บท
ตั้งค่า

บทที่ 8 จัดการกับเถ้าแก่ร้าน

“ข้าไม่รู้ ข้าไม่รู้ ข้าเพียงทำตามคำสั่งเถ้าแก่เท่านั้น หากพวกท่านอยากรู้อะไรให้ไปถามเขา ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น” ลูกจ้างส่ายศีรษะไปมาด้วยความหวาดกลัว ก่อนซิ่วอิงจะหันกลับไปยังหมิงเยว่ ที่จับจ้องมองชายชรารอคำตอบด้วยท่าทางจริงจัง

“เอาล่ะ...ข้าจะถามเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย หากเจ้ายังเก็บปากเงียบไม่ตอบล่ะก็ ข้าจะเผาโรงเตี๊ยมของเจ้าซะ” เพียงแค่หญิงสาวทำท่าหันไปยังเทียนที่ส่องสว่าง เจ้าของโรงเตี๊ยมก็รีบวิ่งมาดักหน้าแล้วค้อมตัวลงซ้ำ ๆ ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดไปแล้ว ข้ายอมรับก็ได้ ที่ข้าเข้ามาในห้องพวกท่าน ข้าเพียงต้องการมุกเม็ดงามพวกนั้นมาเป็นของตัวเอง ข้าสำนึกแล้ว ข้าจะไม่ทำอีกแล้ว พวกท่านอย่าได้ถือโทษข้าเลย” เขาค้อมตัวลงซ้ำ ๆ แล้วพูดด้วยความหวาดหวั่น หมิงเยว่และซิ่วอิงหันมองหน้ากันอย่างรู้ความหมาย

“ที่แท้ เจ้าทำเช่นนี้เพราะความโลภอยากได้ในสิ่ง ที่ไม่ใช่ของตนงั้นเหรอ หากข้าเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ก็คงโดนเจ้าขโมยของมีค่าไป อายุขัยของเจ้ามีไม่มากแทนที่จะสร้างความดีไว้ เจ้ากลับหลงยึดกับความโลภทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ งั้นเหรอ” สิ้นเสียงของหญิงสาว ชายชราถึงกับทรุดลงนั่งที่พื้นแล้วค้อมตัวลงด้วยความหวาดหวั่น

“ข้าผิดไปแล้ว ไว้ชีวิตข้าด้วยเถิด พวกท่านให้ข้าทำอะไร ข้ายอมทั้งนั้น ส่วนมุกเม็ดที่ท่านให้ข้ามาแล้ว ข้าไม่เอาก็ได้ ข้าคืนให้พวกท่านหมดเลย ขอเพียงอย่าเอาชีวิตข้าก็พอ” ชายชรายื่นเม็ดมุกสีขาวคืนมา พลางอ้อนวอนขอชีวิต นางหยิบเม็ดมุกกลับคืนแล้วยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย

“ข้าไม่เอาชีวิตพวกเจ้าก็ได้ แต่มีข้อแลกเปลี่ยน” ชายชราชะงักนิ่ง ปาดน้ำตาด้วยความดีใจแล้วเอ่ยขึ้น

“ข้อแลกเปลี่ยนอะไรข้ายอมทั้งนั้น ขอแค่พวกท่านไม่เอาชีวิตข้าก็พอ” หญิงสาวหันไปยังซิ่วอิงแล้วค่อย ๆ เดินไปรินชาลงถ้วยช้า ๆ พร้อมความคิด

“ข้อแลกเปลี่ยนก็คือ พรุ่งนี้ท่านจะต้องให้ทุกคนที่ผ่านมาแถวนี้ ได้เข้ามากินอาหารที่โรงเตี๊ยมของท่านโดยไม่คิดค่าตอบแทน รวมถึงท่านต้องแจกจ่ายข้าวสาร ปลาแห้ง พันธ์ุพืชต่าง ๆ ให้ชาวบ้านและผู้ยากไร้ด้วย” หมิงเยว่พูดจบจึงย่อตัวลงนั่งยังเก้าอี้ พลันจับจ้องมายังเถ้าแก่ร้านด้วยสายตาจริงจัง

“ได้ ข้าทำได้ ขอเพียงพวกท่านไว้ชีวิตข้าก็พอ” เขาน้อมกายลงแล้วรีบรับปาก

“อีกอย่างที่ข้าต้องการ คือให้พวกท่านเก็บเรื่องที่ข้าไม่ใช่มนุษย์ไว้เป็นความลับ” ลูกจ้างที่ฟังอยู่ หัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ หลุดพูดขึ้นด้วยความตกตะลึง

“ตกลงพวกท่านไม่ใช่มนุษย์จริง ๆ หรือนี่ พวกท่านเป็นผี หรือวิญญาณประเภทไหนกันแน่ ที่มาให้พวกเราเห็นตัวเป็น ๆ เช่นนี้” ซิ่วอิงหลุดยิ้มแล้วปั้นหน้าเล็กน้อย

“พวกข้าจะเป็นอะไรก็ช่าง แต่ถ้าผู้ใดรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ นายหญิงของข้าจะไม่เก็บพวกเจ้าไว้อย่างแน่นอน เข้าใจหรือไม่”

“เข้าใจแล้ว ข้าเข้าใจแล้ว” ชายหนุ่มรีบค้อมตัวรับ แล้ววิ่งหนีออกจากห้องไปเป็นคนแรก ตามด้วยเถ้าแก่ร้านวิ่งตามไปติด ๆ ก่อนเสียงหัวเราะของซิ่วอิงและหมิงเยว่จะหลุดลอดออกมาเป็นระยะ

“มนุษย์ผู้นี้โลภนัก ธิดาทำถูกแล้วเจ้าค่ะที่ดัดนิสัยเขา หาไม่ ก็คงติดนิสัยเช่นนี้ไปจนสิ้นอายุขัย” ซิ่วอิงพาธิดาเผ่าวิหคเดินกลับมายังเตียงนอน ก่อนหญิงสาวจะหันใบหน้าสวยหวานกลับไปยังสาวใช้คนสนิท

“มองหน้าข้า ท่านคิดสิ่งใดอยู่หรือเจ้าคะ” ซิ่วอิงขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ

“พรุ่งนี้เราจะอยู่ต่ออีก ข้าอยากเห็นเถ้าแก่ร้านแจกจ่ายอาหารให้กับชาวบ้าน คนยากลำบากยังมีมาก แม้เราจะอยู่ข้างบนอย่างสุขสบาย แต่แดนมนุษย์แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ข้ารู้แล้วล่ะว่าทำไมประมุขมารจึงกลับใจเป็นผู้มีคุณธรรม” ซิ่วอิงขมวดคิ้วแปลกใจในคำพูดของธิดาหมิงเยว่มากขึ้นไปอีก

“เหตุใดหรือเจ้าคะ”

“ในอดีตประมุขมารชอบมาแดนมนุษย์ เขาคงได้เห็นทุกส­รรพชีวิตที่แตกต่างจากด้านบน คุณธรรมค่อย ๆ ก่อเกิดขึ้นจากความมืดดำในจิตตามชาติกำเนิด ถูกความจริงตรงหน้าหลอมรวมให้โอรสมารเช่นเขาในตอนนั้นกลับใจก็เป็นได้” ซิ่วอิงปล่อยยิ้มกว้าง จับกายของหมิงเยว่นอนลง พลันยกผ้าขึ้นมาห่มอย่างถนอม

“ดูเหมือนทุกลมหายใจของธิดา จะมีแต่ประมุขมารตงห­ยาง หากถึงเวลาพบกันจริง ๆ แล้วเขาไม่ได้แสนดีอย่างที่คิดท่านจะผิดหวังเอาได้นะเจ้าคะ” ซิ่วอิงพูดเตือน ก่อนรอยยิ้มของห­มิงเยว่จะปล่อยกว้าง

“ข้าแค่รู้ว่าจิตใจของเขามีคุณธรรมเพียงใด ต่อให้เขาไม่ดีกับข้า ข้าก็จะไม่ทุกข์ใจ” ซิ่วอิงส่ายศีรษะพลันถอนหายใจออกมา

“นอนเถอะเจ้าค่ะ พรุ่งนี้เช้าจะเราจะได้ไปดูเถ้าแก่ร้านแจกจ่ายอาหารให้กับชาวบ้าน”

“อื้ม” หมิงเยว่พยักหน้ารับ แล้วนอนหลับไปพร้อมความหวัง ว่าสักวันจะมีโอกาสได้พบกับประมุขมารอย่างตงหยางสักครั้ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel