5
เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ แต่สำหรับกอหญ้ามันช่างนานแสนนาน หล่อนอยากจะหลับแล้วไปตื่นที่บ้านเจอกับพ่อทีเดียวเลยด้วยซ้ำ แล้วก็เริ่มมีความหวังเมื่อเรือนกายใหญ่โตที่ยืนสูบบุหรี่อ้อยอิ่งอยู่เมื่อครู่เดินเร็ว ๆ ตรงเข้ามาหาหล่อนคงจะได้เวลาเดินทางเสียทีสินะ......
“ไอ้หนู ไปตามยายกอหญ้าบ้าบอนั่นให้หน่อย.....ฝากบอกว่าฉันเป็นเจ้านายไม่ใช่คนขับรถขืนมัวชักช้าฉันจะไม่รอแล้วนะ......” ภูผาหน้าตาบึ้งตึง ออกคำสั่งอย่างหงุดหงิดลูกสาวพรานบุญมีเห็นทีจะนึกว่าตัวเองเป็นคุณหนูถึงได้ยืดย้วยปล่อยให้รอนานสองนาน.......ไม่ใช่ผู้หญิงของภูผาอย่ามาทำมากท่าให้อารมณ์เสีย
กอหญ้าเงยหน้ามองคนฝีปากกล้าด้วยสายตาขุ่นขวาง หล่อนมายืนรอตั้งนานสองนาน เขานั่นแหละมัวแต่ยืนสูบบุหรี่เอาสารพิษเข้าปอดแล้วก็หาเรื่องพาลคนอื่น….หญิงสาวไม่รู้ตัวหรอกว่าตัวเองมองคนตัวโตด้วยสายตาแบบไหนขนาดต่อว่าเขาในใจ ปากยังเผลอขมุบขมิบดีหน่อยที่ไม่มีเสียงออกมาด้วย
“ทำไมวะไอ้หนู ใช้แค่นี้ไม่ได้หรือไง...เดี๋ยวปั๊ด !” ภูผาเห็นสายตากับท่าทางกวนบาทาของเด็กหนุ่มแล้วอดไม่ได้ที่จะต่อว่าแต่ก็ไม่จริงจังติดจะเอ็นดูมากกว่า.....สงสัยมันจะเป็นกะเทยจริง ๆ ขนาดโกรธยังทำท่าอย่างกับผู้หญิง
“หนูมารอตั้งนานแล้วค่ะ คุณนั่นแหละมัวแต่เป็นสิงห์อมควัน” เสียงเล็ก ๆ บอกเขาเสียงหนักพยายามยืดตัวที่อยู่แค่ระดับอกของอีกฝ่ายขึ้นสู้.....ไอ้เรื่องกลัวก็ยังกลัวอยู่แต่ตอนนี้ความโกรธมีมากกว่า…….
“ห๊ะ !......อย่าบอกนะว่าเธอคือกอหญ้า” ภูผาก้มลงมองเด็กที่ตัวสูงกว่าระดับอกของเขาหน่อยเดียวพลางกวาดสายตาพิจารณาคนตรงหน้าอีกครั้ง....เฮ้ย !.............ทอมนี่หว่า…….
หญิงสาวกอดอกคอแข็งเชิดหน้ารอคำขอโทษ
“ขึ้นรถ !” หน้าแตกละเอียด คงไม่มีอะไรดีไปกว่าทำเป็นขรึมเข้าไว้ ชายหนุ่มกลบเกลื่อนด้วยการทำเป็นฮึดฮัดหันไปเปิดประตูรถแล้วก้าวขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่อีกฝ่ายก็พยายามตะเกียกตะกายตามขึ้นมาได้รวดเร็วไม่แพ้กันถึงแม้ขาจะสั้นกว่าจนเขาเกือบจะหลุดขำ.....พอขึ้นมานั่งได้เจ้าหล่อนก็เบียดประตูรถจนน่ากลัวจะหลุดร่วงลงไป.....ฮึ...ผู้หญิงอะไรวะไม่เห็นมีตรงไหนน่าสนใจไม่น่าเชื่อว่าเจ้าหล่อนอายุยี่สิบสองแล้วเขายังไม่เห็นอะไร ๆ ที่บ่งบอกความเป็นสาวสักอย่างสงสัยเพราะแบบนี้ถึงได้เลือกเป็นทอม.....เฮ้ย !....ภูผาสะบัดหัวไล่ความคิดลามกออกจากหัว...คิดเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย.......
“โอ๊ย !!.......” กอหญ้าเกือบหัวทิ่มเมื่อเขาออกรถกะทันหัน พอตั้งตัวได้คราวนี้มือเล็ก ๆ ก็โหนที่จับตรงขอบเหนือประตูเอาไว้แน่น แต่เพราะคนขับเป็นพวกมือตีนหนักจึงทำให้คนที่ห้อยโหนได้สักพักชักจะเวียนหัวเพราะมันเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาจนอาหารในท้องแทบจะกระฉอกออกมา
“นะ...นาย.....” เสียงเรียกแหบโหย
“อะไร” ภูผาถามโดยไม่ได้หันมามอง
“นาย....นายภู” กอหญ้าพยายามเรียกเจ้านายคนใหม่แต่พูดมากไม่ได้เพราะอาหารเช้ามันตีขึ้นมาถึงลำคอแล้ว
“จะพูดอะไรก็พะ.....เฮ้ย ! ไอ้หนูอย่าเพิ่งอ้วกใจเย็น ๆ ”
ภูผารีบจอดรถเข้าข้างทางเมื่อเห็นกอหญ้าทำท่าขย้อนแต่เอามือปิดปากไว้ เขาวิ่งอ้อมมาเปิดประตูรถให้กอหญ้าลงไปอ้วก แต่ดูเหมือนจะผิดคิว เพราะทันทีที่ประตูเปิดออกก็เป็นเวลาที่ทุกอย่างมาถึงสุดทางเกินจะเหนี่ยวรั้งไว้ หญิงสาวหลับหูหลับตาโก่งคออ้วกพุ่งเข้าใส่แจ็คเก็ตยีนส์ตัวเก่งอย่างพอดิบพอดี
“กอหญ้า......” ภูผากัดกรามข่มใจเต็มที่ อะไรจะพอดีขนาดนี้วะ
“ห๊ะ !..นะ......นายภู” กอหญ้าแทบช็อคเมื่อเห็นเต็มสองตาว่าตัวเองทำอะไรลงไป
“อุ๊ก......” เพียงแค่คลื่นระลอกใหม่ตีตื้นขึ้นมา หญิงสาวก็กระโดผลุงลงจากรถกระแทกไหล่คนตัวโตไปนั่งอ้วกจนหมดไส้หมดพุงจนนั่งแปะลงไปกับหญ้าข้างทางนั่นเองเพราะวิงเวียนจนตาลายไปหมด
“ล้างหน้าล้างตาซะ” ภูผาหยิบขวดน้ำที่มีติดรถอยู่หลายขวดเวลาเดินทางไกลมายื่นให้ ส่วนตัวเองถอดเสื้อแล้วโยนไว้ท้ายรถโชคดีที่เสื้อยืดสีขาวตัวในไม่เลอะไปด้วยเลยไม่ต้องเปลี่ยน
“ขอโทษนะคะนาย...แฮ่...” หญิงสาวยกมือไหว้ปลก ๆ หน้าตาเหยเก ปกติหล่อนก็ไม่เคยเมารถขนาดนี้ไม่รู้ว่ามันเป็นวันซวยอะไรกันวะเนี่ย….สงสัยดวงจะไม่สมพงษ์กับเจ้านายคนใหม่แหง ๆ
“เออ...ช่างเหอะว่าแต่ดีขึ้นหรือยัง” ภูผายังหงุดหงิดนิด ๆ จะว่าไปเด็กมันก็ไม่ได้ตั้งใจนี่หว่า
“ดีขึ้นหน่อยแล้วค่ะ แต่ขอหญ้าแปรงฟันหน่อยนะคะ” พูดจบก็วิ่งปรู๊ดไปเปิดกระเป๋าค้นหาแปรงกับยาสีฟันโดยใช้น้ำในขวดที่เหลือ
ภูผามองตามหลังบอบบางภายใต้ชุดขัดตา พลางคิดว่ายายเด็กนี่คงเป็นทอมที่เจ้าสำอางน่าดูก่อนจะเดินขึ้นไปรอบนรถ
“เมารถทำไมไม่บอก” ภูผาเอ่ยถามเมื่อหล่อนทำธุระเสร็จแล้วขึ้นนั่งรถเรียบร้อย คราวนี้เขาออกรถและขับไปอย่างนุ่มนวล
“ปกติหญ้าไม่เมานะคะ แต่วันนี้รถมันโคลงจนเครื่องในตีกันมั่วไปหมด” หญิงสาวพูดไปตามความจริงไม่ทันได้คิดว่าเท่ากับตำหนิเขากลาย ๆ
“เออ...ฉันจะขับนิ่ม ๆ ก็แล้วกันแต่ถึงช้าหน่อยอย่าบ่นให้ได้ยินล่ะ” ภูผาขี้เกียจจอดรถปฐมพยาบาลกันไปตลอดทางเลยบอกเจ้าหล่อนไปแบบนั้น ไม่รู้ว่าทำไมต้องเอาอกเอาใจยายเด็กนี่ด้วยวะ
“ขอบคุณนะคะนาย....หญ้านึกว่าจะโดนดุเสียอีก” หญิงสาวพนมมือไหว้ไม่นึกว่าผู้ชายท่าทางดิบ ๆ เถื่อน ๆ จะมีมุมอ่อนโยนบ้างเหมือนกัน...ที่กอหญ้าเคยนินทาไว้ขออโหสิกรรมนะคะเจ้านาย...หญิงสาวไม่กล้าพูดออกไปได้แต่นึกในใจ…..
“ฉันจะไปดุเธอเรื่องอะไร ไม่ได้แกล้งนี่ใช่ไหม” ถึงจะมองว่าอีกฝ่ายเป็นทอมแต่อย่างน้อยหล่อนก็เป็นผู้หญิงเป็นสาวแล้วด้วย เขาจึงเปลี่ยนสรรพนามเรียกให้เหมาะสม
กอหญ้ายิ้มกว้าง นายภูผาได้ใจไอ้หญ้าไปทั้งดวงเลยเถอะแบบนี้ทำงานถวายชีวิตแน่
