่โดนขโมยหอมแก้ม เจ้าหล่อนตีเผียะลงไปบนแขนเขา ก่อนจะพยายามดิ้นให้หลุดอีก แต่แวมไพร์หนุ่มกลับทับเธอไว้แน่นไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆ

"โอ๊ย! หนัก" ร่างบางบ่นเสียงดังสีหน้าเหยเก สองมือออกแรงผลัก

อีธานก้มลงจูบปากเธอเร็ว ๆ ก่อนผละออกภายในไม่กี่วินาที เขายิ้มกว้างฟันขาวเมื่อเห็นเจ้าหล่อนทำหน้าเหวอเต็มที่ นี่แหละผลของการตั้งใจทดลองความสามารถเขาด้วยการบอกว่าเขาเป็นเกย์

"อีธาน!" เชอแตมตีเผียะลงไปบนอกเขาอีกครั้ง ก่อนที่ทั้งคู่จะได้ยินคำว่า

"เซอร์ไพร้ส์!"

หนึ่งแวมไพร์หนุ่มกับหนึ่งมนุษย์สาวมองหน้ากันแววตาตระหนก ก่อนอีธานจะเงยหน้าฉับไปมองที่ประตูห้องพร้อมกับเชอแตมที่แหงนหน้ามองทั้งที่ยังนอนหงายไปยังที่เดียวกัน

ป๊อบคอร์นกำลังยืนอ้าปากค้างเติ่งกับภาพที่เธอเห็นตรงหน้า เพื่อนรักของเธอกำลังโดนผู้ชายแปลกหน้าที่มีหน้าตาหล่อลากระดับโหดราวกับลูกครึ่งเทพบุตรผสมซาตานนอนคร่อมเธออยู่ ดวงตาสามคู่สบกันค้างเติ่งนานไม่รู้กี่วินาที

"คุณไม่ได้ล็อกประตูห้องเหรอ" อีธานถามเบา ๆ ขณะที่ยังสายตายังตรึงอยู่ที่ป๊อบคอร์น

"ฉันว่า ฉันลืม" เชอแตมตอบกลับไปด้วยสายตาที่ยังตรึงอยู่ที่เดียวกับเขา

"ไงล่ะคุณ" อีธานเอ่ยเบา ๆ

"ฉิบหายแล้ว" เชอแตมอุทานอุบด้วยสีหน้าเหยเก ก่อนที่จะเห็นเพื่อนรักของตัวเองค่อย ๆ ตัวอ่อนปวกเปียก หลับตาสนิท แล้วฟุบราบลงไปกับพื้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel