บท
ตั้งค่า

10

“เออ !...ชงกาแฟมาเร็ว ๆ” เมื่อทำอะไรเด็กมันไม่ได้ก็ต้องข่มอารมณ์เดินมานั่งรอที่โต๊ะ....ยังโมโหไม่หายเขาหรือออกจากแมนทั้งแท่งยายตาถั่วเอ้ย....

“นายไม่กินอย่างอื่นเลยเหรอ....อร่อยน๊า....ไส้กรอกนี่หม่อมท่านแพ็คมาให้อย่างดี ขนมปังก็เลิศไหนยังจะข้าวต้มหอมฉุยนั่นอีก” กอหญ้าสาธยายเชิญชวนคนอารมณ์บูดแต่เช้า...ฮึ...จะมาโกรธไอ้หญ้าไม่ได้หรอกนะเตือนแล้วด้วย

“แล้วเธอล่ะ....ไม่กินหรือไง” ภูผาไม่เห็นประโยชน์ของการอดอาหารเพื่อประท้วงใครจึงก้มหน้าก้มตากินตามคำชวนเชื่อ

“เดี๋ยวค่อยกินก็ได้ ให้นายไปทำงานก่อนแล้วค่อยเก็บล้างทีเดียว” หญิงสาวยิ้มหวาน คิดในใจว่าวันนี้สบายไอ้หญ้าล่ะ

“ใครว่าฉันจะไปทำงานคนเดียว”

“อ้าว !”

“เร็ว ๆ เข้าเดี๋ยวสาย” เพราะความหมั่นไส้ ล้วน ๆ จึงหาเรื่องกลั่นแกล้งคนที่มีความคิดพิเรนทร์ เรื่องอะไรจะปล่อยให้อยู่บ้านสบาย ๆ

“ก็ไหนว่าไม่ต้องทำงานในสำนักงานไงคะนาย” เรื่องเดียวที่กังวลคือเรื่องนุ่งกระโปรงเพราะโดนย้ำจนแหยง

“ก็ใครว่าฉันจะเข้าสำนักงาน”

“อย่าบอกนะว่าจะให้หญ้าไปเก็บขี้ช้างจริง ๆ น่ะ...ไม่เอาน่านายทำงานใหญ่อย่าใส่ใจเรื่องหยุมหยิม”

“ฮึ...ปากดี......ความจริงมันก็น่าจะเป็นอย่างนั้นนะ”

“นายภูจ๋า...นายภูสุดหล่อของกอหญ้าอย่าทำอย่างนั้นเลยนะจ๊ะ...พลีส...” หญิงสาวยื่นหน้าเข้าไปหาทำตาปริบใส่จริตเรียกร้องความเห็นใจหวังว่าคนเป็นนายจะเห็นแก่ลูกนกลูกกาไร้รัง....

ภูผาก้มมองใบหน้าเล็กไร้เครื่องสำอางแต่งแต้มแต่ผิวกลับระเรื่อด้วยเลือดฝาด มือที่ยกขึ้นจะเอามะเหงกเขกกะโหลกสักทีชะงักค้างอยู่อย่างนั้น สายตาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากอวบอิ่มแดงฉ่ำ....อืม....มือใหญ่ลดลงข้างกายก่อนจะหันหลังเดินดุ่ม ๆ ลงไปรอที่รถด้านล่าง ปล่อยให้คนข้างหลังลนลานรีบเก็บถ้วยชามอาบน้ำแต่งตัวลงไปทันได้เห็นพี่หมีขี้หงุดหงิดใช้เท้าขยี้ก้นบุหรี่พอดิบพอดี

“พร้อมค่ะนาย...แห่ก ๆ ..” กอหญ้ายืนลิ้นห้อยหายใจเข้าออกจนปีกจมูกบาน...เพราะหล่อนทำความเร็วจนเกินพิกัดแต่ก็ไม่ลืมหยิบสมุดเล่มเล็กติดมือมาด้วย

ภูผามองคนที่ยืนหอบอย่างทึ่งจัด ยายนี่วิ่งผ่านน้ำมาหรือไงวะสายตาคมกวาดดูเรือนร่างที่แปลกตาออกไป กอหญ้าสวมกางเกงยีนส์กับเสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัว......หุ่นทรงใช้ได้.....เฮ้ย !..ไอ้บ้าเอ้ยใครให้คิดนอกคอกอย่างนี้วะ.....ชายหนุ่มตบท้ายทอยตัวเองสองสามทีเรียกสติ รู้สึกว่าช่วงนี้จะฟุ้งซ่านตลอด......เพิ่งอกหักมานะโว้ย...ช่วยเศร้าหน่อยไอ้ภู..... ชายหนุ่มพยายามเตือนตัวเอง

กรุงเทพฯ

วันนี้หม่อมเนื้อทองเข้ามาที่ร้านเพชรที่เพิ่งเปิดไม่นานหลังจากหลาน ๆ เริ่มจะโตเข้าโรงเรียนประถมบ้างอนุบาลบ้าง ทำให้คนขยันพลังเหลือเฟือเริ่มมองหางานทำแก้เซ็งในที่สุดก็ตัดสินใจเปิดร้านนี้บนห้างของครอบครัวทั้งซื้อทั้งขายซึ่งหล่อนไม่ผิดหวังเลยจริง ๆ เพราะเศรษฐีผู้ดีเก่านำเครื่องประดับตกทอดมาขายให้หล่อนซึ่งรับซื้อไม่อั้นเพราะแต่ละชิ้นงาม ๆ ทั้งนั้นหวังใจว่าจะสะสมเอาไว้ให้หลานสาวหลานชายเอาไว้หมั้นสาว....นี่แหละความสุขของหม่อมย่าอย่างหล่อน.....

หม่อมเนื้อทองเห็นผู้หญิงคุ้นตาวัยใกล้เคียงกัน หน้าตาเปล่งปลั่งผมตีกระบังดูโดดเด่นมาแต่ไกล ที่แขนคล้องกระเป๋าแบรนด์เนมใบใหญ่หนังจระเข้เข้ากับรองเท้าที่สวมมาเข้าชุดกัน

“สวัสดีค่ะหม่อม” คุณหญิงศจีกระพุ่มมือไหว้หม่อมเนื้อทองก่อนทุกครั้งเพราะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยมาด้วยกัน

“สวัสดีค่ะคุณหญิง วันนี้มาดูเพชรเหรอคะ” เจ้าของร้านเอ่ยทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างที่ได้เห็นกันเป็นประจำ

“เปล่าค่ะ.....จะมาขายน่ะพอดีมีคนเอามาขายให้อีกที ศจีว่าจะซื้อไว้เองแต่ก็ไม่ไหวก็เลยนึกถึงหม่อมเห็นว่าชอบสะสมเหมือนกัน” คุณหญิงบอกตามตรงตามนิสัยตรงไปตรงมาถึงได้คบกับหม่อมเนื้อทองมายาวนานเพราะเป็นคนประเภทเดียวกัน

“งั้นไปนั่งดูกันที่ห้องโน้นดีกว่า”

หม่อมเนื้อทองยิ้มหวาน งานนี้น่าจะเป็นของชิ้นใหญ่เพราะปกติคุณหญิงศจีก็ชอบสะสมเหมือนกัน แต่ความมั่งคั่งมันต่างกันเยอะ....

“โอ้ว.......งามจริง ๆ ด้วย...แต่เอ๊ะ !” หม่อมเนื้อทองตาลุกวาวทันทีที่เปิดกล่องกำมะหยี่รูปหัวใจสีม่วงเข้ม ก่อนจะนิ่วหน้าคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นสร้อยเพชรเส้นนี้ที่ไหน

“บอกไม่ได้จริง ๆ ค่ะเพราะเจ้าของเขาไม่อยากให้ใครรู้” คุณหญิงศจีอธิบายโดยไม่ต้องถาม ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่แปลกใจเพราะเจอกับเหตุการณ์ทำนองนี้บ่อย ๆ เพราะน้อยคนนักที่จะยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่าถังแตก

หม่อมเนื้อทองตกลงซื้อโดยไม่เสียเวลาคิดเพียงแต่หล่อนคาดไม่ถึงว่าจะมีวันนี้......ทำให้อดคิดถึงเรื่องที่ได้ฟังจากหลานชายไม่ได้......

บทที่ 4

กอหญ้ามองไปเบื้องหน้าเป็นตลาดที่ใหญ่สุดในเมืองนี้ นายภูผาจอดรถหน้าตึกแถวสี่คูหาขายเหล้าเบียร์น้ำอัดลมทุกชนิด เขาเดินลงไปไม่พูดไม่จาเหมือนที่เป็นมาทั้งวัน หญิงสาวรีบตะเกียกตะกายลงจากรถ เพราะความที่ขาสั้นกว่าหล่อนจึงต้องสับขาอย่างเร่งรีบ หญิงสาวมองตามแผ่นหลังตั้งตรงของคนที่เดินนำหน้าเข้าไปในตลาด หล่อนรับรู้ได้ว่าผู้ชายคนนี้ถึงจะอารมณ์แปรปรวนสักหน่อย อย่างน้อยหล่อนก็เชื่อมั่นว่าเขาจะปกป้องคุ้มภัยดีต่อใจคนที่อยู่ใกล้ๆ ได้อย่างแน่นอน..........ชีวิตหล่อนก็คงไม่เลวร้ายจนเกินไปนักหรอก.......เสียพ่อให้กับศัตรูคู่แค้น แต่ได้ควงแขนเจ้านายมาดเข้ม...คิกคิกคิก......กอหญ้าคิดอย่างซุกซนตามประสาสาวช่างเพ้อฝันแต่ก็อดปรามตัวเองไม่ได้ ขืนลามปามเดี๋ยวได้โดนพี่หมีตะปบตาย…..

“เป็นอะไร” ภูผาหยุดเดินหันมามองคนข้างหลังเห็นแก้มแดงปลั่งก็นึกสงสัยว่าเจ้าหล่อนป่วยหรือเป็นอะไรดูท่าทางแปลก ๆ

“ปะ....หญ้าเปล่า...เอ่อ..ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ” เอ๋อไปชั่วขณะ เหมือนทำผิดแล้วโดนจับได้แต่หล่อนแค่คิดนี่นา นายภูผาคงไม่ได้มีความสามารถพิเศษแบบอ่านความคิดของคนอื่นได้หรอกนะ....อายเขาตายเลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel