บท
ตั้งค่า

บทที่ 25 เพื่อนร่วมทางคนใหม่

ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดบนเรือเดินเข้ามาในวงพร้อมกับสตรีข้างกาย เขาแทงข้างหนุ่มหล่อผมสีน้ำเงิน เรียกเสียงฮือฮารอบวง

“ท่านเซอโร่ ท่านเฮน่า พวกท่านนี่ชอบทำให้ข้าแปลกใจอยู่เรื่อย กะจะเอาเงินมาละลายเล่นหรือไงครับ” เจ้าของโต๊ะทักทายอย่างคุ้นเคย

“พี่ข้าชอบทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้านอยู่แล้วนี่” เฮน่ากอดอกมองเอรอส อย่างสนใจ ตั้งแต่เขาเดินขึ้นดาดฟ้ามาด้วยท่าทางอันสงบนิ่ง ร่างสูงนั้นก็สะดุดสายตาของหล่อนทันที ทั้งสีผมแปลกประหลาด ใบหน้าไร้อารมณ์ ริมฝีปากที่เหยียดตึงตลอดเวลาแบบเสือยิ้มยาก ด้วยบุคลิกเขานั้นแม้จะคุยและมองคู่สนทนา แต่สายตากลับว่างเปล่า ราวกับว่าไม่อยากให้ใครก้าวล้ำความเป็นส่วนตัว ดูหยิ่งทะนงและน่าค้นหายิ่งนัก

“เริ่มได้!” หลังเสียงกรรมการประกาศ เสียงเชียร์ก็ดังกระหึ่ม

“ฮึ้ย!...ฮึ้ย! ทำไมมันทนทายาดจังวะ?” ผู้ชนะเกมที่แล้วเหงื่อซึม เมื่อคนที่เขาคิดว่าจะล้มได้ง่ายๆ ไม่หมูอย่างที่คิด ซ้ำยังทำหน้าเฉยเหมือนไม่ได้ออกแรงสักนิด ถ้าเป็นคนอื่นป่านนี้เขาคงเก็บเงินได้อีกสามร้อยแบบสบายๆ

เอรอสเป็นฝ่ายตั้งรับคู่ต่อสู้ของเขาที่ออกแรงกดแขนลงมา เมื่อคิดว่าให้เวลาอีกฝ่ายมากพอแล้ว เขาก็พลิกแขนลงไปทันที

ตึง!

ทุกคนอ้าปากค้างอึ้งกิมกี่ ภาพเมื่อสักครู่ราวกับเอากิ่งไม้ไปงัดท่อนซุง สักพักเงินสามร้อยออลก็มาวางอยู่ตรงหน้าเขา แล้วคนต่อไปก็ก้าวเข้ามา

คนที่สองผ่านไป คนที่สาม และคนต่อๆ ไปที่อยากจะลองงัดข้อกับเขาดูสักตั้งเพราะไม่เชื่อสายตาตัวเอง เจ้าของโต๊ะปาดเหงื่อซิกเพราะไม่อยากจะเสียเงินสามหมื่นออลโดยใช่เหตุ เงินรางวัลตรงหน้าชายหนุ่มแทบจะล้นหล่นลงจากโต๊ะ

“สงสัยข้าจะเจอคู่ต่อสู้ที่สูสีเข้าให้แล้ว” เซอโร่หย่อนก้นลงนั่งฝั่งตรงข้ามคนที่อาจจะกลายมาเป็นแชมป์แทนเขา ตอนแรกเขาก็คิดว่าโชคคงจะเข้าข้างเจ้าหนุ่มรูปงามคนนี้ เห็นทีจะไม่ใช่แค่โชค หมอนี่คงมีฝีมือพอตัวจึงเอาชนะชายฉกรรจ์ร่างบึกหลายคนได้อย่างสบาย แถมไม่มีเหงื่อสักหยด

“ข้าชื่อเซอโร่ เจ้าล่ะชื่ออะไร?” เซอโร่วางข้อศอกลงบนโต๊ะ ทักทายคู่ต่อสู้ตามประสาคนอัธยาศัยดี ได้ยินเสียงโห่ร้องดังกว่าทุกครั้งคงเพราะไม่เคยมีใครทำได้แบบเขามาก่อน

“หล่อแล้วหยิ่งด้วยแฮะ” เฮน่ากระเซ้าเมื่อหนุ่มผมสีน้ำเงินที่เธอสนใจปิดปากเงียบ เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะครื้นเครงจากนักพนัน ซึ่งครานี้ต้องใช้เวลาชั่งใจว่าจะเลือกใครดี เพราะฝ่ายหนึ่งก็แชมป์เก่า อีกฝ่ายก็เพิ่งเอาชนะคนสิบคนรวดภายในเวลาอันรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ

“เริ่มได้!!”

สองหนุ่มจ้องตากันท่ามกลางการลุ้นระทึกของผู้ชมและเซียนพนัน ในยกแรกนี้เอรอสคว่ำเซอโร่ได้ก่อน เรียกเสียงเฮรอบวง เจ้าของโต๊ะต้องหัวหมุนเมื่อผู้เล่นย้ายข้างและมีคนจากวงอื่นมาร่วมเชียร์ด้วยจนหลายคนต้องปีนโต๊ะเก้าอี้ดู

ยกที่สองเซอโร่เป็นฝ่ายพลิกเกม แต่กว่าเขาจะล้มคู่ประลองได้ก็ทำเอาผู้ชมทั้งหลายเกือบจะหัวใจวาย โดยเฉพาะเจ้าของโต๊ะที่ต้องลุ้นต่อในยกที่สามอย่างใจจดใจจ่อว่าจะเสียเงินสามหมื่นออลหรือไม่

“ยกนี้ต้องชนะนะเซอโร่ เพราะถ้าแพ้เจ้าอาจจะเสียน้องสาวคนเดียวไปด้วย ฮ่าๆๆๆ”

“แหม...พวกเจ้าล่ะก็ พูดอะไรก็ไม่รู้” เฮน่าค้อนคนพูดประหลับประเหลือก

คารินเดินขึ้นมาบนดาดฟ้าเมื่อเห็นว่าเอรอสหายไปนาน เธอต้องเดินหลบหลีกผู้โดยสารซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิงและไม่ค่อยมีเด็กสาวอย่างเธอนัก จึงตกเป็นเป้าสายตาของพวกกะลาสีและหนุ่มๆ บนเรืออยู่ไม่น้อย

เธอไม่คุ้นชินกับที่ที่มีคนเยอะๆ โดยเฉพาะเมื่อพวกเขากำลังพากันตะโกนโหวกเหวกและกระโดดโลดเต้นอย่างบ้าคลั่ง หลายคนล้อมวงนั่งดื่มเหล้ากันหน้าดำหน้าแดง

หญิงสาวไม่เห็นเอรอส เห็นแต่คนกำลังมุงดูอะไรสักอย่าง บ้างก็จับกลุ่มเล่นไพ่ บ้างก็นั่งดื่มเหล้ากันสนุกสนาน ฉลองที่จะได้เดินทางกลับบ้านเสียที

“เอรอส” หญิงสาวเรียกเบาๆ เสียงของเธอกลืนหายไปกับเสียงเชียร์กระหึ่ม เธอจึงลองเสี่ยงเดินเข้าไปชะเง้อชะแง้ดูบ้างเผื่อเขาจะอยู่ที่นี่

เอรอสปล่อยให้เซอโร่ออกแรงอยู่พักหนึ่งจึงพลิกข้อมือลงเอาชนะไปได้ในยกที่สาม จนวงพนันเกือบแตก เจ้าของโต๊ะหน้าเสียเมื่อต้องเอาเงินสามหมื่นวางลงตรงหน้าชายหนุ่มแปลกหน้าที่เล่นเอาชนะทุกเกม ไม่เว้นแม้แต่เซอโร่ซึ่งครองตำแหน่งแชมป์มานาน เขาหอบเงินเข้าถุงย่ามของเขาเป็นกอบเป็นกำ ขณะที่คู่ต่อสู้หัวเราะอย่างอารมณ์ดี

“ฮ่าๆๆ เจ้านี่แน่นอนจริงๆ เลยนะ เห็นรูปร่างอย่างนี้ไม่นึกว่าจะแรงเยอะเหมือนกัน”

“นี่! ตกลงเจ้าชื่ออะไรล่ะ? เรายังต้องอยู่บนเรืออีกตั้งสิบวัน ควรจะรู้จักกันไว้ไม่ใช่เหรอ” เฮน่ายังตื๊อที่จะรู้จักหนุ่มรูปหล่อคนนี้ให้ได้ ตั้งแต่เดินทางมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ยังไม่เคยเห็นใครหล่อเท่และดูเย็นชาแบบนี้มาก่อน ด้วยเหตุที่เธอเป็นคนสวย มีแต่หนุ่มๆ เข้ามาทำความรู้จักจนเธอรู้สึกระอา เพิ่งเห็นคนแปลกๆ ครั้งแรกก็เลยถูกใจอยู่ไม่น้อย

“เอรอส” คารินเบียดตัวเข้ามาในวง เมื่อเห็นเขากำลังง่วนอยู่กับการเก็บเงิน โดยมีคนแปลกหน้าสองคนกำลังคุยจ้อแต่เขาไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ด้วยเลย

“คาริน ขึ้นมาเองเลยหรือ?” เขามัดปากถุงแล้วลุกยืนขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวเดินเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นกลัว สงสัยว่าคงจะทิ้งเธอมานานเกินไป

“อ้อ! ชื่อเอรอสเหรอ? แหม...ข้าถามไม่ยักตอบ” เฮน่าค้อนงามๆ มองหน้าเด็กสาวที่พอเดินเข้ามาปุ๊บ ชายหนุ่มที่เธอพึงใจก็ดีดตัวขึ้นไปหาทันที อยากรู้จริงๆ ว่าสองคนนี้เป็นอะไรกัน ถ้าเป็นคู่รักล่ะก็ไม่เหมาะสมกันเลยสักนิด เพราะฝ่ายชายนั้นสูงสง่าเป็นหนุ่มเต็มตัว รูปร่างก็ผึ่งผาย อายุน่าจะยี่สิบปลายๆ ส่วนฝ่ายหญิงแม้จะมีหน้าตาน่ารัก แต่ก็ตัวเล็กเกินไป เหมือนเด็กที่เพิ่งแตกเนื้อสาว สูงแค่อกเขาเท่านั้น ถ้าหากผู้ชายแก่กว่านี้ก็เป็นพ่อกับลูกกันได้สบายๆ

“เมาเรือหรือเปล่า?”

“ไม่...เมา” คารินส่ายหน้าพรืด ที่หน้าซีดคงเพราะไม่คุ้นกับคนเยอะๆ โดยเฉพาะได้เห็นชายฉกรรจ์หลายๆ คนตะโกนเสียงดัง ทำให้เธอนึกถึงวันที่โจรเข้ามาปล้นหมู่บ้าน

“หิวหรือยัง?” ชายหนุ่มก้มลงถามเสียงนุ่ม ไม่สนใจสองพี่น้องที่กำลังจ้องมองอยู่ ขณะที่วงพนันเริ่มสลายตัวไปทำอย่างอื่น

“อือ...” หญิงสาวตอบสั้นๆ เรือแล่นอยู่กลางทะเลอย่างนี้ทำให้ท้องปั่นป่วน ทั้งหิวทั้งคลื่นไส้ หากไม่กินยาแก้เมาเข้าไปก่อนมีหวังเธอคงอาเจียนออกมาวันละหลายๆ รอบ

“ข้าได้เงินมาเยอะ เรากินอาหารที่ขายบนเรือก็ได้ เจ้าจะได้ไม่เบื่อ” เขาจูงมือเธอเดินแหวกฝูงชนออกไปยังกราบเรือซึ่งมีอาหารทะเลขาย กลิ่นปลาหมึกย่าง กุ้งเผาหอมฉุยโชยเข้าจมูกเรียกน้ำย่อยจนท้องเริ่มจะประท้วง

เซอโร่และเฮน่าเดินตามมาและถือวิสาสะนั่งโต๊ะเดียวกันกับหนุ่มสาวที่นั่งกินอาหารอยู่ก่อนแล้ว คิดในใจว่าพวกเขาเหมือนมีโลกส่วนตัวที่กั้นขวางคนอื่นไว้ วางตัวราวกับไม่อยากจะรู้จักมักจี่กับใคร หรืออาจจะเข้าสังคมไม่เป็น

“นี่อย่าหาว่าข้าตื๊อเลยนะ แต่ตอนยกที่สองน่ะ เจ้าแกล้งแพ้ใช่ไหม?” เซอโร่ชะโงกหน้ามากลางวง พูดเสียงเบาเพราะกลัวใครจะได้ยินแล้วคิดว่าพวกเขาสมคบคิดกันล้มมวย

คารินเงยหน้าขึ้นมองเอรอส และบุคคลแปลกหน้าสลับกันไปมา ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างให้กับเพื่อนใหม่ของเขาเพื่อเป็นการผูกมิตร

“เจ้านี่น่ารักนะ ชื่อคารินใช่ไหม ข้าได้ยินเขาเรียกเจ้าเมื่อกี้น่ะ ข้าชื่อเซอโร่ ส่วนคนนี้น้องสาวข้าเองชื่อเฮน่า พวกเจ้าเป็นอะไรกันล่ะ?” เซอโร่ผู้รู้ใจน้องสาวชวนสาวน้อยหน้าจิ้มลิ้มคุย เพราะดูจะง่ายกว่าคุยกับคนหน้าตายอีกคนเป็นไหนๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel