ตอนที่ 5 ฉินหวังเฟยกับการตามหาตัวท่านอ๋อง
ตอนที่ 5
ฉินหวังเฟยกับการตามหาตัวท่านอ๋อง
“จางมามา ท่านไม่น่าไปทูลเสด็จแม่ว่าข้าป่วยเลย จะทำให้เสด็จแม่เป็นห่วงอีกทั้งกังวลพระทัยเสียเปล่าๆ” นางเอ่ยบอกจางมามาที่รีบมาหานางทันทีที่กลับมาถึงจวน
“หม่อมฉันไม่กราบทูลคงไม่ได้เพคะ เพราะเรื่องเกี่ยวกับพระชายานั้นนับเป็นสิ่งที่องค์ไทเฮานั้นใส่พระทัยเป็นที่สุดในเวลานี้ หากหม่อมฉันปิดบังก็จะเป็นสิ่งผิดต่อองค์ไทเฮาเป็นอย่างยิ่ง”
จางมามาใช้ความจงรักภักดีมาเป็นที่กั้น นางใช้ไทเฮาทำให้นางไม่กล้าตำหนิ อีกทั้งยังใช้ไทเฮาบอกเป็นนัยๆต่อนางว่าทุกสิ่งทุกอย่างในจวนอ๋องทุกเรื่องเกี่ยวกับนางไม่ว่าเรื่องเล็กน้อยไปจนใหญ่โต ล้วนไม่อาจหลุดพ้นสายตาไทเฮาไปได้
“ข้าเพิ่งเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์ได้ไม่นาน หลายครั้งคงทำเรื่องน่าขบขันลงไปโดยไม่ทันได้ระวังตัว หวังว่าเสด็จแม่คงไม่ถือโทษข้า”
“เรื่องเหล่านั้นพระชายาอย่าได้กังวลพระทัยไปเลยเพคะ ไทเฮาทรงเป็นผู้มีน้ำพระทัยกว้างขว้าง เรื่องเล็กๆน้อยๆไฉนเลยพระองค์จะเก็บมาใส่พระทัยได้ ครั้งนี้เมื่อทรงรู้ว่าพระชายาป่วยยังทรงประทานสมุนไพรชั้นดีมาให้พระชายามากมายด้วยเพคะ”
เห็นได้ชัดเจนว่าจางมามาผู้นี้พยายามยัดเยียดความดีความใจกว้างของไทเฮาใส่หัวของนาง แน่นอนว่านางไม่มีความคิดขัดแย้งใดในเรื่องนี้อยู่แล้ว ไทเฮาเป็นแม่สามีของนาง
ไทเฮาใจกว้างแน่นอนว่าย่อมเป็นสิ่งที่ดีต่อนาง อย่างไรเสียความสัมพันธ์ระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้ก็ถือเป็นปัญหาแรกๆที่มักจะต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว นางโชคดีที่แม่สามีของนางนั้นอยู่ในวัง จึงไม่ต้องเจอแม่สามีทุกเช้าค่ำเช่นสตรีอื่น นางจึงถือได้ว่าโชคดีในเรื่องนี้อยู่
ย่อมไม่ผิดหากไทเฮาส่งผู้อื่นอย่างจางมามา มาเพื่อจับตาดูความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา ระหว่างนางและท่านอ๋อง ไม่ใช่นางไม่เข้าใจว่าที่แท้พระทัยจริงของไทเฮาทรงห่วงสิ่งใด
หลังจากที่ได้มีเวลาครุ่นคิดโดยไม่มีจางมามาอยู่ครึ่งค่อนวัน นางจึงได้บทสรุปว่าจะมีวิธีใดที่ดีไปกว่าให้จางมามาเห็นในสิ่งที่ไทเฮาต้องการเห็นมากที่สุดกันเล่า เพียงทำสิ่งที่ไทเฮาทรงปราถนาได้ก็ย่อมไม่มีเหตุผลใดให้จางมามาต้องอยู่ที่จวนอ๋องแห่งนี้อีกแล้ว
ใช่ว่าจะเป็นเช่นที่คิดที่หวังเอาไว้ง่ายๆเสียที่ใดกัน ใช่ว่านางคิดจะเล่นงิ้วแสดงละครเสียสักฉากสองฉากให้จางมามาเห็นจะเป็นเรื่องง่ายดายเช่นดั่งที่คิดเอาไว้
ที่ว่ายากไม่ใช่เรื่องแสดงหรือผู้เขียนบทละคร แต่เป็นตัวละครเอกอีกตัวที่ควรอยู่ร่วมแสดงด้วยต่างหากเล่าที่หาได้พบเจอตัวได้โดยง่ายไม่
ฉินอ๋องราวกับไม่ใช่คน พระองค์สามารถหายตัวไปได้โดยที่ไม่มีใครพบเห็นแม้กระทั่งองครักษ์คนสนิทของพระองค์
“ทูลพระชายา ท่านองค์ทรงโปรดทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมืองหลวงมาก ยามนี้คงเสด็จไปชื่นชมทิวทัศน์อยู่ที่ไหนสักแห่งพ่ะย่ะค่ะ”
“ท่านอ๋องเสด็จออกไปจากจวนพระองค์เดียวเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะมีอันตรายหรือไม่” นางเอ่ยขึ้น ทำทีว่าเป็นห่วงผู้เป็นสวามีเสียเหลือเกิน
“เรื่องนั้นพระชายาอย่างได้ทรงเป็นกังวลไปเลยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องนั้นวรยุทธ์สู้ส่งยากนักที่จะมีผู้ใดมาทำร้ายพระองค์ได้ อีกทั้งโดยปกติแล้วพระองค์ก็คงจะไปไม่ไกลนักคงอยู่ที่ถนนอี้เซียงเช่นเดิม”
“ได้ยินเจ้าเอ่ยมาเช่นนี้ข้าก็เบาใจแล้ว” นางเอ่ยทิ้งท้ายก่อนจะกลับมาที่ตำหนักของตนเพื่อเตรียมตัว
นางเตรียมตัวที่จะไปที่ถนนอี้เซียงตามที่อาเฟิงหลุดปากออกมาเมื่อครู่ โชคดีเข้าข้างนางที่วันนี้จางมามาดื่มชารสเลิศที่นางยื่นให้ไปไม่ใช่น้อยคงจะทำให้จางมามานั้นหลับลึกไปตลอดคืน จนไม่อาจจะมาจัดตาดูหรือมาขัดขวางนางได้
นางใช้เวลาเตรียมตัวไม่นานก็ออกจากจวนฉินอ๋องมาได้อย่างราบรื่น โดยการติดสินบนคนเฝ้าประตูจวนพร้อมกับได้คนนำทางมาด้วยอีกคนหนึ่ง
