บท
ตั้งค่า

Episode 02: I am pregnant with your baby!【2】

“อา... ปวดหัวจังเลยให้ตายเถอะ” เขาพึมพำตามลำพัง

ก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เมื่อคืนเล่นกระดกดื่มแบบไม่ยั้งเลยนี่นา ไม่เมาค้างก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

ผมมองอาร์นิ่ง ๆ ก่อนฉุกคิดขึ้นมาว่าในเมื่อติดต่อพ่อคีธยังไม่ได้ ผมก็น่าจะลองคุยกับอาร์ก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน เราจะได้หาทางออกด้วยกัน ทว่าอาร์ไม่เปิดโอกาสให้ผมพูดเลยสักนิด จู่ ๆ ก็ยกมือขึ้นในอากาศเป็นเชิงห้ามขึ้นมา

“ถ้านายคิดจะมาบ่นอะไรเราตอนนี้ในฐานะผู้พิทักษ์ล่ะก็ ลืมไปได้เลย เราไม่พร้อมจะฟังอะไรทั้งนั้น”

ผมเลยได้แต่อ้าปากค้าง

ไม่ได้จะบ่นสักหน่อย แค่จะบอกว่าเมื่อคืนถูกนายวางไข่ แล้วฉันก็ตั้งท้องลูกของเราเฉย ๆ

แต่อาร์ฟังมั้ยล่ะ ...ไม่เลย พยายามดันตัวลุกขึ้นจากเตียง แล้วเดินโงนเงนไปล้างหน้าล้างตาที่ห้องน้ำ กลับเข้ามาในห้องได้ ก็เปลี่ยนเสื้อผ้า คว้ากระเป๋าสะพาย เดินออกไปนอกห้องหน้าตาเฉย

ผมมองเขาแล้วก็อดแปลกใจไม่ได้ ทว่าก็ได้ยินเสียงเขาลอยแว่วมาให้ได้ยินแม้จะออกนอกห้องไปแล้วก็ตาม

“วันนี้มีปฐมนิเทศที่ตึกคณะ อย่าไปสายจะดีที่สุด นายเองก็รีบตามมาซะ”

ผมพ่นลมหายใจออกมายาว พอจะเข้าใจว่าทำไมอาร์ถึงได้ฝืนสังขารตัวเองไปเรียนอย่างนั้น

ก็เป็นเจ้าชายนี่ เป็นอาร์ก็เป็นเจ้าชายที่เนี้ยบเสียขนาดนั้น เรื่องเวลาหรือกำหนดการอะไรที่นัดหมายไว้แล้วถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ถ้าไม่มีอะไรคอขาดบาดตาย ก็ไม่มีทางที่จะยกเลิกกำหนดการง่าย ๆ หรอก

แต่สิ่งที่สำคัญกว่าการไปเรียนก็คือ เขาควรจะรู้ว่าเมื่อคืนเขาวางไข่ผมต่างหากเล่า!

ให้ตาย ดูจากท่าทางแล้ว อาร์น่าจะจำไม่ได้แหงเลย งั้นไว้ไปหาโอกาสบอกทีหลังก็แล้วกัน

ผมลุกจากเตียงไปจัดการตัวเองบ้าง คว้าเสื้อฮู้ดแขนยาวตัวเก่งมาสวม ถือกระเป๋าเป้ออกจากห้องไป ทว่าในจังหวะที่ผมออกจากห้องนั้น จูเลียนซึ่งพักอยู่ห้องติดกันก็โผล่หน้าออกมาพอดี เขายิ้มทักผมกว้าง ผมเลยยกมือเป็นเชิงทักทายตอบ

เกือบจะเดินผ่านจูเลียนไปเฉย ๆ แล้วด้วยไม่รู้จะคุยอะไร หากแต่จูเลียนที่กำลังปิดประตูห้องก็โพล่งขึ้นมาก่อนโดยไม่มองหน้าผม

“กลิ่นของอาร์หึ่งเลยนะ เมื่อคืนทำอะไรกันมาเหรอ”

ผมหันมองหน้าเขาทันที

จริงสิ ผมก็ลืมไปว่าจูเลียนมีความสามารถพิเศษของยูนิกมาครบทุกประการ ซ้ำยังมีความสามารถพิเศษของเซนไทน์อีก จะประสาทสัมผัสดีจนได้กลิ่นของอาร์ในตัวผมก็ไม่แปลก

ผมเงียบ ไม่ได้ให้คำตอบ ส่วนจูเลียนก็ยิ้มให้ผมอย่างกะลิ้มกะเหลี่ย ดูท่าทางคงจะคิดไปแล้วว่าผมกับอาร์ผูกพันกันแน่ ก่อนเขาจะเดินเข้ามาหาผม แล้วทำจมูกฟุดฟิด

“แต่ไม่ได้มีแค่กลิ่นของอาร์อย่างเดียวแฮะ มีกลิ่นอย่างอื่นด้วย กลิ่นแปลก ๆ ไม่คุ้นเลย”

ผมว่าเขาคงหมายถึงกลิ่นของไข่ลูกผมที่อยู่ในตัว แต่ผมก็ไม่พูดอยู่ดี กระทั่งใบหน้าของจูเลียนที่ยกยิ้มอยู่แปรเปลี่ยนเป็นตกใจขึ้นมาทันทีที่เขาตระหนักได้ว่ามันคือกลิ่นอะไร

“ดะ...เดี๋ยว! นี่มันมีกลิ่นของเยื่อหุ้มไข่ด้วย ยะ...อย่าบอกนะว่า...” พูดแล้วหยุดไปแค่นั้น

ผมไม่เคยได้กลิ่นแบบนั้นมาก่อนหรอกถึงจะจมูกดีก็เถอะเพราะไม่เคยเห็นใครถูกวางไข่เลยนี่ แต่จูเลียนคงจะคุ้นชินกับกลิ่นอย่างนี้เพราะอยู่ในดาวเซนไทน์ที่มีการสืบพันธุ์ไม่ต่างจากชาวยูนิกมามานาน

พอเห็นว่าปิดบังคงจะไม่ได้แล้ว ผมเลยพยักหน้ารับให้จูเลียนได้เบิกตาโตขึ้นไปอีก

“เฮ้ย จริงดิ นี่นายท้องลูกของอาร์เหรอ!? ได้ยังไง ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!?”

จูเลียนตกใจจนถลาเข้ามาเกาะไหล่ผมเขย่า ไม่แม้แต่จะฉุกใจคิดด้วยว่าไข่ที่อาร์วางใส่ผมอาจจะเป็นไข่สำหรับการสร้างร่างใหม่ก็ได้

แต่ก็นะ... เขาคงรู้แหละว่าสมัยนี้ไม่มีชาวยูนิกมาคนไหนวางไข่เพื่อสร้างร่างใหม่กันแล้ว มีแต่วางไข่เพื่อสร้างทายาทเท่านั้นถึงได้พูดออกมาแบบนี้

ผมมองเขานิ่งอยู่ครู่เป็นเชิงให้สงบสติอารมณ์ก่อน ครู่หนึ่ง เขาก็ปล่อยมือออกจากผมราวกับตั้งสติได้

“ขอโทษที สติแตกไปหน่อย ตกใจน่ะ ไม่คิดว่านายกับอาร์จะมีความสัมพันธ์มากกว่าเจ้าชายกับผู้พิทักษ์แบบนี้”

ผมว่าเขาเข้าใจผิดไปไกลแล้วล่ะ ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรแบบนั้นสักหน่อย แก้ตัวก่อนดีกว่า

“เปล่า ก็ยังเป็นเจ้าชายกับผู้พิทักษ์เหมือนเดิม”

“เอ้า แล้วอาร์วางไข่ใส่นายทำไม”

“เมาน่ะ” ผมว่าสั้น ๆ

จูเลียนทำหน้าแปลกใจขึ้นมาอีก ผมเลยอธิบายไปตามเรื่อง

“ก็หลังจากที่เล่นเกมจนเมา ฉันก็พาอาร์กลับมาที่ห้อง จากนั้นอาร์ก็จูบฉัน แล้วก็วางไข่อย่างที่เห็น”

ฟังแล้ว จูเลียนก็ทำท่าไม่อยากจะเชื่อหู แต่เพราะเห็นผมนิ่ง เขาเลยสงบลง

“นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลยนะ นายยังทำท่าสบายใจอยู่ได้ แล้วนี่บอกอาร์หรือยังว่านายท้อง?”

ผมส่ายหน้า จูเลียนถามขึ้นมาอีก

“แล้วพ่อ ๆ ของนายล่ะ รู้หรือยัง”

ไม่รู้ทำไมผมถึงได้รู้สึกว่าน้ำเสียงของจูเลียนสั่นไปเล็กน้อยตอนพูดประโยคนี้

สงสัยจะกลัวพ่อกวินทร์แหง

แล้วก็จริงเสียด้วยเมื่อผมส่ายหน้า เขาก็ถอนหายใจออกมายาวอย่างโล่งอก

“งั้นก็ค่อยยังชั่วหน่อย ไม่อย่างนั้นล่ะก็ อาร์โดนลุงกวินทร์กินหัวแน่”

นั่นไง บอกแล้วว่ากลัวพ่อกวินทร์ คิดผิดเสียที่ไหน จะว่าไป พ่อกวินทร์นี่ก็เจ๋งเหมือนกันนะ เป็นคนธรรมดาที่แม้แต่บรรดามนุษย์ต่างดาวสูงศักดิ์ยังเกรงกลัวเนี่ย

และเพราะจู่ ๆ จูเลียนก็มารู้เรื่องระหว่างผมกับอาร์ เขาก็เลยช่วยผมหาทางออกเสียอย่างนั้น

“เอาเป็นว่าตอนนี้นายไปบอกอาร์ก่อนแล้วกันว่านายท้อง เดี๋ยวที่เหลือค่อยมาหาทางคิดกัน”

ผมพยักหน้าเออออไป ใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อยที่อย่างน้อยก็มีจูเลียนรู้เรื่องอีกคน เพราะดูท่าทางแล้ว เขาน่าจะให้คำปรึกษาที่ดีได้ ถึงแม้ว่าผมอยากจะได้คำปรึกษาจากพ่อคีธมากกว่าก็ตาม

หากแต่การหาโอกาสบอกอาร์เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ทันทีที่ผมมาเข้าร่วมปฐมนิเทศ รอบข้างก็เต็มไปด้วยนักศึกษาชั้นปีหนึ่งคนอื่น ๆ ของคณะนิเทศศาสตร์ ทำให้ผมไม่สามารถเข้าถึงอาร์ได้ในทันทีด้วยเขานำมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น การปฐมนิเทศก็ยาวนานต่อเนื่องจนถึงเที่ยง ผมซึ่งไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืนก็เผลอสัปหงกไปอย่างไม่รู้ตัว รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่การปฐมนิเทศสิ้นสุดลง

เสียงพูดคุยจอแจของบรรดานักศึกษารุ่นเดียวกับผมที่ทำความรู้จักกันปลุกให้ผมตื่นจากนิทรา รีบสอดส่ายสายตามองหาอาร์ทันใด แต่เหมือนผมจะช้าไปเพราะตอนนี้ นักศึกษากว่าครึ่งได้ทยอยออกจากห้องไปเกือบหมดแล้ว แน่นอนว่ารวมถึงอาร์ด้วย

เท่านั้น ผมก็ไม่รอช้า รีบผุดจากที่นั่ง แล้วรีบดมกลิ่นตามหาอาร์อย่างรวดเร็ว ก่อนจะค้นพบว่าเขามุ่งหน้าไปยังโรงอาหาร

ผมรีบสาวเท้าก้าวตามมา เจอกับจูเลียนระหว่างทางเดินไปโรงอาหารด้วย รายนั้นก็เพิ่งจะปฐมนิเทศคณะเสร็จเหมือนกัน เพิ่งรู้ตอนนี้ว่าเขาเรียนคณะรัฐศาสตร์ แต่ผมไม่สนใจนักนอกจากตอบคำถามเขาที่ถามว่าผมว่าได้บอกอาร์เรื่องถูกวางไข่หรือยัง พอผมส่ายหน้า จูเลียนก็รีบเร่งผมให้ไปหาอาร์อย่างรวดเร็ว

เข้ามาในโรงอาหารได้ ผมก็รีบดมกลิ่นหาอาร์ท่ามกลางผู้คนคลาคล่ำอย่างรวดเร็ว ก่อนสายตาจะปะทะเข้ากับร่างของอาร์ซึ่งกำลังร่วมโต๊ะอาหารกับเพื่อนในคณะที่เพิ่งทำความรู้จักกันในงานปฐมนิเทศเมื่อครู่อยู่

น่าดีใจนะที่ได้เห็นอาร์ผูกมิตรกับชาวบ้านทั้งที่ไม่ใช่นิสัยของเขาเลย แต่ตอนนี้มีเรื่องสำคัญกว่านั้นเยอะ

ยังไงก็ต้องรีบบอกอาร์ให้ได้ว่าผมท้องลูกของเขา จะได้รีบมาช่วยกันแก้ปัญหา

“ไปสิ เดี๋ยวฉันจะตามไปคุยด้วยทีหลัง พวกนายไปคุยกันเองก่อน” จูเลียนเร่งเร้า

ผมพยักหน้า ก่อนจะแยกกับจูเลียนที่เดินไปเลือกชุดอาหาร เดินตรงเข้าไปหาอาร์ทันที มาหยุดยืนที่หน้าโต๊ะได้ ผมก็ไม่รอช้า เรียกชื่อคนตรงหน้าที่กำลังตักอาหารเข้าปากทันควัน

“อาร์”

คนถูกเรียกชะงักช้อนที่กำลังจะส่งเข้าปาก เหลือบมองมายังผมด้วยสายตาขุ่นมัว

“ไม่เห็นหรือไงว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เสียมารยาท”

เสียมารยาทจริงอย่างที่เขาบอก การขัดจังหวะเวลาส่วนตัวของเจ้าชายไม่ใช่สิ่งที่ผู้พิทักษ์ควรกระทำเลยสักนิด แต่มันก็ช่วยไม่ได้นี่ ก็บอกแล้วว่าผมมีเรื่องสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดจะมาบอกเขาน่ะ

พอเห็นเขาเมินผม ทำท่าจะตักอาหารเข้าปากอีกครั้ง ผมก็เรียกขึ้นมาอีก

“อาร์”

“อะไร” คราวนี้ อาร์ว่าเสียงเขียวตามมาด้วย บ่งบอกชัดเจนว่าไม่พอใจสุด ๆ

ส่วนผมเองก็ยังไม่หยุด ว่าออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ขอคุยอะไรด้วยหน่อย”

“คุยอะไร” เขาว่าโดยไม่มองหน้าผมด้วยซ้ำ

“ไปที่อื่นได้มั้ย เรื่องสำคัญ” ที่ว่าอย่างนั้นเป็นเพราะผมเห็นว่าที่โต๊ะนั่นมีเพื่อนร่วมคณะคนอื่น ๆ นั่งอยู่

ผมไม่อยากให้เขาเสียหน้าน่ะ ถึงจะไม่ต้องเรียกอย่างถือยศศักดิ์แล้ว แต่ยังไง เขาก็ยังเป็นเจ้าชาย ผมยังต้องให้เกียรติอยู่วันยังค่ำ

หากแต่อาร์ไม่ฟัง กลับตวัดดวงตาเรียวมามองอย่างรำคาญ ก่อนจะทำท่าไม่สนใจ หันไปจดจ่อกับอาหารตรงหน้า แล้วว่าเสียงเรียบ

“มีอะไรก็พูดตรงนี้ ฉันไม่ว่าง”

เอาล่ะ เขาทำให้ผมไม่มีทางเลือกแหละ อุตส่าห์คิดว่าจะไม่ทำให้เขาอับอายแล้วนะ แต่ก็ช่วยไม่ได้ พูดเลยก็แล้วกัน

“ฉันท้อง”

“!?”

“นายทำฉันท้อง” ว่าย้ำอีกทีเมื่อเห็นว่าอาร์ไม่ตอบอะไรกลับมา

เคร้ง!

ตอนนี้ช้อนและส้อมที่อยู่ในมืออาร์ร่วงกระแทกจานทันที เขาหันมามองผมตรง ๆ ด้วยดวงตาเบิกโพลง พลันว่าอย่างไม่เชื่อหู

“เมื่อกี้นาย...ว่าไงนะ”

“ฉันบอกว่าฉันท้อง นายทำฉันท้อง” ผมย้ำคำ

คนอื่น ๆ ที่ร่วมโต๊ะอาหารที่อึ้งไปก่อนหน้าพากันหัวเราะร่วนยกใหญ่เมื่อตั้งสติได้ด้วยคิดว่าผมเล่นมุขตลกโง่ ๆ

ก็นะ คนพวกนั้นเป็นชาวดาวเคราะห์สีน้ำเงินนี่ ยังไงเพศชายก็ตั้งท้องไม่ได้ ไม่เหมือนกับพวกมนุษย์ต่างดาวหรือลูกครึ่งอย่างพวกผม เว้นก็แต่อาร์ที่เริ่มได้สติขึ้นมา พลันสีหน้าก็ดูเคร่งเครียด

“นี่นายกำลังจะบอกว่าฉันวางไข่ใส่นายอย่างนั้นเหรอ!”

ทำหน้าเครียดไม่พอ น้ำเสียงก็ดังขึ้นด้วยจนฟังดูกึ่งตะคอก พอเห็นผมพยักหน้า เขาก็ลุกขึ้นยืนประจันหน้าผม แผดเสียงใส่อย่างหัวเสีย

“ไม่ตลกเลยนะคีตา! เป็นแค่ผู้พิทักษ์ อย่ามาบังอาจล้อเล่นกับเราแบบนี้!”

ตอนนี้ไม่มีใครเข้าใจเราแล้วล่ะว่ากำลังคุยเรื่องอะไรกัน แต่ดูท่าอาร์ก็ไม่สนใจแล้ว ผมเองก็ไม่สนใจเหมือนกัน ผมอยากรู้ว่าอาร์จะเอายังไงกับลูกในท้องผมมากกว่า ผมก็อยากจะบอกเขานะว่าไม่ได้ล้อเล่น อยากจะให้เขาพิสูจน์ด้วยการดมกลิ่นด้วยว่าในตัวผมด้วยซ้ำ ตัวผมยังมีกลิ่นของเขาซึ่งเกิดจากการจูบของเขาอยู่ ยิ่งไปกว่านั้น กลิ่นของเยื่อหุ้มไข่ที่มีกลิ่นของเขาด้วยก็อยู่ในตัวผม ทว่าอาร์ไม่ได้มีความสามารถพิเศษในด้านประสาทสัมผัส เท่าที่ได้ยินมา เห็นว่ามีก็แต่ความสามารถพิเศษทางด้านภาษา ผมเลยจนปัญญาที่จะให้เขาพิสูจน์ได้ว่าผมพูดเรื่องจริง

หากแต่พระเจ้าคงจะเข้าข้างผม เพราะพอสิ้นเสียงอาร์เท่านั้น จูเลียนที่เดินถือจานอาหารผ่านมาพอดีก็พูดขึ้นมาลอย ๆ ให้ได้ยินราวกับไม่ได้ตั้งใจ

“คีตาพูดเรื่องจริง หมอนี่ท้องลูกของนาย กลิ่นของนายในตัวคีตานี่ฉุนกึ้กเชียว”

พูดจบ ก็เดินจากไป ทิ้งให้อาร์อ้าปากค้าง

ส่วนผม... ยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มที่คิดว่าดูอ่อนโยนที่สุดเป็นการปลอบให้อาร์ใจเย็น

ยิ้มอย่างเดียวคงจะไม่พอ งั้นพูดเรื่องที่ทำให้ผ่อนคลายไปด้วยก็แล้วกัน

“แล้ว...เราจะตั้งชื่อลูกของเราว่าอะไรดี”

“มันใช่เรื่องจะมาถามตอนนี้มั้ยวะ ตั้งชื่อลูกอะไรนี่เอาไว้ทีหลังก็ได้เว้ย!”

อาร์โวยวายใส่ผมกะทันหัน หยาบคายด้วย เป็นคำพูดที่ไม่ควรจะหลุดออกมาจากปากเจ้าชายเลย

แต่เอ... คำพูดของผมเมื่อครู่สงสัยจะไม่ผ่อนคลายแฮะ ถึงอย่างนั้น ยังไงลูกก็ต้องมีชื่อนะ จะตั้งก่อนคลอดมันจะเป็นอะไรไป ไม่เห็นต้องตะคอกเลย ผมถามอะไรผิดไปตรงไหนกัน?

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel