บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 ทักษะที่ไม่มีใครสนใจ

“ได้สิครับ ลองดูกัน” ผมใส่แหวนนั้นและชูขึ้นมา ก็มีจอสีฟ้าออกมาพร้อมกับแสดงช่องสี่เหลี่ยมว่างเต็มไปหมด แต่ท่าทีของปู่บ๊อปนั้นดูประหลาดใจ

“นี่มันอะไรของท่าน? มิใช่เวทโจมตีหรอกหรือ? มันใช้ทำอะไรได้กัน?”

ที่ปู่บ๊อปตกใจเพราะว่ามันไม่ใช่เวทโจมตี เอาเป็นว่าผมต้องอธิบายแล้วละสิ

“ปู่บ๊อป! ใจเย็นๆ ก่อน ผมจะบอกให้ฟังว่าสิ่งนี้มีไว้ทำอะไร เจ้าสิ่งนี้คือแหวนช่องว่างมิติ [ไอเทมบ๊อกซ์] มีความสามารถในการเก็บไอเทมได้ทุกอย่างที่ไม่มีชีวิต ผมสามารถเก็บหรือเอาไอเทมออกมาได้ดั่งใจเลยนะ แถมยังสามารถเก็บดรอปไอเทมหลังจากต่อสู้เสร็จแล้วได้แบบอัตโนมัติอีกด้วย”

“นี่ท่านคิดอะไรอยู่?!!! ถึงเวทมนต์ที่ท่านเลือกมาจะเป็นประโยชน์ แต่ท่านจะใช้ต่อสู้ได้อย่างไรกัน!!”

ผมแปลกใจหน่อยๆ ที่ได้เห็นท่าทางของปู่บ๊อป เพราะผมได้คิดดีแล้ว ว่าหากจะต้องต่อสู้จริงๆ สิ่งอำนวยความสะดวกแบบนี้ย่อมขาดไปไม่ได้สำหรับเกมเมอร์อย่างผม

“เฮ้อ! เอาละ คงต้องพาไปที่สุสานปีศาจแล้วละ อย่างน้อยก็ขอให้ท่านมีความสามารถที่ใช้ต่อสู้ได้บ้างเถอะนะ”

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ถึงจะไม่มี ผมก็สู้ได้แน่นอน”

“ให้มันได้อย่างนี้สิ”

หลังจากนั้น พวกเราก็เดินออกไป แน่ละ ผมเองก็อยากได้ความสามารถที่ใช้ต่อสู้ได้บ้าง ไม่อย่างนั้นคงถูกปล่อยให้ตายแหงๆ

[-]

สิ่งหนึ่งที่ผมยืนยันได้คือ ระบบเลเวลของทุกๆ ชีวิตบนโลกนี้ ที่ผมไม่ได้ตกใจอะไรก็เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผมที่อ่านนิยายมานับไม่ถ้วน แต่สิ่งที่ต้องยืนยันจริงๆ ก็คือ อะไร?! ที่สิ่งมีชีวิตนำมาใช้เพิ่มเลเวลได้ บางเกมต้องใช้การฆ่ามอนสเตอร์ในการเพิ่มเลเวล บางเกมต้องใช้การทำอะไรซ้ำๆ จึงจะสามารถเพิ่มเลเวลได้ ส่วนสิ่งที่ต้องยืนยันอีกเรื่องคือ เลเวลของทักษะ ซึ่งเป็นเลเวลที่แยกออกไปจากเลเวลของตัวเองซึ่งเป็นระดับความชำนาญของทักษะ แต่ผมไม่มีเวลาหรือความสามารถในการค้นหาข้อมูลในตอนนี้ นอกจากวิธีที่ต้องใช้ร่างกายในการปะทะด้วยตัวเองเท่านั้น ค่อยๆ เก็บข้อมูลไปแล้วกัน

ผมถูกพาออกมาทางหลังอาคารที่ผมพักอยู่ ไกลเพียงแค่อึดใจก็เจอถ้ำ...ไม่สิ ต้องบอกว่าเหมืองเก่า ภายในเหมืองไม่สามารถประเมินได้ว่าเก่าแก่แค่ไหน แต่กลับมีร่องรอยการใช้งานเป็นประจำ เมื่อเดินเข้าไปก็พบกับแสงสว่างที่เกิดจากคบไฟส่องทาง ทางเดินดูวังเวงสุดตาที่ไม่เห็นแม้ทางออก บางครั้งผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมาทางใต้ดิน รู้เพียงแค่ว่าทางเดินนี้เป็นทางเดินสำหรับผู้ที่ทำงานในปราสาทเท่านั้น

ไม่นานก็พบกับโพลงใหญ่ใต้ดินที่ดูกว้างขวาง ซ้ายขวารายล้อมไปด้วยต้นไม้ที่ยืนต้นตาย และค้างคาวมากมายที่บินควักไขว่ ด้านหน้าปรากฏประตูที่ดูเหมือนทางเข้าโบสถ์เก่า หลุมศพทั้งซ้ายและขวาดูน่าสะพรึงอยู่ภายใน ทำให้นึกถึงนิยายสยองขวัญที่จะมีซอมบี้โผล่ขึ้นจากหลุมศพ และใจกลางสถานที่นั้นก็คือโบสถ์ใหญ่ ภายในโบสถ์มีปีศาจในชุดทหารฝึกหัดหลายสิบคนยืนรายล้อมลูกแก้วสีแก้วสีม่วงลูกมหึมา

“นั่นคือลูกแก้วพยากรณ์ ท่านจำเป็นต้องสรวจสอบทักษะก่อน”

ปู่บ๊อปชี้ไปที่ลูกแก้วพยากรณ์ลูกมหึมาสีม่วงที่เปล่งแสงออกมาและลูกแก้วสีม่วงลูกเล็กเท่าลูกโบว์ลิ่งที่ล้อมรอบอีกยี่สิบกว่าลูก เหมือนกับว่าลูกแก้วพยากรณ์ลูกใหญ่ส่งพลังงานให้กับลูกแก้วลูกเล็กอย่างต่อเนื่อง ปีศาจในในชุดทหารฝึกหัดเหมือนผมกำลังวางมืออยู่บนลูกแก้วลูกเล็กเหล่านั้น และมีตัวหนังสือออกมา บางคนดีใจกระโดดโลดเต้น ถึงจะมีส่วนน้อยที่นั่งเศร้าสร้อยอย่างเห็นได้ชัด

“เจ้าก็ทำด้วยสิ ยื่นมือทั้งสองของเจ้าวางบนลูกแก้วลูกนั้น”

ปู่บ๊อปบอกผมและชี้ไปยังลูกแก้วที่อยู่ใกล้ๆ ผมวางมือทั้งสองลงบนลูกแก้ว ไม่นานแสงสีม่วงก็สว่างจ้าออกมาช่วงระยะเวลาหนึ่งก่อนที่จะปรากฏตัวหนังสือแปลกตาที่ไม่เคยเห็นบนโลก แต่ผมก็สามารถเข้าใจได้ทันที

[ซาชิ (ทหารฝึกหัด) : Lv.1]

[ทักษะ : ปรุงยา Lv.1 / ประเมิน Lv.1 / แปรธาตุ Lv.1 / ไอเทมบ็อกซ์ Lv.None]

ช่างเป็นทักษะช่วยเหลือที่ดีจริงๆ ผมคิดอย่างนั้น และได้ลองกดดูเผื่อจะมีคำอธิบายขึ้นมา แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งหันกลับไปสบตากับปู่บ๊อป ผมถึงกับเสียวสันหลัง

“ท่านมีความสามารถอะไรบ้างหรือ?”

“คือว่า...มีทักษะ [ปรุงยา] [ประเมิน] และ [แปรธาตุ] ครับ” ผมยิ้มอย่างดีใจ แต่...ปู่บ๊อปกลับไม่ยิ้มไปกับผมด้วย

“นี่ท่านไม่มีความสามารถที่ใช้ต่อสู้ได้เลยมิใช่หรือ?!! แล้วท่านจะทำอย่างไร?!! หากเรื่องนี้รู้ไปถึงหูของท่านจอมมารเข้าละก็ ท่านได้ถูกเอาไปปล่อยในป่านอกอาณาจักรอย่างแน่นอน!!! ไม่น่าเลย! นี่ท่านจะทำให้ข้าผู้นี้คิดจริงๆ หรือว่าการที่อัญเชิญท่านมาเป็นเรื่องผิดพลาดจริงๆ ดังที่ท่านจอมมารได้กล่าวมา!!!!”

“ปู่บ๊อป ใจเย็นๆ ก่อน วันนี้เป็นวันที่สองเอง ยังเหลืออีกตั้งห้าวันนะครับ”

“ท่านรู้หรือไม่ว่า การปรุงยากับแปรธาตุทำไมถึงไม่เป็นที่สนใจของเหล่าปีศาจและไร้ค่าโดยสิ้นเชิง?! นั่นก็เพราะปีศาจนั้นถึงแม้บาดเจ็บขนาดไหน หากไม่ถูกชำระล้างจนสูญสลายก็ยังสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ด้วยการซึมซับไอปีศาจ เพียงหนึ่งคืนก็กลับสู่สภาพปกติแล้วไม่จำเป็นต้องพึ่งยารักษา ส่วนแปรธาตุนั้นไม่ใช่ทักษะโจมตี เลยไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้ จึงถูกเรียกว่าทักษะที่ไร้ประโยชน์ แล้วท่านจะทำเช่นไร?!!”

“เอาน่าๆ ผมคนนี้ต้องหาทางได้แน่นอนปู่อย่าห่วงไปเลย ตอนนี้ผมขอลองใช้ [ประเมิน] กับปู่ได้ไหมครับ?” ต้องเปลี่ยนเรื่องคุยแล้วสิ

“เฮ้อ! ตามใจท่าน เพราะยังไงก็ไม่ใช่ทักษะโจมตีนี่น่า ข้าเหนื่อยใจกับท่านจริงๆ”

“ไหนดูสิว่าปู่มีสถานะเป็นแบบไหน”

พอพูดจบ ผมก็ลองใช้ [ประเมิน] โดยการหันหน้าไปทางปู่บ๊อปแล้วพูดขึ้นมาว่า “ประเมิน” เกิดหน้าจอสีฟ้าและตัวหนังสือออกมาคล้ายกับหน้าจอตอนใช้ [ไอเทมบ็อกซ์] ทำเอาผมและปู่บ๊อปตกใจเล็กน้อย เราทั้งสองคนเริ่มอ่านสิ่งที่แสดงบนจอนั้นอย่างสนใจ

[โซบ๊อป (พ่อมด) : Lv.55]

[ทักษะ : หูผี Lv.2 / คอลอันเดด Lv.4 / ชาร์ม Lv.None]

ผมมีพลังที่เหมือนกับลูกแก้วพยากรณ์แล้วสินะ ไม่รอช้า ผมกดดูทักษะ [หูผี] และก็มีจอสีฟ้าโผล่ขึ้นมาอีกจอหนึ่ง

[หูผี (ติดตัว) : Lv.2]

[อ่านใจผู้ที่มีเลเวลต่ำกว่าตนได้ ยิ่งเลเวลมาก ยิ่งสามารถเพิ่มจำนวนและระยะห่างของคนที่อ่านใจได้]

ข้อมูลที่แสดงขึ้นมา คล้ายกับสิ่งที่แสดงบนลูกแก้วพยากรณ์ ต่างกันที่ผมสามารถเลือกอ่านคำอธิบายได้ ซึ่งในลูกแก้วพยากรณ์มีบอกแค่ชื่อและเลเวลของทักษะเท่านั้น ทำให้สิ่งที่ผมทำได้นั้นมีค่ามากจนตัวผมเองยังคิดเลยว่าหากนำข้อมูลนี้ไปใช้ในการต่อสู้จะได้เปรียบขนาดไหนกัน

“นี่ท่านได้ทักษะที่เอาเปรียบเสียจริงๆ หากก่อนการต่อสู้ได้เห็นข้อมูลแบบนี้ของพวกศัตรูก่อน ย่อมหาวิธีต่อสู้ได้ไม่ยากเลย เพียงแค่ทักษะเดียวท่านก็รู้ถึงความสามารถของข้าได้จนหมดสิ้น แต่ท่านมีเพียงปัญหาเดียวเท่านั้น คือท่านไม่มีทักษะที่ใช้ต่อสู้ แล้ววันนี้ท่านจะทำอะไรต่ออย่างนั้นหรือ? จะไปสนามฝึกทหารฝึกหัดเลยหรือไม่?”

“ทหารฝึกหัดเหรอครับ? จะว่าไปทหารแบ่งระดับกันแบบไหนหรอครับ?” ผมเดินตามปู้บ๊อปไปพร้อมกับถามไปด้วย

“ทหารของโลกใบนี้โดยทั่วจะแบ่งออกเป็น 10 คลาส ตั้งแต่ J H G F E D C B A และ S ทหารจะเปลี่ยนคลาสทุกๆ 10 เลเวล ทุกคนจะรู้ตัวว่าตัวเองนั้นอยู่ที่เลเวลเท่าไร แต่ไม่สามารถที่จะรู้ได้เลยว่าคนอื่นนั้นมีเลเวลเท่าไร นอกจากคนที่มีทักษะ [ประเมิน] แบบท่านเท่านั้นที่จะใช้ตรวจสอบได้"

"ทุกๆ 10 เลเวลก็จะสามารถเลื่อนคลาสได้เหรอ..."

"หากข้อมูลของเลเวลถูกล่วงรู้ไปถึงผู้อื่น จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก เช่น ส่วนตัวข้านั้นอยู่คลาส D แต่ก็ไม่สามารถสู้กับคนที่มีเลเวล 59 ซึ่งเป็นคนที่ใกล้จะเปลี่ยนเป็นคลาส C แล้ว ทั้งๆ ที่อยู่คลาสเดียวกัน ทางอาณาจักรเลยค้นหาคนที่มีทักษะ [ประเมิน] และรวบรวมมาเป็นข้ารับใช้ในวัง เพราะหากข้อมูลเลเวลของแต่ละคนแพร่กระจายออกไป จะทำให้การปกครองเป็นไปได้ยากเช่นกัน”

“ยาก...แบบไหนเหรอครับ?”

“ทหารในหน่วยๆ หนึ่ง จะมอบหมายให้คนๆ หนึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยด้วยความสามารถและความไว้ใจจากผู้บังคับบัญชา แต่หามีลูกหน่วยคนหนึ่งมีเลเวลมากกว่าหัวหน้าและรู้เรื่องนั้นเข้า จะเกิดการกระด้างกระเดื่อง ร้ายที่สุดอาจจะมีการลอบสังหารเพื่อชิงตำแหน่งกันก็เป็นได้”

“เอ๋!! แย่แฮะ! แปลว่าไม่ยอมให้คนที่อ่อนแอกว่ามาปกครองสินะ แบบนี้ไม่รู้น่าจะดีกว่าจริงๆ นั่นแหละ”

“ส่วนอาชีพนั้นจะถูกแบ่งออกจากความถนัดแต่ละบุคคล เช่น ผู้ใช้ดาบก็เป็นนักดาบ ผู้ใช้ธนูก็เป็นนักธนู และผู้ใช้เวทก็เป็นนักเวท อาชีพจำพวกนี้จะเรียกรวมๆ ว่าทหาร ยังมีพวกที่มิใช่ทหารเช่น ช่างตีดาบ ช่างไม้ คนครัว โดยส่วนใหญ่อาชีพที่ไม่ใช่ทหารจะอยู่ในระดับต่ำเพราะไม่ค่อยได้ต่อสู้ละนะ”

“แล้วจอมมารมีอาชีพอะไรแล้วอยู่คลาสไหนหรือครับ?”

“ท่านจอมมารเป็นอัศวินดาบเทพปีศาจคลาส SS”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel