บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 ขอพบ

บทที่ 4 ขอพบ

จางหมินเย่วตื่นแต่เช้าตรู่จนเล่อจิ้นอดประหลาดใจไม่ได้แต่เมื่อได้เห็นนายหญิงของตนรีบตรงเข้าเข้าครัวเพื่อทำเซาปิ่ง นางก็อดนึกขบขันในความคลั่งรักของจางหมินเย่วเสียมิได้

จางหมินเย่วใช้เวลาในการทำเซาปิ่งกว่าสี่ชั่วยามกว่าที่ขนมจะสำเร็จเป็นรูปเป็นร่าง เมื่อจางหมินเย่วตระเตรียมทุกอย่างจนเสร็จสิ้นด้วยมือของตนเอง นางยกยิ้มขึ้นมาด้วยความภาคภูมิใจ

ใบหน้าของซ่งฟู่หลงปรากฏเด่นชัดขึ้นในความคิดของจางหมินเย่ว สายตาละเมอเพ้อพก นัยน์ตาชวนฝันดั่งคนที่ตกอยู่ในภวังค์ความรัก ทำเอาเล่อจิ้นอดที่จะหยอกเย้านางอย่างเสียมิได้ “คุณหนู ใต้เท้าซ่งต้องปลาบปลื้มเป็นแน่เจ้าค่ะ”

จางหมินเย่วยิ้มกริ่มรับโดยทันที “ขนมเสร็จแล้ว พวกเรารีบกลับไปแต่งตัวกันเถิด”

จางหมินเย่วอาบน้ำแต่งตัวอย่างพิถีพิถัน โดยมีเล่อจิ้นคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง “คุณหนูช่างงดงามยิ่งนัก หากใต้เท้าซ่งได้พบคุณหนูจะต้องตกหลุมรักคุณหนูเป็นแน่” เล่อจิ้นกล่าวออกมาตามที่นางเห็น จางหมินเย่วนับวันยิ่งงดงามขึ้นอย่างมาก ใบหน้าที่จิ้มลิ้มรับกับดวงตากลมโตอันหวานซึ้งชวนให้หลงใหล ผิวขาวเนียนราวกับหยวกกล้วย ทั้งหน้าอกกลมมนที่ใหญ่โตกว่าหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน

จางหมินเย่วค้อนขวับอย่างเคอะเขินให้กับความปากหวานของสาวใช้คนสนิท นางอดที่จะส่องกระจกไปมาอยู่หลายหนอย่างนึกเป็นกังวลเสียมิได้

จางหมินเย่วอยากสร้างความประทับใจในคราแรกที่ได้พบเจอกันกับชายที่นางพึงใจ หลังจากตรวจตราความเรียบร้อยทั้งผมเผ้า ใบหน้าและเสื้อผ้าจนพึงพอใจแล้วจางหมินเย่วก็สาวเท้าเดินออกจากเรือนไปอย่างเร่งรีบ

รถม้าจอดเทียบอยู่หน้าจวนโดยพ่อบ้านได้ตระเตรียมไว้ตามคำสั่งอย่างเรียบร้อย เล่อจิ้นประคองจางหมินเย่วก้าวขึ้นบนรถม้าอย่างทะนุถนอม รถม้าค่อยๆเคลื่อนไปตามถนน แต่ความเร็วของมันกลับไม่เท่าจิตใจของจางหมินเย่วที่ตอนนี้ล่องลอยไปยังจวนสกุลซ่งเป็นที่เรียบร้อย

จางหมินเย่วนั่งกระวนกระวายใจอยู่ภายในรถด้วยความตื่นเต้น นางได้แต่นึกบทสนทนาที่ควรพูดในการเผชิญหน้ากับซ่งฟู่หลง สองมือบิดกำไปมาด้วยความร้อนรนใจ

หลังจากรถม้าจอดเทียบบริเวณหน้าจวนสกุลซ่ง จางหมินเย่วก้าวลงจากรถมาด้วยใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง

“เล่อจิ้น ข้าดูเป็นเช่นใดบ้าง เสื้อผ้าเรียบร้อยดีหรือไม่” จางหมินเย่วอดที่จะเอ่ยถามสาวใช้ของตนอีกหนด้วยความประหม่าและตื่นเต้น

“คุณหนูงดงามแล้วเจ้าค่ะ...งดงามยิ่งนัก”

จางหมินเย่วยิ้มอย่างพึงพอใจ “เช่นนั้น เราไปกันเถอะ”

เล่อจิ้นเคาะประตูที่หน้าจวนสกุลซ่ง ในขณะที่จางหมินเย่วยืนรออย่างใจจดใจจ่อ ชั่วครู่หนึ่งพ่อบ้านก็เปิดประตูออกมาต้อนรับ

“เรียนพ่อบ้าน คุณหนูรองสกุลจางมาขอเข้าพบใต้เท้าซ่งเจ้าค่ะ” เล่อจิ้นรีบรายงานกับพ่อบ้านในทันที

พ่อบ้านมองหญิงสาวทั้งสองด้วยความแปลกใจก่อนจะปรับสีหน้าราบเรียบอีกหน เขาโค้งกายคำนับอย่างมีมารยาท “ข้าน้อยจะไปเรียนนายท่านสักครู่ขอรับ”

ในขณะนั้นซ่งฟู่หลงที่กำลังฝึกกระบี่อยู่ที่ลานกว้างในสวนกลางจวน พ่อบ้านก็เดินเข้ามารายงานเขาในทันที

“เรียนนายท่าน คุณหนูรองสกุลจางมาขอพบขอรับ”

ซ่งฟู่หลงหยุดชะงักไปก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ คุณหนูรองสกุลจางผู้นี้ เขามิเคยพบเจอมาก่อนเหตุใดจึงได้มาขอพบเขาเช่นนี้

“บอกไปว่าข้าไม่ว่าง” ซ่งฟู่หลงกล่าวตัดบทออกไปอย่างนึกรำคาญใจก่อนจะหันความสนใจกลับมาที่กระบี่ตรงหน้าอีกครั้ง

พ่อบ้านรับคำพร้อมก้าวถอยออกมา ก่อนจะเดินกลับไปยังหน้าจวนอีกครั้ง

“เรียนคุณหนู...วันนี้นายท่านติดธุระไม่สามารถออกมารับรองคุณหนูได้ เชิญคุณหนูจางกลับไปเสียก่อนเถิดขอรับ”

“บังอาจนัก...ท่านพ่อบ้านได้บอกใต้เท้าซ่งหรือไม่ว่าคนที่ขอพบคือคุณหนูรองสกุลจาง บุตรสาวใต้เท้าจางหว่านชิงเสนาบดีกรมคลัง”

พ่อบ้านทำหน้าเจื่อนลงอย่างรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ “ข้าน้อยรายงานแล้วขอรับ หากคุณหนูมีธุระอันใด โปรดฝากข้าน้อยไว้ ข้าน้อยจะรีบเรียนใต้เท้าให้ทราบอีกครั้ง”

“นี่ท่าน...” เล่อจิ้นตวาดออกมาอย่างขุ่นเคือง คนจวนสกุลซ่งช่างเสียมารยาทยิ่งนัก กล้าตัดรอนนายหญิงของตนเสียได้

“เล่อจิ้น อย่าเสียมารยาทกับท่านพ่อบ้าน” จางหมินเย่วหันมาตำหนิเล่อจิ้น พร้อมส่งสายตาดุให้กับนาง ก่อนจะปรับสีหน้ากลับมาราบเรียบอีกครั้ง นางหันไปหาพ่อบ้านที่ยืนตรงหน้าพร้อมยื่นตะกร้าขนมเซาปิ่งให้กับเขา “ท่านพ่อบ้านโปรดอย่าได้ถือสาคนของข้าที่เสียมารยาทต่อท่าน หากใต้เท้าซ่งติดธุระเช่นนั้นข้าขอรบกวนท่านฝากนำขนมเซาปิ่งมอบให้กับใต้เท้าซ่งด้วยเถิด”

พ่อบ้านรับตะกร้ามาไว้กับมืออย่างไม่อาจปฏิเสธ “ข้าน้อยจะเรียนใต้เท้าให้ทราบขอรับ”

“ขอบคุณท่านพ่อบ้านมาก เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน” จางหมินเย่วมิได้เซ้าซี้อีกต่อไป นางหันหลังกลับพร้อมขึ้นรถม้าอย่างไม่อิดออด แม้ว่าภายในใจจะรู้สึกผิดหวังมากยิ่งนักก็ตาม

“คุณหนู...ใต้เท้าซ่งช่างเสียมารยาทยิ่งนัก ใต้เท้าทำเช่นนี้มิเท่ากับหักหน้านายท่านหรือเจ้าคะ” เล่อจิ้นได้จังหวะก็รีบต่อว่าซ่งฟู่หลงในทันที

“ข้ายังมิร้อนใจเหตุใดเจ้าต้องร้อนใจแทนด้วยเล่า วันนี้เป็นข้าที่มาเสียเที่ยวเอง ใต้เท้าซ่งคงมีธุระสำคัญ เอาไว้วันหน้าข้าจะหาโอกาสมาพบใต้เท้าใหม่อีกสักหน” จางหมินเย่วพูดกับเล่อจิ้นไม่ต่างจากการปลอบประโลมหัวใจตัวเอง นางแง้มบานหน้าต่างออกพร้อมยกมือขึ้นเท้าคาง สายตาจ้องมองออกไปด้านนอกด้วยดวงตาที่หม่นแสงระคนความผิดหวัง

จางหมินเย่วกลับเข้ามาในภายในเรือนของตน พร้อมหย่อนกายลงนั่งด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน ความผิดหวังที่มิได้พบซ่งฟู่หลงทำให้นางได้แต่นั่งทอดถอนหายใจ

“คุณหนูทานข้าวเสียก่อนเถิด ตั้งแต่เช้าคุณหนูยังมิได้ทานสิ่งใดเลย” เล่อจิ้นรีบเข้าปรนนิบัติจางหมินเย่วอย่างเอาใจ อาหารของโปรดของนางถูกนำเข้ามาจัดวางตรงหน้า จางหมินเย่วเพียงคีบเข้าปากอยู่ไม่กี่คำก็วางตะเกียบลง “เจ้าออกไปเถิด ข้าจะพักผ่อนแล้ว”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel