บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 การเตรียมตัวแบบนี้ ปีศาจเขาไม่ทำกันหรอกเจ้าค่ะ!

หลังจากที่ผมได้รู้จักทักษะของตัวเองแล้ว จึงตัดสินใจไปหอสมุดในปราสาท แม้ว่าปู่บ๊อปจะทำท่าไม่พอใจเหมือนจะตำหนิผมว่า “ท่านใจเย็นเกินไปแล้ว” แต่ผมก็ยังยืนยันคำเดิมว่าจะไปหอสมุด เพราะสิ่งที่จำเป็นสำหรับผมตอนนี้คือ โพชั่นและยาอื่นๆ จากประสบการณ์ที่ผมได้เป็นเกมเมอร์ การจะไปเพิ่มเลเวลจำเป็นต้องใช้โพชั่นจำนวนหนึ่ง วันนี้ทั้งวันผมจึงตั้งเป้าไว้ว่าต้องทำโพชั่นไว้สักยี่สิบขวดเพื่อการต่อสู้ในวันพรุ่งนี้ แต่แล้วก็เกิดปัญหากับผมตั้งแต่ได้เปิดหนังสือในหน้าแรก เพราะตัวอักษรที่อยู่ในหนังสือนั้น เป็นตัวอักษรที่ผมอ่านไม่ออก ทั้งๆ ที่อักษรบนลูกแก้วพยากรณ์ ก็อ่านได้ปกตินี่น่า

“มีอะไรหรือเจ้าคะท่านซาชิ?” ไมนด์เข้ามาถามผมเพราะเห็นผมทำหน้าเครียด

“คือว่า...ผมอยากรู้วิธีทำโพชั่น แต่ผมอ่านหนังสือของที่นี่ไม่ออกเลย ไมนด์พอจะอ่านได้ไหม?”

“ดิฉันก็อ่านไม่ได้เช่นกันเจ้าค่ะ เพราะหนังสือเหล่านี้ถูกกำกับด้วยเวทมนต์ คนที่จะสามารถอ่านได้นั้นจะมีเพียงผู้ที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดเท่านั้น”

“แต่ตอนที่ผมได้อ่านตัวอักษรบนลูกแก้วพยากรณ์ก็อ่านได้ปกตินี่”

“เพราะเป็นอักษรที่ไม่ได้มีเวทมนต์กำกับไว้ก็สามารถอ่านได้ตามปกติเจ้าค่ะ”

“ลำบากแล้วสิ แค่จะอ่านหนังสือ ยังต้องหาผู้ผู้ที่มีคุณสมบัติมาอ่านให้ เฮ้อ...” คงจะเกี่ยวกับทักษะสินะ ลองตรวจสอบทักษะของตัวเองก่อนดีกว่า

เมื่อคิดแบบนั้น ผมจึงใช้ [ประเมิน] กับตัวเองเป็นครั้งแรก

[ซาชิ (ทหารฝึกหัด) : Lv.1]

[ทักษะ : ปรุงยา Lv.1 / ประเมิน Lv.1 / แปรธาตุ Lv.1 / ไอเทมบ็อกซ์ Lv.None]

[รายการทักษะ : [ซ่อน]]

“รายการทักษะ” มันคืออะไรกันนะ? แล้ว [ซ่อน] ละ? ผมสงสัยกับคำๆ เดียวที่อยู่ล่างสุดของข้อมูลของผม เพราะคำๆ นี้ไม่ได้ถูกแสดงลงบนลูกแก้วพยากรณ์ ผมจึงลองกดดูเผื่อว่าจะมีคำอธิบาย แต่สิ่งที่ออกมากลับไม่ใช่คำอธิบาย แต่เป็นชื่อทักษะมากมายที่ผมยังไม่สามารถใช้ได้

“อะไรเนี้ยะ!!”

ผมประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบไล่รายการทักษะที่มีอยู่มากมาย ถ้าราการเหล่านี้เป็นรายการทักษะที่ผมสามารถเลือกใช้ได้ตามต้องการ มันก็จะทำให้ผมดูโกงอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ก่อนอื่นต้องหาของที่ต้องการซะก่อน ไล่หาดูทีละบรรทัดไม่นานก็เจอสิ่งที่ตามหา ผมไม่รอช้าที่จะกดดูคำอธิบาย

[อ่าน (ติดตัว) : เงื่อนไข – None

[สามารถอ่านภาษาท้องถิ่นที่ถูกเวทมนต์ผนึกได้ เมื่อเลเวลของทักษะสูงขึ้นจะสามารถอ่านหนังสือที่ระดับสูงขึ้นได้]

[ยอมรับ][ปฏิเสธ]

มีจริงๆ สินะ! ผมกดเลือก [ยอมรับ] อย่างไม่ลังเล ถ้าผมอ่านหนังสือไม่ออกผมก็ทำโพชั่นไม่ได้ แต่ก็ยังคงมีปัญหาอีกจนได้

“เอ๋!!! ทำไมผมยังอ่านไม่ออกอีกละ? ทั้งๆ ที่มีทักษะ [อ่าน] แล้วแท้ๆ”

“มีอะไรหรือเจ้าคะท่านซาชิ?”

“ก็ผมมีทักษะ [อ่าน] แล้ว แต่ก็ยังอ่านหนังสือไม่ออกเลย”

“เอ๋?? เออ...อาจจะเป็นเพราะว่าหนังสือมีระดับสูงเกินไปก็ได้นะเจ้าคะ” ไมนด์ ทำหน้าคล้ายกับสงสัยและอยากจะถามว่าทำไมถึงอ่านหนังสือได้แล้วล่ะ? แต่ก็กลืนคำถามลงไปพร้อมกับให้คำแนะนำในทันที

“ระดับของหนังสือเหรอ?”

“เจ้าค่ะ อย่างที่ดิฉันได้บอกไปเมื่อครู่ ผู้ที่อ่านหนังสือได้จำเป็นต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดเท่านั้น หนังสือในหอสมุดนี้จะมีเวทมนต์กำกับไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่เหมาะสมนำไปใช้ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้เจ้าค่ะ”

“อันตราย...ขนาดนั้นเลยเหรอ?”

“เจ้าค่ะ อย่างเช่น ทหารเลเวลต่ำไปอ่านหนังสือเวทมนต์ระดับสูง หากถูกนำไปใช้อาจทำให้ควบคุมเวทมนต์ไม่ได้ ร้ายที่สุดผู้ใช้ก็จะเสียชีวิตเลยนะเจ้าคะ”

“แล้วผมจะทำยังไงดีล่ะ? ผมอยากได้วิธีการปรุงยานี่น่า”

“คือว่าท่านซาชิ ท่านสามารถใช้ [ประเมิน] ได้มิใช่หรือเจ้าคะ? ลองใช้ทักษะนั้นตรวจสอบหนังสือก่อนน่าจะดีกว่า จะได้ทราบระดับของหนังสือที่ท่านอ่านได้ตอนนี้ด้วยนะเจ้าคะ”

“จริงสิ! ขอบใจนะไมนด์” ไมนด์ก็หน้าแดงหลบตาเล็กน้อย ถึงจะเป็นซอมบี้ก็เถอะ

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ”

ผมจึงเดินหาหนังสือปรุงยาทั่วทั้งหอสมุด แม้การเดินตามชั้นต่างๆ ไม่ได้ต่างจากหอสมุดที่โรงเรียนก็เถอะ แต่ด้วยสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยไอปีศาจ ทำให้หอสมุดแห่งนี้ดูวังเวงสมกับเป็นหอสมุดปีศาจ และในที่สุดก็เจอหนังสือปรุงยาขั้นต้นที่ผมสามารถอ่านได้ แต่กว่าจะหาเจอ ก็เสียเวลาไปไม่น้อยเลย

[หนังสือปรุงยา : หนังสือระดับ 1]

[เนื้อหา : วิธีทำโพชั่น ระดับ 1, มานาโพชั่น ระดับ 1]

ถึงในหนังสือจะมีวิธีทำโพชั่นแค่สองอย่าง แต่ก็คงจะใช้ได้ละนะ

โพชั่น และยาพิษต่างๆ จะมีอยู่ 10 ระดับ ยิ่งระดับสูง ราคาก็จะแพงขึ้น พร้อมๆ กับระดับความยากในการผลิต ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นก็สมเหตุสมผลดี แต่ตอนนี้คงทำเท่าที่ทำได้ไปก่อน เพราะเลเวลเท่านี้คงจะหวังอะไรมากไม่ได้

ผมนั่งอ่านหนังสือไปสักพักหนึ่งก็มีเสียง “จ๊อก!!!!” ออกมาจากท้องของผมเอง ผมจึงมองไมนด์ที่คิดว่าน่าจะอยู่ใกล้เพื่อถามว่า “พอจะมีอะไรให้ผมทานบ้างไหม?” เพราะผมไม่ได้ทานอาหารเข้า แต่สิ่งที่เห็นกลับเป็นไมนด์ยืนถือถาดผลไม้หน้าตาแปลกๆ อยู่ใกล้ๆ ดูเหมือนเธอจะรู้อยู่แล้วว่าผมจะต้องหิวแน่ๆ

“ผลไม้นี้ ท่านซาชิทานได้หรือไม่เจ้าคะ? ดิฉันสามารถหาได้เท่านี้ เพราะเห็นท่านยังไม่ได้ทานอาหารเช้า”

“ถึงหน้าตาจะดูไม่ดี แต่ผมคิดว่าคงจะทานได้ ขอบใจมากเลยนะ” ผมยิ้มให้พร้อมกับหยิบผลไม้หน้าตาแปลกๆ มาจัดการ ช่างสมกับเป็นผลไม้แห่งดินแดนปีศาจจริงๆ เพราะรสชาติมันก็ยังแปลกๆ เหมือนหน้าตาของมัน

“ท่านซาชิเจ้าคะ ท่านซาชิเกิดจากบาปแห่งความโลภสินะเจ้าคะ?”

“ทำไมถึงถามผมอย่างนั้นล่ะ?”

“ปีศาจทุกคนจะเกิดจากบาปทั้งเจ็ดเจ้าค่ะ และทุกคนจะมีกลิ่นที่น่ารังเกียจออกมาเจ็ดแบบ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของปีศาจ แต่กลิ่นของท่าน...แม้จะเป็นกลิ่นบาปแห่งความโลภ แต่ก็มิได้น่ารังเกียจแต่อย่างใด อาจเพราะแบบนี้ท่านจอมมารจึงได้บอกว่าท่านอ่อนแอสินะเจ้าคะ”

ถึงจะถูกบอกว่าตัวเองมีกลิ่นบาปติดตัวก็เถอะ ผมก็ไม่ได้ตกใจมากมายอะไร เพราะยังไงมนุษย์ก็มีบาปทั้งนั้นแหละ และอีกอย่างผมก็ไม่ใช่นักบวชซะด้วยสิ คงจะถามหาความบริสุทธิ์ของจิตใจไม่ได้หรอก

“อย่างงั้นเหรอ ผมไม่รู้มากก่อนเลย ไมนด์ช่วยอธิบายเกี่ยวกับบาปทั้งเจ็ดให้ผมฟังหน่อยสิ”

“เจ้าค่ะ แต่ก่อนบาปทั้งเจ็ดทำให้เกิดอดีตจอมมารทั้งเจ็ดเจ้าค่ะ ฉะนั้นผู้ที่เกิดจากบาปแบบเดียวกับจอมมารคนไหน ก็จะถูกเรียกรวมๆ ว่าเป็นลูกหลานของจอมมารคนนั้นเจ้าค่ะ คนที่หนึ่ง จอมมารแอสโมดิวส์ ผู้เกิดจากบาปแห่งราคะ คนที่สอง จอมมารเซราฟิม ผู้เกิดจากบาปแห่งความตะกละ คนที่สาม จอมมารแมมมอน ผู้เกิดจากบาปแห่งโลภ คนที่สี่ จอมมารเบลเฟเกอร์ ผู้เกิดจากบาปแห่งความเกียจคร้าน คนที่ห้า จอมมารซาตาน ผู้เกิดจากบาปแห่งโทษะ คนที่หก จอมมารลิเวียธาน ผู้เกิดจากบาปแห่งความริษยา และ คนที่เจ็ด จอมมารลูซิเฟอร์ ผู้เกิดจากบาปแห่งความเย่อหยิ่ง เจ้าค่ะ”

“รู้สึกว่าจะมีจอมมารที่ชื่อซาตานด้วยสินะ เกี่ยวข้องยังไงกับจอมมารสกาเล็ตหรือเปล่า?”

“นอกจากเรื่องที่ท่านเกิดจากบาปแห่งโทษะ ก็ไม่อะไรที่เกี่ยวข้องกันหรอกเจ้าค่ะ เพียงแต่เป็นชื่อที่สองที่จะมอบให้ผู้ที่ได้ขึ้นเป็นจอมมารเท่านั้น หากเกิดจากบาปแบบไหน ก็จะได้ชื่อที่สองตามชื่อของอดีตจอมมารคนนั้นด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากท่านซาชิได้เป็นจอมมาร ท่านซาชิก็ได้ชื่อที่สองว่า จอมมารซาชิ แมมมอน เจ้าค่ะ”

“อ๋อ อย่างงั้นเหรอ แต่เป็นชื่อที่เชยน่าดู ถึงอย่างนั้นผมคงไม่อยากเป็นจอมมารหรอก เพราะผมชอบอิสระมากกว่า”

“นั่นสินะเจ้าคะ”

นั่นสินะ ถ้าได้เป็นจอมมารคงเหนื่อยกว่านี้แน่ เอาละ! ตอนนี้ก็ได้สูตรทำโพชั่นแล้ว คงได้เวลาลองทำโพชั่นแล้ว แต่ขอจัดการผลไม้ตรงนี้ซะก่อน ถึงหน้าตาจะแปลกๆ แต่พอกินไปเรื่อยๆ ก็อร่อยใช้ได้เลย อย่างน้อยก็ยังดีกว่าหนอนตัวอ้วนละนะ

[-]

ในที่สุดก็เตรียมรายการอุปกรณ์ได้สักที ต่อไปก็ไปหาสมุนไพร แต่เราก็ไม่มีอุปกรณ์ด้วยสิ คงต้องไปหาปู่บ๊อปก่อนแต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ พอจะชวนมาหอสมุดกลับหายหน้าไป และก็ให้ไมนด์มาดูแลผมแทนซะอย่างนั้น ยังไงคงต้องไปตามตัวให้เจอก่อนแล้วละ

“ไมนด์ พอจะรู้ไหมว่าปู่บ๊อปไปไหน?”

“ท่านโซบ๊อปต้องไปทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของท่านจอมมาร จะกลับมาหาท่านตอนรุ่งเช้าของวันพรุ่งนี้ในเวลาอาหารเช้า ดิฉันจึงถูกสั่งให้มาดูแลท่านซาชิตลอดทั้งวันเจ้าค่ะ”

“แล้วผมจะทำไงดี? ผมตั้งใจว่าจะถามเกี่ยวกับจุดที่มีสมุนไพร และร้านที่ขายอุปกรณ์สักหน่อย”

“เรื่องนั้นท่านโซบ๊อปได้ฝากเงินไว้กับดิฉันแล้ว และฝากบอกไว้ว่าสามารถนำไปซื้อของใช้จำเป็นได้เลยเจ้าค่ะ”

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมเองยังต้องออกไปซื้อของอยู่ดี แล้วผมจะซื้อของได้ที่ไหนละ?”

“เพียงแค่ท่านซาชิสั่งมา ดิฉันจะหาทุกอย่างตามที่ต้องการให้ แม้ต้องบุกน้ำลุยไฟ ดิฉันก็จะหามาให้ได้เจ้าค่ะ”

“ผมคิดว่าคงไม่ต้องขนาดนั้นหรอก แค่ไปซื้อของตามรายการนี้เท่านั้น ผมไม่อยากให้ไมนด์เป็นอะไรไปเพราะแค่ไปซื้อของให้ผมหรอกนะ” พลางยื่นรายการซื้อของให้เธอ แต่ก็อดสังเกตไม่ได้ว่าเธอหน้าแดงด้วย เป็นไข้หรือเปล่านะ?

“มีแต่ของที่สามารถหาได้ทั่วไปคงจะซื้อได้มากพอดู เพราะส่วนใหญ่เอามาใช้เลี้ยงสัตว์ทั้งนั้น ท่านแน่ใจนะเจ้าคะ?”

“ตามนั้นแหละ” แต่ก็สงสัยที่ตัวเองเขียนหนังสือด้วยภาษาปีศาจได้ คงเพราะมีทักษะ [อ่าน] สินะ

“ไมนด์อ่านออกใช่ไหม?”

“เจ้าค่ะ หากเป็นตัวหนังสือที่ไม่ถูกเวทมนต์กำกับ ก็สามารถอ่านได้สบายเจ้าค่ะ แล้วจะให้ดิฉันเอาไปส่งที่ไหนเจ้าคะ?”

“ห้องของผมแล้วกัน” ถึงผมจะพูดออกมาแบบสบายๆ ผมก็ยังไม่ชินกับการเชิญชวนสาวน้อยซอมบี้ไปที่ห้องหรอกนะ

[-]

ไม่นาน ผมก็ได้ของครบทุกอย่าง ถึงจะไม่แปลกใจที่ไมนด์หาของพวกนี้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะหาของได้มากขนาดนี้ มากเกินกว่าที่ผมฝากให้ซื้อมาซะอีก

“นี่ไมนด์ ไปหาของพวกนี้มาจากไหนถึงได้เยอะขนาดนี้?”

“พ่อค้าในตลาด กับร้านขายสมุนไพรเจ้าค่ะ ของพวกนี้เดิมทีปีศาจระดับต่ำที่ออกไปหาของป่า จะเก็บเข้ามาขายเป็นประจำ ส่วนใหญ่เอามาขายให้ทหารที่เลี้ยงไวเวิร์น แต่ช่วงนี้ขายสมุนไพรไม่ค่อยได้ เพราะไวเวิร์นถูกเอาไปที่เมืองทิศตะวันออกจึงเหลืออยู่ในเมืองหลวงไม่มาก ส่วนร้านขายอุปกรณ์ปรุงยาก็ดีใจใหญ่เลยบอกว่าขายออกเสียที เพราะอุปกรณ์ที่ใช้ปรุงยาขายไม่ค่อยจะได้ ปีศาจไม่เตรียมของแบบนี้กันเจ้าค่ะ”

“ก็นะ ถ้าดูถูกโพชั่นกับยาอื่น จะเสียใจทีหลังนะ”

“แล้วท่านซาชิจะเริ่มเลยหรือไม่เจ้าคะ?”

“เริ่มเลยแล้วกัน!”

จากนั้นกิจกรรมการปรุงยาก็เริ่มขึ้น ตัวผมเองอาจจะดูมีความสุขที่ทำกิจกรรมเล็กๆ นี้กับสาวซอมบี้ในชุดสาวใช้ ผมเชื่อว่านี่เป็นความฝันของชายหลายๆ คน แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่กล้าคิดล่วงเกินกับเธอเลยแม้แต่น้อย ทำไมนะหรือ? นั่นเพราะแรงมหาสารที่เธอมีนะสิ! ถ้าชายใดได้เห็นเธอบดสมุนไพรด้วยมือเปล่าจนเป็นผงแล้วละก็ คงไม่กล้าเข้าไปทำอะไรล่วงเกินกับเธอแน่นอน

“ท่านดูสงบมากเลยนะเจ้าคะ!”

“ทำไมเหรอ?”

“ดิฉันคิดว่า คนที่ถูกอัญเชิญมาจากต่างโลก ย่อมต้องมีอาการสับสนเป็นธรรมดา แต่ท่านไม่แสดงอาการสับสนแม้แต่น้อย อีกทั้งยังพยายามรวบรวมข้อมูล แถมยังกล้าเผชิญหน้าท่านจอมมารอีก ดิฉันแปลกใจมากเลยเจ้าค่ะ”

“อย่างนั้นเหรอ! อาจเป็นเพราะโลกใบนี้คล้ายกับนิยายของคุณแม่กับเกมของคุณพ่อก็ได้”

“นิยาย...เกม?”

“นิยายคือหนังสือที่ถูกเขียนเพื่อเล่าเรื่องราวต่างๆ จะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องที่แต่งขึ้นก็ได้ คุณแม่ของผมเขียนนิยายแนวเวทมนต์ ภูตผีปีศาจ ผู้กล้า นักผจญภัยอะไรแบบนี้ ส่วนเกมของคุณพ่อเป็นเครื่องเล่นที่สร้างจากตัวละครในจินตนาการ จะมีตัวละครที่เป็นภูตผีปีศาจและมอนสเตอร์ โดยที่ตัวเราจะมีความสามารถต่างๆ เช่น มีเวทมนต์หรือเป็นนักดาบ ผมเองก็เลยไม่รู้สึกตกใจอะไรมากมาย”

“โลกใบนี้เหมือนกับสิ่งที่ท่านเล่ามาขนาดนั้นเลยหรือเจ้าคะ?”

“ก็ไม่เชิง โลกใบนี้เป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับผม แต่ก็รู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด แต่ถ้าจะพูดให้ถูกสำหรับผม โลกใบนี้เหมือนเกมใหม่ที่ผมมีแค่ชีวิตเดียว...ละนะ”

แม้ไมนด์จะยังคงไม่เข้าใจที่ผมพูดมาสักเท่าไร แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรไปมากกว่านั้น

[-]

“ไหวไหมเจ้าคะ?”

“จะหมดแรงอยู่แล้ว!!”

“อีกนิดเดียวก็จะครบสิบขวดแล้วนะเจ้าคะ”

“ลำบากจริงๆ”

ตอนนี้ผมได้โพชั่นกับมานาโพชั่นอย่างละแปดขวดแล้ว แต่ก็ทำล้มเหลวไปมาก ก็เลยออกมานั่งพักกดดูทักษะของตัวเองเล่นแก้เบื่อ

[ซาชิ (ทหารฝึกหัด) : Lv.1]

[ทักษะ : ปรุงยา Lv.2 / ประเมิน Lv.1 / แปรธาตุ Lv.1 / ไอเทมบ็อกซ์ Lv.None / อ่าน Lv.2]

[รายการทักษะ : [ซ่อน]]

“ทักษะ [ปรุงยา] เลเวล 2 แล้ว แต่ใช้เวลานาน ขั้นตอนเยอะและยังมีความเสี่ยงที่จะล้มเหลวอีก มีวิธีลัดไหมนะ?” ผมมองไปเรื่อยจนกระทั่งเจอกับทักษะที่ผมลืมไปแล้วว่ามีทักษะนี้อยู่

[แปรธาตุ (เรียกใช้) : Lv.1]

[สร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นมาใหม่ในรูปแบบต่างๆ หากผู้ใช้ทราบถึงวิธีและองค์ประกอบ สิ่งที่จะสร้างจะมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น เลเวลของทักษะมีผลต่อความสำเร็จในการใช้]

น่าสนใจ เมื่อผมคิดได้อย่างนั้นแล้ว ผมจึงเอาของทุกอย่างที่มีมารวมไว้ตรงกลางโต๊ะ ปล่อยสายตาที่สงสัยของไมนด์เอาไว้

วิธีใช้แล่นเข้ามาในหัวเหมือนกับว่าผมเคยทำมาก่อน ผมจึงเอามือวางขนาบที่สองข้างของกองวัตถุดิบและเอ่ยออกไป

“แปรธาตุ”

เกินวงแหวนเวทล้อมรอบกองวัตถุดิบในฉับพลัน เมื่อวงแหวนเวทถูกสร้างอย่างสมบูรณ์ก็เกิดระเบิดควันสีขาวฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งโต๊ะ พอควันจางลงก็ได้เห็นโพชั่นระดับ 1 สามขวดกับมานาโพชั่นระดับ 1 สองขวด และกองส่วนผสมที่ไม่ถูกผสม ส่วนตัวผมเองกลับรู้สึกล้าจะต้องหาที่นั่งก่อนที่จะล้มลงไปเสียก่อน

“เมื่อสักครู่ท่านซาชิทำอะไรหรือเจ้าคะ!?”

“ผมใช้ [แปรธาตุ] น่ะ แค่ลองดูก็รู้สึกหมดแรงขึ้นมา”

“แต่ไม่ผิดพลาดเลย! แถมยังไม่ต้องใช้อุปกรณ์เลยด้วยนะเจ้าคะ!”

“นั่นสินะ ตอนนี้ก็ได้โพชั่นสิบเอ็ดขวด มานาโพชั่นอีกสิบขวด กว่าจะได้ครบอย่างละยี่สิบขวด อาจจะถึงเช้าเลยก็ได้”

“ไม่หรอกเจ้าค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะช่วยอย่างเต็มความสามารถเลยเจ้าค่ะ”

“งั้นก็ฝากด้วยนะ”

ผมได้เรียนรู้เรื่องหนึ่งว่า อาการเหนื่อยล้าหลังจากใช้เวทแปรธาตุนั้น เกิดจากมานาในร่างกายเหลือน้อย ถึงจะไม่สะดวกเหมือนตอนเล่นเกมที่จะเห็นตัวเลขแสดงปริมาณของมานาก็เถอะ ความรู้สึกนี้คงต้องเรียนรู้ไว้เสียแล้ว

หลังจากนั้นผมก็เร่งทำโพชั่นกับมานาโพชั่นโดยใช้ [ปรุงยา] สลับกับ [แปรธาตุ] จนของที่เตรียมมาถูกใช้จนหมด สิ่งที่เหลือคือโพชั่นกับมานาโพชั่นที่ทำเสร็จแล้ว จึงเก็บทุกอย่างลงในไอเทมบ็อกซ์ ผมมองไมนด์ที่ทำหน้าแปลกใจหลังจากขวดโพชั่นหายไปต่อหน้าต่อตา ถึงผมจะแกล้งไม่สนใจ แต่ก็ต้องอธิบายให้เธอฟังจนได้เพราะทนต่อแรงกดดันจากสายตาที่สงสัยของเธอไม่ไหว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel