บท
ตั้งค่า

บทที่ 20 แผนการของจางซิน

“ข้าได้ยินที่ท่านแนะนำให้ประมุขตงหยางเข้าไปหาธิดาเผ่าวิหคผู้นั้น ทั้งที่ท่านก็รู้ว่าข้ามีใจต่อประมุขตงหยาง ท่านต้องเข้าใจสิ ว่าข้าไม่อยากให้เขาเข้าใกล้ใครทั้งนั้น เหตุใดท่านจึงยุยงให้เขาทำเช่นนั้นเจ้าคะ” ชายหนุ่มพยักหน้าขึ้นลงเข้าใจสาเหตุ

“ที่แท้เพราะเรื่องนี้เอง ทำให้เจ้าเดินตึงตังไม่สำรวมเข้ามาหาข้า” จางซินแย่งชาในมือราชันเผ่าเทพ แล้วพูดขึ้นอย่างเอาแต่ใจเช่นเดิม

“ท่านทำเช่นนี้หมายความว่าไง ท่านไม่รักข้าแล้วงั้นเหรอ ท่านอยากให้ข้า อกแตกตายเพราะประมุขตงหยางใกล้ชิดกับหญิงอื่น” จางเหว่ยเห็นการกระทำของนางจึงหลับตาลงข่มความโกรธไว้

“จางซิน ข้าตามใจเจ้าจนเหล่าเทพพากันนินทาลับหลัง ว่าข้ารักเจ้ามากจนเสียคน การกระทำเมื่อครู่ เจ้าตรองดูว่ามีผู้ใดกล้าทำกับข้าหรือไม่ หากเพราะข้าไม่รักเจ้า เจ้าต้องโทษหนักหลายคราแล้วรู้ไว้” จางซินได้ยินดังนั้นจึงก้มหน้าลงพร้อมหยดน้ำตาไหลรินอาบแก้ม ทว่าเมื่อจางเหว่ยเห็นดังนั้นจึงใจอ่อนแล้วยอมให้เหตุผลด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ที่ข้าทำเช่นนั้น เพราะต้องการช่วยให้หมิงเยว่ดึงเอาพลังวิญญาณแท้จริงของนางออกมา เจ้าก็เห็นมิใช่เหรอว่าที่ผ่านมานางฝึกหนักเพียงใด ทว่าเวลาผ่านพ้นมาเป็นร้อยปีพลังวิญญาณของนางยังอยู่เท่าเดิม เช่นนี้นางจะสำเร็จพลังวิญญาณขั้นห้าได้อย่างไร หากตงฟางดูดซับพลังจนสำเร็จขั้นเจ็ดได้ ถึงครานั้นพิภพไม่แหลกสลายหมดเหรอ อย่าลืมว่าทุกสรรพชีวิตต้องพึ่งบารมีของหมิงเยว่ ข้าทำเพื่อให้พวกเราทุกคนรอดพ้นเคราะห์กรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น” จางซินนิ่งเงียบพลางกำมือแน่นด้วยความคับแค้นใจ

“เช่นนั้นข้าจะช่วยนางเอง ไม่ต้องถึงมีประมุขตงหยางให้ยุ่งยากหลอก” จางเหว่ยได้ยินดังนั้นจึงขมวดคิ้ว

“เจ้าคิดจะทำอะไร”

“ท่านพี่ไม่ต้องห่วง ข้ามีวิธีจะช่วยให้นางดึงเองพลังวิญญาณแท้จริงออกมาได้ก็แล้วกัน จะได้ไม่ต้องพึ่งการเอาใจใส่ของประมุขตงหยาง” พูดจบจางซินก็พลวดพลาดลุกขึ้นเดินจากไป ก่อนจางเหว่ยจะส่ายศีรษะไปมาให้กับความเหลวไหลของนาง

“เอาแต่ใจเป็นที่สุด ข้าหนักใจกับเจ้าเกินไปแล้วจางซิน” จางเหว่ยเอื้อมไปหยิบชาขึ้นมายกดื่ม พลันเลื่อนสายตามองไปยังตำหนักเมฆาด้วยความหวาดหวั่น

“ธิดาไป่เอ๋อ ตอนนี้ท่านประมุขตงหยางกลับมาแล้วเจ้าค่ะ” หญิงสาวที่ง่วนอยู่กับการทำอาหาร รีบละมือแล้วหันกลับมาด้วยความดีใจ

“ตอนนี้ท่านประมุขอยู่ที่ใด”

“ตอนนี้ท่านประมุขขึ้นไปที่หอบรรพชนเจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นข้าฝากเจ้าจัดการอาหารตรงนี้ให้เสร็จด้วย”

“เจ้าค่ะ” สาวใช้น้อมกายลงแล้วเดินไปทำหน้าที่แทนไป่เอ๋อ ก่อนพลังวิญญาณ จะพานางหายวับไปยังหอบรรพ­ชน ในทันที สองเท้าของไป่เอ๋อหยุดชะงัก เมื่อเห็นร่างของตงหยาง ยืนมองป้ายบรรพบุรุษของเขาด้วยท่าทางราบเรียบ

“ข้าไม่เคยเดาใจท่านพี่ตงหยางออกเลยสักครั้ง ไม่ว่าเขาคิดอะไรมักอยู่ในใจเสมอ สายตาที่เขามองไปยังป้ายบรรพบุรุษ แท้จริงแล้วเขารู้สึกยังไงกันแน่” ยังไม่ทันที่ความคิดของไป่เอ๋อสิ้นสุด ชายหนุ่มรับรู้การมาของนางจึงเอ่ยขึ้น

“เจ้ามาหาข้ายังหอบรรพชนมีเรื่องอันใด” ใบหน้าหล่อเหลาของตงหยางค่อย ๆ หันกลับมา ก่อนหญิงสาวจะยิ้มแล้วก้าวเข้าไปหาเขา

“เมื่อครู่ มีคนไปบอกข้าว่าท่านกลับมายังเผ่ามารแล้ว ข้าก็เลยรีบมาต้อนรับ แต่ไม่อยากเข้ามารบกวน เลยยืนรออยู่ด้านนอก” หญิงสาวพูดพลางหันใบหน้าไปยังป้ายบรรพชนแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน

“นานแล้วนะเจ้าคะ ที่ท่านไม่ได้ขึ้นมายังหอบรรพชน ข้าถามหน่อยได้หรือไม่ หากครานี้ท่านสามารถเอาชนะท่านพี่ตงฟางได้อีก ท่านจะผลึกเขาไว้ดังเดิม หรือเลือกที่จะทำลายต้นจิตเขาให้แหลกสลาย” ชายหนุ่มในชุดดำสง่างามค่อย ๆ หันไปยังป้ายบรรพบุรุษดังเดิมด้วยสีหน้ายากจะคาดเดา

“นับจากเผ่ามารถือกำเนิด ป้ายบรรพชนเรียงรายกันนับร้อยรุ่น ข้าเป็นรุ่นสุดท้ายขึ้นเป็นประมุขเผ่ามาร และคงมีข้าเพียงผู้เดียวที่แหกธรรมเนียมเข้าร่วมกับเผ่าเทพ โจมตีเผ่ามารของตัวเอง” ไป่เอ๋อจับจ้องมองไปยังตงหยางที่พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกไว้ภายใต้ใบหน้างดงามนั้น

“ข้าพยายามแล้วที่จะสืบทอดประสงค์ของเผ่ามาร ที่ต้องการความเป็นใหญ่ขึ้นครองพิภพ แต่ทุกครั้งที่ข้าเห็นชีวิตล้มตาย ข้ามิอาจทนได้ เพื่อความสงบสุขของสรรพชีวิตข้าจำต้องเลือก” เขาพูดด้วยความเจ็บปวด ก่อนไป่เอ๋อจะตัดสินใจเดินเข้าไปจับมือตงหยางแล้วเผยความรู้สึกออกมา

“ไม่ว่าท่านจะตัดสินใจอย่างไร ข้าจะเคียงข้างท่าน จะคอยช่วย คอยดูแลท่านเช่นนี้ตลอดไป” ตงหยางดึงมือกลับแล้วส่งยิ้มอบอุ่นให้นาง

“ขอบใจมากนะไป่เอ๋อ” หญิงสาวแย้มยิ้มแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน

“ข้าเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อท่านประมุขเจ้าค่ะ” ชายหนุ่มเข้าใจความรู้สึกแท้จริงของนาง จึงขยับกายห่างออกแล้วพูดขึ้น

“หากเป็นไปได้ เจ้าอย่าไปสถานที่ผลึกร่างของตงฟาง ตอนนี้พลังของเขามากขึ้น ไอจากการดูดรวมพลังวิญญาณของเขาลอยอยู่บริเวณนั้น หากเจ้าเข้าไปอาจได้รับอันตรายจากไอชั่วร้ายได้” ไป่เอ๋อได้ยินดังนั้นหัวใจของนางจึงอ่อนยวบลงในทันทีด้วยความดีใจ เป็นครั้งแรกที่ตงหยางแสดงความเป็นห่วงนาง ก่อนหญิงสาวจะน้อมกายลงรับคำสั่ง พร้อมร่างของเขาจะหายลับกลับตำหนักไป

“นับจากนี้ข้าจะทำให้ท่าน ทำลายต้นจิตของตงฟาง ให้แตกสลายดับสูญไป คนอย่างเขาไม่มีวันได้หัวใจข้าไปครอง ข้าเกลียดและไม่อยากเห็นหน้าเขาเป็นที่สุด” หญิงสาวหวนระลึกถึงค่ำคืนแห่งความอัปยศนั้น

คืนพระจันทร์เดือดเพ็ญ นางได้รับสาสน์ตอบรับจากขนหงส์ให้ขึ้นมารอตงหยางบนยอดเขา ด้วยความดีใจไป่เอ๋อไม่ทันได้ไตร่ตรองเร่งรีบมาตามนัด ทันทีที่เห็นชายตรงหน้าในชุดสีดำสนิทก็มั่นใจว่าร่างงดงามนั้นคือตงหยาง ชายที่นางหมายปองมานานนับพันปี เขาส่งยิ้มอ่อนโยน พลันก้าวเท้ามาหาไป่เอ๋อด้วยท่วงท่าสุขุม ก่อนนางจะโผเข้ากอดเขาแล้วร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel