9
“หมดห่วงก็ดีแล้ว แต่ไอ้ที่คิดจะหนีเนี่ยคิดเป็นอื่นไม่ได้เลยจริง ๆ ...แต่ก็ธรรมดานะ ใช่ว่าคนเราจะกล้าหาญไปเสียทุกคนเสียเมื่อไหร่ เธอไม่แปลกหรอกฉันเข้าใจ” ชายหนุ่มทำเป็นมองด้วยสายตาแสดงความเห็นใจจนเกินเหตุ
“ฮึ ! หญ้าก็พูดไปงั้นแหละไม่ได้อยากไปสักหน่อยอยู่ทำงานที่นี่ดีกว่ากรุงเทพฯตั้งเยอะ” หญิงสาวสูดลมหายใจยืดอกเชิดหน้าขึ้นอย่างคนกล้าหาญ
“เออ...มันต้องอย่างนี้สิวะ” มือใหญ่เอื้อมไปจับศีรษะเล็กโยกเบา ๆ อย่างถูกใจที่เห็นแรงฮึดในแววตา...วะ...หวาน...ชายหนุ่มสะบัดศีรษะสองสามครั้งไล่ความคิดนอกลู่นอกทางก่อนจะผลุนผลันลุกขึ้นบอกว่าเหนื่อยจะพักผ่อน
ถึงแม้จะงุนงงกับอาการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน แต่สาวน้อยไม่ได้คิดจะหาเหตุผลหล่อนเก็บถ้วยจานไปล้างขณะที่เจ้านายหนุ่มเข้าไปแปรงฟันจัดการธุระส่วนตัว กว่าหล่อนจะจัดการทุกอย่างเรียบร้อยบ้านก็เงียบเชียบคนที่บอกว่าง่วงก็คงยังไม่ได้นอนเพราะหล่อนเห็นไฟในห้องของเขายังเปิดสว่างโร่ ส่วนหล่อนเองก็เถอะ ราตรีนี้คงอีกยาวนานกว่าจะข่มตาให้หลับลงได้......
เรือนร่างเล็กนอนขดตัวภายใต้ผ้านวมผืนหนาท้องฟ้าสว่างโร่ แต่อากาศภายนอกก็ยังเย็นเฉียบแต่สำหรับกอหญ้าในเวลานี้ช่างแสนสุขหากไม่ถูกปลุกด้วยเสียงคนคุยกันที่นอกห้อง
“เฮ้ย ! ตาย ๆ ๆ สายแล้วนี่หว่า” กอหญ้าลืมตาตื่นได้ก็กระวีกระวาดลุกขึ้นเก็บที่หลับที่นอนเริ่มงานวันแรกก็น่าประทับใจแท้ ๆ นะไอ้หญ้า เพราะเมื่อคืนมัวแต่คิดโน่นนี่จนตีสี่ถึงได้ล้มตัวลงนอน เช้านี้จึงได้ทำท่าจะดับอนาถเช่นนี้
หญิงสาวรีบร้อนเปิดประตูก้าวออกมาจากห้องก็แทบผงะกับภาพที่เห็น เด็กหนุ่มคนหนึ่งกอดแข้งกอดขาน้ำตานองหน้าอยู่แทบเท้านายภูผาที่ยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างไม่สบอารมณ์
“เอ่อ.....แฮร่!....ตื่นสายไปหน่อย” หญิงสาวรู้สึกคันตัวยุบยิบเกานั่นเกานี่ทำตัวไม่ถูกจะผลุบเข้าห้องตามเดิมก็ไม่เหมาะ หรือจะเดินผ่านไป..เอ๊ะยังไงดีหว่า...
“ไหนนายบอกว่าไม่ชอบผู้หญิงไง” กระเจียวหันมองกอหญ้าตาเขียวปั๊ด…..เจ้าหล่อนนี่เองที่บังอาจมาแย่งงานอันแสนสบายจากกะเทยควายอย่างกระเจียว
“ไอ้กระเจียว.....เดี๋ยวโดนจนได้พูดไม่รู้เรื่องนะมึง” คนเป็นนายปรามอย่างไม่จริงจังนักด้วยรู้นิสัยกันดีเด็กหนุ่มหัวใจสาวไม่ได้มีพิษมีภัยนอกจากเล่นใหญ่ไปหน่อย
“เฮอะ.....ไปก็ได้ แล้วอย่ามาง้อแล้วกัน”
หนุ่มน้อยลุกขึ้นทำสะบัดสะบิ้งก่อนจะเดินจากไปอย่างไม่พอใจ ยังไม่วายปรายตาอาฆาตมาทางกอหญ้าอีกแน่ะ.....
“วอนโดนเตะนักนะมึง” ภูผาว่าอย่างอ่อนใจ เพราะเขาใจดีกับกระเจียวแต่แรกมันถึงได้ไม่ค่อยจะกลัวเกรงเหมือนคนอื่น ๆ
“เอ่อ...หญ้ามาแย่งงานกระเจียวเหรอคะ” รูปการณ์เดาได้ไม่ยาก
“ฉันจัดคนตามความเหมาะสม เธอก็เหมือนกันถ้าไม่ได้เรื่องก็ไปเก็บขี้ช้าง” เพราะความหงุดหงิดคนตรงหน้าจึงโดนไปเต็ม ๆ ก่อนที่เขาจะผละไปอาบน้ำ
กอหญ้ารีบเข้าครัวเร่งมือจัดการอาหารเช้าอย่างว่องไว ขืนชักช้าได้ไปดมขี้ช้างแหง ๆ แต่ระหว่างที่มือก็ทำไปแต่ความคิดนี่สิมันหยุดไม่ได้เลย...ชิ ! อะไรของเขาวะ...นี่ ๆ ๆอย่าบอกนะว่านายภูผาชอบไม้ป่าเดียวกัน ไม่นะไม่น่าจะใช่....อืม...สงสัยจะเมาแล้วเผลอไปมีอะไรกับกระเจียวแน่ ๆ เลยไม่อย่างนั้นแม่นางปากแดงจะกล้าทำเป็นกระบึงกระบอนกับเจ้านายเหรอ...จินตนาการหล่อนชักจะล้ำขึ้นเรื่อย ๆ
“กอหญ้า !”
“ขะ...คะ” หญิงสาวสะดุ้งโหยงขณะกำลังทอดไส้กรอก หล่อนเผลอจินตนาการภาพอันน่าขนลุกระหว่างนายภูผากับกระเจียว...บรื๋ออออ....
“ใจลอยไปถึงไหน เดี๋ยวก็ไหม้หมดหรอก”
“สะ...เสร็จแล้วค่ะ” หญิงสาวรีบปิดแก๊สโชคดีที่ยังไม่ไหม้แต่ด้วยความตกใจทำให้จานหลุดมือ
“กอหญ้า ตั้งสติหน่อย” ภูผาเข้าใจว่าเจ้าหล่อนยังเศร้าเรื่องพ่อไม่หาย
“นายไปนั่งรอที่โต๊ะเลยจ้ะ เดี๋ยวหญ้าเอาไปเสิร์ฟถึงที่” หญิงสาวพยายามบอกให้เขาออกไปห่าง ๆ หล่อนไม่กล้ามองหน้าเขาหรอก ถ้ารู้ว่าหล่อนคิดอะไรคงได้โดนหักคอตายแน่เลย
“เป็นอะไรถึงได้ลุกลี้ลุกลนชอบกล” สายตาคมปลาบจ้องจับผิดเพราะเจ้าหล่อนดูมีพิรุธแปลก ๆ หลบหน้าหลบตาใบหน้าแดงแปร๊ด
“เปล๊า !!....” รีบปฏิเสธเสียงสูงปรี๊ด
“หึหึ....ชัวร์อย่างนี้ต้องมีแน่ ๆ” มือใหญ่วางบนไหล่บอบบางทั้งสองข้างบังคับหมุนเรือนร่างบางให้หันมาเผชิญหน้ากันถึงกระนั้นคนมีพิรุธก็ยังเอียงหน้าหลบไม่กล้าสบตาอยู่ดี แต่ดู ๆ ไปแล้วเหมือนเจ้าหล่อนกำลังอายมากกว่าโศกเศร้าและนั่นยิ่งทำให้เขายิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่จึงแกล้งรุกไล่ไม่ลดละ
“ไม่มี๊...ไม่มีจริง ๆ ค่ะนาย”
“งั้นเตรียมไปเก็บขี้ช้าง”
“โอ๊ะ ๆ ๆลืมไป ความจริงก็มีนิดหน่อย” กอหญ้ายิ้มแหยทำคอย่น...หลอกยากจริงวุ้ย....
“อะไร”
“ก็....หญ้าเกรงใจที่ตื่นสาย” ยกเหตุผลขึ้นมาอ้างส่ง ๆ แล้วมันก็ไม่ได้ผลจริง ๆ ด้วย
“กอหญ้า !” ชายหนุ่มกดเสียงต่ำกดดันให้ยายตัวแสบสารภาพความจริงออกมา
“ฮื่อ......บอกก็ได้แต่นายต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่โกรธเพราะความคิดมันห้ามกันไม่ได้ใช่ป่ะ.....แล้วหญ้าก็กำลังจะลบทิ้งไปจากสมองแต่นายเป็นคนบังคับให้หญ้าพูดออกมาเอง เพราะฉะนั้นห้ามโกรธ....”
“ได้...ว่ามา” เจ้าหล่อนออกตัวมาซะขนาดนั้น ภูผายิ่งอยากรู้เหมือนกันว่าเจ้าหล่อนคิดอะไรอยู่
“”คือ....นายกับกระเจียว....แบบว่า.....” หญิงสาวไม่พูดต่อแต่ยกนิ้วชี้ทั้งสองข้างถูกันพร้อมกับเบิกตามองคนตัวโตด้วยสายตาแวววาวพลางยิ้มซุกซน
“ไอ้หญ้า !!” ภูผากระแทกเสียงพร้อมกับจ้องมองคนคิดพิเรนทร์ตาแทบถลน
กอหญ้าสะดุ้งถอยฉากไปหลายก้าวทั้งที่คิดไว้แล้วว่าเขาคงไม่พอใจแต่ไม่นึกว่าจะแรงเบอร์นี้
“”อ๊ะ...อ๊ะ...นายรับปากแล้วน๊า...ไม่โกรธค่ะ ไม่โกรธ” หญิงสาวยกมือขึ้นเลียนแบบพระปางห้ามญาติกันพลาดเผื่อเจ้านายจะได้สติขึ้นมาบ้าง ใบหน้าเข้มยิ่งมืดครึ้มเข้าไปใหญ่แค่นี้ก็ทำเป็นโมโหไปได้ทีเขาเข้าใจว่าหล่อนเป็นทอมยังไม่ว่าอะไรเลย......ปั๊ดโธ่....ถ้าไม่เกรงใจจะตบเข่าสักฉาด...
