22
“อะไรของมึง หูตึงหรือไงถึงได้พูดเสียงดังลั่นทั้งที่อยู่กันแค่นี้” หมอทิวแกล้งแหย่ ไอ้แก่ขี้หวง.....หวงขนาดนี้ไม่เก็บไว้ในบ้านซะเลยล่ะ...ชายหนุ่มคิดพลางมองตอบด้วยสายตาและท่าทางบ่งบอกว่าเอือมระอา
“หูกูไม่ได้ตึง แต่หน้าแข้งกูนี่ต่างหากมันตึงจนจะกระตุก”
“นายภูเป็นอะไรหรือคะ เมื่อเช้ายังเห็นดี ๆ อยู่เลย” กอหญ้าละความสนใจจากเจ้ามะยมชั่วคราวหันมาถามไถ่คนหน้าตึงอย่างงง ๆ
“เมื่อไหร่จะกลับบ้านสักที”
“เอ่อ...กอหญ้าเพิ่งมาถึงเองค่ะ นายภูรีบก็กลับไปก่อนได้เลยจ้ะ” หญิงสาวเข้าใจว่าเขาจะกลับไปกินข้าวกลางวันแต่นี่ยังไม่เที่ยงสักหน่อยไม่รู้จะรีบไปไหนกัน กับข้าวหล่อนก็ทำเตรียมไว้แล้ว ถึงเวลากลับไปอุ่นแป๊บเดียวก็ทัน ขอเวลาเล่นกับเจ้ามะยมก่อนก็แล้วกัน...ดูเอาเถอะ...น้องมะยมเอางวงนิ่ม ๆ มาเกี่ยวแขนหล่อนสงสัยไม่อยากให้ไป....หญิงสาวคิดเข้าข้างตัวเองจนหัวใจพองฟู
หมอทิวอยากจะหัวเราะเพื่อนให้ฟันหัก ที่เห็นมันยืนทำหน้าเหมือนปลาสำลักน้ำนาน ๆ จะได้เห็นคนกล้าขัดใจนายภูผา.....คำพูดที่ใคร ๆ ก็ต้องเชื่อฟังกลับทำอะไรผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ไม่ได้เลย......
“ไม่ทันไรก็เริ่มกลัวเมียแล้วเว้ยเฮ้ย !...” หมอทิวกระแซะเข้าไปหาพลางกระซิบให้ได้ยินกันสองคน
“ไอ้ทิว !....ไอ้เวร.....”
หมอทิวมองตามท้ายรถคนปากกับใจไม่ตรงกันเห็นทีจะต้องคาดคั้นให้รู้เรื่องเพราะถ้าไม่ทำอย่างนั้นมันค้างคาใจที่จู่ ๆ คนหนักแน่นมั่นคงสมชื่ออย่างภูผาจะมาโลเลเอาตอนนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่........หลังจากภูผาขับรถกลับออกไปแล้วพักใหญ่ กอหญ้าถึงได้ตัดใจจากเจ้ามะยมและกำลังจะกลับบ้านพักเหมือนกัน
“พี่ไปส่งให้เอาไหมจะได้ถึงบ้านเร็ว ๆ ท่าทางเจ้านายเราเขาจะหิว” หมอทิวรับอาสา
“ไม่เป็นไร หญ้าไม่รบกวนพี่หมอดีกว่าค่ะ” หญิงสาวบอกอย่างเกรงใจ
“รบกวนอะไรกัน พี่หวังผลนะ”
“หวังผลอะไรหรือคะ”
“เผื่อได้กินข้าวฟรีสักมื้อ” ชายหนุ่มบอกยิ้ม ๆ
“ได้เลยค่ะ” หญิงสาวยิ้มแป้นรีบไปเข็นจักรยานและกำลังจะยกขึ้นท้ายรถ แต่หมอทิวเข้ามาแย่งแล้วจัดการยกขึ้นวางบนท้ายกระบะเสียเองจะให้ว่าที่นายหญิงทำได้ไง...ปั๊ดโธ่.....
“เป็นผู้หญิงน่ะหัดอ่อนแอบ้างก็ได้ พวกผู้ชายจะได้มีโอกาสช่วยเหลือเอาใจบ้าง” ชายหนุ่มบอกอย่างเอ็นดูด้วยอีกฝ่ายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับน้องสาวของเขา ยิ่งได้รู้จักยิ่งรู้สึกชื่นชมหากน้องสาวของเขาจะเข้มแข็งไม่เป็นลูกแหง่เหมือนกอหญ้าก็ดีน่ะสิ...
“หญ้านึกว่าเป็นแบบนั้นจะกลายเป็นผู้หญิงน่ารำคาญเสียอีก” หญิงสาวไม่เคยคิดว่าจะต้องเป็นแบบไหนผู้ชายถึงจะชอบ เพราะหล่อนคิดอย่างไรเป็นแบบไหนก็แสดงตัวตนออกมาแบบนั้น
หมอทิวได้แต่หัวเราะก่อนจะขับรถออกจากโรงช้างไปที่บ้านพักซึ่งเดาได้เลยว่าเพื่อนเขาคงหน้าบูดเป็นตูดลิงเมื่อเห็นเขาไปส่งคนที่หวงนักหวงหนา......
“อ้าว ! ใครเชิญมึงไม่ทราบครับ....” คำพูดเจ้าของบ้านเอ่ยออกมาต้อนรับแขกอย่างจริงใจสุด ๆ
“กูเชิญตัวเองนี่แหละ มึงอยากรีบกลับทำไมกูยังข้องใจไม่หายวันนี้แหละจะได้ถามให้รู้เรื่อง” สองหนุ่มพูดคุยกันขณะที่กอหญ้าเข้าไปจัดเตรียมอุ่นอาหารและทำเพิ่มอีกอย่างสองอย่าง
“ว่ามา”
“มึงจะแต่งงานกับกอหญ้าจริงหรือวะ” เมื่อเพื่อนเปิดโอกาส ชายหนุ่มก็ไม่รีรอให้เสียเวลายิงคำถามตรงทันที
“เออสิวะ !.....เดือนหน้าเชิญด้วยเลยแล้วกันจะได้ไม่ต้องเสนอหน้าไปแบบเสือกอีก”
“โห...แรงอ่ะ”
“แล้วมึงเป็นอะไรนักหนาวะไอ้ทิว รู้สึกว่ามึงจะมีปัญหากับเรื่องนี้ไม่เลิกนะมึง” ภูผานิ่วหน้าชักรำคาญขึ้นมาจริง ๆ คนไม่อยากพูดถึงไอ้นี่ก็เซ้าซี้อยู่ได้
“ก็มันสงสัย”
“สงสัยอะไรก็บอกให้ถามมา น่ารำคาญฉิบหาย”
“แล้วคุณหญิงแสงดาวล่ะ มึงเอาเขาไปไว้ที่ไหน”
“กูว่าแล้ว ที่แท้ก็ห่วงคนอื่น”
“ใครบอก กูห่วงหัวกบาลมึงนั่นแหละจะแยกหรือไม่ก็หน้าอกพรุน.....เฮอะ !.... ริจับปลาสองมือ”
“ใครบอกมึงว่ากูจับปลาสองมือ”
“ก็ที่มึงทำอยู่นี่ไงยังต้องให้ใครบอกอีกรึ.....”
“คุณหญิงเขาขอเลิกกับกูก่อนแล้ว ไอ้หมอบ้า”
“อ้าว ! แล้วมึงก็มีใหม่ประชดเขาอย่างนั้นเหรอ” หมอทิว ปะติดปะต่อเรื่องได้เร็วจี๋ราวกับมีประสบการณ์ตรง
“มึงไม่ต้องเดาเรื่องของกู” ภูผาตัดบทเพราะไม่อยากพูดถึงและไม่ อยากยอมรับว่าตัวเองตัดใจจากผู้หญิงที่คบกันมาเจ็ดปีได้ง่ายดายเกินไป...หรือกูแม่งเลวจริง ๆ วะ.....ไม่ได้รักเขาจริงจังแต่ก็ให้เขารอตั้งเจ็ดปี…
“น่าสงสารกอหญ้า ถ้ามึงคิดเอาเขามาเป็นตัวแทนใครบางคนกูว่ามึงคิดใหม่เถอะ อย่าหลอกเด็กเลยว่ะ” ชายหนุ่มพูดออกมาจากความรู้สึกเปรียบเสมือนพี่ชายที่ต้องการปกป้องน้องสาว
“อย่าเสือกทำเป็นสู่รู้.....”
เพื่อนสนิทคุยกันโดยไม่รู้เลยว่าไม่ไกลกันนั้น กอหญ้ายืนตัวแข็งชะงักทั้งที่ไม่ตั้งใจแอบฟังแต่ก็ได้ยินเต็มสองหู.......อ่อ !.....อย่างนี้นี่เอง.....หญิงสาวรอเวลาให้ผ่านไปชั่วครู่รู้สึกหดหู่ในใจชอบกล ก็รู้ว่าการแต่งงานไม่ได้เกิดขึ้นจากความรัก แต่พอมาได้ยินชัด ๆ กับหูแบบนี้ก็ใจแป้ว ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องละเมอเพ้อพกคิดไปไกลจนกู่ไม่กลับ......
