Always be with you ด้วยรักตลอดไป

39.0K · ยังไม่จบ
Peanut Butter
24
บท
123
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เมื่อโชคชะตาพาให้เขาและเธอได้รักกัน แต่ความรักนั้นก่อตัวขึ้นบนความเจ็บปวดของเงาในอดีต ท่ามกลางกำแพงแห่งความแค้น เขาและเธอจะเลือกเก็บซ่อนความรู้สึก หรือก้าวข้ามทุกสิ่งเพื่อได้รักกัน

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักคนต่ำต้อยรักหวานๆโตมาด้วยโรแมนติกผู้ชายอบอุ่นฟินๆยุค70

1

เลือดไหลซึมลงมาจากหางตาของเขาในขณะที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือด เขาพยายามกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อไม่ให้เลือดเข้าตาเพียงเสี้ยววินาทีที่สายตาพร่ามัว ก็อาจหมายถึงความพ่ายแพ้ที่ยากจะยอมรับได้ แม้ว่าเขาจะพยายามเบี่ยงหน้าหลบหมัดนั้นอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังโดนเฉียดที่หางคิ้วขวาจนเป็นแผลฉีกขาด เลือดไหลไม่หยุด ไม่ใช่แรงปะทะเต็มหมัด แต่ก็ทิ้งร่องรอยให้ระลึกถึงความดุดันของคู่ต่อสู้

เขาเซถอยหลังไปสองสามก้าวเพื่อรักษาสมดุลก่อนรีบยกแขนขึ้นตั้งการ์ดและปาดเลือดออกจากใบหน้าอย่างลวก ๆ แล้วจ้องคู่ต่อสู้ตรงหน้าด้วยสายตาแน่วแน่

ชายร่างสูงใหญ่คนนั้นแสยะยิ้มเย้ยหยันเมื่อเห็นเขาต้องถอยร่นไป เพราะแม้ทั้งคู่จะสูงไล่เลี่ยกัน แต่โครงสร้างร่างกายกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เขาดูผอมบาง ไหล่ไม่กว้างและกล้ามเนื้อไม่หนาแน่น เหมือนนักมวยที่ฝึกฝนมาตลอดชีวิตการต่อสู้ครั้งนี้จึงเป็นการทดสอบหัวใจมากกว่าร่างกาย

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องหลั่งเลือดบนเวทีที่ผู้คนนับร้อยกำลังจับตามองความเจ็บปวดไม่เพียงเล่นงานร่างกาย แต่ยังสั่นคลอนจิตใจ เขาถามตัวเองว่ามาต่อสู้เอาเป็นเอาตายเช่นนี้เพื่ออะไร เพื่อศักดิ์ศรี เพื่อใครบางคน หรือเพียงเพราะไม่อาจปฏิเสธได้ แต่ไม่ว่าคำตอบจะเป็นเช่นไร สิ่งเดียวที่รู้แน่คือ เขาต้องชนะให้ได้เท่านั้น

เมื่อสติกลับมาตั้งมั่น เขาสูดลมหายใจลึกก่อนพุ่งตัวเข้ารุกอย่างฉับพลันคู่ต่อสู้

สูงใหญ่ชะงักไปเล็กน้อยโดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้การ์ดเปิดออก ซึ่งเป็นโอกาสที่เขาไม่ปล่อยให้หลุดลอยไป เขารัวหมัดเข้าใส่ตามกระบวนท่าที่ร่ำเรียนมาอย่างรวดเร็วและแม่นยำ หมัดถาโถมไปตามจุดสำคัญ ตั้งแต่หัวไหล่ไปจนถึงลำตัว เสียงเชียร์รอบด้านดังก้องขึ้นเรื่อย ๆคู่ต่อสู้พยายามปัดป้องอย่างยากลำบาก แต่เขาก็ไม่หยุด พียงเสี้ยววินาที เขาก็หมุนตัวเตะเข้าที่ต้นขาซ้ายของคู่ต่อสู้เต็มแรง

เสียงกระแทกดังสนั่นจนร่างใหญ่ทรุดฮวบลงไปกับพื้นเวทีจริง ๆ แล้วเป็นเพียงลานซีเมนต์หน้าโรงงิ้ว ผู้คนเบียดเสียดกันแน่นขนัด บ้างโห่ร้อง บ้างเชียร์ บ้างยกมือปิดปากด้วยความตื่นเต้น ทุกสายตาจับจ้องที่วงกลางสนาม ท่ามกลางฝูงชนนั้นมีหญิงสาวสองคนปะปนอยู่ หนึ่งในนั้นคือ พิมพ์ใจ ลูกสาวนายตำรวจใหญ่ เธอสวมชุดกระโปรงบานยาวคลุมเข่าเล็กน้อย สีฟ้าอ่อนพิมพ์ลายดอกเล็ก ๆ เข้าคู่กับเสื้อคาร์ดิแกนบาง ๆ และรองเท้าส้นเตี้ย ยืนหลบอยู่ด้านหลังฝูงชนกับเพื่อนสนิทอย่างถิงถิงลูกสาวเจ้าของโรงงานทอผ้าสวมชุดเดรสทรงเอ สีแดงสดที่เข้ากับลิปสติก และผูกผ้าพันคอไหมพรมเล็ก ๆ ไว้ที่คอ เธอสวมรองเท้าส้นเตี้ยที่ทำให้เดินวิ่งสะดวกเธอทั้งสองคนรู้ตื่นเต้นระคนประหม่า

“พิมพ์ ตัวแน่ใจหรือว่าจะอยู่ดูต่อ ถ้าคุณพ่อรู้...” ถิงถิงกระซิบเสียงสั่น พิมพ์ใจเม้มริมฝีปาก แต่สายตายังจับจ้องไปที่ชายหนุ่มที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือด

“ถิงถิง ตัวก็กลัวเกินเหตุ พ่อพิมพ์ไม่ได้ดุขนาดนั้น...” เสียงเธอเบาหวิวแต่เต็มไปด้วยความดื้อรั้น เมื่อเห็นเลือดไหลจากหางตาของ ซัน ดวงตาของพิมพ์ใจ

ก็เบิกกว้าง หัวใจเธอเต้นแรง ความเจ็บนั้นราวกับสะท้อนเข้ามาถึงใจเธอ

อีกด้านหนึ่ง อาไช้ ผู้เฒ่าชาวจีนที่ทรงอิทธิพลในย่านนี้กำลัง จ้องเวทีด้วยความคาดหวัง เพราะผู้ที่ขึ้นเวทีแทนมวยจีนคือ ซัน หลานรักที่เขาฝึกฝนมาตั้งแต่วัยเยาว์ คืนนี้คือเกียรติยศของคนจีนทั้งชุมชน คู่ต่อสู้ของซันคือ แชมป์มวยไทย ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังจนใคร ๆ ก็ยกย่องว่าไร้ผู้ต้านทาน ซันจึงถูกมองเป็นเพียง

"มวยรอง"

แต่สิ่งที่ทุกคนเห็นในคืนนี้กำลังพลิกความคิดนั้นเสียงเชียร์ยังไม่ทันจบความวุ่นวายก็เกิดขึ้นจากรอบนอก

“หมาต๋ามา! หมาต๋ามา!”

เสียงตะโกนเพียงคำเดียวทำให้ฝูงชนแตกฮือราวกับผึ้งแตกรัง ทุกคนวิ่งหนีอลหม่าน นักมวยไทยรีบหายตัวไป ซันเองก็ถูกบังคับให้ทิ้งเวทีไปเช่นกัน

คืนนี้ซันได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่ใครคิดแม้แต่มวยไทยที่แข็งแกร่งก็ยังไม่สามารถล้มเขาได้ง่าย ๆ เสียงเชียร์ดังลั่นและการต่อสู้ที่ดุเดือดกลับต้องจบลงก่อนที่จะรู้ผล

ในความโกลาหลนั้น พิมพ์ใจกับถิงถิงถูกเบียดเสียดจนเกือบล้ม แต่ถิงถิงดึงแขนไว้ทัน “รีบไปเถอะพิมพ์!”

หัวใจของพิมพ์ใจยังเต้นแรงภาพเลือดที่ไหลจากหางตาของซันยังติดตาเธอไม่จางหาย

ขณะที่วิ่งหนี ซันมองเห็นพิมพ์ใจจึงรีบคว้าแขนเธอเพื่อนำทางให้วิ่งหนีไปตามทางลัดที่เขารู้จักดี แต่ขณะที่เขาคว้าแขนเธอนั้นเป็นจังหวะที่เธอถูกผู้คนเบียดล้มลงเขาจึงรีบดึงเธอให้ลุกขึ้นมา พิมพ์ใจพยายามหาที่เกาะเพื่อพยุงตัวลุกขึ้นจึงคว้าเข้ากับเป้ากางเกงของซันอย่างแรงจนเขาตัวงอถึงกับจุก แต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือเธอ พิมพ์ใจเมื่อรู้ว่าสิ่งที่คว้านั้นไม่ใช่แขนเขาแต่เป็นกล่องดวงใจของเขาจึงกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจ ถิงถิงที่ไม่ทันได้สังเกตจึงคิดว่าเพื่อนกรี๊ดเพราะตกใจที่เขาจับแขน พิมพ์ใจรีบลุกขึ้นและวิ่งตามเขาไปพร้อมกับถิงถิง

ซันวิ่งตามชายผู้เป็นต้นเสียงเข้าไปในตรอกซอกซอยที่คุ้นเคย เสียงหมาเห่าหอนไล่หลัง

มาราวกับเงา เขาวิ่งผ่านตึกแถวครึ่งไม้ครึ่งปูนที่มีแสงไฟสลัว ๆ ลอดออกมาช่วยนำทาง กว่าจะมาถึงบ้านของพิมพ์ใจก็ใช้เวลาไม่น้อยเพื่อนของเขาที่นำทางมาก่อนหน้านี้ได้แยกไปอีกทางแล้ว

พิมพ์ใจชะงักเมื่อเห็นเขาอยู่ใกล้เพียงคืบ กลิ่นเหงื่อและเลือดคลุ้ง แต่แรงบีบมือกลับอบอุ่น

และมั่นคงเกินคาด เธอไม่ทันได้ตอบอะไร ร่างก็ถูกดึงออกจากฝูงชน ซันนำทางพิมพ์ใจ

วิ่งไปในตรอกที่เขารู้จักดี เธอสะดุดเกือบล้มหลายครั้ง แต่เขาก็รั้งแขนไว้ไม่ปล่อย เมื่อพ้นความโกลาหล

มายังมุมมืดอันเงียบสงัดหลังตึกเก่า พิมพ์ใจยังคงหอบหายใจแรง ใบหน้าแดงระเรื่อ ส่วนซันยืนพิงกำแพงไม้เก่า เลือดที่หางคิ้วยังคงซึมอยู่

“...ซัน”

เธอเอ่ยชื่อเขาออกมาเสียงแผ่วเขาเหลือบตามองสบดวงตาที่เขาไม่คิดว่าจะได้เห็นใกล้ขนาดนี้ในชีวิต

“พิมพ์ คุณมาทำไม”

เสียงทุ้มแหบพร่าแฝงความเหนื่อยล้าแต่ก็อบอุ่นอย่างประหลาด ทั้งสองยืนนิ่งครู่หนึ่ง เหลือเพียงความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ แม้ไม่เคยคุยกันแต่คืนนี้คือครั้งแรกที่หัวใจของทั้งสองได้

ใกล้กันจริง ๆ

ถิงถิงรีบพูดขึ้นเพื่อไม่ให้ทั้งสองคุยกันนานกว่านี้

“พิมพ์ รีบไปเถอะเดี๋ยวคุณย่าตัวจะออกมาเห็น”

ทั้งพิมพ์ใจและซันไม่มีบทสนทนาต่อจากนั้น แต่สายตาของทั้งสองยังคงเว้าวอนไม่อยากจากกัน