บท
ตั้งค่า

บทที่ 11 หนุ่มเสื้อเปื้อนปากกา 2

"นอนเถอะ" เขาบอกขณะที่หยุดยืนตรงหน้าเธอ เชอแตมมองหน้าเขาแบบกล้า ๆ กลัว ๆ แล้วพยักหน้าช้า ๆ เป็นเชิงตอบรับว่าจะนอน เธอหันหลังจะล้มตัวลงไปบนเตียง

"เชอแตม" สาวเจ้าค้างเติ่งในท่าที่กำลังหยิบผ้าห่ม นั่นเสียงอีธานใช่หรือไม่ ทำไมมันฟังดูไพเราะมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา จะให้ไม่เพราะได้ยังไง ก็เขากำลังเรียกชื่อเธอ เขาไม่เคยเรียกชื่อเธอ เขาไม่เคยถามชื่อเธอ เขารู้ชื่อเธอได้ยังไง ไม่ว่าเขาจะรู้ได้ยังไง แต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่า เขาเข้ามาอยู่ในหัวใจเธอเต็ม ๆ "เขาเรียกชื่อฉัน" เชอแตมทวนคำนี้ในใจซ้ำไปซ้ำมา

เธอหันไปมองเขา และเขาก็สร้างความช็อกให้กับเธออีกทันทีที่เธอหันมา

อีธานจุมพิตเธอ

มันไม่ใช่จูบอีกนั่นแหละ มันเป็นการเอาปากเขามาแตะปากเธอเหมือนที่เธอทำกับเขาที่ยอดตึกนั่น และมันแตะอยู่นาน นานกว่าที่เธอแตะปากเขา เธอรักเขาเธอตะโกนก้องในใจก่อนจะหลับตานิ่ง

อีธานเห็นความคิดนั้นก่อนที่เธอจะหลับตาลง

"ค่าตอบแทนอย่างแรกของผม" อีธานเอ่ยขึ้นมาหลังถอนจุมพิตจากเธอ เชอแตมลืมตามามองเขา เธอรู้สึกมึนตึงทั้ง ๆ ที่ศีรษะไม่ได้กระทบกับอะไร

อีธานโน้มหน้าไปใกล้เธออีกครั้งราวกับจะประกบปากเธอซ้ำสอง เชอแตมหลับตาปี๋ แต่เธอกลับได้ยินเขากระซิบที่ข้างหูว่า

"มันยังไม่ใช่จูบนะ มันแค่แตะ"

เชอแตมลืมตาโพลงขึ้นมา แต่กลับพบกับความว่างเปล่า เขาหายไปแล้ว เธอไม่รู้ว่าเขาหายไปไหน และเธอก็ไม่อยากรู้ด้วยว่าเขาจะอยู่ที่ระเบียงหรืออยู่ตรงไหน เพราะตอนนี้ให้เขาออกห่างจากเธอก่อนเป็นดีต่อหัวใจที่กำลังเต้นแรงของเธอที่สุด

ป๊อบคอร์นชวนเชอแตมไปสำรวจโรงเรียนในพื้นที่ชานเมืองเพื่อติดต่อขอเป็นอาสาสมัครพัฒนาในกิจกรรมของชมรมโรตาแลคท์ในบ่ายวันต่อมา การเดินทางไปสำรวจไม่เป็นผลสำเร็จเพราะยังไม่เจอโรงเรียนไหนที่ถูกใจทั้งคู่ นั่นคือแต่ละโรงเรียนที่เจอยังไม่ถึงขั้นลำบากพอที่จะเข้าไปปรับปรุงพัฒนาช่วยเหลือ

หลังจากที่วนหาโรงเรียนกันจนเหนื่อยแล้ว ป๊อบคอร์นเลยแวะพักผ่อนที่สวนสาธารณะหลังโรงเรียนที่ทั้งคู่เคยเรียนด้วยกันสมัยมัธยมปลาย สวนแห่งนี้เป็นสวนเล็ก ๆ แต่บรรยากาศร่มรื่นชวนให้พริ้มหลับมาก

"แกจะเอาไงต่อ จะหาโรงเรียนที่ไหนต่อ" เชอแตมถามเพื่อนรัก แล้วยกแก้วชาเย็นที่เพิ่งซื้อมาจากริมทางดื่ม

"ไปต่างจังหวัดกันดีมั้ยแก" ป๊อบคอร์นเสนอความคิดเห็น พลางเขย่าแก้วคาปูชิโน่ที่เพิ่งดื่มไปเมื่อสักครู่

"งั้นคงต้องกลับไปถามความคิดเห็นจากเพื่อน ๆ ในชมรม" เชอแตมแนะ ป๊อบคอร์นพยักหน้าเห็นด้วย

ทั้งคู่เงียบกันไปครู่หนึ่ง เพราะต่างคนต่างกำลังชื่นชมบรรยากาศในสวนแห่งนี้ นานทีที่พวกเธอจะได้มีโอกาสมารีเซ็ตปอดด้วยการสูดอากาศบริสุทธิ์นอกเมือง ทำให้ความหลังสมัยเรียนมัธยมปลายย้อนกลับเข้ามาในความนึกคิดอีกครั้ง

"คิดถึงสมัยม.ปลายเนอะแก หลังเลิกเรียน เราชอบแวะกันมาที่นี่ทุกวัน" ป๊อบคอร์นเอ่ยขึ้นมาก่อน

"อื้ม ฉันยังจำหมาตัวนั้นได้ดีเลยล่ะ มาที่นี่ก็อดคิดถึงมันไม่ได้" เชอแตมเอ่ยความหลังขึ้นมาบ้าง และมันทำให้ทั้งคู่เข้าสู่โหมดโลกส่วนตัวของตัวเองไปครู่หนึ่ง และต่างคนต่างก็คิดถึงเรื่องสุนัขเพศผู้ที่เชอแตมเพิ่งเอ่ยถึงเหมือนกัน

เมื่อห้าปีก่อน...

เชอแตมกับป๊อบคอร์นในวัยมัธยมศึกษาปีที่สี่ เดินมานั่งที่ม้านั่งตัวเดิมที่เคยนั่งกันเป็นประจำในสวนสาธารณะหลังโรงเรียน ในมือป๊อบคอร์นถือถุงที่บรรจุลูกชิ้นจำนวนสามไม้ แต่ไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้กินอย่างเอร็ดอร่อย ก็มีสุนัขเพศผู้สีดำสนิทตัวหนึ่งมานั่งกระดิกหางตรงหน้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพร้อมกับน้ำลายที่ไหล ราวกับจะขอกินลูกชิ้นในมือของป๊อบคอร์น

สองสาวมองหน้าสุนัขตัวนั้น ป๊อบคอร์นทำหน้าเหยเก เธอมองลูกชิ้นในมือด้วยแววตาละห้อย

"เดี๋ยวฉันซื้อให้แกใหม่ สงสารมันนะ มาจากไหนไม่รู้ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ดูท่าทางไม่น่าจะเป็นหมาจรจัด ขนสวยดูสุขภาพดี น่าจะมีคนมาทิ้งไว้มากกว่า คนเราก็นะ ตอนเลี้ยงคิดแต่จะเลี้ยงอย่างเดียว ไม่คิดถึงกำลังเลี้ยงของตัวเองบ้าง เป็นไงล่ะ พอมันโตขึ้นเลี้ยงไม่ไหว เลยต้องเอามาทิ้ง"

ป๊อบคอร์นตัดกิเลสในใจออกไป และยื่นลูกชิ้นให้สุนัขตัวนี้หนึ่งไม้ ท่าทางมันดีใจ มากกระดิกหางไปมาอย่างร่าเริง หนึ่งไม้คงไม่พอเพราะมันตั้งหน้าตั้งตาขออีก ป๊อบคอร์นเลยโยนลูกชิ้นให้มันอีกหนึ่งไม้ จนกระทั่งหมดสามไม้ก็ดูท่าทางมันยังไม่อิ่ม

ป๊อบคอร์นวิ่งออกไปนอกสวนสาธารณะ เธอไปซื้อลูกชิ้นมาเพิ่มอีกสิบไม้ เชอแตมยิ้มน่ารักให้กับน้ำใจของเพื่อนรัก และวันนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้กินลูกชิ้นเลยสักไม้

"วันนั้นน่ะ ฉันหิวมากจริง ๆ นะ แต่ก็อดสงสารมันไม่ได้ แต่น่าแปลกที่พอเห็นมันกินอิ่ม ฉันก็อิ่มไปเลยโดยปริยาย ไม่รู้สึกหิวอีกเลย" ป๊อบคอร์นเอ่ยขึ้นมาทำลายความเงียบ เชอแตมหันมามองเพื่อนรักแล้วยิ้มให้ ทั้งคู่กำลังนึกถึงสถานการณ์เดียวกัน

"แต่น่าเสียดายนะที่มัน..." เชอแตมเอ่ยไม่จบ เหตุการณ์เลวร้ายในอดีตก็ผุดขึ้นมาในหัวทั้งคู่พร้อมกัน

สี่ปีก่อน...

สุนัขเพศผู้ตัวเดิมถูกสองสาวตั้งชื่อให้ว่า เฉาก๊วย เพราะขนที่ดำสนิทของมันทำให้นึกถึงเฉาก๊วย เฉาก๊วยมานั่งรอสองสาวที่ม้านั่งตัวเดิมทุกวัน เมื่อได้กินของอร่อย ๆ จากสองสาวจนอิ่มมันก็วิ่งเล่นไล่จับกิ้งก่า ไล่จับผีเสื้อ ตามประสาของมันข้าง ๆ พวกเธอ ความสนิทสนมและหลงรักสุนัขตัวนี้ก็มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่มีใครสามารถเอามันไปเลี้ยงด้วยได้ เพราะเชอแตมอยู่หอพัก ส่วนป๊อบคอร์นอาศัยอยู่บ้านของน้า ต่างคนก็ต่างคิดว่าถ้ามันอยู่ที่นี่ มันก็น่าจะมีพื้นวิ่งเล่นได้สบายกว่าไปอยู่กับใครคนใดคนหนึ่ง

แต่ทั้งคู่กลับคิดผิดและคิดไม่ถึง เมื่อมีคนใจร้ายวางยาเบื่อเฉาก๊วย

สองสาวมานั่งที่ม้านั่งตัวเดิมในวันถัดมาพร้อมกับของกินเต็มไม้เต็มมือเพื่อมาฝากเฉาก๊วยโดยเฉพาะ ทั้งคู่เจอเฉาก๊วยนอนอยู่ข้าง ๆ ม้านั่ง และที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือมีน้ำลายฟูมปากด้วย สองสาวตกใจพยายามเรียกมันให้ตื่นขึ้นมา แต่ไม่ทันเสียแล้วเฉาก๊วยตัวแข็งทื่อไปแล้ว

แม้มันจะกลายเป็นเพียงความหลัง แต่มันก็ยังเรียกน้ำตาให้กับทั้งคู่ในปัจจุบันได้อยู่ดี เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของสองสาวในวันนั้น ยังชัดเจนจนกระทั่งตอนนี้

"มันคงจะเจ็บปวดมาก วินาทีสุดท้ายของมัน คงนึกถึงพวกเรา ถึงได้มานอนตายอยู่ข้างม้านั่งตัวนี้" เชอแตมเอ่ยออกมา มือเช็ดน้ำตาที่ซึม ๆ อยู่

"ป่านนี้มันคงไปดีแล้วนะ" ป๊อบคอร์นเอ่ย จมูกสูดน้ำมูกเสียงดังฟีด ๆ

ไม่ทันที่น้ำตาของทั้งคู่จะแห้งสนิท เชอแตมก็เห็นสุนัขตัวหนึ่งโผล่มาจากไหนไม่รู้ มันมานั่งตรงหน้าของพวกเธอหางกระดิกไปมา

"แก นั่นเฉาก๊วยใช่มั้ย" เชอแตมเอ่ยถาม สายตามองไปยังสุนัขสีดำสนิทตัวนั้น ป๊อบคอร์นมองตามสายตาของเชอแตมไป แล้วเบิกตาโพลง

มันเฉาก๊วยชัด ๆ! สีดำสนิท รอยยิ้มของมัน ท่าทางการนั่งของมัน พวกเธอจำได้ดี

แต่ มันตายไปแล้วนะ!

"เป็นไปไม่ได้ เฉาก๊วยตายไปแล้วนะ" ป๊อบคอร์นเอ่ยน้ำเสียงตื่นเต้นตกใจ

ทั้งคู่ลุกขึ้นพร้อมกัน และก้าวช้า ๆ ไปหามัน แต่ยังไม่ทันถึงตัวสุนัข มันก็เห่าเสียงดังใส่พวกเธอ สองสาวตกใจชะงักเท้าแทบไม่ทัน ทั้งคู่เกาะแขนกันและกัน

จากสีหน้าที่ยิ้มแย้มของสุนัขตัวนั้นเมื่อสักครู่ บัดนี้กลายเป็นสีหน้าที่เตรียมพร้อมจะกระโจนใส่ทั้งคู่ทันที มันเหมือนสุนัขบ้าที่แยกเขี้ยวยิงฟัน ราวกับว่าสองสาวเป็นศัตรูของมันมาแต่ชาติปางไหน

"แก ทำไงดี ถ้าเราวิ่ง มันจะตามเราทันมั้ยแก" ป๊อบคอร์นเอ่ยถามน้ำเสียงหวาดกลัว

ไม่ทันที่เชอแตมจะได้ตอบอะไร สุนัขที่ทั้งคู่คิดว่าเป็นเฉาก๊วยตัวนั้นก็กระโจนใส่ทั้งคู่ทันที

"อ๊า! " สองสาวประสานเสียงกรี๊ดกันลั่น พร้อมก้มหลบสุนัขตัวนั้นแทบจะนอนราบไปกับพื้น

แต่เมื่อลืมตาขึ้นมาก็เห็นว่าตัวเองต่างไม่ได้เป็นอะไร มันไม่ได้กระโจนใส่ทั้งคู่ แต่มันกลับกระโจนใส่ใครบางคนที่อยู่ด้านหลังพวกเธอ!

สองสาวหันไปมองบุคคลแปลกหน้าที่สุนัขกระโจนเข้าใส่ แล้วต่างก็ต้องเอามือทาบอกตกตะลึงจนแทบลมจับ ชายแปลกหน้าที่สวมเสื้อผ้ามิดชิดทั่วทั้งร่าง มีฮูดคลุมศีรษะ หากแต่ตามผิวหนังที่เล็ดลอดออกมานอกเสื้อผ้าซึ่งสายตาของพวกเธอสามารถเห็นได้ตอนนี้กลับมีแผลพุพองเต็มไปหมด ที่แย่กว่านั้นบางตำแหน่งยังมีควันกรุ่น ๆ โชยออกมา คล้ายกับเนื้อที่ถูกย่างอยู่บนเตาไฟแล้วมีควันโชยออกมา

เชอแตมแทบจะไม่ต้องเดาว่าเขาเป็นตัวอะไร แต่สำหรับป๊อบคอร์นเธอยังตกตะลึงตาค้าง และมันเป็นสิ่งประหลาดแปลกใหม่สำหรับเธอแน่นอน

ชายแปลกหน้าที่หน้าตามีแต่แผลพุพอง ต่อสู้อยู่กับสุนัขตัวนั้น มันงับเขาเข้าที่แขนจนเขี้ยวจมลงทะลุผ่านเสื้อผ้าไปฝังในเนื้อ ชายแปลกหน้ายกแขนข้างนั้นขึ้นมาจนสุนัขลอยขึ้นมาเหนือพื้นดิน เท้ามันพยายามขยับถีบ ๆ ให้พอได้ไขว่คว้าอะไรสักอย่างได้ แต่ก็ไม่มีอะไรให้เท้ามันสามารถคว้าได้ ชายแปลกหน้าทำหน้าเหี้ยม แววตาแดงก่ำ เขาสะบัดแขนไปด้านหลัง ความแรงนั้นทำให้สุนัขที่เขี้ยวฝังในเนื้อเขากระเด็นไปตกลงบนพื้นไกลจากตรงนั้นไปเกือบแปดเมตร

เชอแตมกับป๊อบคอร์นอ้าปากค้าง เอามือมาปิดปากตัวเองแทบไม่เชื่อสายตาการต่อสู้ของคนกับหมาตรงหน้าพวกเธอ สองสาวนึกเป็นห่วงสุนัขตัวนั้นที่นอนแน่นิ่งไปแล้ว แต่เวลานี้ชีวิตของพวกเธอก็กำลังตกอยู่ในอันตรายเหมือนกัน

ชายแปลกหน้าเดินเร็วราวกับหายตัวมายืนอยู่ตรงหน้าเชอแตม ป๊อบคอร์นอ้าปากเหวอตกใจกับความเร็วขนาดนั้น ไม่มีการตั้งตัวใด ๆ เชอแตมก็โดนชายแปลกหน้าใช้มือที่มีแต่แผลพุพองจับข้อมือไว้ แล้วพยายามกระชากให้เธอเดินตามเขาไป ป๊อบคอร์นได้สติก็รีบเข้าไปรั้งเพื่อนรักของตัวเองเอาไว้

"ปล่อยนะ! ไอ้ตัวประหลาด" เธอตวาดทั้งที่น้ำเสียงและร่างกายสั่นมาก พร้อมกับเข้าไปจับแขนของชายแปลกหน้าและพยายามแกะมือมันออก

ชายแปลกหน้าหันขวับมาหาเธอ แววตาแดงก่ำ และในทันทีทันใด มันก็ผลักป๊อบคอร์นจนตัวลอยขึ้นไปในอากาศและขณะที่เธอกำลังจะตกลงมาศีรษะเธอก็ไปกระแทกเข้ากับต้นไม้ต้นหนึ่งจนสลบลงไปบนพื้นดิน

"ป๊อบคอร์น! " เชอแตมหวีดเรียกเพื่อนรักเสียงดัง พยายามจะวิ่งไปหา แต่เธอถูกมือของชายแปลกหน้าพันธนาการไว้และพยายามลากเธอไปด้วยกัน เชอแตมพยายามดิ้นเต็มที่แต่ก็ไม่สามารถหลุดมาจากอุ้งมือของมันได้

"อ๊าากกกก!!! " เสียงชายแปลกหน้าหวีดร้องโหยหวน ก่อนที่มันจะล้มลงไปกับพื้นแล้วนอนดิ้นทุรนทุรายก่อนที่จะแน่นิ่งไปพร้อมกับร่างที่แหลกสลายกลายเป็นผุยผง

เชอแตมยืนอ้าปากค้างแววตาเบิกกว้าง เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นร่างแวมไพร์แหลกสลายไปต่อหน้าเธอ เมื่อได้สติเธอก็เงยหน้าขึ้นมามองบุคคลแปลกหน้าอีกคนที่เข้ามาช่วยเธอไว้

"คุณ! " เธอไม่รู้จักชื่อเขา เพราะเธอไม่เคยได้ถาม แต่เธอจำหน้าเขาได้ดี

ชายหนุ่มผู้ที่เธอทำปากกาเปื้อนใส่เสื้อ...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel