บท
ตั้งค่า

3.

เวลาฉันเพลตะวันยังไม่คล้อยบ่าย แต่ก็มีเมฆลอยเลื่อนมาบดบังทำให้แสงแดดไม่ลอดเข้ามาในศาลาที่ไม่มีผนังศาลาข้างโรงครัวที่เปิดโล่งทั้งสี่ด้านสายลมพัดเอื่อย เอื่อย พอให้สบายตัวอากาศสดชื่น ซันมานั่งพิงเสาอยู่หลังจากที่เขาได้จัดสำรับให้กับหลวงลุงและพระรูปอื่นเรียบร้อยแล้วเขานั่งรออยู่ใกล้ๆหลวงลุงเผื่อท่านจะเรียกใช้อะไร

ในยามสายลมพัดเอื่อยๆ เขาเอนหลังพิงเสาศาลา เปลือกตาหนักลงอย่างช้า ๆ ราวกับใจเขาเรียกร้องจะพาเข้าสู่โลกของความฝัน...

...พิมพ์ใจปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง

เธอยืนอยู่ท่ามกลางแสงแดดอ่อนที่รอดผ่านใบไม้ ท่ามกลางกลิ่นดอกลั่นทมจากรั้ววัด ผมดำยาวของเธอปลิวเบา ๆ ตามแรงลม ชุดเดรสสีขาวสะอาดตาทำให้ผิวเธอยิ่งดูเปล่งประกาย เธอยิ้มให้เขา และยื่นมือเข้ามา... ปลายนิ้วของเธอแตะกับปลายนิ้วเขาเบา ๆ

สัมผัสนั้น... แม้เพียงปลายนิ้ว ก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนหัวใจถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

เขากล้ากว่าความจริง เขาเดินเข้าไปหาเธอ ใช้มือโอบไหล่เธอไว้เบา ๆ ใกล้จนได้กลิ่นหอมอ่อนของน้ำหอมติดผิวเธอ กลิ่นที่เขาจำได้แม่นจากเมื่อคืน

พิมพ์ใจไม่ได้ถอยหนี... กลับเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาอ่อนโยน ราวกับเธอเองก็รอคอยอะไรบางอย่าง

เขายกมือขึ้นอย่างช้า ๆ ปลายนิ้วแตะที่แก้มนวลนิ่มนั่น ลูบไล้แผ่วเบา

และในวินาทีนั้น... เขาอดใจไม่ไหว

เขาก้มหน้าลงแนบใกล้ สูดกลิ่นหอมจากผิวแก้มของเธอ ริมฝีปากของเขาแตะแก้มเธอแผ่วเบา ด้วยแรงของความปรารถนาเร่าร้อน ในวัยหนุ่ม ที่อยากจะจุมพิตเธอ อยากครอบครอง

...

เขาอยากโอบเธอไว้ทั้งตัว อยากซุกหน้าลงบนไหล่เล็ก ๆ นั้น อยากบอกเธอว่า

เขาไม่เคยรักใคร... อย่างที่เขากำลังรักเธอในตอนนี้

เป็นเพียงความฝัน ที่จริงยิ่งกว่าความจริงใด ๆ ที่เขาเคยสัมผัส

แต่แล้ว เสียงเจ้าแกละก็ตะโกนเรียกชื่อเขาอย่างร่าเริงจากด้านหลัง

“เฮียซัน! เฮียซัน! ฝันกลางวันหรือไง!”

เสียงนั้นดึงเขากลับสู่ความเป็นจริง เขาลืมตาขึ้นช้า ๆ ลมหายใจยังไม่ทันจางจากความฝัน หัวใจยังเต้นแรงไม่หาย ริมฝีปากยังคงรู้สึกถึงไออุ่นของจุมพิตในห้วงความคิด

เขายกมือขึ้นแตะแก้มตัวเองเบา ๆ เหมือนจะย้ำว่าภาพนั้นไม่ใช่เพียงแค่เงาของความหลงใหล

แต่เป็น... ความรู้สึกจริงแท้จากส่วนลึกของหัวใจชายคนหนึ่ง

ขณะปล่อยใจให้ลอยเคว้งอยู่กับสายลม ภาพใบหน้าหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในห้วงคำนึงอีกครั้ง...

"พิมพ์ใจ"

ชื่อของเธอแว่วอยู่ในหัวเขาไม่หยุด… นับตั้งแต่เช้า… ไม่สิ… ตั้งแต่เมื่อคืนที่เธอคว้าแขนเขาผิดจนมือของเธอ...คว้าโดนกล่องดวงใจเขาเต็มมือ

เขาสะบัดหัวเบา ๆ ไล่ความคิด แต่ก็ไร้ผล ใบหน้าของเธอผุดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งแววตา เสียงพูด และรอยยิ้มที่สดใสอย่างเป็นธรรมชาติ ยิ่งเขาพยายามไม่คิดถึง ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนทุกอย่างรอบตัวมีกลิ่นของเธอปะปนอยู่

… ที่เขาเห็นเธอเกือบทุกเช้า

... ที่เขาไม่เคยกล้าทักทาย

แต่เมื่อคืน...ที่เธอเรียกชื่อเขาและตอนเช้าถามเขาด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน "เจ็บมั้ย" ก็เหมือนมีบางอย่างในใจเขาหลุดออกมา

เขาเผลอคิด… เธอห่วงใยเขาอย่างนั้นหรือ

หรืออาจจะ… เธอมีไมตรีพิเศษให้เขา

"บ้าพิลึก..." เขาคิดพลางถอนหายใจ รู้สึกประหลาดใจกับตนเองที่เผลอไผลคิดถึงเธออย่างไม่มีเหตุผลขนาดนี้

หลวงลุงเรียกเขาเบา ๆ “ซัน… ซัน…”

แต่เสียงเรียกก็เหมือนลอยผ่านหู ไม่อาจแทรกเข้าไปในโลกส่วนตัวของเขาได้

“อาซันเอ้ย!”

หลวงลุงเรียกอีกครั้ง พร้อมหันไปมองเจ้าแกละที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ

เจ้าแกละลุกพรวดเข้ามา เขย่าแขนซัน ก่อนจะทำท่าชกแย็บ ๆ แบบล้อเลียน

“เฮียซัน! ตื่นจากฝันได้แล้ว ไม่ต้องคิดจะแก้แค้นเรื่องมวยหรอก เดี๋ยวก็เจ็บตัวฟรีอีก!”

หลวงลุงยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเอ่ยกลั้วหัวเราะเบา ๆ

“สงสัยวันนี้ สมองอาซันจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วละกระมัง”

“ไม่ใช่สมองหรอกครับหลวงลุง” เจ้าแกละแทรกขึ้นมาทันที “ใจเฮียต่างหากที่ลอยไปไหนไม่รู้!”

หลวงลุงหัวเราะเบา ๆ พลางพยักหน้าเห็นด้วย

“ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวน่ะ มักจะเกิดเพราะคิดถึงใครบางคน…”

คำพูดของหลวงลุงราวกับตอกย้ำอะไรบางอย่างในใจซัน เขาเพียงยิ้มไม่ตอบอะไร แล้วรีบกุลีกุจอลุกขึ้นช่วยเก็บสำรับอาหารที่หลวงลุงฉันเสร็จ ขณะที่เจ้าแกละก็ช่วยปัดกวาดเช็ดถูบริเวณนั้นด้วยเช่นกัน

วันนี้ไม่มีพิธีการ ไม่มีญาติโยมมาถวายสังฆทาน บรรยากาศจึงเงียบและเรียบง่าย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel