บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 7 ยังจะดื้อ

ภายในห้องทำงานของพสุธา

เพชรน้ำหนึ่งกอดอกเดินสำรวจรอบห้องทำงานแล้วหยุดมองรูปภาพของหทัยชนกอยู่ในกรอบขนาดใหญ่ด้านหลังโต๊ะทำงานของพสุธา

“ห้องทำงานฉันเป็นห้องเก่าของนายเหรอ?”

“ไม่ใช่ เดี๋ยวตอนเก้าโมงเลขาจะพาไปที่ทำงานของคุณ” พสุธาเงยมองสีหน้าเรียบเฉยเห็นว่าเธอเหล่มองมาแต่เมื่อเธอเห็นว่าเขามองหน้าสวยก็ง้ำงอสะบัดหนีไปทางอื่น

“ผมกับรดาเป็นเพื่อนเรียนมาด้วยกันตั้งแต่มัธยมปลายถึงมหาวิทยาลัย เราห่างกันตอนผมไปเรียนต่อโทเมืองนอกแล้วได้มาเจอกันอีกตอนทำงานที่นี่”

“ฉันไม่ได้อยากรู้” หน้าสวยบึ้งตึงปรายตามองแล้วหันขวับหนีตามเดิม พสุธายกยิ้มก้มหน้าก้มตาเซ็นเอกสารบนแท็บเล็ต

“ผมเกือบขอรดาเป็นแฟนแต่แจ๊คพอตต้องจดทะเบียนกับคุณกะทันหัน เลยกะว่าหลังหย่าผมจะข้ามขั้นไม่คบกับรดาแล้วแต่จะขอแต่งงานเลย”

“นายบอกว่าจะปกป้องฉันจนกว่าจะปลอดภัย มีคนเกลียดฉันตั้งเยอะจะแน่ใจได้ยังไงว่าฉันปลอดภัยแล้ว!” คุณหนูเอาแต่ใจหน้ามุ่ยมาโน้มลงจ้องหน้าฟาดฝ่ามือลงบนโต๊ะทำงานของเขาอย่างรวดเร็ว หน้าคมเงยมองกรุ้มกริ่มรู้อยู่แล้วว่าเธอหลอกง่าย

“ก็ไม่บอกว่าจะหย่าเร็ว ๆ นี้”

“งั้นก็ให้ยายนั่นรอจนแก่เหนียงยางไปเถอะ”

“คุณไม่อยากหย่า?”

“ทุกวันนี้เราก็ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบสามีภรรยาไม่น่าอึดอัด ทะเบียนสมรสแทบจะไม่มีความหมายนอกจากรั้งนายไว้ให้อยู่ดูแลฉันเป็นบอดี้การ์ดคนหนึ่งก็เท่านั้น” สายตาสวยหลุกหลิกอึกอักที่จะพูดก่อนจะผละห่างกอดอกเชิดหน้าทำคล้ายกับว่าโนสนโนแคร์

“วันหนึ่งถ้าไม่มีผม คุณต้องระวังและเอาตัวรอดให้ได้”

“ยังไงฉันก็มีนายอยู่ข้าง ๆ หรือว่านายจะผิดสัญญากับคุณแม่”

“ผมจะทำตามสัญญาให้คุณปลอดภัยแต่เป็นขี้ข้าดูแลคุณตลอดชีวิตไม่ได้ คุณต้องมีครอบครัวผมเองก็อยากมีเหมือนกัน ลองคิดดูว่าสามีในอนาคตของคุณจะโอเคกับการที่มีสามีเก่ามาวนเวียนคอยดูแลภรรยาของเขาไหม” สายตาคมวูบไหวรู้ว่าอนาคตของเขาและเธอจะจบลงยังไงและรู้ด้วยว่าตัวเขาไม่มีวันหมดห่วงเธอได้ เพชรน้ำหนึ่งหน้าเศร้าสายตาของเขาบ่งบอกว่าวันหนึ่งต้องแยกจาก

“ครอบครัวของนายก็คือ....”

“ขออนุญาตค่ะ” ยุพินเคาะประตูแล้วเปิดเข้ามาทันที เพชรน้ำหนึ่งชะงักนิ่งไม่พูดต่อ

“ฝากด้วยนะครับคุณยุ” เขาเอ่ยกับยุพินเลขารุ่นบุกเบิกของหทัยชนกซึ่งเพชรน้ำหนึ่งเคยพบเจอตั้งแต่เด็กและได้ไหว้ฝากตัวก่อนเข้ามาในห้องทำงาน

“เชิญค่ะ คุณน้ำหนึ่ง” ยุพินหันมายิ้มและชวนให้เดินไปด้วยกัน พสุธาก้มหน้าลงทำงานทันทีคล้ายไม่สนใจแต่คอยฟังเสียงฝีเท้าของเธอที่เดินออกไปจากห้องทำงาน

ช่วงพักเที่ยง

ไม่ทันที่พสุธาจะถามยุพินว่าการทำงานของเพชรน้ำหนึ่งเป็นยังไงบ้าง เขาก็ได้รับคำตอบจากการโวยวายจากคุณหนูเอาแต่ใจที่เปิดประตูพรวดหน้าตาขึงขังเอาเรื่องเข้ามาในห้องทำงาน

“นายแกล้งให้ฉันไปทำงานหนักและให้ใส่เสื้อผ้าธรรมดานี่อีก” เสียงแหลมแว้ดลั่นห้องทำงานของผู้บริหาร ซึ่งหากเป็นคนอื่นคงหัวเสียกับเสียงแหลม ๆ แต่ไม่ใช่กับพสุธาที่รู้ว่าต้องรับมือกับเธอยังไง

“ชุดที่บอกว่าธรรมดา คุณพ่อของคุณเป็นคนออกแบบ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นกวาดสายตามองยูนิฟอร์มสีเทาเข้มติดกระดุมหน้ามีกระเป๋าสองข้างดูดีไม่ได้แย่อย่างที่เธอบ่น

“แล้วมันจำเป็นต้องเก่าขนาดนี้มั้ย!”

“ไม่เก่าหรอก เหมาะกับคุณดี”

“ชื่อนี่ล่ะ สีดา มาบุญมี” หน้าสวยยังคงขึงขังบ่นเรื่องหงุมหงิมรบกวนใจแต่ถูกเขาตอบกลับได้หมด

“ผมไม่อยากให้พนักงานรู้ว่าคุณเป็นใครไม่งั้นเขาจะเกรงใจไม่กล้าสอนหรือสั่งงานคุณ” เสียงทุ้มยังคงเรียบเฉยตรงกันข้ามกับคนเจ้าอารมณ์ตะโกนแทบแสบคอ

“ก็เลือกชื่อให้มันดีกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง ตั้งชื่อเหมือนแกล้งกัน”

“คนที่แผนกรู้ว่าคุณชื่อนี้แล้วก็ใช้ต่อไปเถอะ”

“ฉันไม่กลับไปเข้างานแล้ว เหนื่อยร้อนยืนแค่ครึ่งวันขาแข็งแทบก้าวไม่ออก” เสียงแหลมอ่อนลงหน้ามุ่ยพลางบีบนวดไหล่ของคนบอบบางไม่เคยทำงานหนัก

“คุณธเนศ คุณหทัย ญาติ ๆ ของคุณหรือแม้แต่ผมก็เคยทำตำแหน่งนี้มาก่อน ถ้าจะเป็นเจ้านายคนอื่นเราต้องเรียนรู้งานศึกษาทำความเข้าใจทุกแผนกไม่อย่างนั้นเราจะสั่งงานคนอื่นได้ยังไง”

“แต่ฉันทำไม่ไหวแล้ว.....”

“ใครใจเสาะคนนั้นเป็นหมานะ” กายหนาเหยียดยืนเยื้องย่างเข้ามาหาเธอด้วยสีหน้ากรุ้มกริ่ม

“ได้ งั้นหอนโชว์เลย บู้ว.....” หน้าสวยเชิดขึ้นปากจู๋ลากเสียงหอนยาวก่อนจะถูกปิดปากด้วยฝ่ามืออุ่นทำให้เธอตกใจเหลือกตามองสบตาเขาอย่างประหม่า

“อย่ายอมแพ้อะไรง่าย ๆ วันนี้เหนื่อยเพราะไม่เคยทำแต่อีกหน่อยคุณจะชิน” เสียงทุ้มนุ่มนวลจ้องมองดวงตาสวยมีประกายความหวานอยู่ในนั้นทำให้เจ้าของมือหนาที่สัมผัสกับริมฝีปากอวบอิ่มเริ่มใจเต้นหูร้อนผ่าวต้องรีบดึงมือตัวเองออกพลางหลบตาลงต่ำขบกรามแน่น

“กว่าจะชินคงอีกนาน”

“แค่สามวันก็ชิน ถึงยังไงคุณต้องทำตำแหน่งนี้สามเดือนแล้วเลื่อนขั้นตามลำดับยังไงก็ชิน”

“แค่เดือนเดียวก็เลื่อนขั้นได้แล้วมั้ง” เสียงหวานกระเง้ากระงอดขอต่อรองตาปริบ ๆ พสุธายกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปากหนาทำท่าจุ๊ ๆ ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับรอยยิ้มคล้ายเย้ยหยัน

“ชู่ว.....กลับไปทำงานซะนะ”

“ฉันไม่ไป” เพชรน้ำหนึ่งกลอกตามองเคือง

“ยังจะดื้ออีก”

“นี่พักกลางวัน ฉันหิวข้าว!” คิ้วเรียวเลิกขึ้นเหล่มองไม่สบอารมณ์ต้องยอมทำตามลำดับขั้นทั้งที่รู้ว่าเขาใช้อำนาจสั่งให้เธอเป็นผู้บริหารเลยก็ได้แต่เขาเลือกที่จะไม่ทำเพราะอยากแกล้ง ซึ่งคนอย่างเธอไม่มีทางยอมแพ้และพร้อมฝ่าฟันเพื่อเป็นที่ยอมรับของเขาและคณะกรรมการบริหารทุกคนให้ได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel