บทที่ 3
“พี่ยังไม่ได้คิด แต่อิงไม่ต้องเป็นห่วงนะ พี่ไม่มีวันทิ้งอิงแน่นอนครับ พี่สัญญา” ก้องภพตอบไปตามตรงพร้อมกับคว้าตัวคนหน้าเศร้าที่ไม่รู้ว่าเธอจะรู้บ้างไหมว่าตอนนี้น้ำตามันใกล้จะไหลรินเต็มทีเข้ามากอดเอาไว้แนบแน่น เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อน มันจึงเป็นเรื่องที่ยากหากจะต้องเลือกใครอีกคนแล้วทิ้งให้อีกคนไปโดยเฉพาะคนที่น่าสงสารในอ้อมกอดคนนี้
“พี่ก้องทำเพื่ออิงมามากแล้วนะคะ ถ้าพี่ก้องจะทำเพื่อตัวเองบ้างอิงก็เข้าใจค่ะอิงยืนยันคำเดิมนะคะว่าพร้อมจะหย่าถ้าพี่ก้อง…”
“พี่บอกแล้วไงว่าไม่หย่า! เราเลิกคุยเรื่องนี้กันเถอะครับ ออกไปทานข้าวกันดีกว่า” ก้องภพเผลอตวาดภรรยาเข้าก่อนจะรีบเปลี่ยนเสียงเมื่ออีกคนทำท่าเหมือนจะร้องไห้ เขาผละตัวออกก่อนจะจูงมือเธอกลับไปที่ห้องอาหาร ทอดทิ้งเรื่องชวนน่าปวดหัวเอาไว้เบื้องหลังไปก่อน
หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จก้องภพก็พาภรรยาขับรถออกมาจากบ้าน เขาแวะสั่งงานที่ไร่ข้าวโพดที่ได้รับสืบทอดมาจากผู้เป็นย่าชั่วครู่โดยมีภรรยายืนให้กำลังใจอยู่ไม่ห่างก่อนจะพาเธอขับรถต่อเข้าเมืองเพื่อชดเชยความผิดที่เขาไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้เมื่อวานที่ผ่านมา
“อิงอยากได้อะไรไหมเดี๋ยวพี่ซื้อให้” คนถูกถามยิ้มรับก่อนจะส่ายหน้าเหมือนทุกทีที่เขาถาม ขอแค่ได้อยู่กับเขา เดินจูงมือกันไปแบบนี้เธอคงไม่ต้องการอะไรแล้ว อุรัสยาคิดก่อนตอบถึงสิ่งที่ต้องการ
“อิงอยากได้เวลาของพี่ก้องวันนี้ทั้งวันมากกว่าค่ะ ได้ไหมคะ”
“มักน้อยจังเมียใคร ได้สิครับ วันนี้ทั้งวันของพี่…ยกให้อิงคนเดียวหมดเลย ดีไหม” คนได้ยินยิ้มรับก่อนจะโผเข้ากอดสามีอย่างลืมตัว กว่าจะนึกขึ้นได้ก็ตอนที่ถูกมองจากคนรอบข้าง นั่นทำให้เธอได้สติ
“ขอโทษค่ะ อิงลืมไป นึกว่าเราอยู่ที่บ้าน” ก้องภพไม่ได้ว่าอะไรนอกจากจ้องมองคนหน้าแดงอย่างมีความสุข ทุกครั้งที่เห็นเธอยิ้มมันทำให้เขาพลอยรู้สึกอยากยิ้มไปด้วย อุรัสยาเป็นเพียงไม่กี่คนที่เขาไม่ต้องปรุงแต่งอะไรเลยเวลาอยู่ใกล้ๆ เธอทำให้เขาเป็นตัวของตัวเองได้อย่างไม่ต้องอึดอัดใจขณะที่เธอคอยเติมเต็มส่วนที่เขาขาดให้กันเรื่อยมา
“ไว้คืนนี้พี่จะให้กอดทั้งคืนเลยดีไหม แต่ไม่กอดอย่างเดียวนะ”
