28
“ทำไมกอหญ้า งูฉันมันทำอะไรเธอ” ไม่พูดเปล่าภูผายังกดสะโพกบดเบียดคนข้างล่างพลางยิ้มสะใจที่เห็นเด็กแสบหลับตาปี๋พวงแก้มแดงปลั่ง จนอดใจไม่ไหวกดจมูกลงไปหอมแก้มเสียฟอดใหญ่...ยัง...ยังไม่สาแก่ใจในเมื่อกลีบปากอิ่มอยู่ตรงหน้ารอให้ชิมลิ้มรสหวานมีหรือจะยอมข้ามผ่านในเมื่อนี่คือเมีย.......
“อื้อ...อื้อ...”หญิงสาวส่ายหน้าหนีจูบสูบวิญญาณของคนที่ได้ชื่อวาสามีแม้จะรู้สึกดีแต่ตอนนี้หากไม่มีอากาศมาต่อลมหายใจเห็นทีกอหญ้าจะได้รับการกล่าวขานว่าตายอย่างมีความสุขที่สุดเพราะโดนจูบตาย
“เฮือกกก.....” กอหญ้างับอากาศเอาไว้ได้หลังจากคนใจดีมีเมตตายังไม่อยากให้หล่อนจากไปปล่อยให้หายใจเข้าปอดได้เฮือกใหญ่
“เด็กทะลึ่งต้องโดนจูบแบบนี้แหละ”
“ฮึ...หาเรื่องมากกว่า หญ้าเกือบตายแน่ะ”
“แค่นี้ก็ไม่ไหวแล้ว?...” สายคมเข้มยังเจือด้วยแววพิศวาสที่ยังไม่ลดระดับเอ่ยถามอยู่ห่างกันแค่คืบ
“พี่ภูชอบแกล้ง”
“ฉันไม่ได้แกล้ง กิจกรรมของผัวเมียก็แบบนี้แหละเธอคงจะเด็กเกินไปไม่เข้าใจสิ่งที่พวกผู้ใหญ่เขาทำหรอก...เอ...แต่ผกาเพื่อนเธอยังท้องได้นี่เก่งเนอะ” จุดอ่อนยัยตัวแสบขยี้เข้าไป
“ใครบอกว่าเด็ก หญ้าอายุตั้งยี่สิบสองแล้วนะคะ ถ้าเป็นสมัยก่อนก็เป็นสาวเทื้อแล้วด้วยซ้ำ” ฆ่าได้หยามไม่ได้ นายภูจะมาชื่นชมนังผกาแบบนี้ได้ยังไง
“สาวเทื้อ?...หึหึ...ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า”
“...อย่า...อย่าให้ไอ้หญ้าออกลีลาเด็ด เอวเคล็ดไม่รู้ด้วยนะเออ” โม้เอาไว้ก่อน ถึงเวลาค่อยว่ากัน
“ปากเก่งนะเราน่ะ......ฉันชักอยาก....เอวเคล็ด”
“ได้ ! ...แหะ ๆ แต่เราต้องกินข้าวก่อนนี่สิ....เสียดายจัง” คนปากเก่งเบรกเอี๊ยดกลับลำร้อยแปดสิบองศาได้หน้าตาเฉย
“ไม่เป็นไร กินกันก่อนเดี๋ยวค่อยกินข้าวก็ได้”
“ไม่ได้ค่ะไม่ได้ เดี๋ยวเป็นลมตายไม่รู้ด้วยนะ”
กอหญ้าทำหน้าเหมือนเห็นใจคุณสามีเสียเต็มประดา กระทั่งภูผาอดกลั้นไม่ไหวหลุดขำก๊าก หัวเราะลั่นห้อง..... “...ไอ้ขี้โม้ !.....”
“อร๊าย.....” หญิงสาวยกมือขึ้นปิดตาที่จู่ ๆ เขาก็ลุกขึ้นเดินโทง ๆ เข้าห้องน้ำ ผ้าขนหนูก็มีกลับเหวี่ยงขึ้นพาดบ่าเสียอย่างนั้น...มันใช่ไหมเล่า....เฮ้อ !......
ห้องรับประทานอาหาร
วันนี้สมาชิกอยู่กันพร้อมหน้า คุณชายปฐวีพาลูก ๆ และภรรยามาค้างที่นี่อยู่ยาวจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน เพราะบัวบูชาห่วงกอหญ้าอยากจะช่วยดูแลเตรียมตัวสำหรับการเป็นภรรยาให้ดีที่สุด อย่างน้อยชีวิตคู่ที่ก่อเกิดอย่างรวดเร็วไร้รากฐานที่มั่นคงเยี่ยงนี้ จะค่อย ๆ แข็งแรงและดีวันดีคืนเพื่อเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ในที่สุด
กอหญ้ากับภูผาลงมาท้ายสุด หญิงสาวถูกจูงมือมาก้มหน้างุด ไม่กล้าสู้หน้าสบตากับใคร เมื่อนึกถึงเรื่องในห้องที่กว่าจะลงมาได้ หล่อนโดนจูบทำโทษจนปากแทบเปื่อย...คนบ้าหาว่าคนอื่นทะเล้น...ตัวเองแหละทะลึ่ง กัด ๆ ดูด ๆ อยู่ได้...
“ไอ้ภู พรุ่งนี้ไปลองชุดแต่งงานเสร็จแล้วเลยไปที่ห้างหน่อยนะ” คุณชายบอกกับคนมาใหม่
“มีอะไรหรือเปล่าครับ อย่าบอกนะว่าจะยกห้างให้ ไม่เอาจริง ๆ นะ”
“จะเอาไหมล่ะ แต่ต้องกลับมาอยู่กรุงเทพฯถาวร” คุณชายปฐวีบอกด้วยท่าทีจริงจัง เพราะปกติเขาก็ไม่ค่อยได้เข้าไปที่นั่นเพราะมัวยุ่งอยู่กับธุรกิจอสังหาฯที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
“ไม่ ๆ ไม่เอาเด็ดขาด”
“น่า...ไอ้ภูไหน ๆ ก็ไม่ได้แต่งงานกับช้างตัวเมียแล้ว งั้นพากอหญ้ามาอยู่เสียที่นี่เถอะ” คนเป็นพี่โน้มน้าวดวงตาพราวระยับ
“ห๊ะ ! พี่ภู.....” กอหญ้าหันหน้าไปมองคนข้างกายตาโต…… “อูยยย....” หญิงสาวลูบหน้าผากป้อย ๆ เพราะโดนดีดกลับดังเป๊าะ
“จะบ้าเหรอ นี่ก็คิดอะไรเลอะเทอะ” ภูผาอยากจะแถมมะเหงกซ้ำอีกสักทีโทษฐานที่ยัยตัวแสบทำให้เขาโดนทุกคนหัวเราะอย่างขบขัน
“อ้าว.....หญ้าก็คิดว่าจริง” ก็คุณชายปฐวีท่านสูงส่งหญิงสาวเชื่อเป็นจริงเป็นจังทุกคำพูดที่ท่านเอ่ยออกมา ใครจะรู้ล่ะว่าคุณชายจะแค่ล้อเล่น
“นี่ตาภู อย่าใช้กำลังกับน้องนักเลย ถนอมบ้างเถอะ” หม่อมเนื้อทองปราม
“โธ่หม่อมป้าครับ กอหญ้าถึกทนจะตายไป”
“ค่ะหม่อม หนูไม่เจ็บเลยจริง ๆ ค่ะ” หญิงสาวยิ้มแป้นเป็นการยืนยัน
“ย่ะเออออห่อหมกกันดีแท้..... เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยดีจริงผัวเมียคู่นี้” หม่อมเนื้อทองว่าอย่างเอ็นดู
“ก็ดีแล้วไง แม่เนื้อทอง” เจ้าสัวเจียงขัดขึ้นยิ้ม ๆ
กอหญ้าตัวลีบ ตกลงว่าทุกคนกำลังชมหรือว่าตำหนิกันแน่นะ.....
“ที่ปางไม้นั่นอีกไม่กี่สิบปีก็หมดสัมปทานรู้ใช่ไหมตาภู” เจ้าสัวพูดเป็นงานเป็นการ
“ครับ ผมก็เตรียมขยับขยายบ้างแล้ว……”
“แล้วคิดจะทำอะไรล่ะ”
“ผมซื้อที่ดินไว้บ้างแล้วครับกำลังรวบรวมเพราะชาวบ้านแถวนั้นเอามาขายให้เรื่อย ๆ คิดว่าอีกไม่นานคงได้เป็นแปลงใหญ่ ผมตั้งใจว่าจะทำสวนผลไม้ แล้วก็จะปลูกบ้านซะที่นั่นเลย” ภูผาไม่คิดปิดบังความฝันของเขาที่ไม่ได้คิดอยู่ในเมืองกรุง ไม่อยู่ป่าก็อยู่ไร่อยู่กับดินทรายนั่นคือตัวตนของเขา
“อืม....ขาดเหลืออะไรบอกอากงนะลูก พวกคนงานที่เขาอยู่กับเรามานานก็อย่าทิ้งขว้างเขาล่ะช่วยเหลือกันได้ก็ช่วยกันไป”
“ผมตั้งใจพาไปด้วยแล้วแต่ความสมัครใจเลยครับ”
กอหญ้านั่งฟังเงียบ ๆ ดีใจเหลือเกินที่ได้ยินอย่างนั้นท่านเจ้าสัวเป็นห่วงแม้กระทั่งคนตัวเล็กตัวน้อยที่เข้ามาพี่งใบบุญ อย่างน้อยคนแก่ ๆ อย่างพ่อของหล่อน อย่างลุงช้าง คงไม่ถูกทิ้งขว้างแน่นอน......
“คู่นี้เหมาะกันดีแท้ชอบอยู่ป่าอยู่ดง” หม่อมเนื้อทองยิ้มปลื้ม ไม่มีสุขใดจะเท่าสุขที่ได้เห็นลูกหลานเป็นฝั่งเป็นฝา นี่ถ้าภูผาแต่งงานกับคุณหญิงแสงดาว ไม่ใครก็ใครที่ต้องยอมฝืนใจอยู่ในที่ที่ตัวเองไม่ชอบแล้วจะมีความสุขเข้าไปได้อย่างไร
