ตอนที่ 4 เปิ่นหวางเชื่อว่าเจ้าสามารถจัดการได้2
ท่านอ๋องจากไปแล้ว เหลือทิ้งไว้เพียงแค่นางที่กำลังหมดหนทางเพราะยังคิดไม่ได้อีกทั้งยังไม่ทันคิด ยามนี้ท่ามกลางห้องหรูหราสวยงาม นางที่กำลังนั่งคิดผนวกกับคิดไม่ออกอยู่นี้จึงดูแล้วชวนให้น่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง
ทว่าดูน่าสงสารแล้วอย่างไรเล่า อย่างไรเสียเรื่องจางมามาก็แน่ชัดแล้วว่านางต้องหาวิธีจัดการเอง
คืนนี้นางข่มตาหลับลงอย่างกระวนกระวายใจเป็นที่สุด อาจเป็นเพราะยามจะนอนก่อนจะหลับตาลงก็ยังต้องเห็นจางมามาเป็นคนสุดท้าย จะไล่ให้ไปก็ไม่ได้เนื่องด้วยนางต้องเกรงใจองค์ไทเฮาผู้เป็นแม่สามีจึงต้องไว้หน้าจางมามาอยู่หลายส่วน ถือว่านางในยามนี้รู้สึกอึดอัดเป็นอย่างยิ่งนางคงต้องหาทางส่งจางมามากลับวังไปให้ได้โดยเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นก็ต้องทนขมขื่นเช่นนั้นไปอีกนานเท่าไหร่ก็ไม่อาจรู้
เช้าวันรุ่งขึ้น ทันทีที่สาวใช้คนสนิทของนางรายงานว่าจางมามานั้นเข้าวังไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสาง ในใจนางพลันเหมือนได้ยกภูเขาหินออกจากอกก็มิปาน
ยังไม่ทันที่นางจะได้ดีใจที่ว่าจางมามานั้นกลับวังไปแล้วและจะไม่ต้องกลับมาอีก คำพูดของสาวใช้ของนางก็ทำเอานางที่ได้ฟังนั้นรู้สึกหดหู่ขึ้นมาอีกครั้งทันที
“จางมามา ฝากทูลพระชายาว่าจะรีบกลับมาก่อนฟ้ามืดเพคะ”
“อ่า เป็นเช่นนี้นี่เอง” นางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ทั้งที่ในใจสุดจะกล่าวแต่ไม่อาจแสดงออกมาได้ทำได้เพียงเก็บกำเอาไว้เพียงในใจเพื่อสงวนท่าทีพระชายาฉินอ๋องเอาไว้
“หลายวันมานี้หม่อมฉันเห็นว่าจางมามานั้นเป็นคนช่างใส่ใจอย่างยิ่งเพคะ มีหลายเรื่องเกี่ยวกับเรื่องของพระชายาที่จางมามานั้นใส่ใจเป็นพิเศษ รู้หรือไม่เพคะตั้งแต่วันแรกที่จางมามามาอยู่ที่จวนอ๋องเรา ไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องน้อย เรื่องที่พระชายาชอบทำสิ่งใด ชอบเสวยสิ่งใด อีกทั้งในวันๆหนึ่งทรงทำอะไรบ้างทุกอย่างหม่อมฉันล้วนถูกสอบถามลงลึก”
“นางสอบถามมากมายถึงเพียงนี้ เจ้าก็ยอมบอกนางแต่โดยดีน่ะหรือ” นางถามขึ้นด้วยเสียงที่สั่นเทาเล็กน้อย
“เจ้าค่ะ จางมามาถามสิ่งใดหม่อมฉันล้วนตอบข้อสงสัยของนางจนหมด”
ดูเอาเถิดสาวใช้คนสนิทของนางผู้นี้ไม่รู้ความเลยหรือว่าตัวเองถูกจางมามาหลอกถามข้อมูลไปเสียมากมายขนาดไหนกัน ตอนนี้ยังมีหน้ามาพูดจาชมเฉยคนต่อหน้านางอีก
หากเป็นไปตามที่นางคิด วันนี้ที่จางมามารีบร้อนเข้าวังไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสางคงไม่พ้นเรื่องรีบไปเข้าเฝ้าไทเฮาเพื่อกราบทูลเกี่ยวกับนาง
“เจ้าตอบไปทุกข้อตามที่นางถามเลยใช่ไหม”
“เพคะ ทุกข้อไม่มีตกหล่นอีกทั้งมีเพิ่มเติมให้ด้วยเพคะ” ฝูอินตอบอย่างมั่นใจเป็นอย่างยิ่ง นางคิดว่ายิ่งนางบอกไปมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นการแสดงให้ผู้อื่นรู้ว่าตัวนางนั้นเป็นผู้ที่รู้เรื่องเกี่ยวกับพระชายามากที่สุด ไม่มีผู้ใดที่รู้ใจพระชายาเท่านางอีกแล้ว
เซี่ยจูจูจ้องมองใบหน้าอันไร้เดียงสาของสาวใช้คนสนิทของตนอย่างไม่รู้ว่ายามนี้นางควรตำหนิสาวใช้ผู้ใสซื่อของนางอย่างไร
สุดท้ายแล้วนางก็เอ่ยต่อว่าสาวใช้คนนี้ของตนไม่ลง จึงได้แต่เอ่ยถามออกไป
“ฝูอิน จางมามาเป็นคนที่ไทเฮาทรงส่งมาเจ้ารู้ใช่ไหม”
“หม่อมฉันรู้เพคะ”
“รู้แล้วก็ยังบอกเรื่องของข้าให้นางทราบทั้งหมดอย่างนั้นหรือ”
“หม่อมฉันทำถูกต้องแล้วใช่ไหมเพคะ หม่อมฉันรู้ว่าไทเฮาทรงต้องอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับพระชายาแน่ๆ พระชายาวางใจเถิดเพคะทุกสิ่งที่หม่อมฉันบอกจางมามาไปจะต้องเป็นสิ่งที่ทำให้ไทเฮาทรงชื่นชอบและชื่นชมพระชายาอย่างแน่นอน” ฝูอินกล่าวออกมาอย่างมั่นใจอีกครั้ง
นางนั้นมั่นใจว่าตนนั้นทำหน้าที่ของสาวใช้คนสนิทของพระชายาได้ดีเป็นที่สุด และในยามนี้พระชายาที่กำลังมองนางด้วยแววตาที่เหมือนมีความซาบซึ้งใจแฝงอยู่นั้นยิ่งทำให้ฝูอินนั้นแสนจะภาคภูมิใจในสิ่งที่ตนได้กระทำลงไปเป็นอย่างมาก
ด้านเซี่ยจูจูนั้นนั่งลงบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง
ในที่สุดนางก็ได้รับรู้ความหวังดีที่สาวใช้ของนางมีต่อนางแล้ว แม้ความหวังดีนี้จะดูผิดที่ผิดทางไปหน่อยแต่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นความผิดพลาดที่ไม่ได้ตั้งใจทำไปโดยไม่รู้อย่างแท้จริง เช่นนี้แล้วจะให้นางถือโทษโกรธไปได้อย่างไร
ต่อจากนี้หลังจากจางมามากลับมา นางคงต้องรีบกำจัดจางมามาให้เด็ดขาดไม่อาจรั้งรอสิ่งใดอีก นางไม่เชื่อว่าจะไม่มีวิธีใดเลยที่จะทำให้จางมามานั้นกลับวังไปอย่างถาวรและรวดเร็วที่สุดไม่ได้
