บทที่ 16 ป๊อบคอร์นเปลี่ยนไป 2
ป๊อบคอร์นไม่รับสายเชอแตมตั้งแต่เมื่อวานล่วงมาจนถึงวันนี้ เชอแตมกำลังมีสีหน้าเคร่งเครียดเนื่องมาจากการสนทนากับออสการ์เมื่อคืน คำพูดสุดท้ายที่มันทิ้งไว้ทำให้เธอเป็นห่วงคนใกล้ตัวของเธอ ซึ่งมีเพียงคนเดียวที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือ ป๊อบคอร์น
ไม่รู้ว่าการกระทำของออสการ์จะเป็นไปอย่างที่พูดมากแค่ไหน แต่อย่างไรเสียเธอและอีธานต้องป้องกันไว้ดีกว่าแก้ หญิงสาวเลยพยายามตามหาเพื่อนรักแล้วพูดคุยกับเจ้าหล่อนให้ได้แต่คงไม่ใช่ทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องแวมไพร์ เชอแตมคิดไว้แล้วว่าต้องบอกอ้อม ๆ อย่างน้อยให้เจ้าหล่อนไม่ออกไปไหนมาไหนตอนกลางคืนก็ยังดี
เชอแตมมาเจอป๊อบคอร์นนั่งเล่นอยู่ริมสระบัว กว่าเธอจะมาเจอเพื่อนรักแปดหลอดที่นี่ได้ เธอต้องผ่านมาเกือบทุกหนแห่งของมหาวิทยาลัย และแน่นอนว่าหญิงสาวมีอาการเหนื่อยหอบมา
ป๊อบคอร์นเงยหน้ามามองเพื่อนรักแววตาเรียบเฉยราวกำลังไม่พอใจบางอย่าง เชอแตมรู้สึกได้ถึงรัศมีแห่งความมาคุตลบอบอวลอยู่บริเวณนี้ เธอมีความลับกับป๊อบคอร์นและดูท่าทางป๊อบคอร์นก็มีความลับบางอย่างกับเธอ
"ฉันตามหาแกเกือบทั่วทั้งมหาวิทยาลัยเลยนะ ทำไมแกไม่รับโทรศัพท์ฉันเลย ป๊อบ"
ป๊อบคอร์นมองไกลออกไปยังสระบัว สีหน้าขุ่นมัว เชอแตมนั่งลงข้าง ๆ เจ้าหล่อนก็กระเถิบหนีราวกับรังเกียจ สีหน้าเชอแตมเลยแสดงแววตงิด ๆ ออกมา
"แกตามหาฉันทำไม ทำไมไม่ไปตามหาคนรักของแกล่ะ"
น้ำเสียงคล้ายประชดประชันจนเชอแตมหรี่ตามองสองคิ้วขมวดเข้าหากัน
"คนรักของฉัน" เชอแตมทวนคำ "แกหมายถึงใคร"
แม้ในใจจะทำนายเอาไว้แล้วว่าเจ้าหล่อนหมายถึงชายหนุ่มเสื้อเปื้อนปากกา แต่เธอก็อยากถามเพื่อความแน่ใจ เพราะอาจจะเป็นกรรณวิทย์ก็ได้ หากแต่ท่าทางน้ำเสียงประชดประชันน้อยใจเชิงไม่พอใจแบบนี้คงเป็นกรรณวิทย์ไปไม่ได้แน่
"ยังจะถามอีกเหรอ คนที่อยู่ในใจแกน่ะ ใครล่ะ" เสียงป๊อบคอร์นดังเพิ่มขึ้นมาหนึ่งเดซิเบลพร้อมกับสีหน้าที่ขุ่นมัวยิ่งกว่าเดิม
"อีธานน่ะเหรอ" เชอแตมถามในใจ ได้แต่พ่นลมออกมาเบา ๆ ด้วยอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
"นี่แกคิดว่าฉันชอบหนุ่มเสื้อเปื้อนปากกาคนนั้นเหรอ"
ป๊อบคอร์นหันขวับมามองเพื่อนรัก แววตาคล้ายสงสัย
"เศร้าโศกเสียใจให้กันขนาดนี้ รักกันขนาดนี้ ยังไม่รู้จักชื่อกันอีกเหรอ คิดว่าเล่นหนังกวน มึน โฮ อยู่หรือไง" ป๊อบคอร์นเพิ่มดีกรีความขุ่นมัวขึ้นไปอีก
"อะไรของแกวะป๊อบ แกจะโกรธอะไรฉันนักหนา" เชอแตมเอ่ยตรง ๆ
ป๊อบคอร์นถอนหายใจเสียงดัง สองมือกำลังเท้าม้านั่งเอนตัวไปข้างหน้า
"ฉันไม่ได้โกรธแก"
เชอแตมอ้าปากพ่นเสียงเฮอะออกมา "นี่น่ะนะ ไม่โกรธ สีหน้า ท่าทาง คำพูดขนาดนี้ บ้านฉันเขาเรียกหน้าตูดว่ะ มันมีที่มาจากอาการไม่พอใจมาก" เชอแตมลากเสียงคำว่ามากยาวเฟื้อย
"ฉันไม่ได้โกรธแก" น้ำเสียงป๊อบคอร์นจริงจังยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ อะไรที่คิดว่าพูดเล่นได้ ตอนนี้สาวเจ้าเป็นจริงเป็นจังหมด เชอแตมรู้สึกราวกับว่าคนตรงหน้าไม่ใช่เพื่อนเธอ
"ป๊อบ แกเป็นอะไรวะ บอกฉันได้มั้ย ทำไมแกต้องทำเหมือนกับว่าไม่พอใจถ้าฉันชอบหนุ่มเสื้อเปื้อนปากกาคนนั้น"
ป๊อบคอร์นถอนหายใจเบา "ความจริง แกจะรักจะชอบใคร ฉันไม่ว่าแกหรอก ไอ้หนุ่มคนนี้ก็เหมือนกัน แต่ถ้าถามฉันว่าฉันอยากให้แกคบเขาไหม ฉันบอกตรง ๆ เลยว่า ไม่"
ป๊อบคอร์นเน้นเสียงชัดเจนราวกับแค้นฝังหุ่นพ่อหนุ่มคนนี้
"ป๊อบคอร์น แกมีอะไรปิดบังฉันอยู่ใช่มะ" เชอแตมต้องการไต่ไปถึงความจริง มันต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังระหว่างสองคนนี้แน่ ๆ
ป๊อบคอร์นมองตาเชอแตมแวบหนึ่งแล้วตวัดหลบ "ไม่มี"
"ฉันไม่เชื่อแกหรอก แกต้องรู้จักผู้ชายคนนี้มาก่อนแน่ ๆ ทำไมแกเคยเป็นแฟนกับเขามาก่อนเหรอ"
ป๊อบคอร์นลุกขึ้นยืนราวกับเท้าเปล่าเหยียบกับขี้บุหรี่ที่ยังมีไฟแดง ๆ บนพื้นจนต้องแสดงปฏิกิริยารีเฟลคแอคชั่นออกมา เจ้าหล่อนตวัดสายตามองเพื่อนรักข้นดุ "ฉันไม่เคยรู้จักเขา!" น้ำเสียงปฏิเสธหนักแน่น
เชอแตมยืนขึ้นตาม ปะทะอารมณ์กับเพื่อนรัก
"ไม่รู้จักเหรอ แกอย่ามาโกหกหน่อยเลยป๊อบ ฉันรู้จักแกดี แกมันเสียงดังแปดหลอด โกรธง่ายหายเร็ว ยิ่งกับฉันถ้าแกโกรธ แล้วฉันมาง้อ คุยกันไม่ถึงสามสิบวิ แกก็เป็นป๊อบคอร์นแปดหลอดคนเดิมแล้ว นี่อะไร แกเปลี่ยนไปจริง ๆ นะป๊อบ และฉันรู้ด้วยว่าเป็นเพราะผู้ชายคนนั้น"
"ผู้ชายคนนั้นไม่มีอิทธิพลกับชีวิตฉันขนาดนี้หรอกนะ แกเองก็เถอะ หลงรักผู้ชายพรรค์นั้นเข้าไปได้ยังไง"
แม้ว่าเชอแตมอยากจะเถียงเพื่อนรักใจแทบขาดว่าเธอไม่ได้พิศวาสอะไรเขาเลย แต่หากเธอปฏิเสธตอนนี้ คราวถัดไปหากเธอจำเป็นต้องวิ่งตามหนุ่มเสื้อเปื้อนปากกาคนนั้นไปอีก เธอจะหาข้อแก้ตัวต่อป๊อบคอร์นให้กับตัวเองไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเธออาจจะดูผิดคำพูด โกหกหลอกลวงจนอาจจะถึงขั้นสะบั้นขาดจากความเป็นเพื่อนกับเจ้าหล่อนไปเลย การปล่อยให้เข้าใจผิดไปแบบนี้ก่อนก็น่าจะดีกว่า
"ผู้ชายพรรค์นั้นเป็นแบบไหนเหรอ เขาไม่ดียังไงเหรอ แกถึงทำท่าทางรังเกียจเขาขนาดนี้"
ป๊อบคอร์นกระตุกมุมปากขึ้นแล้วลงอย่างเร็วพร้อมกับเอาสองมือกอดแนบอก สีหน้าคล้ายดูถูกดูแคลน
"รักเขาเข้าไปไหนเถอะ สักวันแกจะเสียใจ หน้าตามันดีนี่ใช่มั้ย ตี๋หน่อย ๆ เกาหลีนิด ๆ ผิวขาวใสพอดี ๆ เท่ห์ตามแบบที่แกชอบเป๊ะ แอบรักจนต้องวิ่งตามแล้วมานั่งเสียใจขนาดนี้ ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยนะ น้ำตาแกจะเช็ดหัวเข่า ฉันเตือนแกด้วยความหวังดีนะแตม"
"นี่ขนาดไม่รู้จักนะ แกยังเตือนฉันได้ขนาดนี้ แล้วก็จำรายละเอียดเกี่ยวกับเขาได้ขนาดนี้ ฉันว่ามันมากกว่ารู้จักแล้วมั้งป๊อบ"
หญิงสาวสองคนถกเถียงกันด้วยอาการที่ไม่มีใครยอมลงให้ใคร ยิ่งเชอแตมพูดเอนเอียงไปทางฝ่ายโน้นมากเท่าไหร่ ป๊อบคอร์นยิ่งมีสีหน้าไม่พอใจมากขึ้นเท่านั้น
"แกอยากคบมันมากใช่มะ" ป๊อบคอร์นเอ่ยสรรพนามไม่สุภาพถึงเขา ทำให้เชอแตมยิ่งมั่นใจว่าสองคนนี้มีปูมหลังกันมาก่อนแน่ ๆ
"ใช่" เชอแตมตั้งใจพูดให้เพื่อนรักคายความลับออกมามากกว่า แต่ดูท่าทางป๊อบคอร์นจะยิ่งไปกันใหญ่
เจ้าหล่อนอ้าปากน้อย ๆ เชิงตกใจ พยักหน้าขึ้นลงช้า ๆ ราวกับกำลังย้ำตัวเองว่าหูไม่ได้ฝาดกับคำพูดของเชอแตม
"ฉันมีความในใจบางอย่างที่จะบอกแกด้วย" ป๊อบคอร์นพูดออกมา น้ำเสียงจริงจังจนน่าหวั่นใจ "จริง ๆ ที่ฉันหายไป ไม่รับโทรศัพท์แก ไม่เจอหน้าแก ไม่พูดคุยกับแก เพราะฉันกำลังคิด"
เชอแตมไม่คิดจะเอ่ยแทรกขึ้นมาเพราะเธอกำลังตั้งใจฟังมาก ๆ ป๊อบคอร์นหยุดหายใจเข้าครู่หนึ่ง นัยย์ตาแดง ๆ เหมือนจะร้องไห้
"กำลังคิดว่า ฉันจะพูดเรื่องนี้กับแกยังไงดี ประเด็นสำคัญคือ ฉันจะบอกกับแกว่า ถ้าแกรักผู้ชายคนนี้ ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงกำลังจีบหรือกำลังอะไรก็แล้วแต่แล้วยืนยันที่จะคบ ยืนยันที่จะเดินหน้าต่อ ฉันอาจจะห้ามไม่ได้ แต่ฉันคงคบกับแกไม่ได้อีกต่อไป"
เชอแตมปากอ้าค้างเติ่งด้วยความตกใจ มันรุนแรงขนาดนี้เชียวหรือ
"มันต้องขนาดนี้เลยเหรอป๊อบ" เชอแตมถามสีหน้าเกือบซีด
น้ำตาเจ้าของน้ำเสียงแปดหลอดหยดเปาะลงมาทันที แล้วพยักหน้าเบา ๆ เป็นการยืนยันว่าใช่
"แกเลือกเอานะ ระหว่างฉันกับเขา แกจะคบใคร"
ความจริงแล้วมันไม่มีอะไรน่าเครียดสำหรับเชอแตมเลย เธอเลือกคบป๊อบคอร์นแน่นอนอยู่แล้ว เพราะผู้ชายที่เธอรักคืออีธานไม่ใช่หนุ่มเสื้อเปื้อนปากกา แต่มันติดตรงที่ เธอต้องเจอเขาอีกครั้งเพราะเขาเป็นศัตรูแวมไพร์ ประเด็นของเธอมันอยู่ตรงนั้น หากเธอต้องตามหาเขาเธอต้องใช้ข้ออ้างอะไรที่มันสมเหตุผลได้ล่ะ ครั้นจะบอกความจริงออกไป มันก็อาจจะแย่เข้าไปอีก
"ฉันไม่เลือกได้ไหม" เชอแตมจำเป็นต้องพูดแบบนี้
ป๊อบคอร์นมองหน้าเชอแตมนิ่ง แววตาจริงจังแบบที่ไม่เคยแสดงให้เธอเห็นมาก่อน มันอ่อนไหวจนเธอแทบจะร้องไห้ตาม
ป๊อบคอร์นไม่คิดเลยว่าจะได้ยินคำนี้จากเพื่อนรัก เชอแตมคงรักหนุ่มเสื้อเปื้อนปากกาคนนี้ มากถึงขนาดที่ทำให้การตัดสินใจลังเล เจ้าหล่อนรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างบอกไม่ถูก
"แกต้องเลือก คนใดคนหนึ่งเท่านั้น" ป๊อบคอร์นเอ่ยน้ำเสียงบ่งบอกให้รู้ว่าเป็นคำขาด
"ฉันต้องเลือกแกสิ" เชอแตมพูดเสียงอ่อย ในใจวางแผนเอาไว้มากมายว่าต้องเจอชายหนุ่มคนนั้นอีกโดยที่ป๊อบคอร์นไม่รู้
"มันต้องไม่มีคำว่าต้องสิแก" ป๊อบคอร์นกลั่นวาจาออกมาด้วยสีหน้าผิดหวัง "แกพูดแบบนี้แสดงว่าแกยังลังเล แกรักเขา แกคงตัดใจลำบากใช่ไหม"
เชอแตมถอนหายใจ "ฉันจำเป็นป๊อบ" ไม่มีคำไหนที่จะสามารถแทนความคิดเธอตอนนี้ได้แล้ว
"เอาเถอะ มันยังมีเวลาให้แกได้คิด ฉันเปิดเครื่องตลอด แกทำใจลืมผู้ชายคนนั้นได้เมื่อไหร่ แกโทร.มาบอกฉัน แต่ถ้าลืมไม่ได้ แกก็ไม่ต้องโทร.มา" ป๊อบคอร์นมองหน้าเชอแตมเป็นครั้งสุดท้าย "ถ้าแกไม่โทร.มา ฉันจะได้รู้ว่าเรา...ขาดกันแล้ว"
พูดจบเจ้าหล่อนก็เดินจากไป ทิ้งให้เชอแตมมองตามด้วยสายตาเว้าวอนสอดประสานกับน้ำเสียงเรียกที่ใจหาย
หนุ่มเสื้อเปื้อนปากกาคนนั้นมีอิทธิพลต่อความเป็นเพื่อนของเธอสองคนมากเลยหรือ เรื่องนี้มันสลักสำคัญจนเชอแตมลืมประเด็นหลักที่ต้องมาเตือนเพื่อนรักวันนี้เลยทีเดียว
เมื่อนึกได้ว่า ออสการ์ทิ้งท้ายคำพูดเมื่อคืนไว้ว่าอย่างไร เชอแตมก็แทบจะกัดลิ้นตัวเองแล้วกระโดดลงสระบัวอีกทีเพื่อเป็นการทำโทษความงี่เง่าของตัวเอง ป๊อบคอร์นจะน้อยใจเสียใจจนต้องออกไปขับรถเล่นตอนกลางคืน หรือไปนั่งจิบเหล้าปั่นที่ร้านไหนตอนดึก ๆ ไหมนะ เพื่อนรักของเธอคนนี้ฮาร์ดคออยู่ด้วยสิ
เชอแตมจำเป็นต้องส่งข้อความไปแทนการโทร. ป้องกันเหตุการณ์ไม่เข้าใจระหว่างเธอกับเจ้าหล่อนเพิ่มขึ้นทวีคูณ
'อย่าออกไปไหนตอนค่ำนะ กลับบ้านเลยนะ ฉันเป็นห่วงแก ไม่ว่าแกจะต้องการอะไรแบบไหน แต่ฉันอยากให้แกรู้ ว่าฉันมีความจำเป็นบางอย่างจริง ๆ แกอย่าไปไหนตอนค่ำนะ ฉันขอร้อง'
มันอาจจะห้ามไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ได้ห้ามไว้ก่อนก็ยังดี อย่างน้อยการที่ป๊อบคอร์นไม่ออกไปไหนตอนกลางคืน อีธานอาจจะแวบไปดูเจ้าหล่อนได้ เพราะเขาถามที่อยู่เพื่อนรักของเธอทันทีที่ออสการ์ทิ้งท้ายไว้แบบนั้น
เธอได้แต่หวังว่าป๊อบคอร์นจะกลับบ้าน
