บท
ตั้งค่า

12 คนเจ้าเล่ห์

หลังจากนั้นทั้งสามคนเริ่มทานอาหารกัน หวันยิหวามองหน้าภูดิศเขาส่งยิ้มหวานให้ แต่สายตาของเจ้าหล่อน มีแววรู้เท่าทันและปนตำหนิติเตียนลึกๆ

“เดี๋ยวทานข้าวเสร็จยิหวาไปดูที่ดินกับพี่เลยมั้ย?”

“ยิหวาไม่ใช่เจ้าของไร่จะไปดูทำไมกัน”

“นี่ยิหวายังไม่หายโกรธพี่อีกหรือครับ”

“ไม่ได้โกรธค่ะ แต่มันไม่ใช่หน้าที่ของยิหวา”

“ยิหวาจะมาทำบัญชีที่ไร่ไม่ใช่หรือจ๊ะ”

“ก็ใช่ค่ะ”

“ก็งั้นดีเลยไปช่วยพี่ประเมินราคาหน่อยสิ ว่าควรซื้อหรือไม่ซื้อดี”

“ไปเถอะลูก ที่ดินแปลงใกล้ ๆ ไร่เรานี้เอง”

“อืม!...ไปก็ได้ค่ะ”

“ขอบคุณครับ”

“คุณแม่ไปด้วยกันมั้ยคะ”

“ไม่ไหวหรอกลูกแม่แก่แล้ว”

“ปล่อยคุณแม่เถอะครับน้องยิหวา เพิ่งออกจากโรงพยาบาลเจออากาศร้อนเดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งเอา”

“ก็ได้ค่ะ..งั้นคุณแม่พักผ่อนเยอะ ๆ นะคะ”

หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ออกเดินทาง ด้วยรถยนต์ส่วนตัวคันหรู ที่ไม่ใช่ SUV ฝุ่นตลบคันนั้น นาน ๆ ภูดิศถึงจะขับคันนี้สักที ถ้าไม่ใช่โอกาสพิเศษจริง ๆ ส่วนใหญ่พ่อเลี้ยงภูดิศจะขับแค่โฟลวีลเท่านั้น

“ไหนล่ะค่ะผักที่บอกจะเอาไปส่ง”

“อ๋อ...พี่ให้นายเอียดขับเอาไปส่งแล้ว คันนี้ส่งผักไม่ได้หรอกจ้ะ เราไปดูที่เลยดีกว่าครับเดี๋ยวจะมืดค่ำ

“เจ้าเล่ห์นักนะ!!” เธอมองค้อนอย่างคนรู้ทัน

“อะไรกันครับ พี่ไม่อยากให้ยิหวาเสียเวลาก็เลยให้เอียดไปส่งผักแทน”

“งั้นไปกันเลยก็ได้ค่ะ จะได้รีบไปรีบกลับ”

ออกมาได้ไม่นานนักเขาก็พาหวันยิหวามาดูที่แปลงใหญ่เจ้าของเป็นคนอายุมากแล้ว จะขายที่เพราะดูแลไม่ไหวลูกหลานก็ไม่มี จะเอาเงินไปทำบุญ นี่คือเหตุผลที่จะขาย

“ตรงนี้เป็นทางผ่าน ถ้าเราทำรีสอร์ตก็น่าสนใจดีนะคะ”

“พี่ว่านักท่องเที่ยวจะต้องชอบเพราะข้างหลังติดเขา แล้วก็สามารถล่องแก่งได้ด้วยนะ

เมื่อตกลงกันได้และนัดวันซื้อขายเสร็จ ภูดิศก็พาหวันยิหวากลับ แต่ระหว่างทางเขานึกอะไรขึ้นได้มาจึงลองเสนอคนข้าง ๆ ดู

“ยิหวาจำวันที่พี่บอกจะพาไปเที่ยวได้ไหมครับ?”

“ได้ค่ะ!! แต่วันนั้นนายเอียดเป็นคนบอกไม่ใช่พี่ภู”

“ก็คนเดียวกันนี่ครับ”

“วันนี้พี่ภูจะเบี้ยวงานงั้นเหรอคะ?”

“ก็พี่ไม่ใช่หัวหน้าคนงานแล้วนี่จ๊ะ”

“ตามใจพี่ก็แล้วกันแต่อย่ากลับมืดนะคะ เดี๋ยวแม่เป็นห่วง”

“รับทราบครับ

ไม่นานนักรถหรูก็แล่นมาจอดเมื่อถึงจุดหมาย

“เดี๋ยวเราไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพกันนะ”

“โอ้!.. ยิหวาจะเดินขึ้นไหวมั้ยเนี่ย!”

“ถ้าไม่ไหวพี่พาไปขึ้นกระเช้าก็ได้นะ”

“ก็ได้ค่ะจะได้ประหยัดเวลา”

หลังจากที่ไหว้พระธาตุเสร็จ ทั้งคู่ก็ออกเดินทางต่อ

“พี่ภูจะพาไปไหนอีกเหรอคะ?”

“ไปดอยหลวงเชียงดาว”

“แล้วจะกลับทันเหรอคะ?”

“พี่มีบ้านพักอยู่แถวนั้น เราไปค้างคืนกันนะครับ” ภูดิศส่งสายตาเจ้าชู้ให้ตามประสาหนุ่มหล่อที่ชอบ flirt หวันยิหวาส่ายหน้ายิ้มๆ และจ้องเขากลับด้วยสายตาทรงอำนาจอย่างประหลาดแบบเจ้านาย จนชายหนุ่มหน้าม้าน หญิงสาวผู้มีใบหน้าอ่อนเยาว์ ท่าทางใสซื่อก็จริง แต่สายตาของเจ้าหล่อนมีแววรู้เท่าทันภูดิศ

“จะดีเหรอคะพี่ภู? ยิหวาเป็นผู้หญิงมานอนค้างอ้างแรมกับผู้ชายสองต่อสอง คุณแม่จะดุยิหวาเอาได้นะคะ”

“เดี๋ยวพี่จะโทรบอกน้าดวงใจเอง ยิหวาไม่ต้องเป็นห่วงนะ”

เมื่อมาถึงชายหนุ่มก็ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับหญิงสาวคือโทรบอกแม่ของเธอ แต่สิ่งที่เขาพูดนั้นออกจะเกินความจริงไปสักหน่อย

“คือว่ารถเราเสียครับคุณน้า คงต้องพักแถวนี้ไปก่อน”

“เดี๋ยวน้า จะบอกให้เอียดขับรถไปรับนะ”

“ไม่เป็นไรครับคุณน้า ตอนนี้มันก็เย็นแล้ว กว่าจะมาถึงที่นี่ก็ดึกพอดี พรุ่งนี้เช้ารถเสร็จผมก็กลับแล้วครับ”

“งั้นน้าฝากยิหวาด้วยนะ”

“ไม่ต้องเป็นห่วงครับคุณน้าผมจะดูแลยิหวาอย่างดีที่สุดครับ”

“ขอบใจภูมากนะ” ชายหนุ่มรีบวางสายแผนขั้นแรกของเขาได้สำเร็จลงไป ทีแรกกะว่าจะหลอกเป็นหัวหน้าคนงานอีกสักวันแล้วพามาที่นี่ แต่บังเอิญดวงใจไม่ยอมเล่นด้วย เกมส์นี้เขาเลยต้องเฉลยก่อน

“รถไม่ได้เสียสักหน่อยทำไมพี่ภูไปบอกคุณแม่อย่างนั้นละคะ”

“ก็ไม่อยากให้แม่ยิหวาคิดมากไงครับ”

“พี่ภู!.. มีแผนจะทำอะไรกันแน่?”

“ก็ไม่มีนี่ครับ”

“ไม่รู้สิ คนอย่าพี่มันไว้ใจไม่ได้หรอก” หวันยิหวาพูดอย่างคนรู้ทัน

“พี่หิวแล้ว พี่ว่าเราไปกินข้าวกันดีกว่านะ”

หลังจากทานข้าวเสร็จ ก็มานั่งชมวิวของยอดดอยหลวง

“อากาศหนาวจังนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับเอาเสื้อคลุมมาสวมให้หญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ

“คืนนี้พี่ภูนอนข้างนอกตรงนี้นะคะ ยิหวาจะนอนข้างใน”

“ก็ได้จ้ะ ยิหวาง่วงแล้วเหรอ?”

“อีกสักพักก็ได้ค่ะ”

“ครับ จิบเบียร์คลายหนาวไหมครับ?”

“ไม่ดีกว่าค่ะ เชิญพี่ภูตามสบาย” ภูดิศรินเบียร์จากเหยือกใส่แก้ว พลางชวนหญิงสาวข้างกายคุยไปเรื่อย ๆ หญิงสาวลอบมองภูดิศ ชายหนุ่มนั่งทอดขาเหยียดยาวออกไปข้างหน้าด้วยท่าทีสบายที่สุด ดูไม่สะทกสะท้านอะไรเลยและเขามีกางเกงมาเปลี่ยนแสดงว่าเขาเตรียมพร้อม

“พี่ภู!.. มีเสื้อผ้ามาเปลี่ยนด้วยเหรอ? พี่ตั้งใจพายิหวามาที่นี่ตั้งแต่แรกใช่มั้ยคะ?” หวันยิหวาทักขึ้นมาทำเอาภูดิศถึงกับสะดุ้ง

“น้องยิหวานี่รู้ทันพี่ไปเสียหมดเลยนะ ชุดของยิหวาก็มีนะ มันอยู่ที่รถ เดี๋ยวพี่ไปหยิบมาให้” เมื่อถูกจับได้ชายหนุ่มเลยไม่ปฏิเสธ เพียงแค่พลิกวิกฤติให้เป็โอกาส

‘ต้องมีแผนที่คิดไม่ซื่อกับเราแน่ ไอ้คนเจ้าเลห์’

ไม่นานนักภูดิสก็หยิบถุงผ้าเป็นชุดนอนมาให้หญิงสาว พี่ให้แม่บ้านซักมาให้เรียบร้อย

“พี่ภูไปซื้อมาตอนไหนเหรอ?” อันที่จริงเขาไม่ได้ซื้อหรอกแต่เป็นชุดของสาว ๆ คนอื่น ๆ ที่ลืมไว้ เขาให้แม่บ้านซัก แต่ยังไม่ได้ไปคืนสักที กางเกงขาสั้นที่เขา ใส่อยู่ช่างไม่กลัวความหนาวเหน็บของคืนนี้เลย

“เร็ว ๆ นี้แหละ ยิหวารีบไปอาบน้ำก่อนนะ แล้วมานั่งคุยกันต่อ

“ไม่ล่ะ ยิหวาจะไปอาบน้ำแล้วก็เข้านอนเลย เชิญพี่ภูกินเบียร์ไปเถอะค่ะ” สงสัยว่าแผนนี้จะไม่สำเร็จ เขาจึงเปลี่ยนแผนกะทันหัน

“พี่ขอเข้าไปนั่งด้านในด้วยได้มั้ย? ตรงนี้มันหนาว”

“ก็ได้ค่ะ แต่พี่ห้ามนอนบนเตียงนะคะ”

“พี่นอนตรงโซฟาก็ได้”

ด้วยท่าทีไม่สะทกสะท้านกับความหนาวเย็น กางเกงขาสั้นแบบไหนกันจนแทบจะเปลือยเปล่า ท่อนขาปกคลุมด้วยขนสีน้ำตาลอ่อน ‘ใส่เสื้อกล้ามโชว์จะไม่ให้หนาวได้ยังไง’ ยิหวาคิด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel