บท
ตั้งค่า

11 พินัยกรรม

เมื่อดวงใจถูกหวันยิหวาถามหนักขึ้นเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งหมด เธอจึงยอมเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้หวันยิหวาฟัง และบอกลูกสาวว่า พ่อเลี้ยงแสนคำเอ็นดูหวันยิหวา และอยากให้เธอมาช่วยดูแลไร่นี้กับลูกชายของเขา เพียงแต่เธอยังไม่ได้บอกว่าเอียดคือภูดิศที่มาแกล้งหลอกหวันยิหวา เพราะเธอให้สัญญากับภูดิศไว้

“ทำไม?..แม่ไม่บอกหนูตั้งแต่แรกคะ แม่เรียกยิหวามาที่นี่ก็เพื่อจะให้ลูกชายพ่อเลี้ยงดูตัว!.. แม่คิดว่าจะให้หนูมาจับผู้ชายรวย ๆ อย่างคุณภูดิศงั้นเหรอคะ?” หวันยิหวาเริ่มขุ่นเคืองที่แม่ปิดบังเธอ

“มันก็ไม่ขนาดนั้นหรอกจ้ะลูก แม่ตั้งใจจะบอกหนูตั้งแต่ที่หนูมาถึง แต่แม่ป่วยเสียก่อนก็เลยรอให้หายดีแล้วค่อยบอกหนูยังไงละ”

จากนั้นดวงใจก็เดินไปหยิบซองสีน้ำตาลยื่นให้กับลูกสาวของเธอ เมื่อเปิดออกเป็นพินัยกรรมที่พ่อเลี้ยงแสนได้ทำเอาไว้ หวันยิหวาได้อ่านพินัยกรรมทั้งหมด

“หนูถามแม่จริง ๆ เถอะค่ะ ทำไมพ่อเลี้ยงถึงต้องเลือกหนูให้กับคุณภูละคะ”

“พ่อเลี้ยงแสนคำเคยบอกแม่ไว้ว่าเขาเอ็นดูและรักหนูเหมือนลูก ตอนนั้นพ่อเลี้ยงเสียใจมากที่คุณย่ามารับตัวหนูไป เขาเคยให้แม่ไปตามหนูกลับ แต่แม่ก็ไม่ได้ไป พอไม่นานคุณย่าก็ส่งหนูไปเรียนเมืองนอก แม่ตัดสินใจไปที่บ้านคุณย่าอีกครั้ง แต่หนูก็ไม่อยู่ที่นั่นแล้ว” หวันยิหวาจำได้เพราะตอนที่เธออยู่ที่นี่พ่อเลี้ยงก็ดูแลเธอเป็นอย่างดี พาไปไหนมาไหนตลอด

“แม่คิดว่ายิหวา เหมาะสมกับภูในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการศึกษาหรือรูปร่างหน้าตา”

“อืม” หวันยิหวาทำหน้าครุ่นคิด

“แล้วคุณภูเขาไม่มีแฟนเหรอคะ? ถึงได้ยอมทำตามพินัยกรรม”

“ก็มีบ้างแหละ แต่ก็ คบ ๆ เลิก ๆ”

“แม่คะ หนูไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ค่ะ”

“แม่ว่าเขาไม่ได้เจ้าชู้หรอก เพียงแต่ว่าเขารวยและหน้าตาดีเลยมีสาว ๆ มาติดเยอะ เอาไว้ถ้าหนูชอบภูบ้างแล้วแม่จะช่วยกันสาว ๆ พวกนั้นให้นะ”

“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกค่ะแม่ หนูกับเขายังไม่ได้ตกลงเป็นอะไรกันเลย เผลอ เขาอาจจะอยากใช้ชีวิตโสด ๆ ไปวัน ๆ ก็ได้นะคะ”

“ภูดิศบอกแม่ว่าถ้าแม่พายิหวามาได้เขายินดีแต่งงานกับหนูนะ”

“คนเราไม่เคยคบกับมาก่อนอยู่ ๆจะให้มาแต่งงานเลยคงไม่ได้หรอกค่ะแม่”

“แม่ก็ยังไม่แน่ใจหรอก ว่าที่เขาพูดเพราะหวงสมบัติหรือเพราะอะไรกันแน่”

“มันก็ต้องเป็นอย่างหลังสิแม่ ก็เขาไม่ต้องการแบ่งไร่และทรัพย์สินทั้งหมดไงคะ ถ้าหนูยอมแต่งงานเขาก็จะได้ทุกอย่างกลับคืนไปทั้งหมด”

“หนูอยู่ที่นี่กับแม่สักหนึ่งปีได้มั้ยลูก?”

“ก็ได้ค่ะแม่”

“หลังจากหนึ่งปีไปแล้ว ถ้าหนูกับภูไม่ได้รักกัน แม่จะคืนทรัพย์สินในส่วนของแม่ทั้งหมดให้เขาเอง”

“แม่คะ!!!.. หนูยังให้คำตอบไม่ได้หรอกนะคะ”

“พ่อเลี้ยงแสนคำมีเวลาให้ลูกหนึ่งปีจ้ะ ตามพินัยกรรม หลังจากหนึ่งปีแล้วหนูยังไม่ได้รักชอบพอกับภูดิศ แม่ก็จะพาอยู่ไปจากที่นี่”

“แล้วแม่จะแบ่งทรัพย์สินตามที่พินัยกรรมระบุไว้ทั้งหมดเลยหรือคะ”

“เรื่องนี้แหละที่แม่เป็นกังวล ถึงแม่จะได้ทรัพย์สินครึ่งหนึ่งตามที่พินัยกรรมระบุ แม่ก็จะคืนให้เขานะ”

“ดีแล้วค่ะ ..หนูจะเลี้ยงแม่เองนะคะ แม่ไปอยู่กับหนูที่เมืองนอกก็ได้”

“เอายังงั้นเลยเหรอลูก?”

“ก็ใช่สิคะ มีแม่อยู่ด้วยหนูคงไม่เหงา”

“เรื่องนี้เดี๋ยวเอาไว้คิดกันอีกทีนะลูก”

“ได้ค่ะแม่”

“แม่ว่า..พ่อเลี้ยงแสนคำคงจะดีใจถ้าได้หนูเป็นลูกสะใภ้จริง ๆ เขาจะได้นอนตายตาหลับนะลูก

“แล้วถ้าคุณภู..เขาไม่ได้รักหนูละคะ”

“อยู่ ๆ กันไปเดี๋ยวก็รักกันเองแหละ เชื่อแม่เถอะ แม่เห็นมาเยอะแล้ว” ที่ดวงใจพูดเขาดูออกว่าภูดิศรู้สึกยังไงกับหวันยิหวา

“นี่แม่คะ..แม่จะให้หนูอยู่ก่อนแต่งเลยเหรอคะ?”

“แม่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะลูก”

“ถึงหนูจะจบนอก แต่ก็ไม่ยอมอยู่ก่อนแต่งแน่นอนค่ะ”

“พินัยกรรมให้เวลาหนึ่งปี ช่วงนี้หนูก็แค่ลองคบเขาดูไปก่อนสิลูก”

“เฮ่อ!...แม่นะแม่” หวันยิหวาได้แต่ถอนหายใจออกมา นี่หล่อนข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อจับผู้ชายงั้นเหรอ...

ก่อนที่พ่อเลี้ยงแสนคำจะพบรักกับดวงใจ เขาดูแลไร่ชาภูตะวันกับแม่ของภูดิศ แต่ถูกโกงเงินในไร่โดยที่ภรรยาของเขาคบชู้แล้วเอาเงินปันให้ชู้จนหมด พ่อเลี้ยงจับได้เลยไล่ทั้งคู่หนี ซึ่งคนที่เป็นชู้กับเมียพ่อเลี้ยงแสนคำก็คือเพื่อนที่เขาไว้ใจมากที่สุด

ปัจจุบันทั้งภรรยาเก่าพ่อเลี้ยงและเพื่อนได้ทำไร่แข่งกับพ่อเลี้ยงโดยใช้เงินที่โกงจากพ่อเลี้ยงไปมาซื้อที่ดินที่ติดกับไร่ของพ่อเลี้ยงแสนคำ

พ่อเลี้ยงได้ดวงใจเป็นภรรยาคนใหม่และช่วยกันกอบกู้ไร่นี้ขึ้นมาอีกครั้ง พ่อเลี้ยงจึงอยากตอบแทนน้ำใจของดวงใจจึงต้องการให้ลูกสาวของเธอแต่งงานกับภูดิศ และให้ทั้งสองดูแลไร่นี้ต่อไป

เช้าวันรุ่งขึ้น วันนี้ภูดิศตื่นแต่เช้า มาชวนหวันยิหวาไปดูที่ดินด้วยกัน ระหว่างที่รออยู่ตรงเฉลียงก็พบกับดวงใจก่อน

“สวัสดีครับคุณน้า วันนี้ตื่นเช้าจังนะครับ”

“หวัดดีจ้ะภู.. มีอะไรเหรอ? วันนี้มาแต่เช้า”

“คุณน้าครับวันนี้ผมจะพายิหวาไปดูที่แปลงใหม่ครับ”

“ที่อะไรเหรอ? น้าไม่เห็นรู้เรื่อง”

“คือว่าผมอยากจะซื้อเก็บไว้ทำรีสอร์ตครับ ในไร่นี้ผมไม่อยากให้ใครเข้ามาพัก ถ้าได้ที่แปลงใหม่ก็จะทำเป็นรีสอร์ตครับ” ภูดิศไม่ อยากให้เรือนเฟื่องฟ้าใช้เป็นรีสอร์ตอีกต่อไป แต่เขาก็ยังอยากทำธุรกิจที่เป็นรีสอร์ตอยู่ และที่ดินแปลงใกล้กับไร่ชาภูตะวันก็มีคนจะขายพอดี

“อืม!..น้าว่าก็ดีนะ เดี๋ยวสักครู่ยิหวาก็ลงมาล่ะ”

“ครับ งั้นเดี๋ยวผมให้ป้าชื่นเตรียมตั้งโต๊ะเลยนะครับ”

“ภู!!...ถ้ายังไงภูบอกความจริงกับยิหวาซะนะ”

“ผมว่าจะขอคุณน้าอีกสักวันครับ”

“น้ากลัวว่าเรื่องราวมันจะบานปลายใหญ่โตไปนะสิ”

“อืม!..ผมยังไม่พร้อมเลยครับ” ภูดิศได้แต่ครุ่นคิดเพราะยังสนุกอยู่กับการแกล้งหวันยิหวาอยู่

“ไม่ได้หรอกน้าไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ ที่จะเล่นไปเรื่อย ๆ แบบนี้ ภูเองก็เหมือนกันนะ โตแล้วมีอะไรก็บอกน้องไปตรง ๆ สิจ๊ะ

“ครับถ้ายังไงคุณน้าบอกยิหวาได้เลยครับ”

“ภูต้องเป็นคนบอกเองสิ เรียงผูกก็ต้องเรียงแก้นะจ๊ะ”

“ครับ”

“อ่าว!...นั่นไงยิหวามาพอดีเลย”

“คุยอะไรกันอยู่เหรอคะ?” หวันยิหวาเอ่ยขึ้น เมื่อสองคนกำลังคุยกันอยู่

“เอ่อ!..คือว่า ผมจะชวนคุณยิหวาไปดูที่แปลงใหม่ครับ หลังจากส่งผักในเมืองแล้วครับ”

“ภู!!...รีบบอก!!!..ถ้าไม่บอกน้าไม่ให้ยิหวาไปด้วย” ดวงใจยื่นคำขาดต่อหน้าหวันยิหวาที่กำลังงงว่าทั้งคู่ปิดบังอะไรเธอ

“อืม!.ครับ..เออ!.. พี่ต้องขอโทษยิหวาด้วยนะที่บอกว่าเป็นหัวหน้าคนงานในไร่”

“ยังไงเหรอคะ?”

“หนูจำพี่ภูลูกพ่อเลี้ยงที่เคยเล่นกันตอนเด็ก ๆ ไม่ได้เหรอลูก?” ดวงใจพยายามช่วยภูดิศ

“จำได้..แต่ว่าคุณคือพี่ภูงั้นเหรอ?” สายตามองมาที่ภูดิศ อย่างคาดคั้น

“คือว่าพี่ต้องขอโทษด้วยนะครับ คือวันแรกพี่ก็จะบอกแล้ว..แต่กลัวยิหวาไม่เชื่อพี่ไง” เสียงอ่อน ๆ และแววตาสำนึกผิดมองมาที่หญิงสาวตรงหน้า

“นี่แม่ก็ร่วมมือกับเขามาหลอกหนูด้วยเหรอคะ?”

“แม่เปล่านะลูกแม่ แค่...”

“แค่อะไรคะ”

“อย่าไปว่าคุณแม่เลยครับ ความผิดของพี่เอง น้องยิหวาคงได้อ่านพินัยกรรมแล้วและคงเข้าใจดี”

“ค่ะ!..แต่สิ่งที่พี่ทำมันไม่จริงใจตั้งแต่แรกแล้ว จะให้ยิหวาคบกับพี่ได้ยังไงกัน”

“เรื่องนั้นพี่ขอโทษนะ เรามาเริ่มต้นทำความรู้จักกันใหม่นะ เรื่องที่แล้วก็ให้มันแล้วกันไปได้มั้ย?”

“พี่ภูพูดง่ายจังนะคะ” อารมณ์ที่เดือนดาลของยิหวาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

“ยิหวาแม่ว่าใจ เย็น ๆนะลูก ค่อย ๆ พูด ค่อย ๆ จา กันก็ได้” ดวงใจพยายามบอกลูกสาวของเธอให้ใช้สติก่อนที่เรื่องจะรุนแรงเลยเถิด

“แม่คะ เขาเป็นคนหลอกยิหวานะคะ นี่ยังไม่รู้เลยว่ามีเรื่องอื่น ๆ ที่ยิหวายังไม่รู้อีกเหรอเปล่า”

“ไม่มีแล้วจ้ะ ยิหวา พี่โกหกยิหวาแค่เรื่องเดียว”

“ยิหวาบอกพี่ภูไปตั้งแต่วันแรกที่มา ว่าแม่ของยิหวาเป็นใคร แล้วทำไมพี่ไม่บอกล่ะ? ว่าพี่เป็นลูกของพ่อเลี้ยง”

“พี่ขอโทษ ต่อไปพี่สัญญาว่าจะไม่โกหกอะไรยิหวาอีกเลยจ้ะ”

“เอาเถอะลูก พี่เขาก็ขอโทษแล้ว นึกว่าเห็นแก่พ่อเลี้ยงนะลูก

“ก็ได้ค่ะ”

“ขอบคุณครับน้องยิหวา”

“นี่เห็นแก่คุณลุงนะคะ”

“พี่เขาโทษแล้ว ก็ดีกันนะลูก เรื่องเล็กน้อยเอง”

“ก็ได้ค่ะ” หวันยิหวาเข้าใจแจ่มแจ้งทุกอย่าง เธอโดนหลอก เป็นการหลอกปั่นหัว ร่างระหงนิ่งขึง ร้าวรานเป็นที่สุด เขาทำแบบนี้ได้ยังไง คุณแม่ไว้ใจผู้ชายคนนี้ได้อย่างไร เขากล้าดียังไงถึงมาหลอกเธอ

“งั้นเราไปทานข้าวกันนะครับ ป้าชื่นตั้งโต๊ะแล้ว”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel