บทย่อ
เขาเป็นฝ่ายที่สนใจเธอก่อน จู่โจมเข้าหาเธอก่อน เขาทำให้เธอเสพติด เข้ามาทำให้เธอรัก แต่แล้วเขากลับหายไป ไร้การติดต่อใดๆ เขาทำให้เธอรอ รออย่างไม่รู้ว่าการรอนี้จะต้องสิ้นสุดที่ตรงไหน ถ้าไม่เป็นเพราะเธอไปจับได้ว่า แฟน ไปแอบมีกิ๊ก คุณหมอสาวสวยก็คงไม่ออกไปดื่มจนเมา ที่ผับแห่งนั้น...ใครต่อใครก็ต่างให้ความสนใจเธอ เพราะเธอนั้นสวย เย้ายวน จนไม่มีใครกล้าพอที่จะละสายตาไปจากเธอ ชายหนุ่มมากมายต่างดาหน้าเข้ามาหาเธอ ขอแลกเปลี่ยนเบอร์กับเธอ หนึ่งในนั้นก็คือเขา ผู้ชายเจ้าชู้ที่เธอแสนเกลียดชัง! แต่มีหรือที่เธอจะให้...เธอไม่ใช่คนง่ายๆ ไม่ใช่ใครก็ได้...ถ้าไม่ใช่เพราะความรำคาญ นาวิน "เอาเบอร์เธอมา ก่อนที่ฉันจะพังร้านนี้" เฌอร์ "ผู้ชายพวกนี้เป็นบ้าอะไรกันไปหมด! อยากได้เบอร์ฉันนักก็เอาไป!" แต่ใครเล่าจะคาดคิด...ว่าเรื่องนี้จะเริ่มต้นที่ผับแต่กลับไปจบที่บนเตียง? และมันคือจุดเริ่มต้นของความรักไม่รู้จบที่เกิดจากคนสองคนที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง
บทที่ 1 คาหนังคาเขา
“ก่อนที่ฉันจะบอกอะไร ก่อนที่พวกคุณจะรู้ว่าฉันเป็นใคร ฉันอยากจะพาพวกคุณไปดูอะไรสักอย่างเป็นเพื่อนฉันสักหน่อย”
เสียงสั่นเครือของหญิงสาวเอ่ยขึ้นขณะที่เธอกำลังไลฟ์ผ่านสื่อโซเชียลที่มีผู้คนติดตามอยู่หลายพัน ก่อนหน้านี้หญิงสาวไม่เคยไลฟ์หรือทำอะไรที่เกินไปกว่าการลงภาพถ่ายในชีวิตประจำวัน แต่วันนี้...เห็นทีเธอต้องผันตัวจากว่าที่จิตแพทย์สาวมาเป็นเน็ตไอดอลสักวัน
ร่างสะโอดสะองเดินมาหยุดที่หน้าประตูห้องชุดของคอนโดมิเนี่ยมหรู เธอจ่อกล้องมือถือไปยังเลขห้อง ขณะที่ชาวเน็ตทั้งหลายกำลังแห่กันมาดูถ่ายทอดสดอันน่าฉงนใจนี้
“ข้างในห้องนั้น...ฉันรู้ว่ามันมีอะไร หึ! ก็แฟนของฉันไงล่ะ...ตอนนี้มันคงกำลังนัวเนียอยู่กับผู้หญิงที่มันหิ้วมาจากไหนสักที่!”
สิ้นคำบอกเล่านั้น หญิงสาวก็ใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไปในห้องทันที เธอเม้มปากสนิทแน่น...ความโกรธทวีคูณขึ้นเป็นเท่าตัว เมื่อเห็นว่าที่พื้นห้องนั้นมีเสื้อผ้าของชายหญิงโปรยไปตามทาง...และชิ้นสุดท้ายที่ตกอยู่หน้าประตูห้องนอนก็คือชั้นในลูกไม้สีแดงของผู้หญิง
“ภาพต่อไปที่พวกคุณจะได้เห็น ฉันรับรองว่ามันยิ่งกว่าอนาจาร...และฉันต้องถูกดำเนินคดีข้อหาเผยแพร่สิ่งลามกแน่...แต่ฉันไม่สน! ฉันแค่อยากให้พวกคุณหาหูฟังมาใส่ หรือไม่ก็อยู่ให้ห่างจากเด็กๆก็พอ”
พรึ่บ!
ทันทีที่หญิงสาวเปิดประตูเข้าไปในห้องนอน ยอดวิวในไลฟ์ก็พุ่งพรวดจากหลักพันกลายเป็นหลักหมื่น และชาวเน็ตนับหมื่นนั้นก็ได้เห็นเป็นตาเดียวกัน...
สองร่างเปลือยเปล่าที่กำลังร่วมรัก เสียงครางกระเส่าของคนทั้งสองดังไปทั่วห้อง พวกเขาไม่รู้ตัวแม้สักนิดว่าเวลานี้กำลังกลายเป็นคนดังที่เล่นหนังสดให้คนทั่วประเทศได้ดู...
“อุบาทว์ใช่ไหมล่ะ?” เสียงสั่นเครือของหญิงสาวเจ้าของไลฟ์นั้นเอ่ยกับคนดู และเพราะเธอเปล่งเสียง...จึงทำให้สองคนที่กำลังร่วมรักกันหันกลับมามอง
“กรี๊ดดดดด!” เสียงกรีดร้องของร่างบางเปลือยเปล่าดังสนั่น ก่อนที่นางจะดึงผ้าห่มบดบังกาย
“เฌอร์!!!” ส่วนนี่คือเสียงของชายหนุ่มผู้สำส่อนเอาไม่เลือก แฟนหนุ่มของ...เฌอร์ หรือหมอเฌอร์ ว่าที่จิตแพทย์สาว
“อายเหรอ? เธออายทำไม?! ทีนอนกับแฟนคนอื่นยังไม่คิดจะอายเลย! ตอนนี้คนทั้งทั้งโลกเขารู้จักเธอหมดแล้วล่ะ! แนะนำตัวกับพวกเขาหน่อยสิ!” เฌอร์จ่อกล้องมือถือไปที่ใบหน้าตื่นตระหนกของหญิงสาวที่อยู่บนเตียง
“อย่าถ่ายนะ! นี่มันอะไรกันอ่ะ?! ผู้หญิงคนนี้มาได้ยังไง ไหนว่าคุณเลิกกับมันไปแล้วไงธันวา?!”
“เฌอร์! ผมขอล่ะ...หยุดถ่ายก่อนเถอะนะ เรามาคุยกันดีๆเถอะนะ...” ธันวา แฟนหนุ่มที่กำลังจะกลายเป็นอดีตเอ่ยด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“เหอะ! คุยกันดีๆเหรอ? คิดว่าที่ฉันมานี่เพราะต้องการมาคุยดีๆกับนายหรือไง! ฉันมาเพราะอยากจะเห็นกับตา อยากจะได้ยินกับหู ว่านายมันเลวระยำแค่ไหน! ไม่ใช่แค่นอกกาย! แต่นายนอกใจฉันไปคบกับมันแบบเปิดเผย...ทั้งๆที่มีฉันเป็นแฟน! นายโดนจับได้คาหนังคาเขา พร้อมกับมีคนทั้งประเทศเป็นพยาน! คราวนี้ก็เลิกมาปั้นน้ำเป็นตัว เลิกตอแหลกับฉันว่ามันไม่มีอะไร แล้วก็เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดสักที!” เฌอร์ตะโกนลั่นห้อง น้ำเสียงที่เคยสั่นเครือแปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว สายตาดุดันจ้องเขาไม่วาง และเธอไม่เสียน้ำตาให้เขาแม้เพียงหยดเดียว
“หยุดถ่ายเถอะเฌอร์! ผมขอล่ะ...!” ธันวายังคงเว้าวอน
“นังบ้า! หยุดถ่ายเดี๋ยวนี้นะ! ไม่งั้นฉันฟ้องแกแน่!!!”
“ทุกคน...ผู้หญิงล่อนจ้อนคนนี้ชื่อนีน่า...ส่วนไอ้สารเลวนี่ชื่อธันวา...จำพวกเขาไว้นะ...อย่าได้เฉียดเข้าใกล้เด็ดขาดถ้าไม่อยากติดเชื้อสำส่อน! ฉันคงต้องจบไลฟ์ไว้เพียงเท่านี้ ขอบคุณที่ติดตาม...” เฌอร์ยอมจบไลฟ์ แต่ไม่ใช่เพราะเธอกลัวการขู่ฟ้องนั้น หากมันเป็นเพราะเธอมีสิ่งที่อยากให้นีน่ารู้เอาไว้ก็เท่านั้น
“จะฟ้องฉันเหรอ? เอาเลย...แต่อย่าไปจ้างทนายจากบริษัทพ่อฉันล่ะ เพราะนอกจากเธอจะไม่ชนะความฉันแล้ว...เธอยังจะโดนฉันฟ้องกลับ ข้อหาส่งข้อความมาก่อกวนและขู่ทำร้ายอีกด้วย!” เฌอร์ไม่ใช่คนโง่ แถมยังมีพ่อเป็นเจ้าของบริษัททนาย ไม่มีทางที่นีน่าจะเล่นงานเธอได้ง่ายๆ
“พอเถอะเฌอร์! ผมยอมแล้ว...ผมรับผิดเอง...งั้นเราก็เลิกกันเลย...” ธันวาเพียงไม่อยากจะรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เพราะเขามันยิ่งกว่าคนเห็นแก่ตัว
“เลิกเหรอ?! คำนั้นฉันต้องเป็นคนพูดไม่ใช่นาย! แล้วฉันก็จะไม่เลิกกับนายวันนี้แน่! นายจะต้องโดนโซเชี่ยลกระหน่ำภายใต้แฟนสุดระยำของฉันก่อน! เมื่อไหร่ที่ฉันพอใจ...เมื่อนั้นฉันจะบอกเลิกนายด้วยตัวฉันเอง!”
“แกมันโรคจิต! ยัยบ้า!” นีน่าไม่เคยพบไม่เคยเห็นผู้หญิงอย่างเฌอร์มาก่อน
“ฉันไม่ใช่โรคจิต...แต่ฉันเป็นหมอรักษาโรคจิต...ไว้ถ้าเธออยากรักษาโรคขาดผู้ชายไม่ได้ ฉันจะแนะนำยาดีๆให้เพื่อเอาบุญก็แล้วกัน!” เฌอร์ตอกกลับทันควัน
“กรี๊ดดดดด! อีบ้า! อีเฌอร์!”
“นีน่า!!! พอ!!! หยุดสักที! คุณกลับไปก่อนไป...!” ธันวาหันไปตวาดเสียงดังไล่คู่นอนของตัวเอง
“ธันวา?!”
“กลับไป!” พอเขาไล่อีกครั้ง...นีนาก็ลุกจากเตียงเดินกระทืบเท้าไปหยุดจ้องหน้าเฌอร์ด้วยสายตาแค้นเคือง
“เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่...!” เธอเอ่ยกับเฌอร์ก่อนที่จะกระแทกไหล่อย่างแรงแล้วเดินออกไปจากห้องนอน
“ยินดีด้วยนะ...ในที่สุดนายก็ได้ดังสมใจสักที! ต่อไปก็ไม่ต้องไปวิ่งเร่แคสติ้งละครแล้ว เดี๋ยวนายคงมีอีเวนท์ให้ออกอีกเยอะ นับเงินไม่ทันแน่ธันวา” เฌอร์ประชดประชัน เพราะธันวากำลังไต่เต้าพาตัวเองจากนักแสดงโนเนมไปเป็นดารานำแถวหน้า
“ชีวิตผมจบเห่แล้วเฌอร์...คุณพังทุกอย่าง...ผมคงไปต่อไม่ได้อีกแล้ว” ธันวายกมือขึ้นลูบหน้าตัวเอง เขาจบเห่ตามที่พูดจริงๆ
“นายทำตัวเอง! โทษฉันไม่ได้! นายนอกใจฉันเอง...ทั้งๆที่ฉันมีแค่นาย แต่พอนึกๆไปฉันมันก็โง่จริงๆนั่นแหละ ตลอดสองปีที่คบกันมา มีคนมาบอกฉันแทบทุกวันว่านายมันเลวยังไง...แต่ฉันไม่เคยเชื่อ เพราะฉันคิดว่านายรักฉันและจะซื่อสัตย์กับฉันเหมือนที่ฉันทำ แต่ที่ไหนได้...นายต้มฉันจนเปื่อยมาตลอดสองปี...นอนกับผู้หญิงไปทั่วทั้งๆที่มีฉันเป็นแฟน!”
“แฟนเหรอ? ที่เราเป็นอยู่มันเรียกว่าแฟนเหรอเฌอร์? เราคบกันสองปี...แต่ไม่เคยได้เจอ ไม่เคยได้ไปเที่ยวหรือแม้แต่จะได้กินข้าวด้วยกันสักมื้อก็ไม่เคย คุณไม่มีเวลาให้ผมเลย...โทรหากันแค่วันครั้งคุณยังทำไม่ได้ แบบนี้เหรอที่เรียกว่าแฟน คุณสนใจอยู่แต่กับผู้ป่วย ขนาดเรียนจบหมอมาแล้วคุณก็ยังเลือกที่จะต่อจิตเวช! คุณทำเหมือนผมไม่มีตัวตน! คุณไม่เคยแคร์ด้วยซ้ำว่าผมเหงาแค่ไหน แล้วผมผิดมากหรือไงที่นอนกับคนอื่น...เพราะกับคุณ...อย่าว่าแต่จับมือเลยเฌอร์ แม้แต่เงาผมก็ไม่ได้เห็น คุณรู้หรือเปล่าว่าวันนี้เป็นครั้งแรกที่เราได้เจอกันในรอบหนึ่งเดือน...” ธันวาระบายความในใจ พยายามหาข้ออ้างเพื่อลดหย่อนความผิดของตัวเอง
“หึ! นายกำลังจะบอกว่ามันเป็นความผิดของฉันสินะ...การที่นายไปมีคนอื่นเนี่ย? เหลือเชื่อเลยธันวา...ฉันหมดคำพูดกับนายแล้ว...เอาเป็นว่า...เราจบกันแค่นี้แล้ว! จำใส่สมองงี่เง่าของนายไว้ด้วย ว่าฉันเป็นคนบอกเลิก! ไม่ใช่นายไอ้สารเลวสันดานหมา!”
“คุณเคยรักผมจริงๆบ้างหรือเปล่าเฌอร์?” สิ้นคำถามนั้นน้ำตาก็ไหลลงจากดวงตาคู่เศร้าหมองของธันวา เขามีคำถามนี้ติดอยู่ในหัวมาตลอด แต่ไม่เคยคิดจะถาม
“...” ขณะที่เฌอร์นิ่งไป
“ขนาดคุณจับได้ว่าผมนอกใจ คุณทำเหมือนว่าคุณเจ็บมาก แต่ทำไม...ผมกลับรู้สึกว่าคุณแค่เสียหน้า คุณแค่รับไม่ได้ที่ถูกผมหักหลัง...คุณไม่ได้เสียใจจริงๆหรอก ไม่มีน้ำตาด้วยซ้ำ และผมก็ได้รู้ว่าที่จริงคุณไม่ได้รักผมเลย คุณมีผมไว้แค่เพราะอยากจะทำให้ตัวรู้สึกว่ามีแฟนก็เท่านั้น...” เวลานี้ดูเหมือนว่าธันวาจะเสียใจมากกว่าคนที่ถูกหักหลังอย่างเฌอร์ด้วยซ้ำ
“ฉันต้องร้องไห้ทุรนทุราย อ้อนวอนขอร้องนายหรือไง นายถึงจะเชื่อว่าฉันเสียใจ...อย่าหวังเลย...ฉันไม่มีทางเสียน้ำตาให้ผู้ชายห่วยๆอย่างนายหรอก!” เฌอร์เพียงปลายสายตามองธันวาขณะที่ตอบคำถามนั้น ก่อนที่เธอจะเดินออกมาจากห้องช้าๆ เหมือนคนไร้เรี่ยวแรง ผิดกับตอนที่เดินเข้ามาราวกับเป็นคนละคน...

