บท
ตั้งค่า

บทที่ 19 หนึ่งร้อยปีผ่านไป

นับจากนั้นเป็นต้นมาหมิงเยว่พยายามฝึกฝนอย่างหนักเพื่อให้สำเร็จพลังวิญญาณขั้นสาม ทุกวันนางและเทพฉาง­จื­อจะห­มกตัวอยู่ที่ลานฝึก บางครั้งใช้เวลายาวนานติดต่อกันสามวันสามคืนโดยไม่หยุดพัก ทว่าความมุ่งมั่นของหมิงเยว่ทำให้ฉางจือฝึกฝนนางเต็มความสามารถ นับจากวันเป็นเดือน นับจากเดือนเป็นปี นับจากปีเป็นร้อยปี ฉางจื­อและหมิงเยว่ยังคงฝึกพลังวิญญาณด้วยความตั้งใจอย่างถึงที่สุด ตำหนักเมฆาในตอนกลางคืนจะสว่างวาบด้วยพลังวิญญาณที่นางใช้ฝึกฝน จนเป็นที่ชินตาของเหล่าเทพ

“ครบหนึ่งร้อยปีแล้ว ทว่าพลังวิญญาณของหมิงเยว่ยังไม่ขยับไปไหน ข้าแปลกใจนักเหตุใดพลังวิญญาณของนางจึงไม่รุดหน้า” เสียงของประมุขตงหยาง กล่าวกับราชันจางเหว่ยขณะที่ทอดสายตามองแสงวาบจากตำหนักเมฆาอยู่ห่าง ๆ

“ข้าคิดไตร่ตรองอยู่เสมอว่าต้องมีอะไรบางอย่างทำให้พลังวิญญาณของนางถูกกด” จางเหว่ยถอนหายใจแล้วพูดออกมาอย่างหนักใจ ก่อนตงหยางจะย่อตัวลงนั่งยังเก้าอี้ด้วยท่วงท่าสง่างาม

“ผู้มีดวงจิตสีเพลิง จะมีพลังวิญญาณแข็งแกร่งมากกว่าปกติถึงสามเท่า ทว่านางกลับไม่มีกำลังดึงเอาพลังวิญญาณออกมา เช่นนี้ต่อให้ฝึกฝนอีกพันปี ก็ไม่ทางสำเร็จพลังวิญญาณขั้นสาม จางเหว่ย หรือเพราะเหตุที่นางเป็นหญิง พลังแห่งดวงจิตสีเพลิงจึงไม่แสดงอำนาจ” ราชันจางเหว่ยส่ายศีรษะไปมาพร้อมครุ่นคิด

“ข้าจนปัญญาจะตอบเจ้าได้ ทว่าหมิงเยว่นางตั้งใจฝึกฝนอย่างหนักทุกวัน หากในเผ่าเทพมีใครสักคนตั้งใจฝึกฝนเช่นนาง ป่านนี้คงสำเร็จพลังวิญญาณขั้นสามไปแล้ว ข้าเกรงว่าสิ่งที่นางตั้งใจมานับร้อยปี มันจะสูญเปล่า ตกลงแล้วพลังแห่งดวงจิตสีเพลิงใช้การยังไงกันแน่” จางเหว่ยสัดส่ายสายตาไปมาพร้อมความหวาดหวั่นในจิตใจ

หมิงเยว่รวบรวมพลังวิญญาณ แล้วใช้พลังทั้งหมดพุ่งเข้าใส่ตุ๊กตาฟางด้านหน้า ทว่าพลังที่ออกมากลับน้อยนิดทำลายเพียงแขนของตุ๊กตาฟางเท่านั้น สีหน้าของฉางจือแสดงความผิดหวังออกมา

“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้เทพฉางจือ ทำไมข้ายังฝึกให้ระดับพลังวิญญาณ เข้าขั้นสองไม่ได้เสียที ข้าฝึกฝนทุกวันไม่เคยหยุด แต่ทำไมพลังของข้าทำได้เพียงเท่านี้” หมิงเยว่พูดด้วยความผิดหวัง พลางค่อย ๆ ย่อตัวทรุดลงนั่งกับพื้นแล้วทอดสายตาไปยังตุ๊กตาฟางด้านหน้าด้วยสายตาสั่นระริก

“เช่นนี้ข้าจะช่วยประมุขตงหยางต่อสู้กับจอมมารได้อย่างไร กับแค่ตุ๊กตาฟางด้านหน้าข้ายังทำลายมันไม่ได้เลย” ฉางจือรีบเดินเข้าไปหาหมิงเยว่ทันที เมื่อเห็นว่านางกำลังท้อแท้

“ท่านอย่าเพิ่งโทษตัวเอง เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการฝึกฝน แต่ข้าคิดว่าอาจเป็นเพราะดวงจิตสีเพลิงในกายท่าน แข็งแกร่งและควบคุมพลังวิญญาณของท่านไม่ให้เปิดออกมากกว่า” ฉางจื­อพูดปลอบ ก่อนรอยยิ้มของหมิงเยว่จะปล่อยกว้างออกมา

“เมื่อครู่ท่านยังท้อแท้อยู่เลย เหตุใดตอนนี้ยิ้มเช่นนั้น” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ พร้อมรอยยิ้มของนางยังเบ่งบานสะกดให้เทพฉางจือรับรู้ถึงการสั่นไหวในหัวใจ ก่อนหมิงเยว่จะจับใบหน้าของเขาเบา ๆ แล้วจับจ้องมองอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน

“ที่ข้ายิ้ม เพราะต่อให้ข้าฝึกพลังวิญญาณไม่คืบหน้ายังไง อย่างน้อยก็ยังมีท่านปลอบใจ จะว่าไปหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมาช่างรวดเร็วนัก ท่านฝึกฝนให้ข้าทุกวันไม่เคยย่อท้อ แล้วข้าจะย่อท้อได้อย่างไร ไปกัน” เทพฉางจือขมวดคิ้วอีกครั้งด้วยความแปลกใจ

“ไปไหน”

“ข้าจะไปทำของอร่อย ๆ ให้ท่านกิน วันนี้เราหยุดฝึกกันสักวันคงไม่เป็นไรหรอก” ชายหนุ่มสองจิตสองใจ ก่อนจะพยักหน้ายิ้มรับอย่างเห็นด้วย แล้วเดินตามนางกลับเข้าไปในตำหนัก

ท่ามกลางสายตาของประมุขตงหยางที่รู้สึกแปลกใจเมื่ออยู่ ๆ แสงสว่างวาบจากตำหนักเมฆาหายเงียบไป ก่อนเสียงของราชันจางเหว่ยจะเอ่ยขึ้น

“เป็นวันแรกที่นางหยุดฝึกฝน ข้าคิดว่านางคงท้อใจไปแล้วล่ะ เจ้าไม่คิดจะไปให้กำลังใจนางหน่อยเหรอ” จางเหว่ยยกชาขึ้นดื่มแล้วพูดขึ้นลอย ๆ

“เจ้าพูดอะไรข้าไม่เข้าใจ” ตงหยางขมวดคิ้วพลันเอ่ยถามสหายรัก

“ข้าเคยแอบได้ยินหมิงเยว่และฉางจือพูดคุยกันเกี่ยวกับเจ้าอยู่บ่อยครั้ง ข้าว่า...ที่หมิงเยว่ยอมมายังเผ่าเทพง่าย ๆ ส่วนหนึ่งเพราะนางมีใจชอบเจ้า เช่นเดียวกับจางซินนั่นแหละ หากนางได้กำลังใจจากเจ้าสักหน่อย อาจทำให้พลังวิญญาณของนางคืบหน้าก็ได้” ตงห­ยางส่ายศีรษะเบา ๆ ปฏิเสธ ก่อนจางเหว่ยจะวางถ้วยชาลงแล้วจับจ้องมองเขาอย่างจริงจัง

“ข้ารู้ว่าเจ้ารักความเป็นอิสระ ถึงแม้ใจเจ้าจะแข็งดังหินผา ไม่มีผู้ใดก้าวล่วงเข้าไปได้ แต่การให้กำลังใจผู้ที่จะเคียงข้างเจ้าต่อสู้กับตงฟาง ข้าคิดว่าเป็นสิ่งที่เจ้าควรทำ”

“ไว้ข้าจะมาหาใหม่ละกัน” ตงหยางพูดจบร่างอันสง่างามของเขาก็หายวับกลับไปยังเผ่ามารทันที หลงเหลือไว้เพียงความว่างเปล่า จางเหว่ยเห็นดังนั้นจึงยกยิ้มพลันส่ายศีรษะไปมาให้กับการกระทำของตงหยาง

“ท่านพี่ เหตุใดจึงทำเช่นนี้” หญิงสาวเดินตึงตังเข้ามาด้วยสีหน้าไม่พอใจ ก่อนจางเหว่ยจะรินชาร้อน ๆ ใส่ถ้วย อย่างใจเย็น

“ข้าทำสิ่งใดให้เจ้าไม่พอใจอีกจางซิน” หญิงสาวย่อตัวลงนั่งพลันทำหน้าบึ้งทอดสายตามองเขาด้วยความไม่พอใจอย่างถึงที่สุด

“เมื่อครู่ข้าได้ยินหมดแล้ว”

“ได้ยินอะไร” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ อยากรู้ว่าน้องสาวจอมเอาแต่ใจ จะหาเรื่องอะไรอีก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel