บท
ตั้งค่า

บทที่ สอง ปรนนิบัติรับใช้ยามค่ำคืน

น้ำเสียงขรึมลงจนบรรยากาศในห้องราวกับอยู่ในป่าช้าสุสานของศพไร้ญาติ หยางซีผิงหันหน้ามาค้อมศีรษะขออภัยท่านอ๋องอย่างรวดเร็ว

เอาใจยากยิ่งนัก เจ้านายผู้นี้

หยางซีผิงหยิกเนื้อตนเองที่ติดนิสัยชอบทำตามสิ่งที่ตนเองคิดซึ่งแน่นอนว่านิสัยนี้มิควรนำมาปฏิบัติยามอยู่ในวัง

เดี๋ยวศีรษะจะหลุดออกจากคอเอาได้

“มิได้ ๆ ชีวิตนี้หม่อมฉันมอบให้ท่านอ๋องแล้ว มิอาจคิดขัดคำสั่ง”

แต่เมื่อสักครู่ท่านอ๋องยังมิได้สั่งนี่เจ้าคะ

นางยังมิได้ขัดคำสั่งเลยสักนิด จะมามีโทสะได้อย่างไร

หยางซีผิงได้แต่เถียงอยู่ในใจ

“แววตาเจ้าแสดงออกชัดเจนยิ่งนัก มีสิ่งใดไม่พอใจรึ ไหนแม่นมบอกว่าเจ้าใสซื่อ วาจาบอกว่าจะทำตาม แต่ในใจเจ้าคงกำลังสาปแช่งข้า”

“มิได้เพคะ”

หยางซีผิงลงไปนั่งคุกเข่า นางรู้สึกผิดยิ่งนักที่เมื่อครู่ปล่อยให้ตัวดำในหัวเป็นใหญ่

ในขณะที่หยางซีผิงก้มหน้าตัวสั่นเทา หากนางมีหางมีหูคงพากันลู่ตกหมดแล้ว

นางก้มหน้าอยู่จึงมิเห็นว่าใบหน้าหล่อเหลาที่นางเคารพเทิดทูนเหนือสิ่งอื่นใดกำลังฉายแววสนุกสนานรื่นเริงผิดกับน้ำเสียงและคำพูดที่เปล่งออกมาราวกับฟ้าและเหว

ใครบ้างดูมิออกว่าสตรีผู้นี้เข้าใจผิดกับคำว่า ‘ปรนนิบัติรับใช้’

ดูจากกริยาที่นางแสดงออกมาปิดตามองก็รู้ว่านางคิดว่าตนเองนั้นเป็นสาวใช้คนหนึ่ง มิใช่หนึ่งในสตรีตำหนักหมู่มวลฮวา

ตำหนักที่คนข้างนอกร่ำลือกันว่าเป็นตำหนักฮาเร็มของท่านอ๋องสามจอมเสเพล

ร่ำลือกันไปไกลถึงเมืองหลวงเชียว

หากแต่คงยกเว้นกับนางที่มิรู้เรื่องรู้ราวกับใครเขาเลย

เหลียงซือห้าวมิคิดว่าจะมีใครซื่อบื้อได้เท่านาง

อย่าบอกนะว่าที่เข้ามาขออยู่ในวังนี้ก็เพื่อเป็นสาวใช้ มิเหมือนสตรีผู้อื่นที่มักเข้ามายั่วยวนเขาเพื่อขอเป็นหนึ่งในโฉมงามในตำหนัก

ราวกับนางเป็นของเล่นที่น่าสนใจ น่ากลั่นแกล้งให้วิ่งหนีกลับบ้านไปไม่ทัน เหลียงซือห้าวเกือบขำออกมาหลายรอบเวลามองหูและหางที่ลู่ตกของนาง

การทำให้คนจนมุมได้ยิ่งกระตุ้นให้รู้สึกเบิกบานและถือเป็นการคลายความเครียดอย่างหนึ่ง

“ท่านอ๋องได้โปรดประทานอภัยหม่อมฉัน อย่าไล่หม่อมออกจากที่นี่เลยนะเพคะ”

เกือบเปลี่ยนสีหน้าไม่ทันเสียแล้วเมื่อสักครู่ โชคดีที่

เหลียงซือห้าวถนัดเรื่องการเปลี่ยนสีหน้ารองจากการเปลี่ยนสลับอารมณ์

“หากมิอยากเก็บของออกจากที่นี่จงรู้เอาไว้ว่าหากข้ามิได้สั่งไม่ต้องทำ”

“ตะ แต่ว่า เมื่อ...”

“และมิชอบคนต่อล้อต่อเถียง”

เคยเห็นสัตว์ขนปุยที่กำลังหูลู่หางตกอยู่แล้วหงอยิ่งกว่าเดิมหรือไม่ หากมิเคยเห็นให้มาดูนางนี่แหละ

สตรีผู้นี้พื้นฐานเดิมเป็นคนมิยอมแพ้ และคงมิชอบความอยุติธรรม ดังนั้นนางจึงพึมพำคำแก้ตัวออกมาเสียงเบา เขาได้แต่มองมิอาจได้ยินคำบ่นของนางได้

“ลุกขึ้นมา และเดินเข้ามาใกล้ ๆข้านี่”

“เพคะ มีสิ่งใดให้หม่อมฉันรับใช้หรือ”

ใกล้ของเขากับใกล้ของนางคงมิเท่ากัน ใกล้ของนางคือระห่างออกไปถึงหนึ่งจั้ง ทว่าความหมายคำว่าใกล้ของ

เหลียงซือห้าวคือที่มานั่งบนพื้นที่ว่างข้าง ๆเขาบนเตียงนอน

ฝ่ามือหนาตบลงปุปุบนเตียง สายตาเหลียงซือห้าวเย็นเยียบชวนให้หนาวสะท้าน รอบกายแผ่รังสีอำมหิตคุกคามออกมา ทำให้คนโดนมองอยู่อย่างหยางซีผิงมิอาจปฏิเสธคำสั่งของของเขาได้

แต่ว่านั่นจะเป็นการไม่บังควรเกินไปหรอกหรือ หยางซีผิงเป็นสตรีบ้านป่าก็จริง ทว่านางก็อ่านหนังสือออกพอรู้ความ ทั้งหนังสือนิทาน หนังสือความรู้ที่มีในหอสมุดของหมู่บ้านนางย่อมเคยอ่านมาหมดแล้ว

การที่ข้ารับใช้ทำตนเสมอคนในราชวงศ์นั้นเป็นการไม่บังควรอย่างยิ่ง

“....”

หยางซีผิงจึงละล้าละลังในการหย่อนก้นนั่งลงบนเตียงหลังธรรมดาที่พอมีท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์นั่งอยู่กลับดูล้ำค่าขึ้นมาทันตา

“เฮ้ย!”

ก้นนี้มิกล้านั่งบนเตียงดีนัก ฉะนั้นเหลียงซือห้าวจึงสงเคราะห์นางโดยการดึงให้มานั่งลงบนตักของเขาเสียเลย

เสียงร้องอุทานมิสมเป็นสตรีนั่นแทบทำให้เหลียงซือห้าวขำกลิ้ง

สงสัยต้องส่งแม่นมมาอบรมสั่งสอนนางให้มากเสียหน่อย ริอาจเป็นสตรีของอ๋องสาม จะมีกริยาเช่นนี้ได้อย่างไร

อืม หรือเขาควรสั่งสอนอบรมนางด้วยตนเองดีหรือไม่

“ขออภัยเพคะ อยู่ดีดีก็มีมือชั่วร้ายมาฉุดหม่อมฉัน เอ๊ะ ในห้องนี้มีคนเพียงสองคน อย่าบอกนะว่ามือที่ดึงข้าเป็นมือท่านอ๋อง”

“เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า เห็นเจ้ามิอยากนั่งบนเตียง ข้าจึงช่วยให้เจ้านั่งในที่ที่นุ่มกว่า”

“ไยท่านอ๋องจึงทำเช่นนี้ เอ๊ะ...เดี๋ยวนะ...ท่านอ๋องจะทำสิ่งใดเพคะ อุ้มหม่อมฉันทำไม ตัวของหม่อมฉันหนัก ปล่อยหม่อมฉันลงเถิดเดี๋ยวมีคนมาเห็นแล้วพระองค์อาจเสียหาย”

ตรรกะแปลกประหลาด

คำพูดคำจาของนางทำให้เหลียงซือห้าวบังเกิดความสงสัยในใจ

เหตุผลใดกันจึงทำให้สตรีผู้หนึ่งทำทุกทางเพื่อเข้ามาเป็นสาวใช้ของวังอ๋องแห่งนี้

หากถามนางตามตรงเขาจะได้รับคำตอบหรือไม่

หากแต่สิ่งนี้เป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง เขาอยากรู้ยิ่งนักว่าสตรีผู้นี้จะทนตามใจเขาได้สักกี่น้ำ

เนื้อแท้นิสัยนางดูก็รู้ว่ามิใช่สตรีเรียบร้อยว่าง่ายเฉกเช่นคุณหนูในห้องหอ

เหลียงซือห้าวอุ้มนางในท่านหงายหน้าโดยที่แขนทั้งสองข้างนางนั้นอยู่ไม่นิ่ง ไม่ดันเขาออกก็หาสิ่งรอบตัวยึดเหนี่ยว จนกระทั่งเขาสามารถพานางมาวางลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องประทินผิวสตรีซึ่งข้างหน้ามีคันฉ่องใบใหญ่ตั้งอยู่

แน่นอนว่าเหลียงซือห้าววางนางลงบนตักของตนเองโดยมีก้นงอนงามของหยางซีผิงนั่งแปะลงตามมาเช่นเคย

“นั่งอยู่นิ่ง ๆหากมิอยากถูกไล่ออกจากที่นี่ตั้งแต่วันแรก”

ร่างเล็กบนตักหยุดดิ้นทันทีแถมดวงหน้าเล็กหม่นแสงลง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel