บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 ซึม เศร้า เหงา โสด

Cher talk :

อย่างที่รู้อยู่แล้ว ว่าหลังจากที่ฉันไลฟ์ฉากบนเตียงของไอ้ธันวากับผู้หญิงคนนั้น ฉันจะต้องเจอกับอะไรบ้าง แน่นอนว่าฉันโดน พรบ.คอมพิวเตอร์ ต้องวิ่งวุ่นกันยกใหญ่ ส่วนที่โรงพยาบาล...ฉันก็โดนสวดยับ แถมยังโดยทัณฑ์บนเอาไว้ด้วย เพราะสิ่งที่ฉันทำลงไปมันเสียภาพลักษณ์ของหมอและโรงพยาบาล

เรียกได้ว่าการเกิดมาในปีที่ยี่สิบหกของฉันที่มันช่างโดดเด่นเสียเหลือเกิน ฉันก็แค่โสดตอนที่อายุเข้าใกล้เลขสาม และคิดว่าอีกนานเลยล่ะกว่าที่จะหาแฟนได้ ไม่สิ...ต้องบอกว่าเผลอๆ ฉันอาจจะไม่มีแฟนอีกเลยก็เป็นไปได้

“ยืนเหม่ออะไรของเธอน่ะเฌอร์” เสียงลลิลเอ่ยขึ้น ก่อนที่นางในจะเดินเข้ามายืนข้างๆ ฉัน

“แค่คิดอะไรไปเรื่อย วันนี้เธอขึ้นเวรเหรอลิล?”

“เปล่าหรอก ลิปดาขึ้นเวรน่ะ นี่ฉันกำลังจะกลับแล้ว” ลลิลกับลิปดา สองคนนี้เป็นเพื่อนสมัยเรียนของฉัน และพวกเขาก็คบกันมานาน โดยที่แทบไม่เคยมีปัญหากันเลย เพราะลิปดาน่ะ...ถึงจะเย็นชาแล้วก็กวนประสาทในบางครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยทำตัวเจ้าชู้หรือนอกใจรวมถึงนอกกายแฟนเลยสักครั้ง

“ลิล...ถามอะไรหน่อยสิ”

“ว่ามาสิ”

“เธอว่าระหว่างลิปดากับผู้ชายบนโลกใบนี้...แบบไหนที่ประหลาดกว่ากัน?”

“ถามอะไรของเธอเนี่ยเฌอร์ ฉันไม่เห็นจะเข้าใจเลย” ลลิล หญิงสาวผู้เพียบพร้อมยกยิ้มมองหน้าฉัน

“ก็...ลิปดาน่ะ รักเธอมาก ไม่เจ้าชู้ ทำงานเก่ง มีภาวะความเป็นผู้นำ ผิดกับผู้ชายคนอื่นที่วันๆ ไม่ทำอะไรนอกจากเที่ยวเล่นแล้วก็เมา เจ้าชู้ เอาไปทั่ว ทั้งๆ ที่มีแฟนอยู่แล้ว” ตอนที่ฉันพูด ภาพของไอ้เวรธันวามันเด่นชัดขึ้นมาในหัว

“เฌอร์ เธอพูดเหมือนกับว่าผู้ชายบนโลกนี้มีแต่ลิปดากับธันวาอย่างนั้นแหละ อย่าเหมารวมสิ...เธอเพิ่งมีแฟนแค่คนเดียวเองนะ ยังมีผู้ชายดีๆ อีกเยอะแยะบนโลกใบนี้ เพียงแต่เธอยังไม่เจอก็เท่านั้น”

“ฉันว่าการมีความรักมันน่ารำคาญ ตอนที่มันดี ฉันแทบไม่มีเวลาจะสนใจมันด้วยซ้ำ แต่ตอนที่มันเลว...ฉันกลับมีเวลาว่างมากพอที่จะมานั่งเสียใจ” ฉันอาจจะไม่ได้ร้องไห้ออกมาแล้ว แต่ฉันยังเศร้าอยู่ พอนึกว่าตอนนี้ฉันโสด ไม่มีใครให้นึกถึงหรือโทรหา ฉันก็รู้สึกโหวงเหวงแล้วก็เหงาขึ้นมา

“อย่างนี้แหละ...เรามักจะเห็นคุณค่าของมันก็เมื่อตอนที่เสียมันไปแล้ว แต่กับธันวาน่ะ...ฉันว่าเธอปล่อยเขาไปนั่นแหละดีแล้ว แล้วก็ฉันอยากให้เธอเข้าใจไว้อย่างนึง ความรักที่ดีน่ะ...เราจะไม่ต้องพยายามทำอะไรเลย เธอจะรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจ ไม่ต้องเหนื่อยหรือวิ่งตาม มันจะเข้ามาหาเราเอง...เธอมีหน้าที่แค่นั่งรอไปแบบสวยๆ นะเฌอร์” ดูเหมือนว่าลลิลกำลังพยายามให้กำลังใจฉันอยู่

“ก็ขอให้มันเป็นแบบนั้นแล้วกัน” ฉันแสร้งทำเป็นยิ้ม เพื่อให้ลลิลรู้สึกว่าช่วยอะไรฉันได้บ้าง

Cher end.

พอถึงเวลาเลิกงาน คุณหมอคนสวยก็เตรียมเก็บของลงกระเป๋า คว้าแป้งพับมาแตะเบาๆ เพื่อลบความมันบนใบหน้า ก่อนที่จะเติมลิปสติกให้เรียวปากรูปสวยนั้นชุ่มฉ่ำขึ้นมา

“หมอเฌอร์ เลิกงานแล้วไปไหนต่อคะ?” เสียงของพยาบาลนางหนึ่งเอ่ยถาม

“เฌอร์ว่าจะไปซื้อผลไม้ที่ซูเปอร์แล้วค่อยเข้าบ้านน่ะค่ะ” คุณหมอเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้ม

“แสดงว่าไม่ได้มีนัดที่ไหนใช่ไหมคะ? คืนนี้แก้วกับพวกสาวๆ จะไปดื่มกัน คุณหมอสนใจมาร่วมวงกับพวกเราไหมล่ะคะ?” นางพยาบาลนามว่าแก้วที่ทำงานกับหมอเฌอร์เป็นประจำ รู้ดีว่าเวลานี้คุณหมอกำลังอยู่ภาวะเยียวยาตัวเอง เธอเลยเอ่ยปากชวน ไม่ใช่เพื่อตามมารยาท แต่เป็นเพราะอยากจะช่วยให้คุณหมอพ้นทุกข์ไวๆ

“อืม...” หมอเฌอร์นิ่งคิด

“ไปเถอะนะคะ รับรองว่าสนุกแน่ๆ วันนี้พวกเราจะไปผับในเมืองกัน...น่าจะชื่อ Irene หรืออะไรสักอย่างนี่แหละค่ะ”

“งั้นเอาไว้เฌอร์จะตามไปก็แล้วกันนะคะ”

“โอเคค่ะ แล้วตามมานะคะคุณหมอ...” ว่าแล้วนางพยาบาลก็เดินฉีกยิ้มออกไป

ณ ซูเปอร์มาร์เก็ตในห้องสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ขณะที่หมอเฌอร์กำลังเลือกซื้อผลไม้เข้าบ้าน สายตาของเธอก็เอาแต่จับจ้องไปยังคู่รักที่เดิมเกี่ยวแขนกันอย่างมีความสุข

ในใจของเธอกำกลับนึกเสียดายขึ้นมา...ที่อยู่ๆ เธอก็ดันมาโสด แต่อีกใจก็โต้แย้งขึ้นมาอีกว่า...ถ้าผู้ชายมันห่วย ความโสดก็คือของขวัญชิ้นใหญ่

“บ้าไปแล้ว! ฉันคิดอะไรอยู่เนี่ย?!” หญิงสาวเอ่ยกับตัวเอง ส่ายหน้าไปมาเพื่อไล่ความคิดออกจากหัวสมอง และในตอนนั้น เธอก็คิดได้ว่า...เธอจะต้องไปดื่มเพื่อลบล้างความรู้สึกทุเรศตัวเองออกไป

“ผับชื่ออะไรนะ...?” หมอเฌอร์กลอกตานึก ขณะที่ส่งไลน์ไปหาแก้ว ถามว่าคืนนี้พวกเธอจะไปผับที่ชื่ออะไร

จนกระทั่งหมอเฌอร์กลับมาถึงคอนโดของตัวเอง จัดเก็บผลไม้เข้าตู้เย็นแล้วอาบน้ำพร้อมแต่งหน้าแต่งตารอ แต่แก้วก็ยังไม่ตอบไลน์มาสักที

“แก้ว...ทำไมยังไม่ตอบอีกเนี่ย? จะให้ฉันแต่งหน้าเก้อหรือไง?” หมอเฌอร์บ่นพึมพำขณะที่ยกสายโทรหาแก้ว ทว่า...ปลายสายก็ยังไม่ยอมรับ

“หรือในผับจะเสียงดังวะ? เลยไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์” หญิงสาวคุยกับตัวเอง ก่อนที่จะคว้ากระเป๋าใบแพง เดินออกจากห้องคอนโด เพื่อไปที่ผับที่จำชื่อผิดๆ ถูกๆ

“ไปผับ Ironic ค่ะ ตรงทองหล่อ” หมอเฌอร์ที่พร้อมเมาเต็มที่เอ่ยกับคนขับแท็กซี่ เธอไม่ขับรถ เพราะคิดเอาไว้แล้วว่ายังไงคืนนี้เธอจะเมาแบบทิ้งตัว!

ทว่า...เธออาจจะจำชื่อผับผิดไปเพียงเล็กน้อย เพราะผับที่นางพยาบาลแก้วเอ่ยถึงนั้นคือผับที่ชื่อ Irene ไม่ใช่ Ironic อย่างที่เธอเข้าใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel